ตอนที่ 807 แม่สื่อแม่ชัก
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อสองคนนี้คือผู้ที่ชะตากำหนดไว้ หากเกิดความรักใคร่สนิทสนมขึ้นมาบ้างจริงๆ นางก็จะไม่ทำตัวเป็นอุปสรรคกีดขวางแล้วกัน
ซ่งอิงยกนิ้วกลางให้เซียนที่คอยติดตามอยู่บริเวณไม่ไกลนักอย่างเงียบๆ
นี่พวกเขาเป็นเทพเซียนจริงๆ หรือ เห็นๆ อยู่ว่าเป็นแม่สื่อแม่ชักเสียมากกว่า!
มีเซียนตนหนึ่งโผล่มาอย่างไม่มีสาเหตุ ตามจริงซ่งอิงไม่ได้สนใจในการเดินชมวัดมากนัก เพียงแต่ไหนๆ ก็มาแล้ว เดินเล่นสักรอบก็ไม่เป็นไร
เมื่อซ่งอิงมาถึงวัดแห่งนี้ ก็พบว่าเซียนตนนี้ยังอยู่เหมือนเดิม
ฮั่วเจ้ายวนอยากอยู่เป็นเพื่อนซ่งอิง เพียงแต่กู้หมิงเป่าผู้นี้เป็นหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือน เขาจึงไม่สะดวกอยู่เป็นเพื่อน เพราะจะส่งผลกระทบกับชื่อเสียงนางได้
เพียงแต่ฮั่วเจ้ายวนเพิ่งกลับหลังหัน กู้หมิงเป่าที่เพิ่งเหยียบย่างขึ้นบันไดก็ลื่นกะทันหัน คนทั้งคนจึงหงายหลังลงไป
“อ๊าย…”
ซ่งอิงตาไวมือไว ดึงมือของกู้หมิงเป่าเอาไว้ทันทีทันใด จากนั้นท่อนแขนอีกข้างโอบรั้งนางไว้ให้โน้มกลับมาข้างหน้าทันที
กู้หมิงเป่าหน้าซีดเผือด “ข้า…ดวงตกแล้วใช่หรือไม่…เมื่อครู่ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ แข้งขาก็อ่อนแรงเล็กน้อย”
ตอนนี้ซ่งอิงก็ไม่สบอารมณ์มากเหมือนกัน ว่ากันตามสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในกรณีปกติ เมื่อกู้หมิงเป่าล้มลง หากฮั่วเจ้ายวนไม่ประคองนางเอาไว้จากด้านหลัง เช่นนั้นกู้หมิงเป่าจะต้องล้มจนน่าเวทน่ามากแน่ แต่หญิงชายไม่อาจแตะเนื้อต้องตัวกันได้ หากถูกผู้อื่นเห็นเขากับกู้หมิงเป่ามีความใกล้ชิดกัน เช่นนั้นกู้หมิงเป่าก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ส่วนเซียนตนนั้น ในขณะนี้ไม่นึกเลยว่ายังจะเผยสีหน้าเสียดายอีกด้วย
“เอ่อ…มีปัญหาอะไรหรือ” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถาม
แววตาซ่งอิงแปลกไป นางปรายตามองไปยังทิศทางหนึ่งเป็นครั้งคราว
“ข้าจำได้ว่าข้าเคยพูดถึงฐานะตัวตนของท่านไปแล้วกระมัง” ซ่งอิงกล่าว
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้วนิ่วหน้า ไม่ค่อยเข้าใจว่าที่ซ่งอิงพูดหมายความว่าอะไร อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา ซ่งอิงก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “เหตุการณ์ตอนนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับตัวตนชั้นนั้นของท่าน จริงสิ ก่อนหน้านี้ นักบวชเต๋าคำนวณดวงชะตาไว้อย่างไรหรือเจ้าคะ”
“ชะตาไร้ภรรยา อยู่โดดเดี่ยวและลำบากยากแค้นทั้งชีวิต” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
“ข้าก็ไม่รู้ว่าควรพูดใจความหลักอย่างไร โดยสรุปคือ เกี่ยวกับ…บางสิ่งบางอย่าง” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
นางไม่สะดวกบอกฮั่วเจ้ายวนสุ่มสี่สุ่มห้าว่าเซียนหน้าไม่อายตนหนึ่งลอยไปลอยมาอยู่รอบตัวเจ้า และกำลังคิดวิธีการจับคู่เขากับกู้หมิงเป่า!
ฮั่วเจ้ายวนฟังด้วยความงุนงงไปหมด
“สิ่งนั้นฐานะตัวตนพอประมาณกับข้า เพียงแต่ล่องลอยได้และมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่า” ซ่งอิงย้ำเตือนอีกครั้ง จากนั้นดึงกู้หมิงเป่าเดินจากไป
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้วนิ่วหน้า
ซ่งอิงเป็นปีศาจในร่างคน ที่พอประมาณกับนางเช่นนั้นก็ไม่ใช่มนุษย์ที่ปกติทั่วไป ล่องลอยได้และมีความศักดิ์สิทธิ์…เซียนหรือ
หมายความว่าอะไร มิใช่ว่าเหตุการณ์ของวันนี้ล้วนเป็นฝีมือเซียนกระมัง
เซียน…ว่างงานขนาดนี้เชียวหรือ
แววตาฮั่วเจ้ายวนเคร่งขรึม จับจ้องไปยังบริเวณที่ซ่งอิงเพิ่งเคยจับจ้องอยู่เมื่อครู่
เซียนหลิงเฟิงตระหนกตกใจ “ท่านเทพชางเวย ท่านเห็นข้าด้วยหรือ”
ฮั่วเจ้ายวนไม่เคลื่อนไหวใดๆ
เซียนหลิงเฟิงถอนหายใจ น่าเสียดายที่ในฐานะเซียนสวรรค์ เขาเผยโฉมหน้าบนโลกมนุษย์ในตอนนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตบะเซียนจะเสียหาย รวมถึงร่ายคาถาบ่อยครั้งเกินไปไม่ได้ อย่างมากสุดก็ได้แค่ทำให้สะดุดอะไรทำนองนี้ ไม่มีความสามารถมากนัก
“ห้ามจ้องเล่นงานซ่งอิง” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยปากขึ้นมาประโยคหนึ่งกะทันหัน
เขาไม่รู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายได้ยินคำพูดของตนหรือไม่ แต่นักบวชเต๋ากล่าวว่าเขามีภูมิหลังยิ่งใหญ่มิใช่หรือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คำพูดของเขาก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้างกระมัง
“ท่านมองเห็นข้าหรือ! ไม่สิ ไม่สิ จริงๆ แล้วท่านมองไม่เห็น แต่ทำไมท่านจึงพูดกับข้า!” เซียนตนดังกล่าวกระวนกระวายใจ มองซ้ายมองขวา พบว่าไม่เห็นอะไรผิดปกติ แต่ในใจกลับอดขนลุกไม่ได้
นี่เป็นโลกมนุษย์เชียวนะ มีเทพเซียนตั้งเท่าไรที่ถ่อลงมาข้างล่าง ท้ายที่สุดเอาชีวิตไม่รอดจึงร่างสลายตายจากไป
ตอนที่ 808 ชาติภพหน้า
ฮั่วเจ้ายวนเดินจากไปทันทีหลังจากพูดจบ และในใจออกจะรู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อย
เรื่องราวในวันนี้แปลกประหลาดไปหมด
เซียนที่ล่องลอยไปมาตนนั้น ลอยมาถึงข้างกายซ่งอิงอีกครั้ง เขามองเห็นกู้หมิงเป่ากำลังคุกเข่าสักการะอย่างตั้งอกตั้งใจ
ในเวลานี้เอง เซียนอีกตนก็ปรากฎตัวขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้าง ข้าปรับเปลี่ยนกงล้อโชคชะตาแล้ว ตอนนี้ซ่งอิงผู้นั้นน่าจะ…” เซียนตนนั้นพูดไปได้ครึ่งเดียวก็มองเห็นซ่งอิงยืนสบายดีอยู่ “ไม่ใช่นี่! ข้าเปลี่ยนแล้ว ตอนนี้นางน่าจะเผชิญสามเคราะห์ ต่อให้เป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิดก็ไม่อาจหลบเลี่ยงได้!”
“เจ้ามั่นใจหรือ!” เซียนหลิงเฟิงสับสนในทันที
“ใช่สิ ว่ากันตามเหตุการณ์ที่จะผันเปลี่ยนไปตามเวลาของกงล้อโชคชะตา ตอนนี้ต่อให้คนผู้นี้ไม่ถูกมีดฟันตาย หรือฟ้าผ่าตาย ก็น่าจะถูกหมาป่าคาบไปกินแล้ว…” เซียนหยวนซานเผยสีหน้าเศร้าสร้อยอันเนื่องจากรู้สึกไม่เป็นธรรม
เขาอุตส่าห์ทำงานอย่างเอาจริงเอาจังมาก ไฉนไม่มีผลอะไรเลยเล่า
แววตาซ่งอิงพลันเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น
มิน่าล่ะ วันนี้จึงดูประหลาดไปเสียทุกอย่าง
ร้ายกาจไม่เบาจริงๆ เพื่อทำให้นางยกที่นั่งให้คู่แข่ง ถึงขั้นจะทำให้นางตายเชียวหรือ
“หมิงเป่า เจ้าว่าเทพเซียนอะไรพวกนี้ น่าจะช่วยโลกและมนุษย์ทั้งนั้นใช่หรือไม่” ซ่งอิงเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุมีผล
“ใช่สิ” กู้หมิงเป่าพยักหน้า
“แต่ทำไมเทพเซียนบางตนจึงทำเรื่องชั่วช้าได้ล่ะ” ซ่งอิงเอ่ยถามอีกครั้ง
“ไม่มีนี่? พี่ซ่ง ท่านไม่เคยเห็นเทพเซียนสักหน่อย ไฉนจึงรู้ว่าเทพเซียนกระทำเรื่องชั่วช้าล่ะเจ้าคะ มิใช่เพราะว่าวันนี้ท่านตระหนกตกใจจนสับสนแล้วกระมัง” กู้หมิงเป่ายิ้มเล็กน้อย “ทว่าข้าก็งุนงงเล็กน้อยเช่นกัน ตอนนี้ทั้งสมองข้าเต็มไปด้วยฉากอันตรายเมื่อครู่นั้น ไม่อยากจะเดินมากๆ แล้วด้วยซ้ำ เกิดหกล้มขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร”
เซียนสองตนนั้นกำลังมองซ่งอิงอย่างอึ้งทึ่งและงงงวย ทั้งยังเกิดหวาดกลัวว่าถัดไปนางจะพูดอะไรที่ทำให้ตื่นตระหนกตกใจขึ้นมาอีก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้ท่านนักบวชจัดหาที่พักให้สักแห่งแล้วกัน เราพักค้างแรมที่นี่สักคืน ตอนนี้ก็เย็นแล้วด้วย จะรีบร้อนกลับไปคงไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ” ซ่งอิงกล่าว
กู้หมิงเป่าพยักหน้าทันที
นางขอสาบานว่า หลังจากนี้จะไม่ออกมาจุดธูปสักการะเทพเพียงเพราะความฝันตื่นหนึ่งเป็นแน่!
นั่นเป็นความฝันที่ชี้นำนางให้เจอสามีดั่งใจปรารถนาเสียที่ไหนกัน เห็นๆ อยู่ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความหายนะชัดๆ!
“หยวนซาน เมื่อครู่นางมิได้กล่าวถึงพวกเรากระมัง” หลิงเฟิงประหม่าเล็กน้อย
“เป็นไปไม่ได้! นางก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง จะมีความสามารถสื่อสารกับผู้อยู่เบื้องบนสวรรค์ได้เชียวหรือ!” เซียนหยวนซานส่ายหน้าทันที “คาดว่าเพราะมีความรู้สึกตระหนักรู้บางอย่างกะทันหันกระมัง อย่างไรเสียนี่ก็อยู่ในวัด ข้างในก็ต้องมีสิ่งลี้ลับอยู่บ้าง จึงไม่แปลกที่เป็นเช่นนี้”
“ก็จริง” เซียนหลิงเฟิงถอนหายใจ
แม้พูดเยี่ยงนี้ แต่เซียนทั้งสองตนยังคงไม่ค่อยวางใจ จึงคอยติดตามตลอดทางที่พวกนางไปยังเรือนปีกข้าง
ยามที่ซ่งอิงเข้าไปในห้อง พวกเขาถึงขั้นยังตามไม่เลิก นางอยากสังเกตการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ซ่งอิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ จับจ้องสายตาไปที่มืออย่างสงบนิ่ง
นางไม่อยากให้พ่อหนุ่มสองตนนี้คอยวางแผนการใส่นางกับกู้หมิงเป่าไปตลอด เพียงแต่ความสามารถของนางเล่นงานปีศาจได้ ทว่าไม่รู้จะใช้ได้กับเทพเซียนหรือไม่
แต่จะอย่างไรก็ต้องลองดูหน่อยกระมัง
แต่หากไม่ได้ผลเล่า ตัวตนเปิดเผย เกรงว่าจะพานให้เหล่าปีศาจเดือดร้อนไปด้วย
ซ่งอิงสับสนเล็กน้อย แต่นางในนาทีนี้รู้สึกว่าตนเองไม่ควรเป็นเช่นนี้ จะทำตัวไร้ความสามารถเช่นนี้ไม่ได้
“ความจริงแม่นางซ่งผู้นี้ดวงแข็งเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ถูกกำหนดให้ไร้วาสนา วันนี้เจอสามเคราะห์กรรมกลับผ่านพ้นมาได้ อีกสี่สิบเก้าวัน ดวงตะชาจะปรับเปลี่ยนอีกครั้ง ถึงตอนนั้นก็ยังต้องตายอนาถอยู่ดี”
“นั่นก็ช่วยไม่ได้ นี่เราทำเพื่อการใหญ่ คิดๆ ดูแล้วไว้ให้นางเกิดใหม่อีกครั้ง ถึงตอนนั้นเลือกตระกูลดีๆ ร่ำรวยไปทั้งชีวิตก็พอแล้ว”
“นั่นสิ จากที่ข้าตรวจดูชะตาชีวิตซ่งอิงผู้นี้ ชาติภพนี้นางทุกข์ยากลำบากมาก ไม่สู้ขจัดปัญหาเพื่อชาติภพหน้าจะดีกว่า” เซียนหลิงเฟิงกล่าวอีกครั้ง
ซ่งอิงส่งเสียงหัวเราะขึ้นมากะทันหัน “แต่ชาติภพหน้า ยังจะเป็นข้าอยู่อีกหรือ”