ตอนที่ 721 สมน้ำหน้า / ตอนที่ 722 ส่งของขวัญ
ตอนที่ 721 สมน้ำหน้า
ปีศาจจิ้งจอกเกาๆ อุ้งเท้าของมัน จากนั้นเปลี่ยนรูปลักษณ์กลายเป็นหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปี
ซ่งอิงกวาดตามองนางปราดหนึ่ง เผยสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย เพราะปีศาจจิ้งจอกตนนี้รูปลักษณ์แย่กว่าที่นางจินตนาการไว้มาก แม้ว่าหน้าตาไม่เลว แต่อย่างมากสุดก็นับว่ารูปโฉมงาม แต่กลับไม่ใช่ขนาดงามล่มบ้านล่มเมือง
เห็นทีว่าต่อให้เป็นปีศาจจิ้งจอกก็มีแบ่งระดับรูปลักษณ์สูงต่ำเช่นกัน
แน่นอนว่ารูปลักษณ์ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญคือปีศาจจิ้งจอกตนนี้เป็นตัวที่สมองเต็มไปด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ
ซ่งอิงสงสัยว่าปีศาจจิ้งจอกตัวนี้นำความสามารถจากการบำเพ็ญเพียรลงไปที่หางทั้งหมด จึงเป็นผลให้ด้านอื่นออกจะไม่สมบูรณ์แบบเสียทีเดียว
ซ่งอิงหยิบหมวกที่มีผ้าคลุมบางๆ ห้อยลงมาปิดบังใบหน้าออกมาจากช่องว่างระหว่างมิติ “ใส่นี่ไว้ ห้ามถอดโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากข้าเด็ดขาด”
“ตกลงเจ้าค่ะ” ปีศาจจิ้งจอกขานรับอย่างว่าง่าย
ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้สวมอาภรณ์สีแดงแสดทั้งชุด แต่กลับให้ความรู้สึกสง่างามไม่น้อย ตอนนี้นางเดินตามซ่งอิงไปกล่าวขอบคุณฮั่วเจ้ายวน
ฮั่วเจ้ายวนมองเห็นเพียงจิ้งจอกตัวหนึ่งมาโดยตลอด บัดนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นปีศาจจิ้งจอกตัวนี้เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นคน เขาจึงมีสีหน้าแววตาอึ้งทึ่งและออกจะประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน
จริงๆ แล้วในสายตาผู้คน ปีศาจจิ้งจอกล้วนเป็นผู้ที่งามล่มบ้านล่มเมือง
ทว่าปีศาจที่รูปลักษณ์ลักษณะนี้ ถือว่าเป็นการทำให้เผ่าพันธุ์พวกมันขายหน้าแล้วกระมัง
ฮั่วเจ้ายวนไอแห้ง “จิ้งจอกที่เหมือนกับนางจะถูกเผาในวันพรุ่งนี้”
“ตกลง นางรูปลักษณ์เช่นนี้ จะว่าไปก็ทำให้พวกเราวางใจได้หน่อย หากหน้าตาสะสวยล่มบ้านล่มเมือง เกิดไม่ทันระวังถูกคนมองเห็นเข้าก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะจดจำได้ แต่ลักษณะเช่นในตอนนี้…ก็ดีทีเดียว” ซ่งอิงเกรงใจเกินกว่าจะพูดออกไปตรงๆ
ด้วยรูปลักษณ์อย่างหูเหมยเช่นนี้ ผ่านไปสักสองสามปี เกรงว่าก็คงถูกลืมเลือนไปหมดแล้ว
รูปลักษณ์ภายนอกของปีศาจตนนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในยามที่เปลี่ยนร่าง อยากจะเปลี่ยนแปลงอีกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคิดจะปรับเสริมเติมแต่งหน่อยก็น่าจะพอทำได้
“เจ้าล่ะ ถ้อยคำที่ข้าพูดไว้ ได้เก็บใส่ใจแล้วหรือยัง” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
“เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เลี้ยงเอาไว้ในป่าลึกบนเขา จะไม่ให้ออกมาเด็ดขาด ใช่หรือไม่” ซ่งอิงพยักหน้าอย่างจริงจัง “ท่านวางใจเถอะ ข้ารับประกันว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่ให้คนรู้ตัวตนของข้า ข้าอยู่ที่นี่รบกวนท่านมาหลายวันแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะไปได้แล้วเช่นกัน”
ฮั่วเจ้ายวนรู้สึกว่าซ่งอิงดูเหมือนตกปากรับคำง่ายดายเกินไป
เกรงว่าเป็นเพียงการพูดส่งเดชเท่านั้นกระมัง
ฮั่วเจ้ายวนถอนหายใจ ดูอ้ำอึ้งที่จะเอ่ยปากพูด หลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เอ่ยปากออกมา
นางคนหนึ่งที่เห็นเงินทองราวกับชีวิตเพียงนี้ ให้นางหลบอยู่ตามป่าเขาลึกและใช้ชีวิตอย่างตามมีตามเกิด เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากไปหน่อยจริงๆ
“หากมีความยุ่งยากอันใดก็ส่งคนมาแจ้งให้ข้ารู้ได้ พยายามอย่าลงมือทำอะไรเองจะได้หรือไม่” ฮั่วเจ้ายวนยอมอ่อนข้อให้
มองดูลักษณะปีศาจจิ้งจอกตัวนี้ค่อนข้างกลัวซ่งอิง ไม่รู้เช่นกันว่าซ่งอิงเป็นปีศาจอะไรกันแน่ หากเป็นตนหนึ่งที่เก่งกาจเป็นพิเศษ เมื่อนางโมโหขึ้นมาแล้วเกิดทำให้ผู้คนเสียชีวิตจะทำอย่างไร
“ได้เจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้า
เมื่อพูดจบซ่งอิงก็เดินจากไปในทันที
นางเพิ่งก้าวเดินไปหยกๆ ฮั่วเจ้ายวนก็เริ่มให้คนรวบรวมเรื่องราวปีศาจ
ความเชื่อในหลายปีมานี้ของเขาพังทลายลงแล้ว
…
วันรุ่งขึ้น ลานประหารก่อกองไฟขึ้นมาและนำจิ้งจอกขาวตัวหนึ่งจุดไฟเผาต่อหน้าสาธารณะชน ตอนที่จิ้งจอกตัวนั้นยังไม่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้จนมิด เห็นเพียงชาวประชาตื่นตัวอย่างยิ่งราวกับว่าที่เผาให้สิ้นซากนั้นเป็นศัตรูของพวกเขา
ซ่งอิงให้คนนำปีศาจจิ้งจอกส่งกลับหมู่บ้านแล้ว ส่วนตนยืนอยู่ในฝูงชน มองดูคนข้างๆ ที่ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ
“ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้ทำให้ข้าน่าเวทนาอย่างยิ่ง! สมน้ำหน้าที่ถูกไฟเผาตาย!” ด้านข้าง มีชายคนหนึ่งนั่งกองอยู่บนพื้น แววตาเคืองแค้นอย่างยิ่ง
“เจ้าคือหลิวเซิงหรือ” ซ่งอิงเลิกคิ้ว “จิ้งจอกที่ถูกไฟเผาตายนี่เป็นภรรยาเจ้ามิใช่หรือ ไยถึงทำร้ายนางเสียแล้วเล่า”
“ก็เพราะนางทำร้ายข้า! หากไม่ใช่เพราะนาง ข้าก็ได้แต่งงานกับภรรยาที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมดีงามแล้ว และตอนนี้ก็คงมีลูกชายลูกสาวพร้อมหน้าพร้อมตา! เป็นเพราะนางคนเดียว ให้กำเนิดลูกไม่ได้ มิหนำซ้ำยังเป็นปีศาจ ทำให้ข้าถูกผู้คนหัวเราะเยาะ เป็นเพราะนางคนเดียว!” หลิวเซิงชี้นิ้วไปที่กองเพลิง อยากจะเข้าไปบีบคอปีศาจจิ้งจอกให้ตายใหม่ออกรอบกับมือตัวเอง
ตอนที่ 722 ส่งของขวัญ
หลังได้ยินถ้อยคำของหลิวเซิงผู้นี้ ซ่งอิงรู้สึกเพียงน่าขันสิ้นดี
แม้ว่าปีศาจจิ้งจอกไม่ควรปิดบังตัวตน แต่จะว่าไปแล้วหลายปีมานี้เขาก็พึ่งพาปีศาจจิ้งจอกดูแลกิจการในครอบครัวและงานบ้านต่างๆ เช่นกัน
ที่นางติดค้างหลิวเซิง น่าจะชดใช้คืนจนหมดตั้งแต่ตอนที่หลิวเซิงวางยานางหมดสติแล้ว
บัดนี้ไม่นึกเลยว่าหลิวเซิงจะมามองดูปีศาจจิ้งจอก ‘ไปตาย’ ด้วยตนเอง และถึงขั้นไม่ลืมที่จะด่าทอออกมา ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่สารเลวไม่น้อยเช่นกัน
“เจ้าไม่รู้หรือว่า ปีศาจน่ะ…เห็นว่าตายไปแล้วก็จริง ทว่าบางทีนางยังมีวิญญาณอยู่ด้วย เจ้าด่าทอนางเช่นนี้ นางจะต้องเคืองแค้นในใจเป็นแน่ หลังจากนี้อาจมาปรากฏตัวในความฝันเจ้าบ่อยๆ และถามเจ้าว่าทำไมจึงทำเยี่ยงนี้ก็เป็นได้!” ซ่งอิงหัวเราะอย่างมีลับลมคมใน
รอยยิ้มนี้ออกจะน่ากลัวเล็กน้อย
หลิวเซิงนิ่งอึ้งไป จากนั้นเขยิบก้นที่นั่งอยู่กับพื้นห่างออกไปเล็กน้อย
“เจ้าก็ไม่ต้องกลัวไปหรอก นางหลงใหลในตัวเจ้าเช่นนี้ จะต้องไม่เอาชีวิตเจ้าแน่ อย่างมากสุดก็…อยู่เป็นเพื่อนเจ้า และคอยมองดูเจ้าทุกวันเท่านั้นเอง ไม่น่าห่วงอะไร” ซ่งอิงทำทีกระซิบกระซาบ
ได้ยินดังนั้น หลิวเซิงก็จดจ้องสายตาไปที่กองเพลิงนั่นทันที
ไม่รู้เช่นกันว่าเขาคิดอะไรอยู่ในหัว แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ตาเหลือกก่อนจะเป็นลมไป
ซ่งอิงเม้มปาก คิดไม่ถึงเช่นกันว่าหลิวเซิงจะตระหนกตกใจถึงเพียงนี้ นางเพิ่งพูดไม่กี่ประโยคเอง คนผู้นี้ก็ไม่ไหวเสียแล้วหรือ
เกรงว่าคนผู้นี้ไม่ถึงขั้นต้องให้นางลงมือขู่ให้หวาดกลัวด้วยตนเอง แค่มุ่งไปที่ความละอายแก่ใจของคนผู้นี้ ไม่ช้าก็เร็ว เขาคงจะทำให้ตัวเองอึดอัดใจจนตายได้
ซ่งอิงเพียงแค่พูดจาถากถางไม่กี่ประโยค ไม่ได้เตรียมจะทำเรื่องอื่นใด
เพียงแต่ว่าหลังผ่านไปสองสามวัน ซ่งอิงก็ได้รับของขวัญที่มาจากฮั่วเจ้ายวน
ครั้งนี้ส่งของขวัญมาค่อนข้างไว
นอกจากนี้ ยังเป็นแบบถังๆ มองดู…ค่อนข้างประหลาดไม่น้อย
สิ่งของส่งไปทางด้านสวนสัตว์ ซ่งอิงเปิดฝาออก จากนั้นเกือบอาเจียนออกมา
เลือด…สองถังใหญ่ๆ ข้างในใส่ทัพพีขนาดใหญ่เอาไว้ด้วยหนึ่งคัน เมื่อลองช้อนดูก็พบว่าในนั้นยังมีของจำพวก…เครื่องในหมู
ซ่งอิงรู้สึกขมับเต้นตุบๆ
นางนำสิ่งของที่อยู่ในสองถังใหญ่วางลงตรงหน้าทุกคน “มีผู้ใดชอบกินของสิ่งนี้หรือไม่”
ทุกคนมองหน้ากันเลิกลั่ก
“เถ้าแก่เหนียง พวกเรามิใช่สัตว์ป่าเสียหน่อย กินของสดเป็นเสียที่ไหนเล่าเจ้าคะ!” เฮยยายากวาดตามองถังไม้นั่น และเบนหน้าหนีอย่างรังเกียจ
ตอนที่มันยังไม่เปลี่ยนร่างก็ยังกินพวกเนื้อเน่าได้บ้าง แต่นั่นก็เพราะไม่มีของอย่างอื่นให้นางกินด้วยนี่!
ตอนนี้นางเติบใหญ่แล้ว ใครยังจะกินของเช่นนี้อีกล่ะ
“น่าสะอิดสะเอียดเล็กน้อย เถ้าแก่เหนียง มิใช่ว่าครอบครัวเราใช้จ่ายเงินหมดเกลี้ยงแล้วกระมัง ไม่มีข้าวสารแล้วหรือ” ห่านขาวตัวใหญ่กล่าวเช่นกัน
“ข้ารู้สึกว่ากับข้าวที่ทำสุกจะอร่อยกว่าหน่อย ของประเภทนี้…ต่อให้เป็นหมูก็ไม่ยอมกินหรอกกระมัง” หู่อิ๋งอิ๋งขมวดคิ้ว เกือบจะบีบจมูกอยู่รอมร่อ
ปีศาจหมูป่าที่มาใหม่อีกตัวได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงไม่ค่อยพอใจนัก “เจ้าดูถูกของเหล่านี้ก็ช่าง แต่จะดึงพวกหมูป่าอย่างเราๆ มาเอี่ยวด้วยทำไม”
“นี่ก็แค่เผอิญพูดถึงเท่านั้น…” หู่อิ๋งอิ๋งคลี่ยิ้ม
“…”
โดยสรุป ไม่มีใครชอบสิ่งของที่ปะปนน้ำเลือดในถังตรงหน้านี้เลยสักคน
“เถ้าแก่เหนียง ของสิ่งนี้เป็นของที่ใต้เท้าฮั่วส่งให้ท่านหรือ” ต้าหวงค่อนข้างห่วงใยซ่งอิง “ใต้เท้าฮั่วถูกลาถีบหัวแล้วใช่หรือไม่…”
“ฮึ…ข้าไม่ได้ถีบเขาเสียหน่อย…” ต้าไป๋มองบนใส่ต้าหวงแวบหนึ่ง
ซ่งอิงถอนหายใจ “เรื่องมันยาวน่ะ…ไหนๆ ก็ส่งของเหล่านี้มาให้แล้ว เอามาใช้ทำกับข้าวก็แล้วกัน”
ของสิ่งนี้มีคนคอยคนมันตลอดเวลาจึงไม่จับตัวเป็นก้อน ถือว่าฮั่วเจ้ายวนทุ่มเทแรงใจไม่น้อยเช่นกัน
ของสดไม่มีคนกิน แต่ถ้าเป็นของสุกก็จะรสชาติอร่อยกว่ามาก
เพียงแต่เหล่าปีศาจของนางก็มีแค่หนิวต้าลี่และเพียงพอนเหลืองที่ทำอาหารได้เก่งหน่อย ปีศาจกระต่ายพอทำอาหารได้บ้าง แต่น่าจะไม่เคยลองทำของสิ่งนี้มาก่อน ดังนั้นนางลงมือเองจะดีกว่า
อยู่มาถึงทุกวันนี้ มีลูกมือตั้งมากมายขนาดนี้ กลับยังต้องทำอาหารให้พวกเขากิน ซ่งอิงถอนหายใจ นี่เป็นเถ้าแก่เหนียงที่ติดดินและเป็นกันเองเกินไปหน่อยแล้วกระมัง