ตอนที่ 821 เห็นแก่ตัว
ซ่งซินหัวรู้ว่าตนในตอนนี้ต่ำต้อยถึงฝุ่นดินแล้วจริงๆ
นางรู้จักวางแผน ความคิดไม่ตรงไปตรงมา ตราบใดที่เป็นชายคนหนึ่ง ในเวลานี้และในขณะนี้ ในใจน่าจะเต็มไปด้วยความเดือดดาลและดูถูกเหยียดหยามเป็นแน่
บุรุษน่ะ ส่วนใหญ่ชอบคนอย่างพี่สาวคนรองของนางในแบบก่อนที่จะออกเรือนเช่นนั่น ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน เป็นคนนุ่มนวลอ่อนโยนและเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม มิใช่หญิงชั่วร้ายที่ถูกส่งไปยังอารามชีในปัจจุบันผู้นั้น
คนจำนวนมากมายเพียงนั้นเคยถูกความสามารถและความอ่อนโยนของพี่รองดึงดูด แต่บัดนี้ยิ่งนึกถึงว่าถูกหลอกเข้าแล้วในตอนแรก คนเหล่านั้นก็ยิ่งรู้สึกจงเกลียดจงชังพี่รอง
นางต่างอะไรกับพี่รอง
“เจ้าไตร่ตรองให้ดี หากเจ้าคิดดีแล้ว เรื่องในวันนี้ข้าจะถือเสียว่าไม่รู้ทั้งนั้นว่าเจ้าทำอะไรไว้” ลู่ข่ายกล่าว
“เช่นนั้น…หากข้ายังดื้อดึงเช่นนี้เล่า” ซ่งซินหัวเอ่ยถาม “คุณชายลู่ เจ้ามีคนในใจแล้วหรือ”
“ไม่มี” ลู่ข่ายตะลึงงันไปชั่วครู่
เขาคิดอยู่ว่าลูกผู้หญิงคนหนึ่งได้ยินคำพูดเขาเช่นนี้ก็น่าจะเต็มไปด้วยความอับอายบนใบหน้าทั้งนั้น แต่ไฉนยังรั้นไม่เลิกเช่นนี้อีก
ซ่งซินหัวปลุกใจให้กล้าหาญ “เจ้าไม่มีใครในใจ ข้าก็ไม่มีเช่นกัน ข้าซ่งซินหัวกระทำเรื่องนี้ จริงอยู่ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ข้ารับปากเจ้าได้ว่า เรื่องที่สตรีทั่วไปทำได้ ข้าเองก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกำกับดูแลเรือน จัดระเบียบงาน ไม่ว่าอะไรล้วนไม่ทำให้เจ้าขายหน้าทั้งนั้น”
นางไม่มีสิทธิ์ตำหนิโทษบิดามารดา อย่างไรเสียตั้งแต่เล็กจนโตนางก็ได้รับความรักและโปรดปรานเรื่อยมาจนเติบใหญ่
แต่นางผู้นี้ก็แค่เห็นแก่ตัวโดยธรรมชาติ ไม่อยากคิดคำนึงถึงผู้อื่น
คำนึงถึงผู้อื่นจะมีประโยชน์อันใด บิดาและมารดานางไม่มีความสุข แม้ว่านั่นทำให้นางเป็นทุกข์ แต่หากตัวนางเองไม่มีความสุข เช่นนั้นก็อยากจะไปตายให้รู้แล้วรู้รอด
เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ย่อมต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที!
มองจากประเด็นนี้ นางและบิดานางเหมือนกันอย่างยิ่ง
“คุณชายลู่ เจ้าแค่ตอบข้ามาก็พอ เจ้ายินยอมสู่ขอข้าหรือไม่” ซ่งซินหัวกล่าวอีกครั้ง
“…” ลู่ข่ายตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก
ตามแผนการ ไม่ใช่เช่นนี้
นางคิดไว้ดิบดีแล้วว่าหากเขายินยอม ถึงแม้ไม่มีความรักใคร่ แต่เนื่องด้วยน้ำใจนี้นางก็จะช่วยเหลือเกื้อกูลสามีและเลี้ยงดูบุตรให้ดีตลอดชีวิต จะไม่กระทำเรื่องที่ก่อความเสียหายแก่ตระกูลลู่โดยเด็ดขาด!
“ทำไมเจ้าต้องการแต่งกับข้าให้ได้!” ลู่ข่ายงุนงงอย่างยิ่ง
แม่นางผู้นี้ใจกล้าบ้าบิ่นเกินไปหน่อยแล้วหรือไม่!
“เจ้ามีความรู้ความสามารถ เจ้ามีความก้าวหน้า ตระกูลเจ้าร่ำรวยมั่งคั่ง เจ้ามีอนาคตไร้ขีดจำกัด รูปลักษณ์หล่อเหลาและเจ้ามความคิดจิตใจสะอาด…นี่คงเพียงพอแล้วกระมัง” ซ่งซินหัวกล่าวตามตรง
เสี่ยวฉานงงเป็นไก่ตาแตกไปพักใหญ่แล้ว
คุณหนูของนางออกจะใจกล้าเกินไปแล้ว!
หารู้ไม่ว่าในขณะนี้ซ่งซินหัวใจเต้นราวกับฟ้าร้อง
ลู่ข่ายถึงกับเบิกตาโต เขาควรปฏิเสธ เพียงแต่ในตอนที่เผชิญกับแววตากำเริบเสิบสานและเอาแต่ใจของแม่นางผู้นี้ เขากลับรู้สึกหวั่นไหว
“หากเจ้าไม่เสียใจภายหลัง…ข้าจะให้ท่านพ่อให้คนไปสู่ขอเจ้า” ลู่ข่ายทำไปทำมากลับเอ่ยถ้อยคำดังกล่าวออกไป
ครั้นได้ยินถ้อยคำนั้น ซ่งซินหัวกรอบตาแดงเรื่อเล็กน้อยทันที “ข้ากลัวว่าท่านพ่อข้าจะไม่ยินยอม ดังนั้น…คงต้องลำบากคุณชายลู่แสร้งทำเป็นบุกเข้ามาในห้องส่วนตัวข้านี้โดยไม่ตั้งใจ และเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น…”
“หา? อ้อ ได้…” ลู่ข่ายงงงวย
จากนั้นก็เป็นเวลาที่ซ่งซินหัวทำการแสดง
ลู่ข่ายเพียงแค่ต้องรักษาอาการตะลึงงันทำอะไรไม่ถูกเอาไว้เป็นพอ มีเพียงเสี่ยวฉานผู้นั้นส่งเสียงร้องว้ายๆ แล้วตบตีลู่ข่ายให้ออกไป จากนั้นส่งเสียงตะโกน “ไฉนท่านจึงล่วงเกินคุณหนูตระกูลข้าเช่นนี้ได้…”
ลู่ข่ายถูกตีไปหลายครั้ง ม่านของห้องส่วนตัวถูกเลิกเปิดออกเช่นกัน ซ่งซินหัวที่อยู่ด้านในก้มหน้าปล่อยหยาดน้ำตารินไหล มองดูน่าสงสารอย่างยิ่ง
สาวใช้เอ่ยว่าแม่นางผู้นี้เผอิญหกล้ม จึงจองห้องส่วนตัวเพื่อขึ้นมาใส่ยา ไม่คิดว่าจะถูกลู่ข่ายเดินผิดห้องเข้ามาเห็นพอดี
ที่หอเฟิ่งหมิงแห่งนี้มีผู้คนจำนวนมาก ส่งเสียงตะโกนไม่นานนักก็มีคนมามุงจำนวนไม่น้อย
หลังผ่านไปพักใหญ่ ลู่ข่ายจึงตั้งสติขึ้นมาได้ เอ่ยรับปากต่อหน้าทุกคนว่าตนจะไปสู่ขอนางเป็นแน่…
กระทั่งซ่งซินหัวเดินจากไป ลู่ข่ายยังอึ้งอยู่เล็กน้อย
นี่เขา…หาเรื่องใหญ่ให้ตนเองเสียดื้อๆ หรือ
ตอนที่ 822 ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นการส่วนตัว
หลังจากซ่งซินหัวกลับบ้าน ซ้ายขวาปลอดคน นางก็ปล่อยเสียงร้องไห้โฮ
ไม่ใช่ร้องไห้เพราะว่าลู่ข่ายไม่ดี แต่เพราะหลังจากผ่านเรื่องยิ่งใหญ่ครั้งนี้ นางรู้สึกเหมือนหัวใจดวงนี้ถูกคนอื่นบีบเอาไว้ในมือ กระวนกระวายและเกรงกลัวอย่างยิ่ง!
เรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ตกเย็นก็แพร่งพรายไปถึงหูของท่านโหวซ่ง
เขาถึงกับมึนงงทำอะไรไม่ถูก
เขาเร่งร้อนเข้าไปในลานบ้านของบุตรสาวแล้วฟาดมือตบหน้านางทันที “นางลูกสารเลวไม่รู้ยางอาย! วันนี้ข้างนอกเขาพากันพูดจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว อยู่ในบ้านก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ เจ้าออกไปเดินเตร็ดเตร่ทำไม!”
ซ่งซินหัวมือหนึ่งกุมหน้า ส่วนอีกมือกำหมัดหลวมๆ ครั้นอ้าปากก็ร้องไห้ออกมา “ท่านพ่อ ลูกเสียใจเหลือเกิน… ลูกรู้ว่าระยะนี้ท่านพ่ออารมณ์ไม่ดี เดิมทีอยากจะไปเลือกซื้ออุปกรณ์เย็บปักถักร้อยด้วยตนเองเพื่อมาตัดชุดใหม่ให้ท่านพ่อสักชุด แต่คิดไม่ถึงว่าจะหกล้มเสียได้ ตรงหน้าคือหอเฟิ่งหมิง ลูกเพียงแค่เข้าไปนั่งจะได้จัดการแผลสักหน่อยเท่านั้นจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะ… ท่านพ่อ ลูกยังจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้อีกเจ้าคะ!”
หลานซื่อได้ยินเสียงจึงเดินมาทันที เมื่อถึงหน้าประตูก็ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ จึงรีบเดินปรี่เข้ามา
“เรื่องนี้มิใช่ความผิดของนางเสียหน่อย! เป็นผู้มักมากบ้าตัณหาผู้นั้นต่างหากที่ไม่ดี!” หลานซื่อกล่าวทันควัน
“ข้าว่าเพราะนางกลัวว่าตระกูลเราจะยังยุ่งเหยิงไม่พอต่างหากเล่า!” ท่านโหวซ่งโมโหจนใกล้จะเป็นลมเต็มทน “เดิมทีข้าคิดอยู่ว่าปีหน้าเดือนห้าจะให้นางเข้าวังไปรับการคัดเลือก ด้วยฐานะและรูปลักษณ์ของนาง หลังจากเข้าวังไปแล้ว อย่างน้อยน้อยก็จะได้เป็นเจี๋ยอวี๋[1] พยายามอีกสักหน่อย หากให้กำเนิดบุตรชายหญิง…”
หลานซื่อนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็หันไปมองบุตรสาว
หากลูกคนนี้ได้เป็นพระสนมของฮ่องเต้ แล้วยังต้องกังวลว่าจะหาลูกสะใภ้ดีๆ ของตระกูลสูงศักดิ์ไม่ได้อีกที่ไหนเล่า
ตอนนี้บุตรชายคนโตของนางหย่าร้างแล้ว บุตรชายคนเล็กยังอายุน้อยจึงไม่ต้องรีบร้อน แต่จะอย่างไรก็ต้องกังวลใจอยู่ดี
ตอนนี้ในจวนชื่อเสียงไม่ค่อยดี อยากจะสู่ขอหญิงสาวที่ดีพร้อมสักคนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
“เจ้าลูกคนนี้ ไฉนถึงไม่รู้จักระมัดระวังขนาดนี้!” หลานซื่อถอนหายใจ “ตอนนี้จะทำอย่างไร เรื่องราวเป็นเช่นนี้แล้ว จะส่งเข้าวังอีกก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว”
“ยังจะทำอย่างไรได้อีก ก็ต้องให้คนเขามาสู่ขอน่ะสิ!” ท่านโหวซ่งกล่าวอย่างหงุดหงิด
“นายท่านเจ้าคะ!” เสี่ยวฉานรีบคุกเข่าลงมา “หลังจากเกิดเรื่องนี้ข้าน้อยก็ไปสืบถามมา ได้ความว่าชายผู้นั้น ไม่สิ เป็นคุณชายต่างหาก เขาจะเข้าร่วมการสอบในครั้งนี้ มากพรสวรรค์และความสามารถ บิดาเขาก็เป็นขุนนางใหญ่อยู่ในราชสำนัก ตระกูลก็มีอนาคตในหน้าที่การงานอย่างยิ่งเจ้าค่ะ!”
เมื่อถ้อยคำดังกล่าวนี้หลุดออกมา ท่านโหวซ่งรู้สึกสบายใจขึ้นหน่อย แต่ไม่ทันไรก็กล่าวขึ้นอีกครั้ง “เจ้าตกลงแลกเปลี่ยนอะไรเป็นการส่วนตัวกับเขาไว้ใช่หรือไม่!”
“ท่านพ่อ! ลูกไม่รู้จักเขานะเจ้าคะ!” ซ่งซินหัวแสดงได้เข้าถึงบทบาทอย่างยิ่ง
“นายท่านเจ้าคะ ข้าน้อยสืบถามได้ความมาว่า จวี่เหรินผู้นั้นก่อนหน้านี้อยู่ที่บ้านเกิดมาโดยตลอด เพิ่งกลับเมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้เพื่อร่วมการสอบ คุณหนูจะมีเวลาไปรู้จักเขาได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ…” เสี่ยวฉานอธิบายทันที
เมื่อได้ยินดังกล่าว ท่านโหวซ่งก็สบถฮึแล้วจึงกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็คอยดูแล้วกัน หากตระกูลเขายอมมาเอ่ยสู่ขอ เจ้าก็แต่งไป ช่วงนี้เกิดแต่เรื่องแย่ๆ อยากจะหาชายดีๆ สักคนก็ยากแล้ว ขอเพียงยังไม่มีภรรยาเอก และฐานะพอใช้ได้ เจ้าก็อดทนเอาหน่อย คิดจะเลือกก็คงมิได้แล้ว นี่ล้วนเป็นชะตาของเจ้า!”
พูดจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
หลานซื่อกอดซ่งซินหัวร้องไห้ฮือๆ “เหตุใดข้าจึงชะตาชีวิตทุกข์ระทมเพียงนี้นะ พวกเจ้าลูกๆ เหล่านี้แต่ละคนล้วนขูดเลือดของแม่ชัดๆ!”
ปีนี้เป็นปีที่นางดวงตกจริงๆ…
ลู่ข่ายนำเรื่องราวบอกกล่าวใต้เท้าลู่ ไม่ทันไรเรื่องงานแต่งก็เป็นอันกำหนดลงเรียบร้อย
ยามที่ซ่งอิงรู้เรื่องนี้ นางตระหนกตกใจในความใจกล้าของซ่งซินหัวจริงๆ
ทว่าเมื่อนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่ซ่งซินหัวโยนกระดาษเล็กๆ ให้นาง ถึงแม้ไม่ได้ช่วยอะไร แต่คนอย่างซ่งอิงผู้นี้ก็เป็นผู้ที่หากคนอื่นให้ความนับถือนางเท่าไร นางก็จะให้คืนกลับไปมากเท่านั้น จึงขอให้กู้หมิงเป่าช่วยเหลือโดยมอบของขวัญให้หนึ่งชุด
หากส่งของขวัญในนามของนาง เกรงว่าจะนำมาซึ่งความไม่พอใจของสองสามีภรรยาท่านโหวซ่งเอาได้ และไม่แน่ว่าจะพานโกรธซ่งซินหัวไปด้วย ทว่าหากเป็นกู้หมิงเป่าก็จะดีกว่าหน่อย
—————————-
[1] เจี๋ยอวี๋ (婕妤) ตำแหน่งพระสนมในองค์จักรพรรดิ ขั้นสาม ชั้นเอก