ตอนที่ 785 อ๋องอย่างเราเสียเปรียบแล้ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในพระทัยฮ่องเต้ขณะนี้รู้สึกสั่นสะเทือนอย่างยิ่ง
ที่เขาคอยตั้งรับสกุลฮั่ว มิใช่เพราะสกุลฮั่วไม่จงรักภักดี แต่เป็นเพราะสกุลฮั่วมีความคับแค้นมากมายเหลือเกิน
ความโกรธแค้นยิ่งใหญ่เพียงนี้ตกไปอยู่ที่ตัวผู้ใด เกรงว่าล้วนปล่อยผ่านไปไม่ได้โดยง่าย ทว่าผู้คนล้วนรู้ว่าสกุลฮั่วถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม หากมีวันใดวันหนึ่ง ฮั่วเจ้ายวนก่อกบฏ ไม่แน่ว่าผู้คนทั่วหล้ายังจะด่าทอราชวงศ์ด้วยซ้ำว่าเวรกรรมตามสนอง
“น่าละอายใจยิ่งนัก” ฮ่องเต้ทอดถอนใจ สุรเสียงนุ่มนวลขึ้นมาก “วงศ์ตระกูลฮั่วตอนนี้เหลือเพียงเจ้าคนเดียว เราจะทำใจตัดเลือดเนื้อเชื้อไขสกุลฮั่วได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ยามที่เจ้าไม่ได้เอ่ยถึงซ่งอิงผู้นี้ เดิมทีเราก็มีประสงค์จะหาแม่นางให้สักคน บัดนี้ในเมื่อเจ้ามีใจให้ซ่งอิง พวกเจ้าสองคนก็ถือว่าเป็นคู่ที่สวรรค์สรรสร้าง เราเองก็ยินดีปรีดาด้วยเช่นกัน เรื่องอย่างการสิ้นไร้ทายาทก็อย่าได้เอ่ยถึงอีกเลย”
หากให้สกุลฮั่วสิ้นทายาทสืบสกุลจริง เช่นนั้นคนที่ไม่พอใจก็จะมากขึ้นกว่าเดิม
ซ่งอิงผู้นี้…
ไม่เลวเช่นกัน
ฮั่วเจ้ายวนเองก็รู้สึกโล่งใจที่บัดนี้ได้เป็นฝ่ายทูลสถานการณ์ของตนเป็นที่เรียบร้อย
เขาไม่ได้มีความรู้สึกอันดีต่อราชวงศ์ อย่างไรเสียไม่ว่าใครถูกฆ่าล้างตระกูล ต่างก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีความนึกคิดเคารพนับถือและซาบซึ้งใจต่อศัตรู
เพียงแต่ ญาติพี่น้องของเขาเสียชีวิตหมดแล้ว ขณะญาติพี่น้องของคนอื่นยังอยู่ ตราบใดที่ฮ่องเต้ไม่รังแกคนอื่นเกินไป เขาก็กล้ำกลืนความแค้นนี้เอาไว้ได้
อีกทั้งยามที่วงศ์ตระกูลฮั่วถูกขุดรากถอนโคนก็เป็นการกระทำของฮ่องเต้องค์ก่อน นอกจากนี้ตระกูลฮั่วพลิกฟื้นจากคดีความที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีได้ก็เพราะฮ่องเต้พระองค์ปัจจุบัน
ตอนนี้พูดถ้อยคำเหล่านี้ไป ก็ถือว่าได้คลี่คลายความสัมพันธ์ของสองฝ่ายพอสมควรแล้ว
ส่วนทางด้านซ่งอิง…
เขาก็จะไม่บีบบังคับให้ซ่งอิงต้องรับตำแหน่งพระชายาอ๋องเช่นกัน เพียงแต่ด้วยฐานะตัวตนนี้ คงพอช่วยเหลือนางได้บ้างในยามที่นางจำเป็น
หลังออกมาจากวังหลวง เหยียนผิงโหวถึงกับห่อเหี่ยวไปหมด
เขาเผชิญอะไรมาบ้างแล้วกันแน่
ก็แค่ให้กำเนิดบุตรสาวที่ดวงชะตาอับจนคนหนึ่งมิใช่หรือ
ไฉนจึง…
“ท่านอ๋อง…” เหยียนผิงโหวพยายามฉีกยิ้ม “เรื่องนี้…เกรงว่าจะมีความเข้าใจผิดกันเล็กน้อยนะพ่ะย่ะค่ะ…”
“ท่านโหวซ่งหมายถึงเข้าใจอะไรผิดหรือ” ฮั่วเจ้ายวนยิ้มยียวน
“บุตรสาวข้าผู้นั้น…”
“หยุด” ฮั่วเจ้ายวนตัดบททันควัน “หากท่านเรียกนางว่าบุตรสาวอีก ข้าคงต้องเรียกท่านกลับไปว่าท่านพ่อตา ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็เป็นอ๋องอย่างเราที่เสียเปรียบแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ…” เหยียนผิงโหวยังจะพูดอะไรได้อีกเล่า
ซ่งอิงผู้นั้นไม่ใช่บุตรสาวของเขาแล้วจริงๆ!
ไม่ใช่คนวงศ์ตระกูลเดียวกัน คิดจะโยกย้ายกลับมา ซ่งสวินผู้นั้นย่อมต้องไม่ยินดีเป็นแน่!
ตอนนั้นอยากให้ซ่งอิงแต่งงานกับอ๋องเฒ่า แต่ท้ายที่สุดไม่สำเร็จ บัดนี้จับผลัดจับผลู ซ่งอิงผู้นี้ได้กลายเป็นพระชายาอ๋องเสียแล้ว! นางผู้นี้มีชะตาชีวิตอะไรของนาง!
ซ่งท่านโหวอยากรู้มากว่าหากจะสานสัมพันธ์ตอนนี้ยังทันการณ์อยู่หรือไม่…
แน่นอนว่า เขาไม่ใช่คนโง่เขลา จึงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นกันว่าเขากำลังฝันกลางวัน
สองวันนี้ในบ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศดุร้าย สานสัมพันธ์ได้ก็แปลกน่าดู
“ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะไปรับนางที่จวนข้าเมื่อใดหรือขอรับ” ท่านโหวซ่งรีบเอ่ยปากถาม
ฮั่วเจ้ายวนเห็นท่าทีเขาเช่นนี้ คล้ายกับว่าอยากจะส่งซ่งอิงออกไปเร็วๆ หน่อยจะแย่ ทันใดนั้นจึงนึกสนุกขึ้นมาในใจ “ไม่รีบร้อน ข้างานเยอะ นี่ทางด้านกรมโยธาก็เพิ่งรบกวนให้ช่วยงานบางส่วน ยังรอข้าจัดการให้อยู่เลย และข้าว่าซ่งอิงอยู่จวนโหวก็น่าจะมีความสุขดี เช่นนั้นก็รบกวนท่านโหวดูแลอีกสักสองสามวันจะดีกว่า”
“เอ่อ…ไม่ค่อยดีกระมัง” ท่านโหวซ่งยิ้มเจื่อน
“นี่มีอันใดมิได้หรือ จริงอยู่ที่บัดนี้คนเขาไม่ใช่ลูกสาวของท่านแล้ว แต่ท่านโหวซ่งติดค้างนางไม่ใช่น้อยๆ นี่ นางพักอยู่ที่จวนท่านหลายวันหน่อย ก็ถือว่าเป็นการแสดงถึงใจรักและอยากปกป้องของท่านได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน” ฮั่วเจ้ายวนพูดจบก็สาวเท้าก้าวยาวเดินขึ้นรถม้า ก่อนจะเคลื่อนตัวจากไปทันที
ท่านโหวซ่งกลับถึงบ้าน
หลานซื่อปรี่เข้ามาหา นางดวงตาแดงก่ำอย่างคนเพิ่งร้องไห้ “ท่านโหว นี่จะทำอย่างไรกันดี ในห้องนอนมีกลิ่นเหม็นประหลาดๆ อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ น่าจะเป็นเรื่องที่นางก่ออีกเช่นเคย!”
“มิใช่ว่ามีคนที่มีความชำนาญในการจัดการกลิ่นอยู่หรอกหรือ!” ท่านโหวซ่งแทบจะบ้าแล้วเช่นกัน
กลางดึกเมื่อวาน เขานอนหลับอยู่ก็ได้กลิ่นเหม็น จึงอาเจียนทั้งคืน ตอนนี้ดวงตาดำคล้ำ รู้สึกทุกข์ทรมานจริงๆ!
ตอนที่ 786 ที่พึ่งพิงยิ่งใหญ่เกินไป
วันนี้เดิมทีหลานซื่ออยากจะนอนชดเชยสักหน่อย ใครจะรู้ว่าขณะนอนๆ อยู่กลิ่นก็มาอีกแล้ว!
ทั้งที่ให้คนคอยเฝ้าไว้แล้ว แต่กลิ่นนี้ก็เหมือนตกลงมาจากฟากฟ้าก็ไม่ปาน!
หลานซื่อตอนนี้จะบ้าแล้วก็ว่าได้ สีหน้าก็ย่ำแย่สู้เมื่อก่อนไม่ได้ มองดูเหมือนแก่ลงไปหลายปี
“ท่านโหว ไม่รู้เหมือนกันว่านางเด็กนั่นใช้วิธีอันใดจึงป้องกันไม่ได้อยู่เรื่อย ทางเหล่าไท่ไท่ทางด้านนั้นก็มีกลิ่นมาสองรอบแล้ว…” หลานซื่อถอนหายใจ “นอกจากนี้…ในห้องครัวใหญ่ก็อบอวลไปด้วยกลิ่นเหม็น…”
ครั้นท่านโหวซ่งนึกถึงกลิ่นนั้นก็อดคลื่นเหียนขึ้นมาไม่ได้
“แต่ว่า…ก็ไม่มีคนเห็นนางทำเรื่องนี้…นางพาคนติดตามข้างกายมาแค่สามคนเท่านั้น แม่นมคอยจับตาดูอยู่ตลอด ก็ไม่เห็นจะมีพวกนางออกมาเลย…” หลานซื่อปวดหัวอย่างยิ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้อยากนำเรื่องนี้ลงไปที่ตัวซ่งอิงก็ทำไม่ได้
ส่วนครั้งแรก ตอนนั้นโดยรอบบริเวณนอกจากแม่นมสองคนที่ยืนอยู่ข้างกายนายท่านหญิงชราเพื่อคอยดูแล ก็ไม่เห็นผู้คนอื่นใด!
แล้วจะไม่กล่าวว่าเป็นซ่งอิงที่ก่อกวนไปทั่วได้อย่างไรอีก
“ท่านโหว ก่อนหน้านี้มิใช่บอกว่าจะกำจัดซ่งสวินผู้นั้นก่อนหรือเจ้าคะ” หลานซื่อเอ่ยถาม
ไม่เอ่ยถึงยังจะดีหน่อย ครั้นเอ่ยถึง ท่านโหวซ่งก็สีหน้าถมึงทึงยิ่งกว่าเก่า
กำจัด?! ฮ่า!
เขาเองก็ประเมินซ่งสวินผู้นั้นต่ำไป ปกติแต่ละวันหากไม่อยู่ในคฤหาสน์ก็จะอยู่ที่โรงน้ำชา หรือไม่ก็หอหนังสือของสถานศึกษา ไม่เคยไปสถานที่อโคจรเหล่านั้นเลย ถึงแม้ว่าจ้างคนเล่าเรียนหนังสือมาเล่นงานซ่งสวิน แต่ใครจะรู้ว่าซ่งสวินผู้นี้มีสหายด้วย ซึ่งสหายที่ว่านี้ก็เป็นถึงบุตรชายของขุนนางใหญ่ฝ่ายตรวจการทั่วไป ใต้เท้าลู่!
ทั้งสองคนไปไหนมาไหนด้วยกัน ความสัมพันธ์ดียิ่ง แล้วจะลงมือได้อย่างไรเล่า!
นี่เพิ่งเป็นเวลาเท่าไรเอง พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่เคยได้รับประโยชน์ใดๆ จากตัวซ่งอิงพี่น้องคู่นี้เลยสักนิด
เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองให้คนอื่นติฉินนินทาลับหลังเสียเปล่า!
มิหนำซ้ำตอนนี้ยังถูกฮ่องเต้ลงโทษ!
ในตอนนี้เขารู้สึกเพียงอึดอัดเต็มอก
“เลิกทำให้เป็นเรื่องเป็นราวได้แล้ว นางมีที่พึ่งพิงใหญ่โตอยู่เบื้องหลัง หาเรื่องด้วยไม่ได้” เหยียนผิงโหวกล่าว
“ตระกูลกู้กั๋วกงหรือเจ้าคะ” หลานซื่อตะลึงงัน
“เขา? หากเป็นเขายังค่อยดีหน่อย อย่างน้อยเขาก็มีเหตุและผล!” ท่านโหวซ่งกล่าวด้วยความโมโห
ไม่ใช่จะกล่าวว่าฮั่วเจ้ายวนไม่มีเหตุและผล หากแต่ฮั่วเจ้ายวนผู้นี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน! วันนี้เขาถ่อไปถึงหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ทำไม ก็มิใช่เพราะกลัวฮ่องเต้จะพระราชทานงานแต่งให้หรอกหรือ ดังนั้นจึงชิงลงมือก่อน!
ใครบ้างไม่รู้ว่าหลานสาวจงกั๋วกงผู้นี้เดิมทีก็คือผู้ที่จะจับคู่ให้ฮั่วเจ้ายวน
เมื่อวานจวิ้นจู่ผู้นั้นเข้าไปในวังหลวงแล้วหนึ่งรอบ วันนี้ฮั่วเจ้ายวนก็มาไม้นี้เสียแล้ว
นี่มิใช่เพราะถูกนางเด็กสารเลวผู้นั้นเสี้ยมสอนแล้วหรือ ไม่เช่นนั้นจะไปเข้าใจอะไร!
“เป็นอ๋องอู่เฉิน” ท่านโหวซ่งถอนหายใจ
หลานซื่อตระหนกตกใจและไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนักเมื่อได้ยิน “นางมีความสัมพันธ์อันใดกับอ๋องอู่เฉินหรือ ท่านอ๋องฮั่วผู้นั้นไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใคร อยู่โดดเดี่ยวมาโดยตลอด ไฉนจึงมีความรักความสัมพันธ์กับนางสารเลวผู้นั้นได้เล่า!”
“เหอะ ท่านอ๋องฮั่วบอกว่าซ่งอิงเป็นภรรยาเขา!” ท่านโหวซ่งไม่เคยข่มกลั้นความเดือดดาลเอาไว้เพียงนี้มาก่อน
ปรากฏว่าเมื่อหลานซื่อได้ยินดังกล่าว ก็เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก เกือบเป็นอัมพาตไปแล้ว
ท่านอ๋องฮั่ว…
หากพูดถึงอำนาจและความสูงส่ง เขายอดเยี่ยมกว่าท่านอ๋องเฒ่าผู้นั้นเป็นไหนๆ!
แม้ว่าท่านอ๋องเฒ่าผู้นั้นเป็นอาแท้ๆ ของฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้ก็เพราะเห็นแก่หน้าฮ่องเต้พระองค์ก่อนจึงได้ให้ความเคารพต่อท่านอ๋องเฒ่าผู้นั้น ผิดกับท่านอ๋องฮั่ว แม้ว่าเป็นอ๋องต่างแซ่ แต่ตราบใดที่ท่านอ๋องฮั่วไม่ก่อกบฏ เขาก็จะมีพลังอำนาจและทำทุกสิ่งได้อย่างที่ใจปรารถนา!
ปัจจุบันบ้านเมืองสงบสุข เว้นแต่ท่านอ๋องฮั่วคิดไม่ได้จึงอยากรนหาที่ตาย มิเช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางก่อกบฏขึ้นมาได้
ท่านโหวซ่งทอดถอนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลานซื่อในตอนนี้ก็พอๆ กับเขา
รู้สึกเพียงเหมือนมีศิลาก้อนยักษ์อุดกั้นที่ขั้วหัวใจ จึงไม่สบายไปหมด!
ทว่ายังไม่ได้จัดการเรื่องของซ่งอิงทางด้านนี้ให้เรียบร้อย
ซ่งอิงที่ไม่ออกจากเรือนตลอดทั้งวัน คนของตระกูลซ่งก็คอยเฝ้าเรือนของนางแห่งนี้อย่างไม่ให้คลาดสายตา แต่ทว่าในบ้านก็ยังเรื่องเกิดเรื่องประหลาดไม่หยุดหย่อน