ตอนที่ 703 ถอดใจเถอะ / ตอนที่ 704 หนุ่มน้อยโฉมงาม
ตอนที่ 703 ถอดใจเถอะ
สหายที่ดีของงูดำไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น เพียงแต่ปีศาจบำเพ็ญเพียรกันไม่ได้ง่ายๆ มีปีศาจจำนวนมากที่เกิดเหตุเหนือความคาดหมายไปเสียก่อน
ได้ยินงูดำพูดเช่นนี้ ซ่งอิงเริ่มรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอคอยขึ้นมาไม่น้อย
เสือลายเมฆเชียวนะ…
ต้องดุมากเป็นแน่ ไม่รู้ว่าจะเข้ากับเสือและหมาป่าเป็นอย่างไร
“เอาแบบนี้แล้วกัน ไว้เดี๋ยวเบิกเงินมากหน่อย ให้อิงต้าซานนำติดตัวไป ข้าคิดว่าในเมื่อทั้งสองคนนั้นเป็นสหายที่ดีของท่านซึ่งบรรลุมานานมากแล้ว เช่นนั้นคิดว่าย่อมต้องมีสถานะตัวตนชัดเจนเป็นแน่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการตรวจสอบจากที่ว่าการอำเภอแต่อย่างใด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้พวกเขาลองดูในพื้นที่นั้นว่ามีสัตว์ที่เหมาะสมจะพามาด้วยบ้างหรือไม่ ระหว่างทางมาเรื่องการกินอยู่ก็ไม่ต้องประหยัดเกินไปเช่นกัน…”
“ตอนอยู่ทางด้านนั้น ข้าเคยเห็นสัตว์ป่าตัวน้อยที่เกิดสติปัญญาอันชาญฉลาดขั้นต้นแล้วจำนวนมากพอตัว เพียงแต่น่าเสียดาย การที่สัตว์ตัวน้อยทั่วไปอยากจะเปลี่ยนร่างถือเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ไม่ง่ายเหมือนอยู่ข้างกายท่านปานนี้ หากสะดวก ก็ให้พวกจินหยวนพาสัตว์ตัวน้อยเหล่านั้นทั้งหมดมาด้วย จะได้มีอีกส่วนหนึ่งเปลี่ยนร่างเพิ่มขึ้นมา” งูดำกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ตอนที่ซ่งอิงบำเพ็ญเพียร ข้างกายนางเป็นเสมือนแหล่งผุดสายธารรสชาติแสนอร่อยออกมาก็ไม่ปาน ทำให้ปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ ได้รับคุณประโยชน์ล้นหลาม
เขาเองก็เคยเป็นสัตว์ป่าธรรมดาๆ เช่นกัน จึงเข้าใจความนึกคิดของสัตว์ป่า
หากมีความหวังแม้เพียงน้อยนิดที่จะเปลี่ยนร่างเป็นคนได้ พวกเขาย่อมยินดีอย่างยิ่งแน่นอน
อย่างไรเสียในฐานะสัตว์ป่า การพเนจรท่ามกลางขุนเขาก็ไม่น่าสนใจเท่ากับโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความครึกครื้น อีกทั้งงูดำขนาดใหญ่อย่างเขาที่มีพิษยังดีหน่อย หากเป็นกระต่ายป่า ไก่ป่า หรืองูเล็กเหล่านั้น ล้วนง่ายต่อการถูกมนุษย์ล่าอย่างยิ่ง
เทียบกับการที่จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่สู้พยายามมีชีวิตรอดอย่างมนุษย์จะดีเสียกว่า
และซ่งอิงก็คือผู้ให้โอกาสพวกเขา
“ป้าหวง ท่านกับจิ่งเช่ว์ปกติแต่ละวันคอยสังเกตพ่อค้าทางด้านเมืองยงเราหน่อย หากมีพ่อค้าเร่ขายลูกสัตว์ป่าและเป็นตัวที่แปลกใหม่ หรือรู้สึกว่ามีสติปัญญาก็ซื้อเอาไว้ทั้งหมด ไม่เกี่ยงราคาแต่อย่างใด” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เพียงพอนเหลืองและนกยูงพยักหน้าทันที
“ไว้เมื่อสวนสัตว์เปิดกิจการ หนึ่งในพวกท่านจะเป็นผู้กำกับดูแล หากปกติแต่ละวันพวกท่านทำงานจนเหน็ดเหนื่อยแล้ว แต่ละเดือนก็อยู่พักผ่อนที่นี่ได้วันสองวัน พวกท่านเป็นปีศาจ จึงอาจไม่ค่อยเหมาะสมนักหากจะให้พวกท่านไปเป็นสัตว์ให้ผู้คนรับชม แต่อย่างไรก็ตาม…ตอนที่ดำเนินชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์ จะได้รับข้าวที่ผ่านกาดรดน้ำผ่านจิตมากขึ้นเป็นรางวัลตอบแทน”
“นอกจากนี้…ข้ายังมีพวกแตงและผลไม้อื่นๆ ตลอดจนสิ่งที่ผ่านการรดน้ำผ่านจิตอื่นๆ อีกไม่น้อย ซึ่งก็เอามาเป็นค่าตอบแทนน้ำพักน้ำแรงของพวกท่านด้วยได้เช่นกัน” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงปลูกสิ่งต่างๆ เอาไว้ในช่องว่างระหว่างมิติจำนวนไม่น้อย
ตอนนี้มีต้นพืชอย่างพวกสมุนไพรแล้วด้วย มองจาก ณ ปัจจุบัน สมุนไพรเหล่านี้ต้องมีประสิทธิผลดีกว่าภายนอกหน่อยเป็นแน่
หากซ่งอิงไม่มีผลประโยชน์ให้ แน่นอนว่าเพียงแค่นางเอ่ยปาก ปีศาจเหล่านี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการทำงานเช่นกัน เพียงแต่นางไม่อาจทำตัวเป็นเจ้านายที่ใจจืดใจดำได้
ในเมื่อเป็นการทำงาน เช่นนั้นก็ให้เป็นความเต็มใจทั้งสองฝ่ายจะดีกว่า
ให้ปีศาจเหล่านี้ได้ไปพักผ่อนบ้างเป็นครั้งคราว ทว่าหลักๆ ก็เพื่อกำราบสัตว์ป่าตัวอื่นๆ ในนั้น
จะได้รับประกันความปลอดภัยของแขกเหรื่อได้
ปรากฏว่าเป็นไปตามคาด ครั้นซ่งอิงเอ่ยถ้อยคำนี้ออกมา แต่ละคนก็คลี่ยิ้มกว้าง
จากนั้นเริ่มลงมือทำงานกันอย่างขะมักเขม้นทันที
ทางด้านซ่งอิงนี้ มีคนคอยลอบสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดเช่นกัน
ฮั่วเจ้ายวนคลึงหว่างคิ้ว ขณะมองฮั่วซื่อเซี่ยงที่นำข่าวคราวมารายงานก็รู้สึกเหมือนถูกแทงใจดำเล็กน้อย
“ใต้เท้า ข้าว่าท่านถอดใจเถอะขอรับ ข้าไม่เคยเห็นสตรีที่อยู่ไม่สุขเพียงนี้มาก่อนเลย มีท่านก็เหมือนไม่มี!” ฮั่วซื่อเซี่ยงรู้สึกว่าใต้เท้าครอบครัวเราตอนนี้กำลังคิดเพ้อฝันไปเปล่าๆ
หากเป็นเมื่อก่อน สตรีในหมู่บ้านชนบทปฏิเสธความรักของใต้เท้าตระกูลเขา เขายังจะนึกว่าสตรีผู้นั้นไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว แต่ตอนนี้น่ะ…
เหอๆ ฮั่วฮูหยินท่านนี้เก่งกาจไม่น้อยเลยจริงๆ!
แม้ว่าไม่มีบุรุษค่อยช่วยเหลือค้ำจุน แต่บัดนี้นางก็หาเงินได้ไม่รู้จำนวนเท่าไหร่แล้ว!
นี่ก็ยังไม่เท่าไหร่ หลายวันก่อนคนทางด้านจวนโหวมาเยือน ในที่สุดก็จะถึงเวลาให้ใต้เท้าตระกูลเขาแสดงฝีมือบ้างเสียที แต่เพิ่งผ่านไปกี่วันเอง อีกฝ่ายก็เผ่นแน่บไปแล้ว!
ตอนที่ 704 หนุ่มน้อยโฉมงาม
ฮั่วซื่อเซี่ยงรู้สึกจากใจจริงว่าใต้เท้าค่อนข้างน่าสงสารไม่น้อย ไม่ง่ายเลยกว่าจะถูกตาต้องใจสตรีสักคน ผลสุดท้ายกลับเป็นแม่เสือที่เก่งกาจคนหนึ่ง
ตอนที่คนของจวนโหวกลับกันไป ว่ากันว่าสภาพยับเยินอย่างยิ่งเชียวละ…
ไม่รู้เช่นกันว่าฮั่วฮูหยินทำได้อย่างไร
“ใต้เท้าขอรับ ข้าแอบส่งคนแฝงเข้าไปทำงานด้วย หลังจากสืบถามในช่วงหลายวันมานี้จึงได้เข้าใจว่าที่แท้นางเตรียมทำสวนสัตว์แห่งหนึ่งไว้เลี้ยงสัตว์ป่าขอรับ! แผนผังที่นางวาดไว้ข้าเองก็ได้แอบวาดเอามาฉบับหนึ่งเช่นกัน สวนสัตว์ที่ว่านี้ไม่ใช่ขนาดเล็กๆ เลยนะขอรับ อีกทั้ง… ยังสร้างเรือนเอาไว้ตั้งหลายหลัง ข้ามักรู้สึกว่าเรือนพวกนี้สร้างเอาไว้เพราะคิดจะเอามาใช้ในการสร้างรายได้ขอรับ…”
ฮั่วเจ้ายวนหยิบกระดาษภาพแผนผังมามองดู “การปล่อยสัตว์ป่าลงเต็มพื้นที่นี้ มิใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด”
หากสัตว์ป่าน้อยเกินไป ก็จะดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมชมไม่ได้
“ฮั่วฮูหยินนำนกยูงที่อยู่ในสวนดอกไม้ที่จวนท่านไปตัวหนึ่งมิใช่หรือขอรับ เจ้าตัวนั้นเป็นสัตว์หายาก ทว่า… หลายวันมานี้ก็ไม่เห็นนางจะเลี้ยงนกยูงตัวนั้นเลย นอกจากนี้ข้ายังให้คนไปยังหมู่บ้านสวนของฮั่วฮูหยินเพื่อแอบดู จึงเห็นว่าที่นั่นมีสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อย แต่หลักๆ ล้วนเป็นกระต่ายป่าและหมูป่าอะไรทำนองนี้ ส่วนนกยูงตัวนั้นไม่เห็นแม้แต่ขนของมันสักเส้นด้วยซ้ำขอรับ”
“จริงสิ ข้างกายฮั่วฮูหยิน… มีหนุ่มน้อยที่หน้าตาดีสุดๆ อยู่ด้วยตั้งหลายคนขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงฉุกนึกขึ้นได้กะทันหัน
เมื่อนึกถึงใบหน้าของหนุ่มน้อยเหล่านั้น ฮั่วซื่อเซี่ยงก็อดน่าแดงขึ้นมาไม่ได้ “หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งรูปลักษณ์งดงามเกินบรรยาย ราวกับเซียนสวรรค์ลงมาจุติก็ไม่ปาน มองดูเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่พริบตาแรกที่มองเห็น คล้ายว่าจะมีสีสันสดใสเปล่งประกายทั่วทั้งตัว ชวนให้คนไม่อาจถอนสายตาได้จริงๆ ขอรับ!”
“ฮั่วฮูหยินตาแหลมดีจริงๆ ข้ารับใช้เหล่านั้นที่ซื้อมามีทุกลักษณะเลยก็ว่าได้ นอกจากดูดีแล้ว ยังมีคนหนึ่งมองดูฉลาดเฉลียวและรู้ความเป็นพิเศษ ใบหน้าเล็กๆ นั่นงดงามเหมือนแม่นางสาวน้อย…”
ฮั่วซื่อเซี่ยงอดเดาะลิ้นไม่ได้
หากให้เขามองดูผู้ชายที่งดงามเหล่านั้นตลอดทั้งวัน เขาก็มีความสุขเช่นกัน
ช่างเจริญตาจริงๆ! งดงามกว่าผู้หญิงเสียอีก!
ฮั่วเจ้ายวนชักสีหน้าถมึงทึง
ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ เลือดร้อนก็พลุ่งพล่านเต็มอก
“หนุ่มน้อยรูปงามหรือ” เขาอดขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเล็กน้อยไม่ได้ และทันใดนั้นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“ใต้เท้า แม้ว่าท่านไม่อยากฟังถ้อยคำนี้ แต่…ข้าน้อยก็ไม่ได้พูดอะไรผิด รูปลักษณ์ของท่านตามจริงแล้ว…ยังห่างชั้นอยู่เล็กน้อยขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงกล่าวอีกครั้ง “ความจริงแน่นอนว่าท่านต่างจากพวกเขา ท่านดูดีแต่กำยำเกินไป ใบหน้าก็ดูเย็นชา แต่คนเหล่านั้นที่อยู่ข้างกายฮั่วฮูหยินแตกต่างออกไป เยาว์วัยกว่าหน่อย เพิ่งอายุสิบกว่าๆ ทั้งนั้นเห็นจะได้ แน่นอนว่าต้อง…มองดูแล้วยิ่ง…”
เสียงดัง ‘เปรี๊ยะ’ พู่กันที่ฮั่วเจ้ายวนกุมอยู่ในมือหักออกเป็นสองท่อน
“ข้าน้อย… หรือไม่ข้าน้อยออกไปค้นหาดูอีกที มองดูว่ามีอะไรพอจะส่งไปให้ฮั่วฮูหยินได้บ้าง…” ฮั่วซื่อเซี่ยงแข้งขาอ่อน อยากจะวิ่งหนี
“เลือกหญิงสาวที่น่าดึงดูดใจส่งไปจำนวนสิบคน” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นกะทันหัน
“???” ฮั่วซื่อเซี่ยงตกตะลึง “ทำไมหรือขอรับ!”
“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ” ฮั่วเจ้ายวนเลิกคิ้ว
“นี่… คงไม่ได้จะให้ไปยั่วยวนหนุ่มน้อยเซียนสวรรค์เหล่านั้นกระมัง…” ฮั่วซื่อเซี่ยงจับศีรษะครุ่นคิด
“ข้าเพียงแค่เห็นใจว่าลูกน้องของนางคงยุ่งเกินไปเท่านั้นเอง เพียงแต่ในเมื่อเจ้าพูดถึงขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นจะส่งมอบภรรยาให้ข้ารับใช้ข้างกายซ่งอิงที่ทำงานได้ดีก็คงไม่เป็นไร ออกจะดีด้วยซ้ำ เจ้ารีบไปจัดการเสีย” ฮั่วเจ้ายวนโบกไม้โบกมือ
“…” ฮั่วซื่อเซี่ยงหัวเราะเจื่อน
ขณะพูดคุยอยู่นั้น ก็มีคนปรี่เข้ามาจากด้านนอกกะทันหัน ก้มหน้าก้มตาคุกเข่าลงก่อนจะกล่าวกับฮั่วเจ้ายวน “ใต้เท้าขอรับ ตระกูลหลิวในเมืองปรากฏ…ปรากฏปีศาจขอรับ!”
“ปีศาจที่ไหนมาตอนกลางวันแสกๆ” ฮั่วเจ้ายวนมุ่นคิ้ว
“เป็นปีศาจจริงๆ ขอรับ หลิวเซิงผู้นั้นกล่าวว่าภรรยาของเขาหูซื่อ จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ทั้งขาวทั้งตัวใหญ่! แล้วยังมีหางหลายหางอีกด้วย! ปีศาจตนนี้ดูเหมือนว่าจะกินบางอย่างผิดเพี้ยนเข้าไป ในตอนนี้ถูกชาวบ้านใช้แหคลุมตัวเอาไว้และมีผู้คนมากมายคอยเฝ้าขอรับ”