ตอนที่ 755 การแก้แค้นมาเยือนแล้วหรือ
ซ่งสวินดูวิตกกังวลเล็กน้อย
ซ่งอิงคลี่ยิ้ม “ท่านวางใจเถอะ ข้าอยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำจึงเตรียมของดีติดไม้ติดมือมาด้วยไม่น้อย พวกยาพิษต่างๆ อะไรนั่นข้าเอาอยู่ นอกจากนี้ข้ายังจะพาอิ๋งอิ๋งไปด้วย ข้ากล้ารับประกันว่าทางด้านจวนโหวนั่นจะไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ตัวนางได้”
“ท่านวางใจเถอะ ข้ารับปากว่าจะให้อิงต้าซานส่งจดหมายให้ท่านทุกคืน หากไม่มีจดหมายมาถึง เช่นนั้นท่านก็รีบแจ้งทางการขุนนางได้ทันที บอกไปว่าจวนโหวเอาตัวน้องสาวท่านไปไม่ยอมคืน เมื่อเอะอะเป็นเรื่องราวใหญ่โตแล้ว จวนโหวทางด้านนี้เห็นความสำคัญของภาพลักษณ์ อย่างมากสุดก็ทำให้ข้าได้รับความไม่เป็นธรรมเล็กๆ น้อยๆ และข่มขู่ข้าให้กลัวก็เท่านั้นเอง แต่ไม่กล้าทำเรื่องอุกอาจอย่างการกำจัดทิ้งในจวนทั้งอย่างนั้นหรอก” ซ่งอิงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง
จวี่เหรินแจ้งความกับทางการ นั่นเป็นเรื่องใหญ่ใช่ย่อย
ถึงตอนนั้น ทั่วทั้งเมืองจะรู้เรื่องว่า ท่านโหวซ่งฆ่าลูกในไส้ตัวเอง
การที่บิดาฆ่าลูกไม่ผิดกฎหมาย แต่เจ้าของร่างเดิมน่าสงสารขนาดนั้น อีกทั้งท่านโหวซ่งไม่ใช่ผู้เลี้ยงดูจนนางเติบใหญ่ นางกลับถูกทำให้เสียชีวิตไปทั้งอย่างนี้ ใครบ้างจะไม่ด่าว่าทั้งครอบครัวจวนโหวไร้น้ำจิตน้ำใจและไร้คุณธรรม
ซ่งสวินรู้ว่าตนรั้งนางไม่ได้ จึงพยักหน้าตกลง
สามวันต่อมา พวกเขาทั้งสองก็มุ่งหน้าไปจวนโหว
ซ่งสวินสวมชุดตัวยาวป้ายข้างสีน้ำเงินขาว มองดูสง่างาม ความจริงหลังจากครอบครัวบุตรชายคนโตตระกูลซ่งไม่ขาดแคลนเงินทองแล้ว เสื้อผ้าของซ่งสวินล้วนดูดีมากทั้งนั้น เพียงแต่ระหว่างทางมาไม่อยากทำตัวหรูหราจนเป็นจุดสนใจเกินไป ซ่งสวินกลัวจะเจอโจร จึงบังคับซ่งอิงสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูธรรมดาๆ สักหน่อย
ซ่งอิงเดินตามหลังซ่งสวิน ใส่หมวกที่มีผ้าลูกไม้บางๆ ปกคลุมใบหน้า สวมอาภรณ์ผ้าแพรสีขาวปักลวดลายมงคลด้วยดิ้นสีเขียวอ่อน ตอนนี้อากาศเย็นแล้ว นางจึงคลุมผ้าคลุมกันลมที่มีขนสัตว์ฟูฟ่องไว้ชั้นนอกอีกผืน ยิ่งมองดูสง่างามแต่คงความเรียบง่าย
ข้างหลังซ่งสวินมีข้ารับใช้หนุ่มสองคน คนหนึ่งร่างเดิมคือเหยี่ยว อีกคนร่างเดิมคือสุนัข
ข้างหลังซ่งอิงมีอิงต้าซานและหวงเมี่ยนตลอดจนหู่อิ๋งอิ๋ง มองดูผิวเผินก็คือหนึ่งสาวใช้ หนึ่งผู้คุ้มกันประจำเรือนและหนึ่งแม่นม ซึ่งก็ดูครบครันอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าท่านโหวและฮูหยินไม่ได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง
ทว่าเมื่อซ่งซินหัวและซ่งถังหังได้รับข่าวคราว ตอนนี้ก็พากันมายืนอย่างสงบเสงี่ยมอยู่หน้าประตูด้วย
หลังจากมองเห็นซ่งอิง ทั้งสองคนต่างก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันใด
เดิมทีนึกว่าน้องสาวที่ซ่งสวินพามาด้วยคือซานยาบุตรสาวของบ้านสาม คิดไม่ถึงว่าจะเป็นซ่งอิงจริงๆ!
นางมาทำอะไร มิใช่ว่ามาแก้แค้นกระมัง
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสองคนนี้ปรากฏตัว ผู้ดูแลบ้านก็เผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเชิญเข้าไปข้างใน
ซ่งอิงคุ้นเคยกับที่แห่งนี้เป็นอย่างดี
อย่างไรเสีย เพราะความทรงจำที่หล่อหลอมเข้ากับเจ้าของร่าง จวนโหวสำหรับนางจึงไม่ใช่สถานที่ที่ควรค่าแก่การจดจำ เพียงแต่มาเยือนในครั้งนี้ ในจิตใจมีความรู้สึกที่แตกต่างไปมากจริงๆ
คนของจวนโหวล้วนไม่เปลี่ยนไปเลย
เมื่อก่อนตอนที่เจ้าของร่างมาเยือนก็เป็นประมานนี้ ตอนนั้นส่งเด็กๆ อย่างพวกซ่งฮวนมาต้อนรับสองสามคน
สำหรับเจ้าของร่างในตอนนั้น แทนที่จะกล่าวว่าเป็นการต้อนรับ ไม่สู้กล่าวว่าเป็นการข่มจะดีเสียกว่า
ซ่งฮวนผู้นั้นเป็นบุตรสาวคนโตอย่างชอบธรรมแทนเจ้าของร่าง กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก แต่แล้วจู่ๆ ก็กลายเป็นบุตรสาวคนรอง ถึงขนาดรู้สายเลือดของอีกฝ่าย และรู้เช่นกันว่าเดิมทีตนเป็นบุตรสาวที่เกิดจากอนุภรรยา เพียงแต่จดชื่อภายใต้นามของภรรยาหลวง ทำให้นางรู้สึกไม่สุขใจอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ นางจึงแสดงออกภายนอกอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ทว่าความจริงกำลังหัวเราะเยาะเจ้าของร่างเดิม
บัดนี้ สถานการณ์ก็พอประมาณกัน
หากเป็นคนหนึ่งที่ไม่ลืมมิตรภาพเก่าก่อน ตอนนี้รู้ว่าคนจากทางบ้านเกิดมาเยือนแล้ว ต่อให้เป็นท่านโหวก็ยังควรออกมาเจอหน้าเด็กรุ่นหลังเหล่านี้ด้วยตัวเองสักหน่อย
ถึงแม้ท่านโหวไม่ออกมา โหวฮูหยินในฐานะนายหญิงของครอบครัว ก็ควรมีการต้อนรับขับสู้แขกเหรื่อสักหน่อยจึงจะถูก ถึงขนาดว่าต่อให้สองสามีภรรยาล้วนรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงดู แต่ก็ยังมีทายาทผู้สืบทอดของจวนโหวอยู่ด้วยมิใช่หรือ
เพียงแต่ว่า นางคาดเดาการจัดการเรื่องต่างๆ ของจวนโหวแห่งนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นกัน จึงไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมาย
“ท่านโหวตระกูลเรางานค่อนข้างยุ่ง วันนี้เดิมทีมีเวลาว่าง แต่ผลสุดท้ายก่อนหน้าไม่นานนี้ก็มีงานอื่นขึ้นมาอีก คิดว่าช่วงนี้นายน้อยสวินก็น่าจะไม่มีธุระอื่นใดเช่นกัน ข้าน้อยจึงจัดเตรียมห้องพักรับรองแขกเอาไว้ส่วนหนึ่งตามความประสงค์ของท่านโหว นายน้อยสวินและคุณหนูพักอยู่ที่เรือนรับรองแขกสักสองสามวัน รอท่านโหวนมีเวลาว่างแล้ว จะต้องมาเจอท่านอย่างแน่นอน”
ตอนที่ 756 เทียบเทียมได้
ครั้นผู้ดูแลบ้านเอ่ยดังกล่าว ซ่งสวินและซ่งอิงต่างชะงักฝีเท้าลงในทันที
“ในเมื่อท่านโหวไม่อยู่ เช่นนั้นไว้วันหน้าข้าค่อยมาเยี่ยมเยียนก็แล้วกัน” ซ่งสวินกล่าวในทันใด
ผู้ดูแลบ้านคนนั้นขมวดคิ้วนิ่วหน้า “นายน้อยสวิน ท่านโหวของพวกเรางานรัดตัว วันนี้ไม่มีเวลาว่างก็เป็นเรื่องปกติ”
“หากเป็นเรื่องของข้าตัวคนเดียว จะเยี่ยมเยียนหรือไม่เยี่ยมเยียนก็ไม่สำคัญอันใด เพียงแต่ครั้งนี้ก่อนหน้ามาเยือนได้รับมอบหมายจากท่านปู่ครอบครัวข้ามาด้วย วันนี้ปรึกษาหารือกับท่านโหว วันหน้ายังต้องไปเจอหัวหน้าวงศ์ตระกูลสกุลซ่งอีก หากท่านโหวไม่อยู่ เช่นนั้นก็ทำได้เพียงไว้วันหน้าค่อยมารบกวนใหม่เสียแล้ว” ซ่งสวินเอ่ยปากพูด “ขอตัวก่อน”
ซ่งสวินพูดจบก็นำทางซ่งอิงกลับหลังหันเดินไปทันที
“ช้าก่อน!” ซ่งซินหัวรีบส่งเสียงตะโกนขึ้นมา
“ข้าคิดว่าท่านพ่อข้าจะกลับมายามอู่ พี่รองสวินอยู่คอยจะดีกว่ากระมัง” ซ่งซินหัวเอ่ยปากทันที จากนั้นถลึงตาใส่ผู้ดูแลบ้านแวบสายตาหนึ่ง “ยังไม่รีบไปแจ้งให้ท่านพ่อข้าทราบอีก บอกไปว่าพี่รองของครอบครัวที่บ้านเกิดมีเรื่องสำคัญต้องปรึกษาหารือ จำเป็นต้องให้ท่านพ่อกลับมาให้จงได้!”
ผู้ดูแลบ้านตะลึงงันเล็กน้อย แต่เมื่อถูกคุณหนูขึงตาใส่ จึงทำได้เพียงพยักหน้าตกลงแล้วรีบไปแจ้งให้ท่านโหวซ่งทราบในทันที
ซ่งซินหัวไม่ค่อยเข้าใจบิดานางสักเท่าไร ซ่งสวินเป็นหนุ่มก็ได้เป็นถึงจวี่เหรินแล้ว อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นก็จะกลายเป็นขุนนางในราชสำนักอย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลาเช่นนี้ไม่ควรตีสนิทผูกสัมพันธ์หรอกหรือ
เมื่อก่อนนางคิดว่าท่านพ่อชาญฉลาด แต่ตอนนี้เห็นทีว่าจะเป็นประเภทอวดเบ่งเสียมากกว่า
ไม่ช้าก็เร็วย่อมมีสักวันที่บิดานางจะเสียเปรียบครั้งใหญ่
ซ่งอิงและซ่งสวินมาเยือนครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการมาสอบเท่านั้นอย่างแน่นอน อย่างไรเสีย…ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ซ่งอิงควรจะอยากอยู่ให้ห่างๆ จวนโหวเข้าไว้จึงจะถูก แต่ไฉนจึงเป็นฝ่ายเข้ามาหาอีกเล่า
นางมักรู้สึกว่า ช่วงระยะนี้ เกรงว่าในครอบครัวต้องไม่สงบสุขแล้วเป็นแน่
ซ่งซินหัวเป็นฝ่ายเอ่ยปากรั้งให้อยู่ ทั้งยังให้คนรีบไปเตรียมของว่างมาให้ ซ่งสวินจึงได้พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเดินเข้าสู่ลานบ้านจวนโหว
มีแขกมาเยื่อนที่บ้าน คนในจวนโหวย่อมต้องออกมามองดูสักหน่อยเป็นธรรมดา
ซ่งซินหัวโน้มน้าวหลานซื่อจนได้ นางจึงโผล่หน้ามาต้อนรับแขกอยู่ในห้องโถงรับรองแขก
เวลาผ่านไปไม่นานนัก บุตรของตระกูลซ่งก็มากันทั้งหมด
เพียงแต่ว่าตอนนี้แตกต่างไปจากเมื่อหลายปีก่อน เหล่าคุณชายของจวนโหว นอกจากซ่งถังหัง ล้วนแต่งงานไปหมดแล้ว เหล่าคุณหนูที่เคยรังแกและดูถูกเจ้าของร่างก็ออกเรือนไปหมดแล้วเช่นกัน ในปัจจุบัน อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“ไม่กี่วันก่อนได้ยินท่านโหวกล่าวว่าทางด้านบ้านเกิดมีผู้สอบจวี่เหรินผ่าน ข้ายังไม่เชื่อด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ได้เห็นเจ้า แท้จริงแล้วเป็นคุณชายที่งดงามและมีมารยาทมากคนหนึ่งจริงๆ เพียงแต่ดูไม่ค่อยเหมือนเป็นผู้ที่มาจากทางด้านบ้านเกิดนั่นเลย แต่กลับชวนให้เป็นที่ชมชอบมากยิ่งกว่าเด็กๆ ในครอบครัวข้าเสียอีก” หลานซื่อทำท่าทีราวกับแม่พระผู้จิตใจดีงามยามเอ่ยพูด
ซ่งสวินโค้งคำนับให้เล็กน้อย “ข้าเรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก เทียบเทียมคนอื่นได้ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันขอรับ”
หลานซื่อตกตะลึง ยังนึกว่าตนฟังผิดไปแล้วด้วยซ้ำ
จากนั้นไม่ทันไรนางก็มีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาเล็กน้อย
เด็กรุ่นหลังคนนี้ไม่รู้ความเอาเสียเลย ญาติผู้ใหญ่ชมเชยไม่กี่ประโยคก็คิดไปว่าตัวเองเก่งกาจนักหนาแล้วหรือ
นางพูดว่าลูกๆ ในครอบครัวตนไม่เป็นที่ชวนให้ผู้คนรู้สึกชมชอบ เขาก็เห็นด้วยไปทั้งเช่นนั้นน่ะหรือ
ก็แค่ลูกหลานในครอบครัวยากจนต่ำต้อยที่มาจากชนบทเท่านั้น ทว่าไร้ยางอายไม่น้อยทีเดียว ไม่นึกเลยว่าจะกล้าเทียบกับคุณชายในตระกูลโหว!
“หลานสวินเป็นคนหนึ่งที่ชอบพูดติดตลกเหมือนกันนี่” หลานซื่อส่งเสียงสบถฮึแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ข้าเห็นเจ้าดูเหมือนอายุไม่น้อยแล้วเช่นกัน น่าจะแต่งงานมีลูกแล้วกระมัง ไฉนครั้งนี้ไม่พาภรรยามาด้วย กลับกลายเป็นว่าพาน้องสาวมาด้วย”
ซ่งอิงคลุมผ้าลูกไม้บางๆ อยู่ หลานซื่อจึงจำนางไม่ได้
ใต้หล้านี้ เกรงว่าก็คงมีเพียงหลานซื่อผู้นี้เท่านั้นที่ลูกสาวแท้ๆ ของตนยืนอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังจำไม่ได้
ผ้าลูกไม้ผืนนี้ที่นางใช้คลุมอยู่ไม่ได้ช่วยปกปิดมากมายเพียงนั้น มันก็แค่หนึ่งชั้นบางๆ ซึ่งพอจะมองเห็นเค้าโครงหน้าได้รางๆ เช่นกัน!
“ข้ายังมิได้สู่ขอภรรยาแต่อย่างใด” ซ่งสวินกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “อีกทั้ง ข้ากับน้องสาวมีความสัมพันธ์สนิทสนมกัน ออกมาภายนอก พานางมาด้วยก็ไม่มีอันใดไม่เหมาะสมเช่นกันขอรับ”