ตอนที่ 737 ปล่อยปละปีศาจกระทำผิด / ตอนที่ 738 ผู้ใดพูด!
ตอนที่ 737 ปล่อยปละปีศาจกระทำผิด
ในจดหมายนี้กล่าวว่า ทางราชสำนักมีขุนนางใหญ่หลายท่านยื่นฎีกาทูลฮ่องเต้เพื่อเอาความเขา กล่าวว่าในที่ดินศักดินาของเขาปรากฏภูตผีปีศาจ ต้องเป็นเพราะกระทำเรื่องใดที่ทำให้สวรรค์และผู้คนขุ่นเคืองแล้วเป็นแน่ ทั้งยังกล่าวว่าเขาจัดการภูตผีปีศาจด้วยตนเอง ยิ่งเป็นการกินปูนร้อนท้อง
ทว่าฮ่องเต้ยังคงมีทัศนคติที่ค่อยยังชั่วหน่อย กล่าวเพียงแค่เชื่อใจในตัวขุนนางฮั่วอันเป็นที่รัก
ฮั่วเจ้ายวนอ่านจดหมายนี้ พลันแสยะยิ้มเย็นชา
ฮ่องเต้เชื่อใจเขา ในมุมมองผู้คนคือเห็นแก่หลายร้อยคนที่อยู่ในตระกูลฮั่ว ส่วนเขาฮั่วเจ้ายวนกลับอาศัยความเชื่อใจนี้กระทำเรื่องเหลวไหลซึ่งไม่สมควรกระทำ
“ใต้เท้า หากถูกฮ่องเต้รับรู้ว่าท่านปล่อยปีศาจตนนั้นไป…” ฮั่วซื่อเซี่ยงกังวลใจ
คนอื่นไม่รู้เรื่อง แต่เขารู้
“ไม่เป็นไร ก็แค่อีกหนึ่งข้ออ้างเท่านั้นเอง ถึงแม้ไม่มีเรื่องปีศาจ ภายภาคหน้าก็ยังจะมีเรื่องอื่นอีกอยู่ดี” ฮั่วเจ้ายวนนิ่งสุขุมอย่างยิ่ง
“ข้าต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่แล้วกัน” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
“ข้าน้อยอยู่ทำอะไรหรือขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงตะลึงงัน
“จำเป็นต้องให้เจ้าคอยจับตามองทางด้านสวนว่านหลิงเอาไว้หน่อย ปัจจุบันทั่วหล้านี้มีปีศาจจำนวนเท่าไรกันแน่ก็ยังไม่รู้ ในสวนแห่งนั้นของซ่งอิง…เกรงว่าจะมิใช่สัตว์ป่าธรรมดาๆ ทั้งหมด เจ้าอยู่ที่นี่ หากมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นจะได้จัดการได้ง่ายหน่อย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ฮั่วซื่อเซี่ยงงุนงงจนทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังกล่าว “ช้าก่อนขอรับ เมื่อครู่ท่านพูดว่า…สัตว์ป่าในสวนของฮั่วฮูหยินไม่ใช่ธรรมดาทั่วไป นี่หมายความว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกทั้งหมดเลยหรือขอรับ!”
เขารู้เพียงแค่ปีศาจจิ้งจอกตนนั้นถูกฮั่วเจ้ายวนเอาตัวไปแล้ว ส่วนเรื่องอื่นไม่ค่อยทราบแน่ชัดนัก!
“ตอนนี้ข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้กระจ่างนักเช่นกัน ดังนั้นจึงให้เจ้าอยู่ที่นี่ หากมีเวลาว่างก็ไปดูในสวนแห่งนั้นเสีย หากสืบถามเกี่ยวกับปีศาจที่อยู่ในสวนแห่งนั้นได้ความกระจ่างก็จะวางใจได้หน่อยเช่นกัน” ฮั่วเจ้ายวนชะงักงัน แล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ซ่งอิงเป็นไม่ใช่คนเลวร้าย คิดๆ ดูแล้วก็คงไม่อาจปล่อยปละปีศาจให้กระทำเรื่องผิดๆ ได้ ดังนั้นเจ้าเพียงแค่ต้องช่วยนางขจัดพวกความยุ่งยากก็พอ จะปล่อยให้ผู้ใดมารังควานให้นางโมโหไม่ได้โดยเด็ดขาด”
“ฮั่วฮูหยินปล่อยปละปีศาจให้กระทำเรื่องผิดๆ หรือขอรับ มิใช่นางรู้สึกว่าปีศาจจิ้งจอกตนนั้นน่าสงสาร ดังนั้นจึงได้ปล่อยกลับสู่ป่าหรอกหรือขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงงุนงงสับสนเล็กน้อย
หมายความว่าอะไรกัน
ฮั่วเจ้ายวนมองหนุ่มน้อยซื่อบื้อผู้นี้อย่างปิดบังถ้อยคำบางอย่างไว้ในใจ
“อืม เจ้าคิดเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน” ฮั่วเจ้ายวนไม่มีถ้อยคำใดจะพูดนอกจากนี้
“…” ฮั่วซื่อเซี่ยงตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูก
แต่ว่าสรุปแล้วที่ใต้เท้าของเขาพูดหมายความว่าอะไรกันแน่ล่ะ
“หลังจากข้าไปเมืองหลวงแล้ว ไม่ว่าเรื่องอันใดให้คำนึงถึงฮั่วฮูหยินมาเป็นอันดับแรก ตราบใดที่นางไม่สังหารคน เรื่องอื่นล้วนจัดการได้ทั้งนั้น หากเงินไม่พอก็ไปขุดเอาจากบริเวณนั้นที่ข้าเคยบอกไว้ เรื่องที่ใช้เงินจัดการได้ก็อย่าได้ใช้กำลัง” ใช้กำลังไปเจ้าก็ไม่ชนะอยู่ดี
ฮั่วเจ้ายวนเผยสีหน้าจริงจัง ฮั่วซื่อเซี่ยงยังนึกว่าตนฟังผิดแล้วเสียอีก
บริเวณที่ใต้เท้าซ่อนทรัพย์สินล้ำค่าเอาไว้นั้นมีหลายที่เชียวละ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแห่งเดียวที่เขารู้ แต่เมื่อก่อนใต้เท้าเคยบอกกล่าวไว้ว่า ทรัพย์สินมีค่าเหล่านี้เอาไว้ใช้ก็ต่อเมื่อถึงยามสุดวิสัยจริงๆ!
ทำไมตอนนี้ต้องการจะขุดออกมาเสียแล้วเล่า
“ท่านวางใจได้ หากมีคนหาเรื่องฮั่วฮูหยิน ข้าจะพยายามใช้เงินสยบ ไม่ใช้กำลังขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงกล่าว
ฮั่วเจ้ายวนเลิกคิ้ว สายตาที่มองฮั่วซื่อเซี่ยงดูประหลาดเล็กน้อย
หนุ่มน้อยซื่อบื้อเข้าใจความหมายของเขาผิดแล้ว เขาให้ฮั่วซื่อเซี่ยงเอาเงินไว้ดับโทสะของซ่งอิงต่างหากเล่า
มิใช่เขาไม่ยอมพูดความเป็นจริงออกมา หากแต่พูดออกไปก็ไม่แน่ว่าเจ้าหนุ่มน้อยจอมซื่อผู้นี้จะเชื่อ
ตามใจเจ้าหมอนี่แล้วกัน หากซ่งอิงเปิดโปงตัวเองว่าเป็นปีศาจขึ้นมาจริง ถึงตอนนั้นเขาก็น่าจะเข้าใจแล้ว
“จริงสิใต้เท้า ท่านจะกลับเมืองหลวงไปทำอันใดหรือขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงพอรับรู้บางอย่างแล้วหลังการฟังคำอธิบายจากใต้เท้าฮั่ว
ฮั่วเจ้ายวนนิ่งเงียบ
ตอนนี้เขาไม่ได้อายุน้อยๆ แล้วเช่นกัน หลายปีก่อนกล่าวว่าต้องการอยู่ไว้ทุกข์ จึงไม่ได้สู่ขอภรรยาเสียที ภายหลังต่อมาเขาใช้เงินตระกูลฮั่วอย่างสุรุ่ยสุร่ายทั่วสารทิศ โด่งดังจนคนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ว่าตระกูลฮั่วเขากลับสู่ชีวิตยากจนแร้นแค้นและระหกระเหินไปทั่ว มีบรรดาศักดิ์อ๋องกับเบี้ยหวัดเล็กน้อย ไม่มีแม้แต่หมู่บ้านสวนที่เป็นรูปเป็นร่างตลอดจนร้านค้าห้องแถว จึงเป็นผลให้ผู้ร่ำรวยสูงศักดิ์ทั่วเมืองหลวงล้วนไม่กล้ายกบุตรสาวแต่งงานกับเขา เนื่องด้วยเกรงกลัวว่าจะเผชิญชีวิตลำบากตรากตรำ
เช่นนี้เขาจึงได้อยู่อย่างสงบเงียบมาหลายปี และหลบมายังเมืองยงทางด้านนี้ได้
แต่ครั้งนี้ เกิดเหตุการณ์ใหญ่โตถึงเพียงนี้ ย่อมมีคนเริ่มนึกถึงเรื่องการแต่งงานของเขาอีกครั้งเป็นแน่
ตอนที่ 738 ผู้ใดพูด!
บัดนี้ฮ่องเต้ต้องการเรียกเขากลับไป ตอนนี้เขาได้รับจดหมายแล้ว เช่นนั้นอีกไม่นานนักก็น่าจะมีพระราชโองการลงมาถึงด้วยเช่นกัน
ฮั่วซื่อเซี่ยงฟังจนมึนงงสับสนไปหมด
สามวันต่อมา พระราชโองการมาถึง ฮั่วเจ้ายวนออกเดินทาง ตัวเขาเพิ่งเดินทางไป ฮั่วซื่อเซี่ยงก็มุ่งหน้าไปสวนว่านหลิงตามคำสั่งในทันที
แต่ครั้นเข้ามาในสวน เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนผิดแปลกจากทั่วไปเลยนี่
ลิงรูปลักษณ์ไม่เลวทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ต่างไปจากสัตว์ตัวเล็กๆ ทั่วไป ไฉนจากที่ฟังความหมายของใต้เท้าก็เหมือนกับว่าที่อยู่ในนี้เป็นปีศาจทั้งหมด
ฮั่วซื่อเซี่ยงมีสีหน้างุนงง จึงจ่ายเงินเพื่อเข้าพักค้างแรมเสียเลย
ก่อนหน้าใต้เท้าเดินทางจากไปก็มีแค่เรื่องนี้ที่ไม่วางใจ ตอนนี้ถึงแม้ใช้จ่ายเงินมากหน่อย เขาก็ต้องไขความกระจ่างให้ได้ว่าในคำพูดของใต้เท้าหมายถึงอะไรแน่!
“เถ้าแก่เหนียง องครักษ์ที่อยู่ข้างกายใต้เท้าฮั่วผู้นั้นมาพักทางด้านเรานี้เป็นเวลาสิบกว่าวันแล้ว เมื่อวานนั่งยองอยู่ในสวนจิ้งจอกของพวกเราตลอดทั้งวัน เอาแต่จับจ้องไปที่จิ้งจอกของบ้านเราไม่วางตา จิ้งจอกขาวของเราตัวนั้นแม้ว่ามีสติปัญญาเฉียบแหลม แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนร่างเลยนี่ ถูกเขาจ้องมองจนขนจะเป็นสีแดงอยู่แล้ว!”
“เมื่อวานเขาจับจ้องจิ้งจอกหรือ วันก่อนเขายังอยู่ทางด้านหู่ขวงนั่นเลย เอาแต่วนเวียนอยู่แถวนั้นไม่ยอมไปไหนเช่นกัน ท่านก็รู้ว่าหู่ขวงค่อนข้างฉุนเฉียวง่าย เห็นพ่อหนุ่มน้อยผู้นี้แล้วรู้สึกขัดตา ไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษ จึงส่งเสียงคำรามตลอดทั้งวัน ก่อนหน้านี้ท่านเคยพูดไว้แล้วว่าตอนที่เสือคำราม นกที่อยู่บนท้องฟ้าต้องให้ความร่วมมือโดยการบินวนด้วยหนึ่งรอบ ส่งผลให้เมื่อวานนกของบ้านเราเหนื่อยกันจะแย่” เฮยยายาพูดอย่างหงุดหงิด
ซ่งอิงกระตุกมุมปากเล็กน้อย
“เขาอาจอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับพวกเจ้ามากเกินไปหน่อยกระมัง” ซ่งอิงไม่ค่อยเข้าใจเช่นกัน
ฮั่วซื่อเซี่ยงเป็นคนสนิทที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ของฮั่วเจ้ายวน ถึงกระทั่งว่าแทนที่จะกล่าวว่าเขาเป็นคนสนิท กล่าวว่าเป็นคนในครอบครัวเสียยังดีกว่า มิเช่นนั้นก็คงไม่เหมือนกันแม้กระทั่งแซ่
ฮั่วเจ้ายวนยังรู้เลยว่าในสวนของนางแห่งนี้มีปีศาจอยู่ด้วย แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ฮั่วซื่อเซี่ยงจะไม่รู้
คาดว่าก็เพราะเมื่อก่อนพบเห็นอะไรทำนองนี้น้อยนิด ดังนั้นอยากมาลองดูเปิดหูเปิดตา
“ความหมายของเถ้าแก่เหนียงคือ เขารู้ว่าพวกเราเป็นอะไรหรือเจ้าคะ” เฮยยายาตกตะลึงปนประหลาดใจอย่างยิ่ง
“น่าจะรู้กระมัง อย่างไรเสียก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นจิ้งจอกขาวสามหางแล้ว ต่อมาก็ส่งเครื่องในสัตว์จำนวนมากมาให้ตามคำสั่งของใต้เท้าตระกูลเขามิใช่หรือ หากนี่ยังไม่รู้อีก เช่นนั้นต้องโง่เขลาขนาดไหน” ซ่งอิงเอ่ยอย่างจริงจัง
เมื่อนางพูดจบ เฮยยายาก็พยักหน้า
มีเหตุผล ก่อนหน้านี้ต้าหวงไปถ่ายทอดถ้อยคำให้ แต่แล้วกลับบินหนีไปต่อหน้าต่อตาใต้เท้าฮั่ว ในเมื่อฮั่วซื่อเซี่ยงผู้นี้เป็นคนสนิทของใต้เท้าฮั่ว ฉะนั้นย่อมมองเห็นด้วยเป็นแน่
“เช่นนั้นหากเป็นอย่างว่า เราก็ไม่ต้องแสร้งทำเมื่ออยู่ต่อหน้าฮั่วซื่อเซี่ยงแล้วสินะเจ้าคะ” เฮยยายากล่าว
“อืม ไม่ต้องหรอก เพียงแค่ไม่ให้คนนอกเห็นก็พอ” ซ่งอิงพยักหน้า
ซ่งอิงเพียงแค่รู้สึกว่าปีศาจเหล่านี้ทำงานค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยกันทุกวัน ฮั่วซื่อเซี่ยงก็ไม่ใช่แขกเหรื่อทั่วไป หยอกเขาเล่นสักหน่อยคงสนุกไม่น้อย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮั่วซื่อเซี่ยงลืมตาตื่น
เขานับวันยิ่งไม่เข้าใจในคำพูดของใต้เท้าฮั่ว
ไม่ว่าเขาจับตามองดูอย่างไร ก็ไม่พบความผิดแปลกในสวนแห่งนี้เลย
สิ่งเดียวที่มีความพิเศษหน่อยคือ สวนว่านหลิงแห่งนี้ทำเงินได้มากเป็นพิเศษ!
ชาวบ้านสามัญชนชั่วไปมาเดินเล่น ใช้จ่ายไปกับการกินดื่ม รวมๆ แล้วอย่างน้อยก็ต้องหกเจ็ดร้อยอีแปะ หากผู้มาเยือนเป็นครอบครอบคนร่ำรวยและอยากเที่ยวให้หนำใจสักครั้ง นั่นก็เป็นอะไรที่ใช่ย่อยเชียวละ วันหนึ่งอย่างน้อยก็ห้าสิบตำลึงเงินขึ้นไป! และร้อยตำลึงเงินก็ยังถือเป็นจำนวนที่ปกติเช่นกัน!
อาหารที่นี่รสชาติอร่อยจริงๆ เขาเองยังถึงขั้นไม่อยากไปจากที่นี่สักเท่าไหร่
ฮั่วซื่อเซี่ยงถอนหายใจ ภาระหน้าที่ที่ใต้เท้ามอบให้ แท้จริงแล้วเป็นอะไรกันแน่!
ขณะคิดอยู่ ฮั่วซื่อเซี่ยงเปิดประตูออก บนท้องนภามีนกสีดำตัวหนึ่งบินผ่านมา
“ในที่สุดพ่อหนุ่มซื่อผู้นี้ก็ตื่นนอนเสียที!” ประโยคหนึ่งแว่วลอยมากลางอากาศอย่างกะทันหัน
ฮั่วซื่อเซี่ยงตะลึงงัน “ผู้ใดพูด”
เมื่อพูดจบ เขาก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องเตรียมหยิบมีดพกของตน แต่เพิ่งย่างก้าวกลับไป ก็เห็นหนูตัวใหญ่สองตัวขนาดกำลังควงมีดของเขาไปมา!