ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล – ตอนที่ 719 ติดตามข้าแล้วกัน ตอนที่ 720 รู้หน้าไม่รู้ใจ

ตอนที่ 719 ติดตามข้าแล้วกัน ตอนที่ 720 รู้หน้าไม่รู้ใจ

ตอนที่ 719 ติดตามข้าแล้วกัน / ตอนที่ 720 รู้หน้าไม่รู้ใจ
ตอนที่ 719 ติดตามข้าแล้วกัน

ในเวลานี้เอง ซ่งอิงมองฮั่วเจ้ายวนและกล่าวอย่างจริงใจ “ขอบคุณท่านมาก”

ฮั่วเจ้ายวนมองนางอย่างพินิจแวบสายตาหนึ่ง

ซ่งอิงมักรู้สึกว่าแววตาของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง นางมาถึงห้องฟืน จากนั้นมองดูปีศาจจิ้งจอกตรงหน้าและถึงขั้นยื่นมือเข้าไปลูบหางของมัน มันมีสามหางจริงๆ ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงแต่อย่างใด

หากกล่าวว่าปีศาจจิ้งจอกรู้สึกเกรงกลัวตอนที่มองเห็นฮั่วเจ้ายวน ตอนนี้มองเห็นซ่งอิงก็คือความเกรงกลัว แต่ในเวลาเดียวกัน กลับมีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมอยู่ด้วย

เชื่องอย่างยิ่ง

“หางของเจ้านี้บำเพ็ญเพียรอย่างไรจึงโผล่ออกมาได้ หรือว่ามีเช่นนี้ออกมาตั้งแต่เกิด” ซ่งอิงเอ่ยถาม

“ข้าน้อย…” ปีศาจจิ้งจอกเอ่ยปาก

“เจ้าพูดคุยดีๆ” ซ่งอิงขมวดคิ้ว

ปีศาจจิ้งจอกกลืนถ้อยคำกลับลงไปทันที “ตอนที่ข้าเกิดมีหางเดียว ต่อมาอ่านนิทานปรัมปราก็เกิดความคิดอยากเปลี่ยนเป็นเก้าหาง ดังนั้นตอนที่บำเพ็ญเพียรทุกครั้งล้วนพยายามมุ่งไปพัฒนาหางของตนเอง จากนั้นก็สำเร็จได้อย่างน่าประหลาด”

ปีศาจบำเพ็ญเพียรล้วนมีวิถีทางเป็นของตนเอง ปีศาจทุกตัวต่างก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นซ่งอิงถามไถ่ละเอียดเพียงใดก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรขึ้นมา

เพียงแต่รู้ว่าหางนี้ไม่ได้มีมาแต่กำเนิดก็เป็นอันใช้ได้แล้ว

“ในเมื่อเจ้าเป็นปีศาจ ทำไมตลอดช่วงที่ผ่านมานี้ข้าจึงไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของเจ้า เจ้ามีวิธีเก็บปราณหรือ” ซ่งอิงครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

สถานที่ที่ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้อยู่อาศัยไม่ห่างจากร้านเซียนเส้อมากนัก นางไปตรวจบัญชีทางด้านร้านเซียนเส้อบ่อยครั้งเช่นกัน แต่ผ่านไปตามละแวกใกล้เคียงกลับไม่เคยพบเห็นการมีอยู่ของปีศาจมาก่อน นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยปกตินัก

ปีศาจจิ้งจอกหดหัวและกล่าว “ตอนที่ข้ายังเด็กถูกมนุษย์เลี้ยงดู ต่อมาไปอยู่กลางเขาจึงมักจะกังวลใจว่าจะมีสัตว์ป่ากินข้าและจะถูกพบเห็นเอาได้ในทุกครั้งที่ล่าเหยื่อ เมื่อเวลานานวันเข้าจึงฝึกฝนความสามารถอย่างการซ่อนตัวตน ข้าคิดว่าข้างนอกนี้น่าจะมีนักบวชเต๋าที่จับปีศาจได้ด้วย เพื่อระมัดระวังจึงเอาความสามารถนี้ออกมาใช้”

ซ่งอิงได้ยินดังกล่าว อดเดาะลิ้นไม่ได้จริงๆ

ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้จัดว่าเป็นปีศาจที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่นางเคยพบเห็นมา

เพียงแต่นางนำความสามารถของการบำเพ็ญเพียรนี้มาใช้ในเรื่องเล็กน้อยในแต่ละวัน หากนางระเบิดอารมณ์เดือดดาลขึ้นมาสักครั้ง หรือคิดจะเปลี่ยนเป็นเจ้าปีศาจที่ฝีมือแข็งแกร่ง เช่นนั้นเกรงว่าตอนนี้ก็คงไม่อาจถูกคนจับตัวได้

ซ่งอิงถอนหายใจ “หลังจากนี้เจ้าติดตามข้าแล้วกัน”

“ท่านพาข้าไปด้วยได้หรือ” ปีศาจจิ้งจอกตาลุกวาว “ใต้เท้าผู้นั้นมองดูดุดันมาก จะปล่อยข้าได้หรือ”

“เขาตรวจสอบแล้วว่าเจ้าไม่เคยทำร้ายคนจริงๆ ดังนั้นต้องปล่อยเจ้าคืนสู่ขุนเขาเป็นแน่ เพียงแต่หลังจากเจ้าไปแล้วก็ไม่อาจปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนได้อีก ข้าจึงเตรียมส่งเจ้าไปยังหมู่บ้านชานเมือง ทางด้านนั้นยังมีพวกเดียวกันอีกเยอะแยะ” ซ่งอิงเอ่ยปากบอกกล่าว

“พวกเดียวกันหรือ” ปีศาจจิ้งจอกยืดลำคอขึ้นมา

“อืม เป็นปีศาจเหมือนๆ กับเจ้าทั้งนั้น” ซ่งอิงมองลักษณะขนที่ขาวโพลน ช่างเจริญตาจริงๆ นางจึงอดทนกล่าวอีกครั้ง “หลังไปถึงหมู่บ้าน ข้าจะวางแผนให้เจ้าทำงานบางส่วน ปกติแต่ละวันก็จะมีของดีๆ ให้พวกเจ้าไว้ช่วยบำรุงระหว่างบำเพ็ญเพียร เพียงแต่เมื่อถึงถิ่นของข้าแล้วก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของข้า”

“เชื่อฟังเจ้าค่ะ!” รอดชีวิตได้ก็ไม่เลวแล้ว!

เพียงแต่ว่า ปีศาจจิ้งจอกกระทืบอุ้งเท้ากับพื้น “หลิวเซิง…ข้าอยากเจอหลิวเซิง…”

“เจ้ายังคิดจะแก้แค้นอีกหรือ” ซ่งอิงมองนางอย่างประหลาดใจ “แม้ว่าเจ้าถูกผู้ชายของตนเองวางยาก็น่าสงสารไม่น้อย ทว่า…เจ้าหลอกลวงเขาก่อนนี่ ดังนั้นเจ้าก็ไม่ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เสียทีเดียวเช่นกัน”

“อีกอย่าง หลิวเซิงผู้นี้มีดีอะไร เพียงแค่หน้าตาดีหน่อย หากพูดถึงปีศาจที่รูปลักษณ์หน้าตาดี ในหมู่บ้านข้าก็มีถมเถ ครอบครัวเรายังมีจิ้งจอกที่ใกล้จะเปลี่ยนร่างแล้วด้วยหนึ่งตัว ไม่แน่ว่ายังเป็นจิ้งจอกตัวผู้อีกด้วย นั่นไม่คู่ควรยิ่งกว่าหลิวเซิงผู้นั้นหรือ” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง

ตอนที่ 720 รู้หน้าไม่รู้ใจ

ปีศาจจิ้งจอกครุ่นคิด จิ้งจอกตัวนั้นพะงาบปากอึกอัก “แต่ข้าชอบผู้ที่เล่าเรียนหนังสือนี่เจ้าคะ…”

ลักษณะท่าทีราวกับเล่นหูเล่นตานี้ มองดูค่อนข้างใช่ย่อย แต่เห็นๆ อยู่ว่านี่เป็นแค่ปีศาจจิ้งจอกตัวหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นคนแต่อย่างใด นางไม่กล้าจินตนาการเลยว่ายามที่ปีศาจตัวนี้เป็นคนจะเป็นลักษณะเช่นไร

“เจ้ามีแนวคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง” ซ่งอิงขมวดคิ้ว “ตัวเจ้าเองเคยเรียนหนังสือหรือ เจ้าเพียงแค่ถูกตาต้องใจในบุคลิกของคนที่เล่าเรียนหนังสือเท่านั้น ไม่เข้าใจความนึกคิดของพวกเขาแต่อย่างใด ดังนั้นหลังจากหลิวเซิงพบว่าเจ้าเป็นปีศาจจึงคิดจะกำจัดเจ้าในทันที

เจ้าอ่านในนิทานปรัมปราไม่ใช่เช่นนี้ใช่หรือไม่ แล้วความแตกต่างอยู่ที่ตรงไหนล่ะ ก็อยู่ที่…หลิวเซิงคนที่เจ้าเลือกผู้นี้นิสัยไม่ดี เพราะเจ้าเรียนหนังสือมาน้อยเกินไป ดังนั้นไม่รู้ว่าบนโลกมนุษย์ยังมีประโยคที่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกดูดี แต่อุปนิสัยใจคอแย่ หรือกล่าวได้ว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ”

ซ่งอิงพูดไม่ออกจริงๆ ว่า แท้จริงแล้วปีศาจจิ้งจอกถูกทอดทิ้งเป็นเพราะตัวนางเองที่ไม่ดีงามมากพอ

ทำได้เพียงใช้คำพูดอื่นมาเกลี้ยกล่อม กล่าวว่านางมีปัญหาในด้านการมองคน จึงต้องมาเจอปัญญาชนที่เป็นคนเช่นนี้

“เจ้าดูสิ เจ้าบำเพ็ญเพียรตามลำพังยังฝึกฝนจนกลายเป็นมีสามหางได้เลย หากนำความนึกคิดจิตใจใช้ไปยังการเล่าเรียนหนังสือ ปัญชาชนที่อยู่ใต้หล้านี้มีผู้ใดบ้างจะไม่ถูกตาต้องใจเจ้า” ซ่งอิงถึงขั้นรู้สึกว่าปีศาจจิ้งจอกตนนี้ลงมาเกิดผิดท้องแล้วแท้ๆ “ไหนเจ้าลองบอกข้ามาสิว่าเจ้าชอบเพราะผ่านการเรียนหนังสือ หรือชอบที่ตัวคนกันแน่”

“…” ปีศาจจิ้งจอกงุนงงเล็กน้อย “หนังสือ?”

เอาเป็นว่าหากไม่ใช่คนที่เล่าเรียนหนังสือ นางก็จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ดังนั้นต้นตอสรุปแล้วก็คือหนังสือ

“ก็นี่อย่างไรล่ะ เจ้าเทียบกับผู้ชายธรรมดาๆ ข้าคิดว่าเจ้าจะรักตัวเจ้าเองมากยิ่งกว่าชายเหล่านั้น เจ้าที่ได้เล่าเรียนหนังสือกับชายที่เล่าเรียนหนังสือ สองอย่างนี้แน่นอนว่าอย่างแรกจะทำให้เจ้ามีความสุขยิ่งกว่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วไยต้องอยู่ทนทุกข์ที่นี่ด้วยเล่า หลิวเซิงผู้นั้นก็แค่คนธรรมดาที่เรียนหนังสือเก่งหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรให้น่าอาลัยอาวรณ์เลย” ซ่งอิงพูดจบยังรู้สึกว่าตนพูดจาเป็นตุเป็นตะไม่เบาเลย

เพียงแต่ว่า ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้อย่างไรเสียก็ถูกเปิดโปงแล้ว นางจำเป็นต้องทำให้คนผู้นี้ติดตามนางไปด้วยความเต็มใจจริงๆ อีกทั้งยังต้องทำให้นางไม่มีความนึกคิดที่จะเผยตัวตนออกมาต่อหน้าประชาชนด้วย

มิเช่นนั้นเกิดวันใดวันหนึ่งนางแอบย่องออกมา เช่นนั้นก็จะก่อผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อฮั่วเจ้ายวน

ซ่งอิงไม่อยากเป็นคนที่ตอบแทนบุญคุณด้วยการสร้างความขุ่นเคือง

ปีศาจจิ้งจอกฟังไปฟังมาก็รู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้พูดได้มีเหตุผลจริงๆ

ตอนแรกยามที่นางถูกตาต้องใจหลิวเซิง หลักๆ เป็นเพราะเขาเล่าเรียนหนังสือมามาก มองดูมีบุคลิกสง่างาม หากตัดเรื่องการเรียนหนังสือออกไป หลิวเซิงก็ไม่มีอะไรอื่นเป็นพิเศษ

“แน่นอน หากเจ้ารู้สึกว่าที่ข้าพูดมีน้ำหนักไม่พอ ยังอยากจะไปหาหลิวเซิงผู้นั้นอีก…” ซ่งอิงกระตุกมุมปาก ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นยกสองมือขึ้น ตามด้วยแสงสีทองกระจายออกมาทั่วทั้งตัวนาง แสงสีทองนี้เปรียบเสมือนลิ้นงูก็ไม่ปาน เริ่มพันล้อมไปบนตัวของปีศาจจิ้งจอกนั่น

ปีศาจจิ้งจอกวิตกกังวลขึ้นมาในชั่วพริบตา!

ก่อนหน้านี้ใต้เท้าฮั่วผู้นั้นเพียงแค่ทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองถูกกดจนหายใจไม่สะดวก แต่ตอนนี้…

นางมีความรู้สึกชนิดที่ว่ามีดดาบค้ำคออยู่ก็ไม่ปาน โลหิตราวกับแข็งทื่อไปในชั่วพริบตา รู้สึกเพียงแม้แต่หายใจยังเริ่มเปลืองแรง

“ไม่หา ไม่หาหลิวเซิงเจ้าค่ะ…” ปีศาจจิ้งจอกเอ่ยปากด้วยความยากลำบาก

หาหลิวเซิงบ้าบออะไรเล่า ชายห่วยๆ คนหนึ่งที่จะทำให้นางตาย เทียบได้กับชีวิตน้อยๆ ของตัวเองเสียที่ไหนเล่า!

“ดีมาก” ซ่งอิงเก็บทักษะของตัวเองกลับคืน “ข้ามีความใจกว้างต่อปีศาจที่ซื่อตรงมาก ดังนั้นเจ้าต้องว่านอนสอนง่าย ต้องรู้ความ มิเช่นนั้นข้าก็จะถลกหนังบนตัวเจ้าเอามาทำพรมปูพื้น”

ซ่งอิงพูดจบ ปีศาจจิ้งจอกถึงกับตัวสั่นเทา

เกือบน้ำตาไหลรินลงมาแล้วด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าตอนนี้ปีศาจจิงจอกดูว่าง่ายขึ้นมาก ซ่งอิงก็พอใจอย่างยิ่ง จึงได้หยิบลูกกุญแจออกมาแล้วปล่อยปีศาจจิ้งจอกเป็นอิสระจากกรง

“เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์สิ” ซ่งอิงปรายตามองนางและกล่าว

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

Status: Ongoing

นิยายสโลว์ไลฟ์แฟนตาซีที่นางเอกมุ่งมั่นทำไร่หาเงินและจับปีศาจเพื่อช่วยเหลือคน เพื่อตายไปจะได้เป็นเซียน!

ซ่งอิง คิดว่าชีวิตนี้ตนเองจะเป็นเพียงหญิงสาวชาวนาเรียบง่ายคนหนึ่งที่ไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิต

แต่บัดนี้ที่ดินของครอบครัวมีภูตโสมโผล่มาตนหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยปีศาจกบเขียว

พอเลี้ยงไก่มันก็บินได้ เลี้ยงลามันก็หัวเราะได้…

เพราะขวดหยกที่ติดตัวมาด้วยครั้งทะลุมิตินำมาซึ่งมิติพิเศษและความสามารถในการจับปีศาจ

แม้จะไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิตแต่แค่สิ่งนี้ปณิธานของนางที่ว่า

‘ยามมีชีวิตอยู่ขอให้เงินตำลึงทองเต็มห้อง ตอนที่ตายไปแล้วก็ขอให้คุณงามความดีเจิดจรัสจนได้ขึ้นสวรรค์กลายเป็นเซียน!’

ของนางจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท