ตอนที่ 679 วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า / ตอนที่ 680 เล่นซ่อนหา
ตอนที่ 679 วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
บรรดาชาวบ้านจิตใจซื่อตรงและขวานผ่านซาก พูดจาไม่ค่อยน่าฟัง แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นกังวลใจแทนคนเหล่านี้จริงๆ
“ข้าเห็นพวกเจ้าเมื่อวานนี้เอาแต่เฝ้าอยู่แถวๆ ปากทางหมู่บ้าน แม้ว่าตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่หลังตกดึกสภาพอากาศก็ยังคงเย็นมาก คนของพวกเจ้าเหล่านี้สวมอาภรณ์บางๆ ของที่กินก็เป็นอาหารแห้งที่เย็นชืด คนที่ดำรงชีวิตเช่นนี้จะไม่รู้สึกแย่ได้อย่างไรเล่า”
“อีกทั้ง…คนก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว หากไม่มีความตั้งใจหนีไป เช่นนั้นจะวิ่งออกไปกลางดึกทำไม ต่อให้เป็นหมาป่าบนเขาก็ไม่มีทางคาบคนที่ตัวโตขนาดนี้ไปได้หรอก…” ชาวบ้านกล่าวขึ้นอีกครั้ง
หวงซาพูดไม่ออก จะอย่างไรเขาก็ไม่อาจกล่าวออกไปได้ว่าลูกน้องหายไปเพราะไปสอดส่องสถานการณ์ของบ้านซ่งอิง
เขาทำได้เพียงยิ้มเจื่อนขานรับและพูดจาเล็กน้อยกับชาวบ้าน จากนั้นจึงไปตามหาต่อ
แต่หากันมาตลอดครึ่งวันเช้าแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา และถึงอย่างไรก็ไม่อาจรบกวนเวลาจัดการเรื่องสำคัญได้
การสักการะบรรพบุรุษจะว่าง่ายก็ง่าย คนวงศ์ตระกูลซ่งต่างก็มากันพร้อมหน้า พร้อมใจกันคุกเข่าสักการะ หัวหน้าตระกูลซ่งของทางฝั่งหมู่บ้านซิ่งฮวารับผิดชอบกล่าวคำสรรเสริญบรรพบุรุษ อีกทั้งยกเหตุการณ์สำคัญบางอย่างที่เกิดขึ้นกับบรรพบุรุษในตระกูลถ่ายทอดให้ฟัง
ระยะเวลาดำเนินพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพบุรุษเพียงแค่ประมาณหนึ่งชั่วยามเท่านั้น
แม้พิธีกรรมเซ่นไหว้สิ้นสุดแล้ว แต่พวกเขายังไม่อาจไปทั้งอย่างนี้ได้ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ค้างในหมู่บ้านระยะหนึ่งเพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองฝ่าย
เมื่อพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับเสร็จสิ้น ซ่งฝูซาน ซ่งจินซานและซ่งหม่านซาน รวมไปถึงซ่งสวินตลอดจนเด็กๆ ทางด้านบ้านสามทั้งสองคนล้วนแยกย้ายกันกลับไป ส่วนซ่งอิงกับพวกซ่งต๋าไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด
ฮั่วหลินและซ่งต๋าวิชาเรียนไม่แน่นมาก หยุดเรียนสักสองสามวันไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เพียงแต่ก่อนที่คนตระกูลซ่งจะแยกย้ายกันไป แต่ละคนล้วนไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่นัก
โดยเฉพาะซ่งหม่านซานและซ่งสวิน พวกเขาทั้งสองคนฉลาดหน่อยจึงพอคาดเดาออกว่าการมาของคนจากจวนโหวในครั้งนี้ไม่ได้มาดี
เดิมทีซ่งหม่านซานอยากอยู่ต่อหลายวันหน่อย แต่กิจการทางด้านเมืองยงยุ่งมาก ซ่งสวินอีกไม่กี่เดือนก็ต้องสอบแล้ว แต่ละวันล้วนมีค่าอย่างยิ่ง ซ่งอิงจึงไม่เห็นด้วยที่พวกเขาจะอยู่เสียเวลาทางด้านนี้
“ข้าสังเกตว่าผู้คุ้มกันข้างกายสองคนนั้นดูเหมือนไม่ค่อยธรรมดานัก หรือไม่…เจ้าไปเมืองยงพร้อมข้าเลยเถอะ บ้านทางด้านนี้ไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นได้หรอก” ซ่งสวินยังคงกล่าวก่อนเตรียมจากไป
ซ่งอิงยิ้มตล้ายไม่ยิ้มพลางมองเขา “ข้าก็มีคนข้างกายที่เก่งกาจไม่ธรรมดาไม่น้อยเช่นกัน แล้วยังต้องเกรงกลัวผู้คุ้มกันเหล่านั้นอีกหรือ อีกทั้งหากพวกเขามีความคิดจะสังหารข้าจริง ข้าหลบหนีไปไกลแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี ไม่สู้เผชิญหน้ากับพวกเขาเลยจะดีกว่า หากพวกเขาจ้องมองข้าแต่ก็ยังทำอะไรข้าไม่ได้ เช่นนั้นไม่ยิ่งสะใจกว่าหรือ”
ซ่งสวินมองนางพริบตาหนึ่งอย่างจนใจ “เจ้ามีความมั่นใจในตัวเองขนาดนี้เชียวหรือ”
“แน่นอนเจ้าค่ะ” ซ่งอิงเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองดูไม่หวาดกลัวเลยสักนิด
“เจ้าดูนางทำตัวเข้าสิ แล้วยังมีอะไรให้ไม่วางใจอีก ช่างเถอะ ในเมื่อนางยืนกรานเช่นนี้ ไว้เดี๋ยวถูกคนฆ่าตายแล้ว เราก็ไม่ต้องเสียใจแทนนางแต่อย่างใด” ซ่งหม่านซานปรายตามองนาง เมื่อพูดจบก็ดึงซ่งสวินเตรียมเดินจากไป
ซ่งสวินหันมองซ่งอิงอย่างอาลัยอาวรณ์ “ทุกอย่างคำนึงถึงชีวิตเป็นหลัก อย่าได้กระทำอันใดผลีผลามเป็นอันขาด แค่ผู้คุ้มกันไม่กี่คนเท่านั้น ไม่แน่ว่าจะเป็นศัตรูคู่อาฆาตเสมอไป ไม่จำเป็นต้องพาตัวเองไปตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเพราะคนที่ไม่สลักสำคัญเหล่านี้…”
ซ่งอิงรีบพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เข้าใจเจ้าค่ะ เข้าใจเจ้าค่ะ”
เช่นนี้ ทั้งสองคนจึงได้ขึ้นเกวียนวัวเดินทางจากไป
คนที่ไม่ชอบหน้าคนจากจวนโหวแยกย้ายจากไปแล้วเกินกว่าครึ่ง ซ่งถังหังจึงได้เป็นอันโล่งใจ
ทั้งที่เพิ่งมาหมู่บ้านซิ่งฮวาวันเดียว แต่เผชิญกับสายตาของคนเหล่านั้น เขามักรู้สึกว่าชีวิตแต่ละวันผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า อีกทั้งเขาก็ไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่า ครอบครัวชาวนาในชนบทล้วนรักการเลี้ยงดูเด็กๆ ใช่หรือไม่ ไฉนจึงปกป้องเด็กที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ กันเช่นนี้ ราวกับว่ากลัวจะถูกหมาป่าคาบไปก็ไม่ปาน
ตอนที่ 680 เล่นซ่อนหา
ชีวิตแต่ละวันในชนบทน่าเบื่อหน่ายกว่าในเมืองมาก โดยเฉพาะคนตระกูลซ่งแต่ละคนล้วนมีงานต้องทำกันทั้งนั้น วันหนึ่งๆ พวกเขาสองคนแทบจะพูดคุยกันไม่ถึงประโยคดีด้วยซ้ำ
ตอนนี้การไหว้บรรพบุรุษเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยิ่งไม่มีอะไรให้พูดคุยไปใหญ่
แม้ว่าทั้งสองคนพาหญิงชายรับใช้มาด้วย แต่ระหว่างผู้เป็นนายกับข้ารับใช้ก็พูดคุยกันได้ไม่ถึงไหน
ซ่งซินหัวยังดีหน่อย ปกติแต่ละวันก็อยู่แต่กับบ้านไม่ออกไปไหนมาไหน เย็บปักถักร้อยและอ่านตำราก็พอฆ่าเวลาได้ ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่างใด ผิดกับซ่งถังหัง เขาจึงทำได้เพียงเดินเตร็ดเตร่ทั่วหมู่บ้าน มองดูสถานการณ์ในหมู่บ้านนี้
เขาเองอยากไปหาซ่งอิง แต่ว่ากันตามแผนการของบิดาเขา หลังคืนนี้ไปอาจมีการลงมือได้ทุกเมื่อ หากเขาไปหาซ่งอิงในช่วงเวลานี้ก็จะเป็นการดึงดูดสายตาเกินไปจึงได้แต่เสียดายที่ยังไม่ทันสอบถามได้ความอันใดจากทางด้านซ่งอิง คนผู้นี้ก็ต้องเผชิญเคราะห์กรรมเสียแล้ว
ในคืนเดียวกันนั้น ท่ามกลางราตรีมืดมิดและสายลมหวีดหวิว
แม้ว่าสมาชิกในกลุ่มผู้คุ้มกันจะหายไปคนหนึ่งอย่างประหลาด แต่กลับไม่อาจขัดขวางความแน่วแน่ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ลุล่วงของพวกเขาได้
“ครั้งนี้พวกเจ้าสองคนล่วงหน้าไปก่อน ต้องระมัดระวังอย่าให้คนอื่นเห็นได้” หวงซากล่าว
การสังหารซ่งอิงเป็นเรื่องง่ายดาย แต่จำเป็นต้องทำให้เงียบที่สุด ทางที่ดีที่สุดคือให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย หรือ…
หวงซามองไปยังบริเวณภูเขาห่างไกลออกไป หากทำให้สตรีผู้นี้ถูกสัตว์ป่าดุร้ายฆ่าตายหรือตกน้ำตายได้ นี่จึงจะเป็นแผนการที่ดูแยบยล!
โดยสรุปคือไม่มีทางสาวไปถึงจวนโหวได้อย่างแน่นอน!
สองคนที่ถูกส่งออกไปพยักหน้าอย่างจริงจัง
ภาระงานในครั้งนี้ง่ายดาย พวกเขาต่างก็มีความคิดบางอย่างจึงได้ติดตามขบวนมาด้วย ขอเพียงทำให้หัวหน้าพึงพอใจ ย่อมได้รับรางวัลไม่น้อยเป็นแน่
อีกทั้ง ที่ต้องสังหาร แม้ว่าเป็นบุตรสาวแห่งจวนโหว แต่กลับเป็นคนหนึ่งที่สมควรตายไปตั้งนานแล้ว พวกเขาย่อมไม่มีปัญหาอันใดตามมาเพราะภาระหน้าที่ในครั้งนี้แน่
ทั้งสองคนเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง เดินอ้อมผ่านคนที่เฝ้าหมู่บ้าน มาถึงตีนกำแพงของบ้านฮั่ว
กำแพงนี้ไม่ถือว่าสูงมากนัก สองคนช่วยกันปีนป่ายข้ามไปก็ไปถึงในลานบ้านดั่งใจปรารถนา
ในลานบ้านนี้สงบเงียบอย่างยิ่ง ไม่นึกเลยว่าจะใหญ่โตโอ่อ่าไม่น้อยทีเดียวเชียว“ที่นี่มีสัตว์อยู่ด้วย ต้องระวังหน่อย” คนหนึ่งกล่าว
“เพียงแค่ลาตัวเดียว โง่เง่าเสียยิ่งกว่าอะไร” อีกคนหนึ่งไม่ได้แยแสสักเท่าไหร่
หากเป็นหมาแมว พวกเขายังกังวลใจว่ามันจะส่งเสียงดังขึ้นมากะทันหัน แต่ลาแตกต่างไป มันย่อมเฝ้าบ้านไม่ได้
“ในบ้านนี้ค่อนข้างมีเรือนหลายหลัง…เจ้าตามหาทางด้านซ้าย ส่วนข้าจะไปดูด้านขวา” อีกฝ่ายกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อพูดจบ ทั้งสองคนก็เดินหน้าไปสอดส่องดูอย่างระมัดระวัง
ซ่งอิงกำลังนอนหลับ นางพลิกตัว
ต้าไป๋ส่งเสียงหัวเราะลั่นเมื่อมองเห็นสองคนนั้น “ฮ่าๆๆ…”
“…” ทั้งสองคนตระหนกตกใจ รีบไปหลบทันที
กลางดึกดื่นเช่นนี้ ไม่นึกเลยว่าลาตัวนี้จะเงยหน้าส่งเสียงหัวเราะลั่นขึ้นมา! น่าสยองจริงๆ!
ทั้งคู่หน้าซีดในชั่วพริบตา เวลานี้เอง ซ่งอิงเปิดประตูเรือนที่นางพักอยู่ ครั้นสองคนมองเห็นก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันใด
เพียงแค่ต้องเล่นงานคนผู้นี้ให้หมดสติแล้วลากกลับไปก็เป็นอันสิ้นเรื่องแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนยังจะต่อกรหญิงสาวคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ
ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นก็รีบปรากฏตัวเตรียมปิดปากซ่งอิง แต่มือยังไม่ทันแตะต้องซ่งอิงก็รู้สึกปวดด้านหลังศีรษะขึ้นมา หลังจากนั้นเบื้องหน้าก็พลันมืดมิด ทั้งคู่หมดสติไปพร้อมกัน
ส่วนผู้ที่เล่นงานทั้งสองคนนี้หมดสติ คนหนึ่งคือต้าไป๋ อีกคนคือชิงเหลียน
“เถ้าแก่เหนียง เช่นนั้นข้าลากสองคนนี้ไปเลยนะขอรับ” ชิงเหลียนกล่าว
“อืม” ซ่งอิงพยักหน้า “พวกเขามีผู้คุ้มกันมาทั้งหมดกี่คนหรือ”
“มี…ประมาณเกือบๆ สามสิบคนกระมัง” ชิงเหลียนกล่าว
“ลูกน้องตั้งเยอะแยะขนาดนั้น แต่ส่งมาทีละคนสองคน เช่นนี้เมื่อไรจะจัดการให้จบสิ้นเสียที ในเมื่อพวกเขาชอบเล่นซ่อนหาขนาดนี้ เช่นนั้นไม่สู้…ข้าไปหาพวกเขาเองเสียสิ้นเรื่อง”