ตอนที่ 715 ไม่ใช่ปีศาจจริงๆ / ตอนที่ 716 เจ้ามาจากไหน
ตอนที่ 715 ไม่ใช่ปีศาจจริงๆ
ซ่งอิงรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย พยายามฉีกยิ้มแล้วก้าวเดินขึ้นไปเบื้องหน้า
“วันนี้ใต้เท้าฮั่วออกไปตามหาความจริงมาหรือ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ซ่งอิงเอ่ยถามอย่างวอนหาเรื่อง
เมื่อพูดจบ นางกวาดตามองไปยังฮั่วซื่อเซี่ยง เห็นฮั่วซื่อเซี่ยงดวงตาแดงเรื่อเหมือนจะร้องไห้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศเศร้าโศกอยู่ด้วยเล็กน้อย ซ่งอิงจึงพอคาดเดาได้ในทันที
กระทั่งข้ารับใช้ออกไปกันหมด ซ่งอิงจึงเผยสีหน้ายิ้มแย้ม “เรื่องของทางโลกก็แค่เวลาสั้นๆ ไม่กี่สิบปีเท่านั้น ไม่ถือว่าเป็นจำนวนมากมายอะไรเลย ตอนนี้ท่านมีชีวิตทุกข์ยากหน่อย แต่เมื่อท่านตายไปแล้วก็จะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง…”
“เจ้าตามข้ามา” ฮั่วเจ้ายวนมองซ่งอิงปราดหนึ่ง
เมื่อพูดจบ ฮั่วเจ้ายวนก็เดินมุ่งไปทางด้านห้องคลังเก็บของ
ซ่งอิงเดินตามไปทันที
เมื่อมาถึงห้องเก็บของ ฮั่วเจ้ายวนค้นหาบางอย่าง ท้ายที่สุดก็เจอก้อนหินที่เต็มไปด้วยฝุ่นจากบริเวณมุมหนึ่ง ก้อนหินนี้ดำทะมึน ดูไม่ค่อยเหมือนหินทั่วไปนัก อีกทั้งเมื่อมองอย่างละเอียดดูเหมือนจะมีแสงประกายระยิบระยิบอีกด้วยราวกับมณีสีดำเม็ดหนึ่งก็ไม่ปาน เพียงแค่มันค่อนข้างกลมมน
“ตอนนั้นตระกูลฮั่วถูกกวาดล้างและยึดทรัพย์ ดังนั้นสิ่งของจึงตกสู่คลังของบ้านเมือง หลังจากข้าช่วยพลิกคดีให้ตระกูลฮั่ว ทางการจึงคืนทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่เก็บเอาไปให้แก่ข้า หลายปีมานี้ข้าเองก็ไม่กล้าเก็บเงินเอาไว้มากเกินไป เมื่อใดก็ตามที่มีของมีมูลค่าหน่อยก็จะเอาไปจำนำแล้วนำเงินไปซ่อมถนนสร้างสะพานทั้งหมด” ฮั่วเจ้ายวนน้ำเสียงสุขุม บีบก้อนหินสีดำนั่นเอาไว้ในมือและกล่าวอีกครั้ง “ของชิ้นนี้ว่ากันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ส่งต่อกันมาในตระกูลข้า ซึ่งแกะมันออกมาจากส่วนหัวปืนเงินของท่านปู่ข้า ดังนั้นข้าจึงไม่เคยเอามันไปขาย”
“อ้อ” ซ่งอิงพยักหน้า
แล้วอย่างไรล่ะ…
“ตอนนั้นยามที่ได้มันกลับมา ผู้ใต้บังคับบัญชาคนเก่าแก่ที่อยู่ข้างกายท่านปู่ข้าเคยกล่าวว่าของสิ่งนี้ขับไล่ปีศาจร้ายได้ หากเป็นผู้ซื่อตรงและจิตใจดีงามถือมันไว้ ก็จะได้รับการคุ้มครองให้แคล้วคลาด” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
กล่าวว่าจะใช้ได้ผลกรณีเป็นผู้ที่ซื่อตรงและจิตใจดีงาม แต่ตอนนี้รู้สึกว่าที่ต้องการสื่อในคำพูดนั้น น่าจะหมายถึงคนที่เปี่ยมไปด้วยบุญกุศลกระมัง
ตอนนั้นที่เขาเห็นหินสีดำทะมึนก้อนนี้ เขาไม่แม้แต่จะแตะต้องมันก็เก็บเอาไว้แล้ว
เขารู้สึกว่ามีฟ้าดินอยู่ในใจ ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อเรื่องภูตผีเหล่านี้
ทว่าตอนนี้ บางเรื่องราวกลับไม่อาจไม่เชื่อ
ซ่งอิงเผยสีหน้าจริงจังขณะพยักหน้า “เช่นนั้นนี่ก็เป็นของดีอย่างหนึ่ง ท่านต้องเก็บเอาไว้ให้ดีๆ จึงจะถูก”
“…” ฮั่วเจ้ายวนเห็นนางเผยสีหน้าท่าทางที่สงบไร้กังวล ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย “ซ่งอิง สรุปแล้วเจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่”
“???” ซ่งอิงตะลึงงัน “หมายความว่า…ท่านสงสัยว่าข้าก็เป็นปีศาจเช่นกัน ดังนั้นอยากลองดูหรือ”
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้วนิ่วหน้า ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเก็บก้อนหินกลับไปดังเดิม
“ช่างเถอะ ตราบใดที่เจ้าไม่ทำร้ายคน เป็นตัวอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
ในเมื่อนางกล่าวว่าตนเป็นนางดอกไม้สวรรค์ลงมาจุติ เช่นนั้น…ก็เข้าใจว่าเป็นเช่นนี้แล้วกัน!
“เดี๋ยวสิ ท่านเอามาให้ข้าลองดูหน่อย” นางอยากรู้เช่นกันว่าสรุปแล้วตนเป็นตัวอะไรกันแน่!
ตอนนี้บำเพ็ญเพียรทุกวี่วัน ตอนที่นางอยู่ในช่องว่างระหว่างมิติก็เหาะเหินได้แล้วด้วย เพียงแต่หลังจากออกมากลับถูกกดความสามารถเอาไว้ อย่างมากสุดก็แค่วิ่งได้เร็วหน่อยและกระโดดได้สูงขึ้นอีกหน่อยเท่านั้น
ซ่งอิงพูดจบก็เอื้อมมือไปแย่งเอามา นางรวดเร็วมาก ไม่นึกเลยว่าฮั่วเจ้ายวนจะถึงกับไม่ทันได้ตั้งรับนาง
เพียงชั่วพริบตาเดียว หินก้อนดังกล่าวก็ตกไปอยู่ในมือซ่งอิง
แสงสีทองที่แวววับขึ้นมาจากก้อนหินนั่นพริบตาหนึ่ง
ซ่งอิงตกตะลึง ด้านฮั่วเจ้ายวนใจเต้นระรัว
“ข้า…ไม่ใช่ปีศาจจริงๆ นะ ทำไมมันจึงมีแสงสว่างได้ล่ะ เมื่อครู่…สว่างขึ้นมาวูบหนึ่ง ใช่หรือไม่” ซ่งอิงรู้สึกไม่ดีไปหมด
มิใช่ว่าในเรือนร่างนางยังมีปีศาจอะไรแอบซ่อนอยู่อีกกระมัง
หรือเป็นเหตุจากช่องว่างระหว่างมิตินั่น
เพียงแต่ว่าก็แค่แสงสว่างวูบวาบเพียงชั่วพริบตาเดียว ตอนนี้ซ่งอิงเล่นหินก้อนนี้อยู่ในมือ มันกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแต่ซ่งอิงแอบรู้สึกว่าหินก้อนนี้มีความร้อนขึ้นมาเล็กน้อย
เสียงดัง ‘เพล้ง’ ก้อนหินสีดำที่เดิมทีสมบูรณ์ดี จู่ๆ ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ซ่งอิงรีบประคองมันด้วยสองมือ มันกลับเหลือเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนที่ 716 เจ้ามาจากไหน
ซ่งอิงมองผุยผงในมืออย่างุนงงทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเงยหน้ามองฮั่วเจ้ายวนที่สีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหัวเราะเจื่อนออกมา “ท่านก็เห็น…ข้าไม่ได้บีบมันเลยจริงๆ…”
“ใช่ ข้ารู้” ฮั่วเจ้ายวนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เจ้าของสิ่งนี้แน่นอนว่าไม่ได้แตกเพราะนางบีบ เพราะของสิ่งนี้แข็งจนน่าประหลาด แม้ใช้ค้อนขนาดใหญ่ทุบก็ทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ได้
แต่…
นี่ไม่ได้ทำอะไรมันก็แตกเสียแล้ว
“สายตาท่านดูไม่ค่อยเชื่อข้าเท่าไรนัก” ซ่งอิงนำผุยผงเทใส่ฝ่ามือของฮั่วเจ้ายวนอย่างไร้เดียงสา “นี่ท่านกำลังเผยพฤติกรรมฉวยโอกาสหมายขู่กรรโชกบางอย่างกันอยู่รู้หรือไม่ ตอนนี้ข้ามีเหตุผลที่จะสงสัยว่าท่านจงใจเอาของที่เสียหายแล้วมาใส่ในมือข้าและคิดจะใส่ร้ายเรียกค่าเสียหายกับข้า!”
“จริงสิ เมื่อครู่ท่านยังสงสัยว่าข้าเป็นปีศาจอีกด้วย…” ซ่งอิงพูดไม่หยุด
“ก็เจ้าเป็นนี่” ฮั่วเจ้ายวนมุ่นคิ้ว
“ข้าไม่ได้เป็น!” ซ่งอิงเกือบจะกระโดดโหยงขึ้นมา “ข้าเป็นหรือไม่เป็น มีหรือข้าจะไม่รู้ชัดเจน ข้ามีพ่อแม่นะเจ้าคะ!”
“ข้ารู้ สายเลือดของจวนโหวไม่มีผู้ใดปลอมแปลงได้” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
“ท่านรู้ด้วยหรือ” ซ่งอิงตะลึงงัน “เอาเถอะ ในเมื่อท่านก็รู้แล้วว่าท่านโหวเป็นบิดาแท้ๆ ของข้า เช่นนั้นก็น่าจะยิ่งเข้าใจมากขึ้น เรื่องนี้จะโทษข้ามิได้ ต้องเป็นเพราะหินก้อนนี้มีปัญหาอย่างแน่นอน!”
ช่วงหลายปีในรุ่นปู่ของเขา หินก้อนนี้ไม่รู้ว่าถูกคนสัมผัสมามากน้อยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีใครทำมันแตกละเอียดได้เลยสักคน
ซ่งอิง…สรุปแล้วเป็นปีศาจอะไรกันแน่
ในขณะนี้ ซ่งอิงรู้สึกว่าตนเป็นผู้ที่ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ!
ไฉนนางจึงมือซนต้องการลูบหินก้อนนี้เสียได้ คราวนี้เป็นอย่างไรล่ะ ฮั่วเจ้ายวนเพิ่งคุยโวเกี่ยวกับหินก้อนนี้อยู่หยกๆ กล่าวว่าเป็นของล้ำค่าที่ส่งต่อกันมาในตระกูล มิหนำซ้ำยังกล่าวว่าขับไล่วิญญาณร้ายได้ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ นางจะต้องชดใช้ด้วยจำนวนเงินเท่าไรกันเล่า อีกทั้งจะบอกกล่าวได้อย่างไรว่านางเป็นมนุษย์ตัวน้อยธรรมดาๆ คนหนึ่งจริงๆ
“เจ้าไม่ต้องวิตกกังวลไป ข้าไม่จับเจ้าขังเอาไว้หรอก” ฮั่วเจ้ายวนกำลังครุ่นคิดในใจเช่นกันว่าควรจัดการนางอย่างไร แต่คิดไปคิดมากลับไม่คิดที่จะจับนางเผาให้ตาย
ขอให้เขาเห็นแก่ตัวสักครั้ง แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
“เดี๋ยวนะ…นี่ท่านไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เดิมทีท่านก็ไม่มีเหตุผลที่จะกักขังข้าอยู่แล้วนี่ ข้าบอกว่าข้าเป็นคน ไฉนท่านจึงไม่เชื่อกันเล่า” ซ่งอิงเกาศีรษะ
เห็นนางร้อนใจจะแย่ ฮั่วเจ้ายวนก็รู้สึกสงสารไม่น้อยเช่นกัน
“เจ้าไม่ต้องอธิบายกับข้า” ฮั่วเจ้ายวนถอนหายใจ “เพียงแต่…ซ่งอิง ข้าปกป้องเจ้าได้ชั่วขณะหนึ่ง ไม่อาจปกป้องเจ้าได้ทั้งชีวิต หากเจ้าถูกคนอื่นพบเข้าเช่นเดียวกับปีศาจจิ้งจอกตัวนั้น ถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอย่างไร โลกมนุษย์ไม่อาจยอมรับพวกประหลาดเช่นพวกเจ้าได้ เจ้ามาจากไหนก็กลับไปที่นั่นเถอะ!”
ซ่งอิงเพิ่งรู้สึกถึงการพูดจนปากเปียกปากแฉะไปก็เท่านั้นเป็นครั้งแรก
“ข้าบอกแล้วอย่างไรล่ะว่าเป็นคน ข้าจะไปไหนได้!” ซ่งอิงระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเหลืออด
“นี่ก็แค่ก้อนหินแตกๆ ก้อนหนึ่ง ข้าคนตัวเป็นๆ ท่านกลับไม่เชื่อ ท่านเชื่อก้อนหินหนึ่งก้อนน่ะหรือ!” ซ่งอิงโมโหไม่ใช่ย่อย “ก่อนหน้านี้ท่านยังต้องการใกล้ชิดสนิทสนมกับข้าอยู่เลย ตอนนี้มีเรื่องก้อนหินนี่ขึ้นมาก็เลยคิดจะไล่ข้าไปแล้วหรือ เช่นนั้นไม่ได้หรอก ต่อให้ข้าไป ท่านก็ต้องเอาปีศาจจิ้งจอกนั่นให้ข้าไปด้วย!”
ถึงอย่างไรนางก็ไม่สนเหตุผลใดทั้งนั้น!
“เจ้าเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับนางหรือ” ฮั่วเจ้ายวนครุ่นคิด “มิน่าล่ะ เจ้าจึงรูปลักษณ์งดงามกว่าเมื่อก่อนมาก”
“…” ซ่งอิงเม้มปาก แม้ว่าถูกชมเชย แต่นางยังคงไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
“ข้าจะหาคนไปตรวจสอบ หากพิสูจน์ได้ว่าปีศาจจิ้งจอกตนนี้ไม่เคยทำร้ายคนมาก่อน ข้าจะมอบมันให้เจ้า เพียงแต่…หลังนำตัวมันไปแล้ว จะให้นางปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอีกไม่ได้เด็ดขาด ส่วนเจ้า…ต้องหนีไปจากสังคมมนุษย์ด้วยเช่นกัน” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
“ข้าไม่หนีไปไหนทั้งนั้น” เรื่องอะไรนางต้องหนีไปจากสังคมมนุษย์ด้วย!
นางกินคนแล้ว หรือว่าดื่มเลือดแล้วหรือไร
“หากเจ้าติดใจของดีๆ บนโลกมนุษย์ เช่นนั้น…ไว้หลังจากเจ้าออกจากสังคมมนุษย์ไปแล้ว ข้าจะไปเยี่ยมเยียนเจ้าเป็นระยะๆ และเอาของดีๆ เหล่านั้นติดไปให้ด้วย เจ้าว่าเป็นเช่นไร” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว