ตอนที่ 637 รสชาติที่น่าสะอิดสะเอียดที่สุด / ตอนที่ 638 ปล่อยพิษ
ตอนที่ 637 รสชาติที่น่าสะอิดสะเอียดที่สุด
คุณชายรองเซว์ได้ใจเล็กน้อย เขาส่งเสียงหัวเราะเยาะ ก่อนเดินจากไปก็พาตัวหนิวซานซานผู้นั้นไปด้วย
ประตูบานใหญ่ของบ้านซ่งอิงเปิดกว้าง บรรดาชาวบ้านที่อยู่ด้านนอกล้วนเฝ้ามองไม่วางตา ราวกับเกรงกลัวว่าคนเหล่านี้จะลงมือกระทำไม่ดีกับหนิวซานซาน ส่วนหนิวซานซานในตอนนี้ร้องห่มร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง ชิงเหลียนไปลานหลังบ้านเด็ดผลไม้มาลูกหนึ่งแล้วโยนใส่มือหนิวซานซาน
“ร้องไห้ทำไม เป็นลูกผู้ชาย เสียเลือดได้แต่อย่าเสียน้ำตา” ชิงเหลียนเอ่ยอย่างจริงจัง
“…” หนิวซานซานกอดผลสาลี่ลูกใหญ่นั่น ในใจเต็มไปด้วยความเสียใจ
พูดง่ายนี่ เสียเลือดได้แต่อย่าเสียน้ำตา
เขาถูกคนข่มขู่ จากนั้นก็เอะอะใส่และตบหน้า จะไม่ร้องไห้ได้อย่างไรเล่า!
ลองเปลี่ยนเป็นเขาดูบ้างสิ
“แม่นางฮั่วจะมาแน่ใช่หรือไม่” คุณชายรองเซว์เอ่ยถาม
“นั่นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากโชคดี เถ้าแก่เหนียงงานไม่ยุ่งก็น่าจะมาได้ แต่หากเถ้าแก่เหนียงยุ่ง อาจต้องให้พวกท่านค้างคืนอยู่ที่นี่สองสามวัน เมื่อใดที่เถ้าแก่เหนียงพวกเรามาแล้ว เมื่อนั้นท่านค่อยกลับไป” ชิงเหลียนกล่าว
“เหอะ ความหมายของเจ้าคืออยากจะกักบริเวณข้าเช่นนั้นหรือ” คุณชายรองเซว์กล่าว
ชิงเหลียนยิ้มอ่อน “มิใช่ขอรับ มิใช่ เป็นคุณชายต่างหากที่อยากเจอเถ้าแก่เหนียง”
คุณชายรองเซว์ส่งเสียงสบถฮึ
กวาดตามองทั่วลานบ้านปราดหนึ่ง
ในลานบ้านแห่งนี้ดูสะอาดสะอ้านไม่น้อย ทั้งยังมีความเป็นศิลปะอยู่ด้วย น่าเสียดาย ถึงอย่างไรก็เป็นแค่สตรีในชนบทคนหนึ่ง จะเข้าใจการชมสุนทรียภาพอะไรพวกนี้เสียที่ไหนเล่า
หลังจากรอมาได้พักหนึ่ง ท้องนภาก็มืดลงเล็กน้อย
เขารู้สึกท้องหิวขึ้นมาแล้วเช่นกัน “สะใภ้ตระกูลฮั่วจะมาเมื่อไหร่!”
“เมื่อครู่ข้าก็บอกไปแล้วนี่ขอรับ” ชิงเหลียนสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
“เจ้ากล้าหลอกข้ารึ!” คุณชายรองเซว์ลุกพรวดขึ้นมาทันที
ในเวลานี้เอง มีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก
ปีศาจหมูป่ามาเยือน ปีศาจลูกหมาป่าก็มา รวมไปถึงหนิวต้าลี่และปีศาจเพียงพอนเหลืองก็มาด้วยเช่นกัน
ป้าหวงถือถุงบรรจุน้ำอยู่ในมือ เดินเข้ามาพร้อมหน้าตาประจบเอาใจ จากนั้นยื่นถุงน้ำดังกล่าวส่งให้ “คุณชายอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ ระหว่างรอ ท่านก็ดื่มน้ำสักหน่อย อีกไม่นานเถ้าแก่เหนียงของเราก็มาแล้วเจ้าค่ะ”
ด้วยความที่หน้าตาประจบสอพลอของเพียงพอนเหลืองช่างสมจริงเหลือเกิน จึงเป็นผลให้คุณชายเซว์รู้สึกว่าคนเหล่านี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ดังนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมาย ลงมือเปิดถุงน้ำใบนั้นทันที…
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา กลิ่นเหม็นฉุนก็กระแทก กลิ่นนี้รมพวกเขาเหล่านี้จนแข้งขาอ่อนปวกเปียกแล้วอาเจียนออกมา ณ ตรงนั้น
ปีศาจน้อยตนอื่นในลานบ้านเตรียมพร้อมไว้แต่แรกแล้ว ดังนั้นจึงไม่ถูกลูกหลงไปด้วย พวกเขาอาศัยจังหวะนี้รีบเดินเข้าไปดึงหนิวซานซานที่ถูกรมกลิ่นจนมึนหัวหมดสติไปลากออกมา
‘แหวะ…’ คุณชายรองเซว์รู้สึกเพียงเหมือนตัวเองสูดดมกลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนที่สุดในใต้หล้า
ป้าหวงเผยรอยยิ้มประดับใบหน้าประจบประแจง
นั่นเป็นตดที่เหม็นอย่างยิ่งของนาง เถ้าแก่เหนียงกล่าวว่าตดที่เหม็นขนาดนี้จะผายลมออกมาส่งเดชไม่ได้ เพราะง่ายต่อการทำให้คนบาดเจ็บ ดังนั้นให้นางคิดหาวิธีเก็บมันเอาไว้ นางคิดไปคิดมาสุดท้ายก็นึกขึ้นมาได้ว่า เอาหนังสัตว์มาทำเป็นถุงแล้วค่อยผายลมเข้าไปในนี้
ประสิทธิภาพพอใช้ได้กระมัง
ช่วยตัวประกันมาได้แล้ว หนิวต้าลี่และจูต้าจ้วงตลอดจนลูกหมาป่าก็พากันเดินขึ้นหน้า เริ่มขนย้ายคนเหล่านั้น
พวกเขากลั้นหายใจ รู้ว่าต้องรีบเก็บมีดดาบเหล่านั้นเอาไว้
องครักษ์เหล่านั้นยังคงมึนงงจากการถูกรมด้วยกลิ่นเหม็น ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน ได้แต่มองดูมีดดาบที่หายไปแล้ว“ลำบากทุกคนแล้ว ทุกคนไปพักผ่อนเถอะ เราสี่ห้าคนคอยดูคนเหล่านี้ไว้ก็พอ รอเถ้าแก่เหนียงมีเวลาว่างก็จะมาจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องกังวลใจไป มิใช่เรื่องใหญ่โตอันใดเจ้าค่ะ!” หนิวต้าลี่กล่าวพลางยิ้มจนตาหยีให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านนอก
ครอบครัวหนิวเห็นว่าเอาลูกกลับมาได้แล้วจึงเป็นอันโล่งใจ รีบกล่าวขอบคุณยกใหญ่ จากนั้นพาตัวเด็กเดินจากไป
ส่วนคนเหล่านี้ที่มาสมทบ…
พวกเขารู้ว่าคนกลุ่มนี้ล้วนเป็นข้ารับใช้ที่ซ่งอิงซื้อเอาไว้ ก่อนหน้านี้ยังมีบางคนมาทำงานในหมู่บ้าน พวกเขาจึงรู้จักดี
ในเมื่อคนเขาพูดว่าจัดการได้ เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่อาจเสียเวลาการทำงานอยู่ได้แล้วเช่นกัน รีบกลับไปพักผ่อนแต่หัววันหน่อย พรุ่งนี้ยังต้องเข้าไร่ทำงานกันอีก!
ตอนที่ 638 ปล่อยพิษ
เมื่อบรรดาชาวบ้านกลับไปกันแล้ว หนิวต้าลี่และจูต้าจ้วงพร้อมพวกก็เผยรอยยิ้มน่าหวาดเกรงออกมา
ครั้นประตูบานใหญ่ปิดสนิทก็ยกยิ้มมุมปาก จ้องมองบรรดาองครักษ์ที่กำลังอาเจียนกันยกใหญ่อย่างหรรษา
ตอนนี้คุณชายรองเซว์รู้สึกเพียงตาลายไปหมด และอดปั่นป่วนท้องไส้ไม่ได้ ราวกับมีปลาไหลไชท้องอยู่ก็ไม่ปาน ในลำคอแถวลูกกระเดือกเต็มไปด้วยกลิ่นชวนสะอิดสะเอียน
กลิ่นนี้จางหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดในโพรงจมูกก็รู้สึกสะอาดโล่ง
แต่สมองยังถูกกลิ่นน่ารังเกียจนั่นปกคลุม สีหน้าพวกเขาจึงย่ำแย่ไม่น้อย ตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงไปหมด
“บังอาจนัก! พวกเจ้า พวกเจ้ากล้าปล่อยพิษใส่กันรึ!” คุณชายรองเซว์บันดาลโทสะ
เหตุใดใต้หล้านี้จึงมีคนที่ใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้! ไม่นึกว่าจะกล้าใช้พิษเล่นงานกันต่อหน้าผู้คนมากมายในพื้นที่โล่งแจ้ง อีกทั้งพิษนี้ยังรุนแรง เป็นกลิ่นที่ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน ไม่นึกว่าเป็นเพียงแค่คนในชนบท แต่กลับมีความนึกคิดอย่างการปล่อยพิษเช่นนี้ได้!
เมื่อคุณชายรองเซว์เอ่ยถ้อยคำดังกล่าวออกมา หนิวตาลี่ก็เผยรอยยิ้มไร้เดียงสา “ท่านเข้าใจผิดแล้ว พวกเราใช้พิษไม่เป็นหรอก นั่นคือตดต่างหากล่ะ”
“…” เป็นอะไรนะ!
ชิงเหลียนเผยสีหน้าอ่อนโยน “คุณชายอย่าได้ตำหนิกันเลย พวกเราครอบครัวชาวชนบทไม่มีระเบียบปฏิบัติมากมาย และไม่มีความสามารถที่จะถือมีดดาบเช่นท่านด้วย จึงทำได้เพียงใช้วิธีการนี้ เพียงแต่ว่าท่านวางใจได้ พวกเราช่วยเด็กคนนั้นไว้ได้ก็พอแล้ว จะไม่ทำให้พวกท่านลำบากหรอกขอรับ”
แต่กระนั้นตอนนี้ในสมองคุณชายรองเซว์มีเพียงคำเดียวที่ล่องลอยอยู่ นั่นก็คือ ตด?
ดังนั้น เมื่อครู่นี้คือ…
“แหวะ…” เสียงอาเจียนหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
“เถ้าแก่เหนียงของพวกเรางานยุ่งมากจริงๆ ท่านรอหน่อยแล้วกัน เพียงแต่เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวลักษณะนี้ขึ้นอีก ดังนั้นก่อนที่เถ้าแก่เหนียงจะมา พวกท่านจะไปไหนไม่ได้ทั้งสิ้น ส่วนสถานที่พัก…อืม ก็ไปอยู่ในลานบ้านแล้วกัน เพียงแต่ด้านข้างเป็นคอกของต้าไป๋ พวกท่านอย่าได้แตะต้องมันเชียว มิฉะนั้นเดี๋ยวจะถูกลาถีบเอาได้” หนิวต้าลี่เผยสีหน้าจริงจัง
เมื่อพูดจบก็ปล่อยให้ปีศาจตนอื่นคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ ด้านหนิวต้าหลี่ไปทำอาหาร
หนิวตาลี่เรียนรู้ทักษะฝีมือทำอาหารจากซ่งอิง นางจึงผัดกับข้าวได้อร่อยเป็นที่หนึ่ง
ในบ้านมีไก่และไข่ที่พร้อมเอามาทำกินได้อยู่ ในบ่อน้ำตื้นเขินที่ลานหลังบ้านจับพวกปลาดุกได้ ปีศาจแต่ละตัวอยากจะจับสัตว์ที่มีชีวิตสักหน่อยไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ไม่นานนัก ในลานบ้านก็มีกลิ่นหอมฉุยเพิ่มขึ้นมา
ในเวลานี้เอง คุณชายรองเซว์จึงได้รู้สึกสบายจมูกขึ้นมาก
พื้นที่ตามชนบท จะว่าไปกลิ่นกับข้าวก็หอมดีเหมือนกัน
คุณชายรองเซวยังอยากเกรี้ยวกราดขึ้นมาอีก แต่ก็รู้สึกว่าตอนนี้มืดค่ำแล้ว หลังกินเสร็จเรียบร้อยจึงจะมีเรี่ยวแรงคิดบัญชีพวกเขา จึงนั่งบนเก้าอี้หินอย่างสบายอกสบายใจอยู่ในลานบ้าน ท่าทีราวกับนายท่านใหญ่ผู้ทรงอำนาจกำลังคอยคนยกอาหารมาให้
หลังเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม กับข้าวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
จริงอยู่ที่ยกมาถึงโต๊ะหิน แต่ยามที่เขาเพิ่งเตรียมหยิบตะเกียบขึ้น ปีศาจหมูป่าก็อึ้งไป จากนั้นรีบเดินเข้ามาดึงข้อมือของเขาไว้ ก่อนจะออกแรงกระชากแล้วโยนคนไปด้านข้าง
“ทำอะไรน่ะ คิดว่านี่เป็นบ้านของท่านรึ อาหารนี่ใช่ของที่ท่านจะกินได้ด้วยหรือ” จูต้าจ้วงสบถฮึ
กับข้าวที่น้องวัวน้อยทำ เขายังไม่ทันได้ชิมสักคำ คนผู้นี้ก็หมายตากับข้าวนี้แล้ว! ฮึ
“…” คุณชายรองเซว์ถลึงตา
อาหารนี่ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับเขาหรอกหรือ!
“พวกเจ้า! บังอาจยิ่งนัก ข้าเป็นถึงคุณชายรองของตระกูลไคหยางกง! พวกเจ้ากล้าดูถูกข้าเช่นนี้เชียวหรือ!” คุณชายรองเซว์กล่าวด้วยความโมโห
จูต้าจ้วงเผยท่าทีคล้ายโกรธเกรี้ยว
ชิงเหลียนรีบเดินเข้ามาห้ามปราม “คุณชายท่านนี้ เถ้าแก่เหนียงของพวกเรายากจนแสนเข็ญ เลี้ยงดูพวกเราไม่ใช่เรื่องง่าย ผักเหล่านี้ในบ้านก็มีจำนวนจำกัด หากเอาให้พวกท่านกินพวกเราก็จะไม่มีกินแล้ว ดังนั้นพวกท่านคิดหาวิธีกันเองแล้วกัน!”
เขาดึงรั้งปีศาจหมูป่าเอาไว้ เป็นเพราะกลัวว่าเมื่อปีศาจหมูป่าตนนี้โมโหก็จะพุ่งเข้าชนคุณชายผู้นี้ ทว่านั่นไม่ใช่เรื่องน่าห่วงแต่อย่างใด หากแต่เกรงว่าถ้าปีศาจหมูป่าไม่ทันระวังยั้งฝีเท้าไว้ไม่อยู่ จะทำให้ต้นหญ้าและดอกไม้ในบ้านเสียหายเอาได้