ตอนที่ 801 วิญญาณต่างโลก
นอกจากปวดหัวเล็กน้อยก็ไม่ได้รู้สึกวิงเวียนตาลายแต่อย่างใด เขารู้จักร่างกายของตนเองดี
จงกั๋วกงเดินจากไปในทันที เจ้าหน้าที่ขุนนางที่อยู่ด้านหลังต่างก็งงเป็นไก่ตาแตกเล็กน้อย
“ใต้เท้ากู้ไม่เป็นอะไรจริงๆ กระมัง”
“น่าจะ…ทว่าเมื่อครู่พวกเจ้าเห็นท่านอ๋องฮั่วหรือไม่ นั่นเป็นความแล้งน้ำใจหนึ่งจริงๆ ที่เอาแต่มองดูท่านอาวุโสกู้หกล้มหน้าตาเฉย ไม่แม้แต่จะเข้ามาประคองสักหน่อย…”
“โชคดีที่หลานสาวของตระกูลท่านอาวุโสกู้ไม่ได้แต่งกับเขา มิเช่นนั้นมีหลานเขยเช่นนี้สักคน ท่านอาวุโสกู้ไม่เป็นอันโมโหแย่หรือ”
“…”
ขุนนางด้านหลังคึกคักกันน่าดู จงกั๋วกงที่ก้าวเดินเร็วออกประตูวังไปขึ้นเกี้ยวกำลังมองโลหิตในมือด้วยความหงุดหงิดจริงๆ “ซวยจริง นี่ข้าเดินอยู่ดีๆ เหตุใดจึงหกล้มได้! คนตระกูลฮั่วผู้นั้นก็ไม่มีน้ำใจเอาเสียเลย…”
จงกั๋วกงถอนหายใจ ฮั่วเจ้ายวนผู้นั้นปฏิบัติต่อทุกคนในราชสำนักเหมือนๆ กันหมด ไม่ยินดียินร้าย ไม่คบค้าสมาคมกับผู้ใด และถึงขั้นยังสร้างความขุ่นเคืองให้ผู้คนเป็นครั้งคราวอีกด้วย หากไม่ใช่เพราะเรื่องของบรรพบุรุษ เขาก็คงไม่เป็นถึงขั้นนี้กระมัง
ครั้นคิดเช่นนี้ จงกั๋วกงก็สบายใจขึ้นหน่อย แต่แล้วก็ต้องแยกเขี้ยวยิงฟันโอดโอยด้วยความเจ็บปวดต่อไปอีกครั้ง
เซียนหลิงเฟิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อยจริงๆ เขาเกี้ยวที่เคลื่อนออกไปไกล แล้วจึงมองเรือนร่างของเทพชางเวยที่ขี่ม้าจากไปอย่างสง่างาม
หลังจากเทพองค์นี้กลับชาติมาเกิด ไม่นึกเลยว่าจะเก็บตัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก!
เก็บตัวก็ไม่เท่าไร แต่นี่เขายังไม่มีจิตใจดีงามด้วยหรือ ผู้ชราขนาดนั้นหกล้มและไม่แน่ว่าจะเสียชีวิตเพราะการหกล้ม แต่เขากลับมองอย่างเหมือนไม่มอง ก่อนจะเดินจากไปโดยทันที!?
มิใช่ว่า…
วังลับสวรรค์จัดวางเคราะห์กรรมให้ท่านเทพเป็นทุกข์เกินไปหน่อย ดังนั้นเป็นผลให้คนผู้นี้ด้านชาไปเสียแล้วหรือ
“คราวนี้ยากแก่การจัดการแล้วสิ” เดิมทีเขาอยากให้เทพชางเวยพาผู้เฒ่าท่านนี้ส่งถึงจวน จากนั้นเจอหน้าคุณหนูกู้ผู้นั้นสักหน่อย…
หลังจากถอนหายใจ เขาก็ล่องลอยตามไปจวนจงกั๋วกง
เทพองค์นี้ไม่พยายามก็ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้แม่นางผู้นี้เป็นฝ่ายเข้าหาหน่อยสิ้นเรื่อง
ในเวลานี้เอง เซียนอีกคนื้กลับไปยังวังลับสวรรค์ก็ลงมือตรวจสอบดวงชะตาในทันที จากนั้นก็พบว่าเรื่องราวที่เกิดในโลกมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปมาก ทันใดนั้นก็ร้อนรนใจขึ้นมาเล็กน้อย
“ซ่งอิงผู้นี้น่าจะเป็นชะตาชีวิตที่ต้องตายไปแล้ว ไฉนจึงมีชีวิตอยู่เล่า ตรวจสอบเร็วเข้าว่าเป็นวิญญาณต่างโลกใช่หรือไม่”
บางครั้งก็เกิดความผิดพลาดบนเส้นทางแห่งกฎธรรมชาติได้ และเคยมีสามสี่ครั้งที่วิญญาณต่างโลกตกมาสู่โลกนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ
เด็กน้อยที่อยู่ใต้บัญชารีบจัดการในทันที หลังผ่านไปครู่หนึ่งก็รายงานว่า “ท่านเซียน ตรงนี้จะเห็นได้ว่า…ซ่งอิงผู้นี้เสียชีวิตแล้วเกิดใหม่จริงๆ แม้กระทั่งวิญญาณก็เป็นดังเดิม ไม่ใช่ถูกวิญญาณเร่ร่อนตนอื่นครอบครองแต่อย่างใดขอรับ”
“ไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็หมายความว่าอายุขัยยังไม่หมดหรือ ไม่คิดเลยว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันจะไปพัวพันกับท่านเทพชางเวยด้วย…” พูดจบก็ใช้เวทมนตร์เปลี่ยนแปลงดวงชะตาของซ่งอิง
ดวงชะตาของมนุษย์เป็นสิ่งที่ปรับเปลี่ยนได้
แม้ว่าไม่เป็นธรรมต่อมนุษย์สักเท่าไร แต่บัดนี้ท่านเทพชางเวยลงไปเพื่อทำเรื่องสำคัญใหญ่หลวง หากมีภรรยาโผล่มาสักคน เช่นนั้นก็จะจัดการเรื่องอื่นยาก
เซียนผู้นี้ไม่เห็นเลยว่าดวงชะตาซ่งอิงถูกแสงเงินปกคลุมเอาไว้ ที่เขามองเห็นเป็นเพียงข้อมูลผิวเผินของซ่งอิงเท่านั้นเอง
ในเวลาเดียวกันนี้ ครั้นเบื้องบนเปลี่ยนแปลงดวงชะตา เบื้องล่างอย่างซ่งอิงพลันชะงักนิ่งอยู่กับที่ สีหน้าค่อยๆ ซีดเผือดเล็กน้อย
“เป็นอะไรไปขอรับเถ้าแก่เหนียง” ต้าหวงรีบเอ่ยถามทันที
ซ่งอิงลังเลชั่วครู่ จากนั้นมองซ้ายมองขวา “ก็แค่รู้สึกเหมือนกับมีคนแอบมองข้าอยู่”
ครั้นต้าหวงได้ยินดังกล่าวก็กวาดมองโดยรอบอย่างระแวดระวังในทันที “ไม่มีนี่ขอรับ”
ซ่งอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไม…จู่ๆ ข้าก็มีความรู้สึกว่า…ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง”
“…” ต้าหวงตะลึงงัน เขาจะรู้ได้อย่างไรล่ะ
ซ่งอิงไม่รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง แค่รู้สึกว่าในเวลานี้เหมือนมีคนแอบขโมยสิ่งของของนางไป และรู้สึกประหลาดเล็กน้อย
“ช่างเถอะ เราไปดูร้านค้ากันเถิด” ซ่งอิงส่ายหน้า มองข้ามความรู้สึกไม่สบายใจเหล่านั้น
ตอนที่ 802 แบะหัว
ต้าหวงเป็นคนเลือกร้านค้า เขาเลือกไว้มีสองแห่ง ขนาดใหญ่หนึ่งแห่งและขนาดเล็กหนึ่งแห่ง ทำเลไม่เลวทั้งคู่
เปิดร้านสบู่หอมมาถึงสองสามครั้งแล้ว จึงคุ้นเคยและเข้าใจขึ้นตอนเป็นอย่างดี มอบหมายให้ต้าหวงจัดการก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนอีกร้านหนึ่ง ซ่งอิงตั้งใจว่าจะเอามาขายของอย่างอื่น
อย่างเช่นเสื้อผ้าขนแกะ ถุงเท้าขนแกะ ถุงมือขนแกะ รวมไปถึงของให้ความอบอุ่นอย่างพวกพรมขนแกะ
ร้านค้าไม่สำคัญ ที่สำคัญยังคงเป็นที่ดิน
เมืองหลวงพื้นที่กว้างใหญ่ มีจุดแข็งอย่างการเป็นศูนย์รวม พ่อค้าแต่ละถิ่นล้วนมาเยือนกันอย่างพลุกพล่าน ดังนั้นซ่งอิงไม่ต้องส่งปีศาจไปซื้อแกะก็หาเอาจากที่แห่งนี้ได้ อันที่จริงขนแกะพวกนี้ก็ใช้งานได้แล้ว แต่คนส่วนมากเอามาใช้ทำผ้าห่มขนแกะ ซึ่งก็ขายดีทีเดียว
ซ่งอิงเพียงแค่อยากจะบุกเบิกวิธีการใช้งานมันสักหน่อย
อยากจะได้ขนแกะที่มากพอก็คงต้องเลี้ยงไว้ด้วยตัวเอง หากเลี้ยงได้ปีศาจลูกแกะสักตัว ไม่แน่ว่าระดับความเร็วในการงอกขนของแกะน้อยตัวนี้อาจจะยาวแล้วยาวอีกต่อเนื่อง
ครั้นคิดได้เยี่ยงนี้ ในใจซ่งอิงก็ตื่นเต้นเล็กน้อย
กระทั่งมาถึงร้านค้า ซ่งอิงกวาดตามองโดยทั่ว ก็ค่อนข้างพอใจไม่น้อย “ยังต้องซื้อที่ดินอีก แล้วค่อยปลูกพวกหญ้าสำหรับสัตว์เอาไว้บ้าง นอกจากนี้ต้องไปมองดูทางตลาดนัดและซื้อแกะจำนวนหนึ่งไปปล่อยไว้ในนั้น ทั้งพันธุ์ให้ขน ให้นม ให้เนื้อ…ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์อะไรก็เอาทั้งหมด ร้านค้าแห่งนี้คงยังไม่ได้ใช้งานไปอีกระยะหนึ่ง ก็เอามาทำเป็นโรงผลิตสบู่ชั่วคราวก่อนแล้วกัน ไว้จัดการทางด้านทุ่งเลี้ยงสัตว์เรียบร้อยค่อยว่ากันอีกที”
ต้าหวงรับฟังอย่างจริงจัง
“เถ้าแก่เหนียง เราจะทำสวนว่านหลิงไว้ที่เมืองหลวงแห่งนี้กันสักแห่งหรือไม่ขอรับ” ต้าหวงถาม
ซ่งอิงครุ่นคิด “ไม่ต้อง หาเงินได้มากเกินไป เดี๋ยวใช้ไม่หมด และสวนว่านหลิงเป็นที่สะดุดตาเกินไป มีแห่งเดียวก็เพียงพอแล้ว”
“…” ต้าหวงหัวเราะเจื่อน
เถ้าแก่เหนียงรู้สึกว่าทำเงินได้มากมายแล้วจริงหรือ หลายวันมานี้ยามที่เขาเอาเงินมาซื้อร้านค้าห้องแถว เถ้าแก่เหนียงเอาแต่บ่นว่าจน ท่าทางอย่างตระหนี่ถี่เหนียวนั่นไม่เหมือนคนรวยเลยสักนิด
หลักๆ เพราะซ่งอิงคำนึงถึงว่าการเปิดสวนว่านหลิงที่ใหญ่โตขนาดนั้นในเมืองหลวงแห่งนี้ต้องลงทุนมากเกินไป อีกทั้งพื้นที่ชานเมืองหลวงก็หาที่ว่างรกร้างสักผืนซึ่งขนาดใหญ่เพียงนั้นได้ยากมาก หากซื้อพวกหมู่บ้านสวน พื้นที่ในนั้นก็เป็นพวกที่นาอุดมสมบูรณ์และที่ดินดอน ซึ่งไม่ง่ายต่อการจัดการ
แต่หากซื้อที่ซึ่งห่างไกลออกไปอีกหน่อย ลำพังไปเยือนทางด้านนั้นก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย ซึ่งนี่จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้อื่นในการชมทิวทัศน์โดยตรง
อีกอย่าง ภายใต้สถานการณ์ที่ฮั่วเจ้ายวนรู้ทั้งรู้ว่านางเลี้ยงปีศาจ ก็ยังคอยปกป้องคุ้มครองกันอยู่บ้าง นั่นเป็นเพราะสถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ห่างไกลจากผู้มีอำนาจสูงส่งอย่างฮ่องเต้
ตอนนี้มาเยือนในเขตเมืองหลวง หากนางกำเริบเสิบสานเช่นนี้อีก จะเกิดปัญหาได้โดยง่าย
ผิดกับการซื้อที่ดินเลี้ยงปศุสัตว์ตามทุ่ง ในหมู่บ้านสวนส่วนใหญ่ล้วนมีที่นาอุดมสมบูรณ์และที่ดินดอน หญ้าเลี้ยงสัตว์เจริญเติบโตได้ง่ายและเก็บเกี่ยวค่อนข้างสะดวก ลดความยุ่งยากไปได้ไม่น้อย
ขณะทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ก็มีเสียงเอะอะแว่วมาจากข้างนอกร้านกะทันหัน
ซ่งอิงออกไปดูตามสัญชาตญาณ
แต่ครั้นเท้าข้างหนึ่งเหยียบพ้นประตูออกไป ก็มีมีดหั่นผักเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาตรงหน้า!
ต้าหวงตระหนกตกใจ ส่วนคนที่อยู่ริมทางถึงกับนิ่งงันไป โชคดีที่ซ่งอิงปฏิกิริยาโต้ตอบรวดเร็ว เอี้ยวตัวหลบทันที ถึงกระนั้น ก็ตามมาด้วยเศษเส้นผมที่ลอยละลิ่วลงสู่พื้น
“…” ซ่งอิงมองมีดที่หล่นอยู่ในร้านของนาง แล้วมองไปยังคนที่โยนมีดจากฝั่งตรงข้าม…
สตรีผู้นั้นถลึงตาโต มองภาพฉากนี้ด้วยความตื่นตกใจเช่นกัน ก่อนจะรีบกล่าว “ฮูหยินท่านนี้ ขอ..ขออภัยด้วย ข้าทะเลาะกับสามีข้า ไม่…ไม่ได้คิดจะถือมีดไปสับท่าน เพียงแต่มีดเล่มนี้ลอยออกไปอย่างไม่ทันระวัง…”
พูดจบ นางก็เริ่มด่าทอสามีผู้นั้น “ล้วนเป็นเพราะเจ้า ไอ้สารเลว หากเจ้าไม่ไปเที่ยวหอนางโลม ข้าจะทำอย่างนี้หรือ! ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ เกือบสับคนอื่นเขาแล้ว ข้าจะเล่นงานเจ้าสุดชีวิต!”
พูดจบก็เริ่มลงมือข่วนใบหน้าชายคนนั้น
ชายผู้นั้นถูกตบตีจนคุกเข่าลงไปกับพื้น มองดูยับเยินอย่างยิ่ง
ส่วนซ่งอิงในตอนนี้ถึงกับหนังตากระตุก
นางโชคร้ายขนาดนี้เชียวหรือ! คนอื่นไม่ระวังโยนมีดมาถึงกับจะแสกหน้านางเลยหรือ โชคดีที่เมื่อครู่หลบไว หากช้าไปอีกนิด นางก็ถูกคนเขาแบะหัวแล้วสินะ!