ตอนที่ 645 เจ้าเข้าใจก็ดี / ตอนที่ 646 คนไร้ทักษะความสามารถ
ตอนที่ 645 เจ้าเข้าใจก็ดี
ซ่งอิงพร่ำพูดไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย
แม้ว่าเป็นการพูดไร้สาระ แต่แน่นอนว่าจะมากจะน้อยก็มีความจริงอยู่บ้าง จวนโหวทางด้านนั้นไม่มีทางพูดเรื่องราวเหล่านี้แก่บุตรสาวที่ไม่ได้รับความโปรดปรานอย่างเจ้าของร่าง แต่อย่างไรเสียเจ้าของร่างก็เป็นคนเป็นๆ คนหนึ่ง เมื่อก่อนจึงเคยได้ยินข่าวเล่าลือมาไม่น้อย
สีหน้าคุณชายรองเซว์หงุดหงิดขึ้นเล็กน้อย
นั่นเป็นถึงบิดามารดาเขา ไม่นึกว่าจะถูกคนอื่นดูถูกเหยียดยามเช่นนี้ และในยามนี้เขาก็ยังไม่อาจโต้เถียงได้อีกด้วย!
“ได้ยินว่าตอนนั้นที่พี่ชายตระกูลเจ้าแข่งม้ากับพี่ชายข้าพลัดตกลงมาค่อนข้างสาหัสน่าดู พี่ชายข้าเพียงแค่บาดเจ็บที่ขา แต่พี่ชายตระกูลเจ้าถึงขั้นไร้สมรรถภาพทางเพศกันเลยทีเดียวหรือ เช่นนั้น…ช่างน่าเสียดายจริง เพียงแต่ว่า ท่านพ่อท่านแม่ข้ากล่าวว่านี่เป็นกรรมตามสนอง” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
พูดไปพอประมาณแล้ว ซ่งอิงคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้ง “ทว่าเรื่องราวเหล่านี้ล้วนผ่านเลยไปแล้ว บัดนี้ข้าถูกบิดามารดาขับไล่ออกมา ความแค้นของพวกเราสองตระกูลไม่เกี่ยวข้องกับข้าแต่อย่างใด ข้าจะปล่อยเจ้าไปแน่ เพียงแต่…”
ซ่งอิงมองซ้ายมองขวา กวาดตามองพวกหนิวต้าลี่ จากนั้นเผยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย
แววตานี้ถูกคุณชายรองเซว์สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วและเป็นอันเข้าใจได้เช่นกัน
มิน่าล่ะ คนเหล่านี้จึงเก่งกาจเช่นนี้ แท้จริงแล้วเป็นคนที่คอยสอดแนมของทางด้านจวนโหว!
คนเป็นๆ คนหนึ่งแกล้งตาย จวนโหวจะวางใจได้อย่างไร ย่อมต้องส่งคนมาคอยจับตาดูเป็นธรรมดา คนที่ตายไปแล้วผู้นี้จะได้ไม่กลับไปอีก!
อีกทั้ง…
เขาลองนึกถึงชีวิตในช่วงหลายวันมานี้ว่าเป็นอย่างไร ข้ารับใช้เหล่านั้นครั้นได้ยินว่าเขาเป็นคนของจวนไคหยางกงก็ปฏิบัติกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าโดยทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะผลพวงจากนายผู้อยู่เบื้องหลัง ส่วนนายที่ว่านี้ มิใช่ซ่งอิงที่อยู่ตรงหน้านี้ หากแต่เป็นเหยียนผิงโหวผู้นั้น!
คุณชายรองเซว์ยิ่งคิดยิ่งโมโห
“เอาแบบนี้แล้วกัน ไว้ถึงตอนค่ำข้าจะให้เจ้าไปได้ ทว่าเจ้าต้องเงียบๆ เข้าไว้หน่อย มิเช่นนั้นถูกพวกเขาจับได้ อาจจะหักขาของเจ้าได้…ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับโชคของเจ้าแล้ว” หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เหล่าปีศาจพากันไปทำงานอื่นๆ ซ่งอิงจึงบอกกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าเห็นใจ
คุณชายรองเซว์พลันตื่นเต้นดีใจ
ไปได้หรือ!
“ตกลง…” คุณชายรองเซว์รีบกล่าวทันควัน
“ชู่ว์ อย่ากระโตกกระตากไปเชียว” ซ่งอิงพูดอีกครั้งภายใต้สีหน้าจริงจัง “ข้าแนะนำว่าเจ้าต้องวิ่งให้เร็วหน่อย หลังจากวิ่งไปแล้วก็อย่าได้กลับมาอีก เจ้าคิดว่าร้านว่านหลิงแห่งนั้นเป็นของข้าหรือ ไม่ใช่เลยสักนิด ในนั้นล้วนเป็นคนของท่านโหวทั้งสิ้น หากเจ้ากลับมา พวกเขาจะต้องลอบคิดหาวิธีสังหารเจ้าแน่ ถึงอย่างไรก็อยู่ห่างไกลกันขนาดนั้น บิดาเจ้าก็มองไม่เห็น…ต่อให้บิดาเจ้าต้องการล้างแค้นแทนเจ้า ถึงตอนนั้นจวนโหวเตะข้าออกมารับผิดแทนก็สิ้นเรื่องแล้ว”
“…” คุณชายรองเซว์รู้สึกเพียงทัศนคติทั้งสามถึงขั้นระเบิดเป็นจุณแล้วก็ว่าได้
มิน่าล่ะ!
สตรีชาวบ้านคนหนึ่งจะล้มร้านชุ่ยเหยียนไจของเขาได้อย่างไรกัน! มิหนำซ้ำยังทำให้ผู้จัดการร้านและผู้ดูแลงานในร้านที่ทำเงินให้เขาได้ตายจากไปด้วย!
ไม่เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งนายอำเภอก็ยังเข้าข้างนาง ไม่แยแสคำพูดของคุณชายรองอย่างเขาผู้นี้เลยสักนิด!
ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะเขาเป็นเพียงคุณชายรอง ทว่าอีกฝ่ายเป็นถึงท่านโหว!
“เจ้าวางใจได้ ข้าจะระมัดระวังแน่!” คุณชายรองเซว์เผยสีหน้าจริงจัง
“อืม เจ้าเข้าใจก็ดี” ซ่งอิงพยักหน้า จากนั้นมองเขาพริบตาหนึ่งอย่างเห็นใจ
“คุณหนูซ่ง เจ้า…ก็มีความจำใจเช่นกันใช่หรือไม่ ไฉนจึงตกต่ำถึงขั้นเป็นหญิงชาวบ้านคนหนึ่งไปเสียได้เล่า” คุณชายรองเซว์คิดว่าอีกฝ่ายแสดงน้ำจิตน้ำใจเช่นนี้แล้ว ตนก็ไม่อาจเป็นตัวของตัวเองเกินไป ดังนั้นจึงเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนทันที
ส่วนที่ถ้อยคำที่ซ่งอิงเพิ่งกล่าวเมื่อครู่ว่าบิดามารดาทำใจให้นางตายไม่ได้ ต้องเป็นการพูดให้คนสอดแนมพวกนั้นฟังเป็นแน่!
“เฮ้อ…เรื่องมันยาวน่ะสิ…” ซ่งอิงทอดถอนใจ “ตอนนั้นหลังจากท่านอ๋องเสียชีวิต บิดาและพี่ชายข้ารู้สึกว่าท่านอ๋องตายเป็นเพราะดวงกาลกิณีของข้า เดิมทีพวกก็ไม่ค่อยชอบข้า คิดว่าข้าทำให้การแต่งงานของพี่สาวน้องสาวลำดับถัดไปล่าช้าเสียเวลา จึงอยากให้ข้าแต่งงานออกไป หรือไม่ก็ไปเป็นแม่ชี หากข้าไม่ยินยอม ก็ต้องการให้ข้าผูกคอตายไปเสีย…”
“ภายหลังต่อมาข้าลงมือกรีดใบหน้าสองสามรอยแผล อีกทั้งคุกเข่าอ้อนวอนพวกเขา รับปากว่าหลังจากนี้จะอยู่ให้ห่างจากเมืองหลวง นี่จึงได้อยู่รอดมาได้ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมี…คนคอยจับตาดูอยู่ข้างกาย ส่วนรอยแผลบนใบหน้า…โชคดีที่ไม่ลึกมาก ซื้อยามาใช้หน่อยก็หายดีแล้ว” ซ่งอิงถอนหายใจกล่าว
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็กล่าวว่า “ตระกูลเขาโหดเหี้ยมเช่นนี้เชียวหรือ”
ตอนที่ 646 คนไร้ทักษะความสามารถ
ก็แค่บุตรีที่ว่าที่สามีตายเท่านั้นเอง ไม่นึกว่าจะถึงขั้นไม่เลี้ยงดูกันเชียวหรือ
“นี่ก็ไม่แปลกเช่นกัน อย่างไรเสียแม้ว่าท่านอ๋องเหลวไหล แต่กลับเป็นญาติผู้ใหญ่ของฮ่องเต้ ต่อให้ข้ามีชีวิตอยู่ ใครเล่าจะกล้าสู่ขอกันอีก” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
คุณชายรองเซว์รู้สึกมีเหตุผล
ต่อให้เป็นเซียนสวรรค์ ก็ยากที่จะแต่งงานอีกครั้งได้
“แม่นางซ่ง เช่นนั้นปัจจุบันเจ้าใช้ชีวิต… เป็นอย่างไรบ้าง” คุณชายรองเซว์เอ่ยถาม
หากไม่รู้ความในตัวตนที่แท้จริง ก็คงได้นึกว่าคุณชายรองเซว์ผู้นี้เป็นคนที่รู้ประสีประสาและจิตใจดีงาม
เพียงแต่ว่าซ่งอิงรู้ชัดกระจ่างแจ้งในใจ คนผู้หนึ่งที่ปล่อยให้ผู้จัดการร้านซึ่งอยู่ใต้คำสั่งฆ่าคนเพื่อแย่งสูตรตำรับได้ และกระทั่งแสดงออกอย่างไม่รู้ไม่เห็นเป็นครั้งคราว นั่นไม่ได้มีความจิตใจดีงามแต่อย่างใด
“ปัจจุบัน…แน่นอนว่าลำบากอย่างยิ่ง” ซ่งอิงถอนหายใจ “จริงอยู่ที่วิธีการทำสบู่หอมเป็นของข้า เพียงแต่ข้างกายมีคนของจวนโหวคอยจับตาดู เงินที่ข้าหาได้ ก็ไม่รู้ว่าจะรักษาเอาไว้ได้สักกี่วัน”
“ลำบากแม่นางซ่งแล้ว” เพื่อการหลบหนี ตอนนี้คุณชายรองเซว์จึงแสดงออกว่ารู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่ง
ซ่งอิงเล่นละครไปพอประมาณ
คุณชายรองเซว์ก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยการเฝ้ารอใจจดจ่อ
กระทั่งกลางดึกดื่นเที่ยงคืน ซ่งอิงทำตามที่รับปากไว้ มาปล่อยตัวคนไป
ไม่ปล่อยคนเขาไปได้อย่างไรเล่า จะเลี้ยงเอาไว้ให้เสียข้าวสารธัญพืชหรือ
มองดูลับๆ ล่อๆ แง้มประตูใหญ่เปิดออกเงียบๆ จากนั้นโบกมือน้อยๆ ใส่คุณชายรองเซว์ “คุณชาย ไว้เจอกันใหม่ หากมีคนไปดักเล่นงานเจ้า จะต้องรักษาชีวิตน้อยๆ เอาไว้เป็นอันดับแรก อย่าได้อวดเก่งเป็นอันขาด!”
“ตกลง! ขอบใจคุณหนูซ่งมาก! ไว้มีวาสนาค่อยเจอกันอีก!” คุณชายรองเซว์หน้าตาจริงจัง จากนั้นยกสองมือขึ้นประสานระดับหน้าอกคารวะ เมื่อพูดจบก็กลับหลังหันแล้ววิ่งออกไป
ซ่งอิงคลี่ยิ้มเล็กน้อย
พวกเขาเพิ่งไปหยกๆ ไม่ทันไร ซ่งอิงก็เปลี่ยนไปอยู่ในชุดดำ ใส่ผ้าคลุมหน้า เหล่าปีศาจข้างกายก็แต่งกายเช่นเดียวกัน จากนั้นเริ่มวิ่งไล่ตาม
อยากจะไล่ตามใครสักคนใช่เรื่องยากเย็นเสียที่ไหน ไม่นานนักก็ตามหลังไปติดๆ
คุณชายรองเซว์หันกลับมามอง ก็มีสีหน้าตระหนกตกใจอย่างยิ่ง
เหยียนผิงโหวผู้นี้ร้ายกาจเหลือเกิน ไม่นึกเลยว่าคิดจะทำให้เขาตายให้ได้!
ชีวิตสำคัญยิ่ง …
คำพูดของซ่งอิงผุดขึ้นมาในสมอง ครั้นคิดได้อย่างนี้ก็กล่าวขึ้นทันใด “นำสิ่งทรัพย์สินที่ติดตัวโยนทิ้งไปตามทาง ต้องทิ้งในบริเวณที่เห็นได้ชัดด้วยล่ะ! เร็วเข้าๆๆ!”
พวกเขาต้องก้มลงเก็บเงินและตั๋วเงินทรัพย์สินมีค่าเหล่านี้แน่!
ม้าที่พวกเขาเอามาไม่รู้ว่าหายไปไหนตั้งนานแล้ว ดังนั้นทำได้เพียงวิ่งหน้าตั้งอย่างยากลำบาก น่าเวทนาป็นที่สุด
“พี่สาว ตั๋วเงินตั้งเยอะ…ทำอย่างไรดี ยังจะวิ่งตามอีกหรือไม่เจ้าคะ” หนิวต้าลี่มองเงินที่แทบเท้า ไม่ค่อยอยากตามไปเสียแล้ว
คุณชายตระกูลผู้ร่ำรวยนี้มีเงินเยอะจริงๆ ไม่นึกว่าออกจากบ้านมาทีก็จะพกตั๋วเงินปึกหนาขนาดนี้
“นี่ข้ามิได้ขโมยนะ เป็นเขาไม่เอาเอง ใช่หรือไม่” ซ่งอิงคว้าตั๋วเงินและก้อนตำลึงเงินขึ้นมา
อืม มีไม่น้อยเลย ลำพังตั๋วเงินก็เจ็ดแปดพันตำลึงเงิน แล้วยังมีก้อนตำลึงเงินอีกหนึ่งถึงสองร้อยตำลึงเงิน ส่วนเหรียญทองแดงมีไม่เท่าไร
นอกจากนั้น พวกนางยังแย่งม้าของเขากว่าสิบตัวที่ไม่ได้ประทับตัวเลขเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ล้วนเอาไปเลี้ยงที่หมู่บ้านไร่สวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“คนผู้นี้ค่อนข้างฉลาดทีเดียว รู้จักโยนเงินเพื่อรักษาชีวิตไว้” หนิวต้าลี่พยักหน้า
“เฮ้อ เดิมทีอยากจะหักขาของเขาสักข้าง ตอนนี้ในเมื่อได้เงินแล้วจะไปหักขาคนเขาอีกก็คงไม่ดีนัก เช่นนั้นปล่อยเขาไปแล้วกัน” ซ่งอิงบ่นพึมพำ ก่อนจะพาพวกกลับไป
นางไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปแต่อย่างใด
หากคุณชายรองเซว์มีความสามารถ ย่อมต้องข่มเหงผู้คนได้เสียยิ่งกว่านางแน่ จะว่าไปแล้ว ก็เพราะคุณชายรองเซว์ไร้ทักษะความสามารถ เช่นนั้นก็สมน้ำหน้า!
คุณชายรองเซว์พร้อมพวกขบวนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบ รู้สึกเพียงด้านหลังเหมือนมีฝูงมาป่าไล่ตามก็ไม่ปาน วิ่งกลับตัวอำเภอไปตลอดทั้งคืน และไม่กล้าอยู่ต่อแล้วเช่นกัน จัดเก็บข้าวของอย่างลวกๆ แล้วออกเดินทางกลับเมืองหลวงทันที!
ซ่งอิงพูดถูก เขาอยู่ที่นี่คนเดียวไม่แน่ว่าจะถูกคนปองร้าย
อีกทั้ง เขาจำเป็นต้องกลับเมืองหลวงบอกกล่าวบิดา ให้บิดาเขาแก้แค้นให้เขา!
เขาจะอ่อนให้เหยียนผิงโหวไม่ได้!