ตอนที่ 803 จัดการด้วยตนเอง
ซ่งอิงงุนงงจนทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย นางเริ่มรู้สึกเศร้าใจในความโชคร้ายของตัวเองเสียแล้ว ทว่าต้าหวงกลับโมโหอย่างยิ่ง จึงพุ่งไปข้างหน้าแล้วหิ้วตัวชายหญิงคู่นี้ขึ้นมามือละคนทันที
“พวกเจ้ากล้าทำร้ายเถ้าแก่เหนียงของข้า ข้าจะบีบคอพวกเจ้าให้ตายเสียเลย!” ต้าหวงโกรธจัด ไก่โต้งตัวหนึ่งวางมาดอย่างหงส์ตะเบ็งเสียงดังลั่น
สองสามีภรรยาที่เพิ่งตบตีกันเมื่อครู่ต่างก็ตระหนกตกใจ รู้สึกว่าลำคอถูกบีบจนจะหักแล้ว หายใจลำบากถึงขีดสุด
“ปล่อย” ซ่งอิงตั้งสติขึ้นมาได้ ส่งเสียงพูดขึ้นมาเบาๆ หนึ่งประโยค “จับส่งส่วนราชการก็เป็นอันสิ้นเรื่อง ที่ทำการขุนนางจะจัดการอย่างไรก็ให้จัดการไป”
“แต่พวกเขาเกือบสับท่านตายแล้วนะขอรับ!” ต้าหวงโมโหมาก
“เจ้าก็พูดแล้วอย่างไรว่าเกือบ ไม่ได้สับข้าตายก็มิใช่ความผิดใหญ่หลวง หากเจ้าทำพวกเขาตาย ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร” ซ่งอิงยังคงเศร้าใจอยู่บ้าง
เพียงแค่พลาดไป ไม่ถึงแก่ชีวิต คาดว่าจวนขุนนางก็แค่ตำหนิติเตียนและลงไม้โบยไม่กี่ไม้ก็ปล่อยตัวออกมาแล้ว
ครั้นต้าหวงได้ยินดังกล่าว ก็ทำได้เพียงโยนคนลงกับพื้นอย่างรู้สึกไม่เป็นธรรม
ต้าหวงโยนลงด้วยแรงไม่ใช่น้อยๆ ทั้งสองคนจึงกระแทกลงบนพื้นอย่างแรงแล้วกลิ้งเจ็ดแปดตลบ
หลังจากตามขุนนางทหารที่ลาดตระเวนมา สองสามีภรรยาคู่นี้ไปก็ถูกพาตัวไป
“หรือเพราะว่า…นานมากแล้วที่ไม่ได้ไปจุดธูปสักการะเทพ หรือว่าเพราะทำเรื่องชั่วช้ามากเกินไปแล้ว” ซ่งอิงลูบๆ จมูก รู้สึกสำนึกผิดเล็กน้อย
แต่เมื่อคิดดูอย่างละเอียด การก่อกวนคนตระกูลซ่งเหล่านั้นก็ไม่ถือว่าเป็นการทำเรื่องชั่วช้านี่ นั่นเพราะกรรมตามสนอง นางไม่ได้ทำผิดเสียหน่อย!
ซ่งอิงถอนหายใจ เตรียมนัดหมายกู้หมิงเป่าขึ้นเขาไปไหว้พระโพธิสัตว์
เพียงแต่ที่ทำให้ซ่งอิงประหลาดใจคือ วันรุ่งขึ้น กู้หมิงเป่าก็เป็นฝ่ายมาหานางถึงที่
“พี่ซ่ง พูดไปท่านคงไม่เชื่อ เมื่อคืนข้าฝันถึงเซียนสวรรค์นำทาง กล่าวว่าให้ข้าไปวัดสุ่ยอวิ๋นที่นอกเมือง และกล่าวว่าจะเจอคู่ครองที่ชะตากำหนดไว้ ณ ที่แห่งนั้น” กู้หมิงเป่าเผยสีหน้าตื่นเต้นอย่างจริงจัง
ครั้นซ่งอิงได้ยินก็หัวเราะเจื่อน “ในวัดมีแต่นักบวชเต็มไปหมดมิใช่หรือ ความคิดเจ้าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรกระมัง”
“…” กู้หมิงเป่าหน้าแดงทันทีทันใด “แต่ที่นั่น…ที่นั่นก็มีผู้ที่ไปเซ่นไหว้ด้วยนี่เจ้าคะ อีกทั้งข้าอยู่แต่บ้านอึดอัดอย่างยิ่ง ท่านพี่ไปเดินดูเป็นเพื่อนข้าหน่อยเป็นเช่นไร”
ซ่งอิงมีหรือจะไม่ยินดี
นางยังต้องการไปบริจาคเงินค่าธูปและน้ำมันตะเกียงด้วย บริจาคมากหน่อยก็ถือเสียว่าเป็นการสั่งสมบุญกุศล
วัดสุ่ยอวิ๋นแห่งนี้ถือเป็นวัดใหญ่โตในเมืองหลวง แน่นอนว่าก็ยังเทียบไม่ได้กับวันของราชวงศ์ เพียงแต่วัดของราชวงศ์ค่อนข้างเข้มงวด ข้างในมีผู้คนไปปักธูปเซ่นไหว้น้อย ทว่าวัดสุ่ยอวิ๋นเป็นที่พูดกันปากต่อปาก ทุกปีจะส่งสามเณรลงจากเขามาทำเรื่องดีๆ ดังนั้นจึงมีชื่อเสียงสูงส่งไม่น้อยในหมู่ประชาชน
หลังจากซ่งอิงมาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้ก็ยังไม่ได้เดินเล่นอย่างเต็มที่ นางจึงดีใจไม่น้อยสำหรับการได้ออกไปเที่ยวเล่นตามชานเมือง
กู้หมิงเป่านั่งรถม้า นางจึงควบต้าไป๋ มุ่งหน้าไปทางด้านนั้นอย่างเอ้อระเหย
ทางด้านซ่งอิงเพิ่งจากบ้านไป ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็มีคนจำนวนไม่น้อยรู้ความเคลื่อนไหวของนาง
คนแรกคือท่านโหวซ่ง แล้วยังมีทางด้านซ่งฮวนอีกคน
นับแต่วันนั้นที่อยู่จวนจงกั๋วกงแล้วบันดาลโทสะ หลังจากซ่งฮวนกลับบ้านก็กินข้าวไม่ลง นางได้รับความเคารพนับถือมาตั้งแต่เด็ก และได้รับความรักทะนุนอมอย่างดี บัดนี้ทันทีที่ซ่งอิงกลับมา ทั้งหมดก็เปลี่ยนไป
กลายเป็นต้องได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ
ก่อนหน้าไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด แม้ว่ามีข่าวลือเสียหายอยู่บ้าง แต่สามีและแม่สามีก็ยังให้ความเคารพนับถือนาง ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่มีการกระแนะกระแหนระหว่างพี่น้องสะใภ้เท่านั้น แต่หลังกลับมาจากงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดก็ต่างไปจากเดิม แม้แต่แม่สามียังชักสีหน้าให้นางและลงโทษให้คุกเข่าในโถงบรรพบุรุษหนึ่งคืน
มีสิทธิ์อะไร
นางบ้านนอกคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรทำให้นางเผชิญความทุกข์ใหญ่โตเพียงนี้!
จะอย่างไรซ่งฮวนก็คิดไม่ได้ว่าทำไมบิดามารดาจึงเข้าข้างซ่งอิง
บิดานางไม่จัดการให้นาง เช่นนั้นนางก็ต้องจัดการด้วยตนเอง!
“เจ้าไปบอกให้เลี่ยวซานเหยียหาคนมาจำนวนหนึ่ง จะต้องจับตัวซ่งอิงให้ได้! ข้าต้องการให้ซ่งอิงกลับมาไม่ได้อีก!” ซ่งฮวนหยิบเงินออกมาให้สาวใช้ มีเงินย่อมจัดการเรื่องต่างๆ ได้โดยง่าย
ตอนที่ 804 เทพสวรรค์จอมโจร
ในใจสาวใช้รู้สึกกลัวจนตัวสั่นขณะมองซ่งฮวน “ฮูหยินรอง เช่นนั้น…เช่นนั้นคุณหนูกู้เล่าเจ้าคะ มิใช่ว่าคุณหนูกู้กับซ่งอิงอยู่ด้วยกันหรือเจ้าคะ เกิดทำให้คุณหนูกู้บาดเจ็บไปด้วย จะชี้แจ้งทางด้านจงกั๋วกงนั่นอย่างไรล่ะเจ้าคะ”
“ไม่ถึงกับต้องให้ข้าชี้แจงกับเขาเสียหน่อย! หลังจากกู้หมิงเป่าเข้าเมืองหลวงมาก็ทำให้ผู้คนอิจฉาริษยาไม่น้อย จะรู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นคนลงมือ อีกอย่าง ให้เลี่ยวซานเหยียจัดการเรื่องอย่างแยบยลหน่อยก็เป็นอันใช้ได้มิใช่หรือ สองคนนั้นออกไปข้างนอกก็ไม่ได้พาสาวใช้ติดตามไปมากนัก เกิดเรื่องก็สมควรแล้ว!”
ครั้นเอ่ยถ้อยคำนี้ สาวใช้ก็เป็นอันเข้าใจได้ทันที
เพียงแต่สงสารคุณหนูกู้ผู้นั้น อายุยังเยาว์วัยก็จะเสียชีวิตเสียแล้ว
ทุกครั้งที่กู้หมิงเป่าออกจากบ้านล้วนต้องมีคนติดตามไปด้วยหนึ่งโขยงใหญ่ ครั้งนี้ผ่อนปรนหน่อย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะหู่อิ๋งอิ๋งแสดงความเก่งกาจกล้าหาญต่อหน้าตน
ข้ารับใช้เหล่านั้นของตระกูลกู้เห็นดังกล่าว มีหรือจะยังไม่วางใจอีก
เพียงแต่เมื่อเดินทางไปได้ครึ่งทาง ท้องนภาที่สว่างจ้าสดใสก่อนหน้านี้ จู่ๆ ก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเสียดื้อๆ ชั่วพริบตาเดียว กลุ่มก้อนเมฆก็ลอยตัวมา จากนั้นเห็นเพียงบริเวณพื้นที่รอบตัวซ่งอิงหลายสิบเมตรพลันเกิดฝนตกกระหน่ำลงมา
อย่างน้อยรถลาคันนี้ของซ่งอิงก็มีหลังคาพร้อมผนังกั้นข้างมิดชิด ไม่ถึงขั้นเปียกฝนได้ แต่นางไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆ ฝนตกลงมาได้อย่างไร!
กู้หมิงเป่างงงวยยิ่งกว่า
หลังจากกลับมาเมืองหลวง นางออกจากบ้านนับครั้งได้ แต่ก็เปียกฝนต่อเนื่องสองสามครั้งแล้ว!
ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง และจะอย่างไรก็ไม่น่าเป็นฤดูกาลที่ฝนตกบ่อยนี่!
“พี่ซ่ง พวกเราจะเดินทางต่อหรือว่าไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนดีเจ้าคะ” กู้หมิงเป่าเอ่ยถาม
ฝนตกหนักขนาดนี้ ตากลมๆ ของต้าไป๋บ้านนางยังถึงกับพร่ามัวหมดแล้ว ม้าตัวนั้นของกู้หมิงเป่าที่เป็นม้าธรรมดายิ่งไม่ต้องพูดถึง อีกทั้งเสียงฟ้าก็ดังสนั่น จะทำให้ม้าตระหนกตกใจได้โดยง่าย
เพียงแต่…ไปหลบฝนใต้ต้นไม้หรือ
ซ่งอิงมองสายฟ้าแลบบนท้องนภา รู้สึกว่าอย่าดีกว่า วันนี้นางโชคร้ายเกินไป เกิดถูกฟ้าผ่าจะทำอย่างไรเล่า
“ข้ามีกระโจมสองหลัง เราก็ตั้งกระโจมแล้วกัน ฝนหยุดตกเมื่อใดก็ไปเมื่อนั้น อาหารแห้งก็มี เพียงพอให้กินดื่มได้นาน”
เมื่อพูดจบ ซ่งอิงและหู่อิ๋งอิ๋งก็จัดแจงสวมเสื้อคลุมกันฝนที่ทำขึ้นจากฟางข้าวและหวาย ก่อนจะกระโดดลงจากรถแล้วลงมือกันทันที
ที่นางตั้งกระโจมขึ้นมานี้ หลักๆ มิใช่เพื่อตัวเอง หากแต่เพราะทนดูต้าไป๋เปียกฝนโดยไม่ทำอะไรได้น่ะสิ
นางและกู้หมิงเป่าอยู่บริเวณเดียวกัน ต้าไป๋และม้าตัวนั้นอยู่บริเวณหนึ่ง เช่นนี้ก็จะดูไม่อึดอัดแต่อย่างใด
กู้หมิงเป่าเพิ่งเตรียมลงรถเพื่อช่วยเหลือ ซ่งอิงก็ส่งเสียงตะโกนกล่าว “เจ้าอยู่เฉยๆ ลงมาก็ช่วยอะไรไม่ได้”
คุณหนูใหญ่ผู้สง่างามคนหนึ่ง ช่วยตั้งกระโจมได้คงแปลกน่าดู
พวกนางตั้งกระโจมขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นวางผ้าห่มเรียบง่ายเอาไว้หน่อย แม้ซ่งอิงสวมเสื้อกันฝน แต่ก็ยังคงเปียกชื้นไปทั้งตัว ทว่านางมีเสื้อผ้าอยู่ในช่องว่างระหว่างมิติด้วย จึงไม่กลัวเปียก
“พี่ซ่ง ลำบากท่านแล้ว รู้แต่แรกข้าไม่พาท่านออกมาดีกว่า” กู้หมิงเป่ารู้สึกเสียใจยิ่ง “นี่ข้าโชคไม่ค่อยดีเกินไปแล้วหรือไม่ ไฉนออกจากบ้านทีไรเป็นต้องฝนตกทุกครั้ง”
“เป็นเทพฝนลงมาจุติกระมัง” ซ่งอิงยิ้มกล่าว
“ไม่ใช่เสียหน่อยเจ้าค่ะ” กู้หมิงเป่าเม้มปาก นางไม่ชอบฝนเอาเสียเลย
ชวนหงุดหงิดใจเกินไปแล้ว
ฝนครานี้ตกอย่างมืดฟ้ามัวดิน ข้างนอกนั่นมีฟ้าแลบฟ้าร้องราวกับมีคนกำลังฝึกตนเพื่อรับพลังความสามารถพิเศษอยู่ก็ไม่ปาน แต่ตอนนี้ซ่งอิงรู้สึกถึงความไม่ค่อยปกติขึ้นมาบ้างแล้ว
ในช่วงฤดูกาลนี้ ไม่น่ามีฝนตกฟ้าคะนองเช่นนี้ได้
นางมักจะรู้สึกว่าเทพสวรรค์จอมโจรผู้นี้ดูเหมือนจงใจคิดจะให้นางถูกฟ้าผ่าตายอย่างไรอย่างนั้น
“โบร๋ว…” นางและกู้หมิงเป่ายังคงอยู่ในกระโจม ไม่นึกเลยว่าบริเวณโดยรอบจะเกิดเสียงหมาป่าเห่าหอนขึ้นมา
เสียงเดียวไม่พอ ไม่ทันไรก็ส่งเสียงตามมาติดๆ อีกสามสี่ครั้ง เสียงดังกล่าวดังชัดเจนมาก
กู้หมิงเป่าเนื้อตัวสั่นเทา “พี่ซ่ง! ไฉนที่นี่จึงมีหมาป่าได้เล่า หรือว่านี่…นี่ไม่ได้ใกล้กับถนนสายหลักหรือ!”
ในเวลานี้กู้หมิงเป่าจะร้องไห้ออกมาแล้วจริงๆ!
วันนี้เกิดอะไรขึ้น! ยามที่นางเดินทางจากนอกเมืองหลวงอันเป็นสถานที่ห่างไกลเพียงนั้นมาจนถึงเมืองหลวงก็ไม่เจอหมาป่าสักตัวเลยนี่! ไฉนพอมาถึงเมืองหลวงกลับได้ยินหมาป่าเห่าหอนอยู่ชานเมืองแห่งนี้ได้เล่า!