ตอนที่ 833 ในหัวใจเย็นเฉียบ
กู้หมิงเป่ารู้สึกเพียงมือซ่งอิงเย็นเล็กน้อย แต่ร่างกายของนางกลับอุ่นร้อน
ซ่งอิงสัมผัสเพื่อรับรู้อยู่พักใหญ่ ซึ่งนางก็พบปัญหาบางอย่างจริงๆ
ในตำแหน่งตันเถียน[1]ของกู้หมิงเป่า มีแสงกลมหนึ่งวงอยู่จริง ซึ่งแสงกลมๆ นั้นคล้ายกับเต็มไปด้วยพลังงาน หลังจากมันสัมผัสถึงพลังของซ่งอิงที่เปปนอยู่ในนั้นเล็กน้อย ก็ดูเหมือนว่าจะถูกกระตุ้นได้เป็นอย่างดี
หลังจากเคลื่อนไหวตั้งแต่บนลงล่างอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ลำแสงนั้นก็ทะยานออกจากร่างกายของกู้หมิงเป่าแล้วมาล่องลอยอยู่เบื้องหน้าซ่งอิง
ลำแสงสีม่วงแยงตาอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นผู้อื่นกลับมองไม่เห็น
ซ่งอิงครุ่นคิด จากนั้นจึงนำลำแสงนี้เก็บเอาไว้ในช่องว่างระหว่างมิติก่อนเป็นการชั่วคราว
“เป็นอะไรไป” ซ่งอิงเห็นกู้หมิงเป่านิ่งอึ้งชั่วขณะ จึงรีบกล่าวทันที “รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
“เปล่า ก็แค่…เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป” กู้หมิงเป่าคลี่ยิ้มกว้าง “พี่ซ่งไม่ต้องกังวลใจ อาจเป็นเพราะเมื่อครู่ดื่มสุราไปจอกหนึ่ง จึงรู้สึกมึนงงๆ เล็กน้อย”
ซ่งอิงผ่อนลมหายใจ มองดูสีหน้าของกู้หมิงเป่าแล้วก็เห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ
“หากเจ้าเป็นราชันปีศาจที่ยอดเยี่ยมตนหนึ่งจริง จะทำอย่างไรล่ะ” ซ่งอิงเอ่ยถาม
“ข้าหรือ เช่นนั้นก็ดีไปเลยสิ ชีวิตของปีศาจน่าจะยืนยาวกระมัง เช่นนั้นข้าก็จะได้ตอบแทนพระคุณท่านปู่ข้าอย่างดี เขาเป็นห่วงและสุขภาพข้ามาโดยตลอด” กู้หมิงเป่ากล่าวสบายๆ
ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย
นางรู้สึกว่า ตอนนี้กู้หมิงเป่าเป็นคนก็ดีอยู่แล้ว
นางมีท่านปู่ มีพี่ชาย ชีวิตของการเป็นมนุษย์สำหรับนางแล้วคือความสุข
“ตอนนี้เจ้าก็ตอบแทนพระคุณของท่านปู่เจ้าอย่างดีได้เช่นกัน ตอนนี้หลังจากเจ้าได้ฟังข้าพูดก็รู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นเป็นกองแล้วมิใช่หรือ” ซ่งอิงกลอกตามองบนใส่นางแวบหนึ่ง
“ก็จริง ตอนนี้ทุกวันข้าจะเดินเล่นในลานบ้านด้วย แม้ว่าเหนื่อยอยู่บ้าง แต่เรื่องความอยากอาหารก็ดีกว่าเมื่อก่อนมากจริงๆ ต่อให้ไม่ได้กินของที่พี่ซ่งมอบให้ข้า ก็ยังกินอาหารได้มากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย” กู้หมิงเป่ากล่าว
หมอก็ตรวจสุขภาพให้นางแล้ว กล่าวว่าหากรักษาสมดุลเช่นนี้ต่อไปได้ อาจมีหวังที่จะรักษาโรคเรื้อรังพวกนี้ให้หายดีได้
มิหนำซ้ำยังถามนางอีกว่าเจอหมอเทวดาอะไรเข้าแล้วหรือไม่
ซ่งอิงกินของว่าง ส่วนทางด้านจิตใต้สำนึกกำลังสำรวจลำแสงนั้นที่ปล่อยเอาไว้ในช่องว่างระหว่างมิติ
หลังจากลำแสงก้อนกลมๆ เข้าไปในช่องว่างระหว่างมิติแล้ว มันก็ขึ้นไปห้อยอยู่บนต้นไม้ทันที ในช่องว่างระหว่างมิติ กระแสแห่งชีวิตชีวาเคลื่อนที่มุ่งไปทางแสงกลมๆ นั้นไม่ขาดสาย เพียงแต่ว่าเพราะตอนนี้ข้างในนั้นมีที่นาตลอดจนสิ่งมีชีวิตค่อนข้างมาก และแสงก้อนกลมนั้นคล้ายกับว่ามีความตั้งใจที่จะควบคุมตัวเองด้วยเช่นกัน จึงไม่ได้ก่อผลกระทบอะไร
เพียงแต่เซียนสองตนนั้นเห็นดังนี้ก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“นั่นคืออะไร เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่า…ในใจเย็นเฉียบ” หยวนซานกลืนน้ำลาย
“นั่นคือดวงจิตปีศาจ…” หลิงเฟิงเข้าใจอะไรต่อมิอะไรมาก “น่าจะเป็นดวงจิตราชันปีศาจตนหนึ่ง
เพราะภูตและปีศาจรุ่นเล็กจะมีเพียงก้อนพลังงานขนาดเล็กเท่านั้น ถึงแม้มีดวงจิตปีศาจก็จะพร่ามัว เมื่อหลุดออกจากร่างก็แทบจะสลายหายไปเสียด้วยซ้ำ ไม่มีทางกลายเป็นลำแสงก้อนกลมขนาดใหญ่เพียงนี้ได้
“ที่กะพริบอยู่นี้คือดวงจิตปีศาจหรือ แล้วเป็นดวงจิตปีศาจของใครกัน” หยวนซานถาม
“เหอะๆ… ไม่รู้สิ” หลิงเฟิงกลุ้มใจไม่แพ้กัน
“เช่นนั้น… ไม่ใช่ดวงจิตปีศาจของใครอาจจะดีกว่าสินะ” หยวนซานเอ่ยถามอีกครั้ง
“เมื่อก่อนเจ้าไม่เคยอ่านหนังสือเซียนที่เกี่ยวข้องกับราชันปีศาจใช่หรือไม่ นอกจากไท่ฉินและจ้าวหยาง ตัวอื่น…ล้วน…ล้วน ไม่ค่อยคำนึงถึงกฎระเบียบสักเท่าไร ทางที่ดีที่สุด…ทางที่ดีที่สุดเป็นปีศาจชายจะดีหน่อย หากโชคร้ายเจอลั่วเจิน เจ้าและข้าไร้เดียงสา ไม่เกินสองสามวันก็ถูกดูดพลังจนแห้งได้”
“…” หยวนซานเบิกตาโตด้วยความตกใจ
จากนั้นพวกเขาจึงจับจ้องไปที่ก้อนแสงกลมนั้นไม่วางตา คล้ายกับว่าตราบใดที่ก้อนแสงกลมนั้นขยับเข้ามาใกล้แม้เพียงเล็กน้อยก็จะเตรียมวิ่งหนีในทันที แน่นอนว่าต่อให้อยากหนีพวกเขาก็หนีไม่ได้ แต่แค่คิดก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
ซ่งอิงเห็นเซียนสองตนนั้นมีท่าทีกระวนกระวาย นางจึงกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“พระชายาอ๋องฮั่วมีเรื่องอะไรให้สุขใจหรือ” องค์หญิงชิงลั่วคอยอยู่นานก็ไม่เห็นซ่งอิงเป็นอะไรสักที
ตอนที่ 834 รู้จักบุญคุณ
ซ่งอิงหันหน้ามามององค์หญิงชิงลั่วพร้อมรอยยิ้ม นางยิ้มพรายแล้วเอ่ยพูด “สุราไม่เลว บทเพลงและการร่ายระบำก็น่าดู ทัศนียภาพก็งดงาม ย่อมต้องสุขใจเป็นธรรมดา”
องค์หญิงชิงลั่วขมวดคิ้วนิ่วหน้า
ซ่งอิงน้ำเสียงคงที่ สีหน้าปกติ ไม่เหมือนลักษณะอย่างถูกวางยาเลยสักนิด
นางจึงรีบมองไปทางด้านสาวใช้พริบตาหนึ่ง สาวใช้ผู้นี้ก็เผยสีหน้าไร้เดียงสาอย่างยิ่งเช่นกัน
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง องค์หญิงชิงลั่วเหลือก็อดจริงๆ จึงกล่าวว่า “ข้าเจอพระชายาอ๋องฮั่วครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนสหายเก่า ไม่ทราบว่าจะเชิญพระชายาอ๋องไปเดินเล่นตามลำพังได้หรือไม่ ในวังมีสถานที่ทิวทัศน์สวยงามไม่น้อย อย่างเช่นในตำหนักข้า ยังมีต้นเหมยงามยิ่งกำลังผลิดอกอยู่เลยเชียว”
“เอาสิ” ซ่งอิงสงบนิ่งยิ่ง
กู้หมิงเป่ามองซ่งอิงปราดหนึ่งอย่างกังวลใจ “พี่ซ่ง?”
“ไม่เป็นไร องค์หญิงปรารถนาดีแล้วจะปฏิเสธได้อย่างไร ข้าก็รู้สึกว่าองค์หญิงมองดูหน้าตาจิตใจดีเป็นพิเศษ!” ซ่งอิงปั้นหน้าจริงใจ
ครั้นนางเอ่ยพูดเช่นนี้ กู้หมิงเป่าก็หวาดหวั่นขึ้นมาทันที
ซ่งอิงลุกขึ้นอย่างว่องไว จากนั้นเดินตามองค์หญิงชิงลั่วไป
“ฮูหยินอาจไม่รู้ นึกถึงตอนนั้นยามที่ตระกูลฮั่วเกิดเรื่อง ท่านพ่อข้าก็เคยช่วยคนตระกูลฮั่วหนีเป็นการส่วนตัวเช่นกัน ถึงขั้นชะตาชีวิตของท่านอ๋องฮั่วล้วนเป็นท่านพ่อข้าช่วยชีวิตเอาไว้” องค์หญิงชิงลั่วเอ่ยอย่างใจเย็น
ซ่งอิงเลิกคิ้ว “เช่นนั้นเขาก็ต้องขอบคุณท่านพ่อเจ้าให้มากๆ”
“ใช่ ท่านอ๋องเป็นผู้หนึ่งที่รู้จักบุญคุณคน ตอนนั้นหลังจากเขากลับเมืองหลวงและได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์อ๋อง นอกจากสักการะบรรพบุรุษ เขาก็ยังสักการะท่านพ่อข้าด้วย เขาเองก็เคยพูดไว้ว่าหากข้าต้องการความช่วยเหลือ เขาจะช่วยเหลืออย่างแน่นอน” องค์หญิงชิงลั่วกล่าวอีกครั้ง
ตอนนั้นนางเห็นฮั่วเจ้ายวนกลับมาก็รู้สึกตระหนกตกใจอย่างยิ่ง
“ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน บิดามารดาและญาติพี่น้องของท่านอ๋องฮั่วล้วนเสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น แต่ก็ยังพลิกชะตาขึ้นมาได้ จู่ๆ มีปีหนึ่งทางด้านนี้มักจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับเขาแว่วมาเสมอ กล่าวว่าเขาเป็นมือสังหารที่โหดเหี้ยมที่สุด แล้วยังมีคนกล่าวว่าเขาปีนป่ายออกมาจากกองคนตายเพื่อกลับมาแก้แค้น กองทัพศัตรูถูกฟาดฟันจนร่นถอยต่อเนื่อง ชื่อเสียงของเขาทำให้ทุกคนล้วนหวาดกลัว!”
ถึงแม้ตอนนั้นคุณงามความดีทางทหารของเขาแว่วมาทีละนิด แต่เมืองหลวงทางด้านนี้กลับมีเพียงความวิตกกังวล ไม่มีความยินดีปรีดาแต่อย่างใด
“ณ ตอนนั้นข้ารู้สึกว่าบุรุษก็สมควรดำรงชีวิตลักษณะเช่นนี้ ถึงแม้ไม่มีที่พึ่งพิงอยู่ด้านหลัง ก็ต้องได้รับความเคารพเลื่อมใส ซึ่งข้ากับเขาเหมือนกันมาก ต่างก็ไม่มีคนในครอบครัว ล้วนต้องพึ่งพาตนเองทั้งสิ้น”
“แม่นางซ่ง ฟังข้าพูดสิ่งเหล่านี้ เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ” องค์หญิงชิงลั่วกล่าวอีกครั้ง
ซ่งอิงถอนหายใจ
“กล่าวตามตรง…ข้ารู้สึกว่าพวกเจ้าสองคนไม่เหมือนกันเลยสักนิด” ซ่งอิงเลิกคิ้ว “แค่เห็นก็รู้ว่าเจ้าคิดเลยเถิดแล้วใช่หรือไม่”
“จริงอยู่ที่พวกเจ้าทั้งสองล้วนไม่มีบิดามารดา แต่บิดาเจ้าไม่ได้ถูกใส่ร้าย มารดาเจ้าก็ไม่ได้ตายอย่างน่าเวทนากระมัง เจ้าไม่ได้ใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กในชนบทตามป่าเขา ถึงขั้นว่าพวกเจ้าสองคนต่างกันราวฟ้ากับดินเสียด้วยซ้ำ ความตายของบิดามารดาเขาแลกมาซึ่งการพลัดถิ่น ความตายของบิดามารดาเจ้าแลกมาซึ่งความรุ่งเรืองและร่ำรวยสูงส่ง เหมือนกันตรงไหนหรือ” ซ่งอิงส่งเสียงหัวเราะ
องค์หญิงชิงลั่วนิ่งอึ้ง
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ กล่าวทันควัน “บังอาจ!”
“เจ้าไม่เข้าใจหรอก ในพระราชวังแห่งนี้เต็มไปด้วยความอันตรายทุกหนแห่ง…”
“อันตรายทุกหนแห่งหรือ องค์หญิง เจ้ามิใช่พระสนมของฮ่องเต้ มิหนำซ้ำยังมีความจงรักภักดีอันแรงกล้าช่วยปูทางให้เจ้าอยู่เบื้องหลัง ใครจะมาคิดร้ายกับเจ้าหรือ” ซ่งอิงดูเหมือนได้ยินถ้อยคำน่าขันที่สุด “ฮ่องเต้ไม่มีองค์หญิงที่บรรลุนิติภาวะเคียงกาย ถึงขั้นองค์หญิงที่เกิดจากพระสนมก็ยังไม่มีสักคน มีเพียงเจ้าที่ฮองเฮารับเข้ามาเลี้ยงดูข้างกาย เจ้าเป็นสมาชิกในราชวงศ์อันยิ่งใหญ่ จะมีอันตรายได้ที่ไหนกัน”
ซ่งอิงพูดจบก็หัวเราะเยาะ
ซ่งอิงรู้สึกว่านางช่างเข้าใจเพิ่มบทละครให้ตัวเองดีจริงๆ
องค์หญิงชิงลั่วเผยสีหน้าเย็นชาขึ้นเล็กน้อย “แม่นางซ่งไม่กลัวตายจริงๆ หรือ”
“กลัวสิ” ซ่งอิงโต้ตอบอย่างจริงจัง นางยังไม่ได้มีชีวิตถึงพันปีหมื่นปี จะไม่กลัวตายได้อย่างไรเล่า
“ในเมื่อกลัว เช่นนั้นข้าก็ขอสั่งให้เจ้าหย่าร้างกับท่านอ๋องฮั่วเสีย เจ้าจะยินยอมหรือไม่! เขาเป็นผู้ที่โดดเด่นเกินผู้ใด ข้ามีวาสนาคู่ควรกับเขา เดิมทีก็เตรียมจะให้ฮ่องเต้พระราชทานงานแต่งให้ แต่เจ้ากลับโผล่มากะทันหัน ทำลายการแต่งงานของเราสองเสียได้”
—————————-
[1] ตันเถียน (丹田) ชื่อตำแหน่งบนร่างกายบริเวณท้องน้อยใต้สะดือ 3 นิ้ว โดยในลัทธิเต๋าได้กำหนดตำแหน่งตันเถียนในร่างกายไว้ 3 แห่ง ได้แก่ ตันเถียนบนอยู่บริเวณหว่างคิ้ว ตันเถียนกลางอยู่บริเวณใต้หัวใจและตันเถียนล่างอยู่บริเวณใต้สะดือ