ตอนที่ 843 เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตน
ฮั่วเจ้ายวนใช้ถ้อยคำเจ้าเล่ห์ชุดใหญ่ หลอกล่อจนซ่งสวินมักจะรู้สึกในใจว่ามีตรงไหนแปลกๆ ชอบกล
“พี่เขย ท่านพอจะรู้หรือไม่ว่าปัจจุบันฮูหยินของข้ายุ่งอยู่กับอะไร” ฮั่วเจ้ายวนแสดงออกอย่างเกรงใจมาก แต่ด้วยภาพลักษณ์ที่ออกจะไม่เป็นธรรมชาติไปหน่อย ซ่งสวินได้ยินก็ถึงกับขนลุกขนชัน
“ภรรยาของท่านเอง ท่านจะไม่รู้เชียวหรือ” ซ่งสวินเลียนแบบความกวนประสาทของเขา ตอบกลับไปอย่างแปลกๆ
ฮั่วเจ้ายวนยิ้มเล็กน้อย “สามีอย่างข้าผู้นี้ย่อมสนิทสนมกับฮูหยินสู้พี่ชายอย่างท่านไม่ได้อยู่แล้ว”
ซ่งสวินได้ยินดังกล่าวก็รู้สึกสบายใจ
“ดังนั้น ระหว่างข้ากับฮูหยินคงต้องขอให้พี่เขยช่วยเหลือมากหน่อย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้งอย่างไร้ยางอาย เมื่อพูดจบก็เอ่ยต่อ “พี่เขยเป็นถึงพี่น้อง ‘ร่วมท้องเดียวกัน’ ของนาง ย่อมเข้าใจฮูหยินของข้าเป็นที่หนึ่งในหล้า ไม่มีการอนุญาตจากพี่เขย ข้าก็ไม่สะดวกให้คนตรวจสอบเส้นทางนางโดยตรง เดี๋ยวจะเป็นการทำให้พี่เขยไม่พอใจเอาได้ ทว่าพี่เขยรักและห่วงใยน้องสาว ย่อมหวังให้พวกเราสามีภรรยาอยู่กินกันอย่างราบรื่นและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ดังนั้นข้ามีอะไรก็จะขอให้ท่านช่วยชี้นำก็แล้วกัน”
ทั้งที่ฮั่วเจ้ายวนอายุมากกว่าซ่งสวินถึงหกเจ็ดปี แต่ตอนนี้กลับทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยใสซื่อไร้เดียงสา ทว่าด้วยถ้อยคำถ่อมตนชุดนี้กลับทำให้ซ่งสวินพูดอะไรไม่ออก
“หลักๆ ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน นางไม่ค่อยพูดเรื่องเหล่านี้กับข้ามาแต่ไหนแต่ไร” ซ่งสวินถอนหายใจ รู้สึกละอายใจเล็กน้อยเช่นกัน
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับแววตา ‘จริงใจ’ ของฮั่วเจ้ายวนเช่นนี้ ก็เป็นการยากที่จะพูดว่าตนไม่รู้อะไรแน่ชัดเลย จึงฝืนใจกล่าวอีกครั้ง “ข้ารู้เพียงแค่นางซื้อหมู่บ้านสวนเอาไว้ที่นอกเมือง ค่อนข้างใหญ่โตทีเดียว หลายวันก่อนซื้อแกะมาจำนวนไม่น้อย แล้วยังซื้อร้านค้าห้องแถวไว้อีกสองร้าน แห่งหนึ่งเอามาขายสบู่หอมตามเคย ส่วนอีกแห่งคล้ายว่ายังไม่ได้ลงมือทำอะไร”
ซ่งสวินพูดจบก็รู้สึกเพียงว่าตนเองหักหลังน้องสาวเสียแล้ว
ฮั่วเจ้ายวนมีหรือจะไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้จริงๆ
ก็แค่ให้ซ่งสวินได้แสดงออกทางทัศนคติสักหน่อย ในตอนนี้ซ่งสวินเอ่ยปากบอกกล่าว เช่นนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ก็จะพูดคุยกันได้ง่ายหน่อย
ฮั่วเจ้ายวนรีบกล่าวขอบคุณทันที “คิดว่าพี่เขยต้องเป็นห่วงอย่างยิ่งแน่ ไม่สู้ข้าไปดูนางแทนพี่เขยดีกว่าขอรับ”
“…” ซ่งสวินเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ
“ขอบคุณพี่เขยมาก”
เมื่อเขาพูดจบก็ไม่รอให้ซ่งสวินตอบกลับ แต่ลุกพรวดขึ้นมาแล้วกล่าวลาในทันที
ซ่งสวินมองแผ่นหลังที่รีบๆ ร้อนๆ นั่นอย่างุนงง หลังจากผ่านไปพักใหญ่ ซ่งสวินจึงได้พูดกับตัวเอง “จะว่าไปคนที่มีความสามารถในการพูดจาชักแม่น้ำทั้งห้าเช่นนี้ก็เหมาะกับซ่งอิงไม่น้อยเลยทีเดียว”
เพียงแต่เมื่อพูดจบ ซ่งสวินพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
ซ่งอิงไปพร้อมกู้หมิงเป่า!
แม้กล่าวได้ว่าเป็นเพียงการไปดูบ้านสวนด้วยกันเท่านั้น แต่เมื่อก่อนเขาก็เคยได้ยินคนพูดกันว่าฮ่องเต้มีประสงค์ให้คุณหนูกู้เป็นคู่ครองฮั่วเจ้ายวน หากสถานการณ์เช่นนี้บรรจบเข้าด้วยกัน คงยากจะเลี่ยงไม่ให้เกิดข้อครหาได้
ซ่งสวินรู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย คิดๆ ดูก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว เขาจึงควรพักผ่อนได้แล้ว
เดิมทีอยากให้ลู่ข่ายไปร่วมสนุกด้วยกันสักหน่อยก่อนจะแต่งงาน แต่เมื่อคิดดูอีกที เขาไม่เหมาะจะไปข้องเกี่ยวกับการแต่งงานของตระกูลลู่ในครั้งนี้ จึงล้มเลิกความตั้งใจไป
แต่เขาก็ไม่รู้จักสตรีคนอื่นๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้เลยจริงๆ
หลังจากลังเลอยู่ครึ่งค่อนวัน จึงส่งเทียบเชิญไปยังจวนจงกั๋วจง เชิญพี่ชายแท้ๆ ของกู้หมิงเป่าร่วมทางไปด้วยกัน
หากพี่ชายน้องสาวล้วนอยู่ด้วยทั้งหมด ก็จะไม่ดูไม่งามจนเกินไป
พี่ชายแท้ๆ ของกู้หมิงเป่าผู้นี้อายุไม่มากนักเช่นกัน ปัจจุบันอายุไล่เลี่ยกับซ่งสวิน
จู่ๆ ก็ได้รับเทียบเชิญ เขายังประหลาดใจยิ่งอยู่พักใหญ่ เพียงแต่ติดที่ผู้อาวุโสในตระกูลชอบซ่งอิง ดังนั้นจึงปล่อยให้เทียบเชิญของตระกูลซ่งคอยเก้อไม่ได้ จึงเปิดออกอ่านสักหน่อย
ครั้นพบว่าน้องสาวของตนไปหมู่บ้านสวนชานเมืองกับภรรยาของฮั่วเจ้ายวน เขาก็รีบเคลื่อนไหวทันทีทันใด
เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตและหากเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ท่านอ๋องฮั่ว ในเมื่อไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้วก็ควรต้องอยู่ให้ห่างๆ ไว้หน่อยจึงจะเป็นการดี
เพียงแต่ซ่งสวินผู้นี้…เป็นใครกัน
ใส่ใจเรื่องของน้องสาวเขาไม่น้อยทีเดียวนี่
ตอนที่ 844 โมโหจะเป็นลม
หมู่บ้านสวนชานเมืองของซ่งอิงแห่งนี้ห่างจากเมืองหลวงประมาณยี่สิบลี้ หลักๆ เป็นที่ดินดอนมากหน่อย ในตอนนี้อากาศหนาวเย็นจึงยังไม่ได้ปลูกหญ้า ปัจจุบันแกะเหล่านี้ล้วนอาศัยกินของที่เพาะปลูกจากในช่องว่างระหว่างมิติของนาง
นางซื้อแกะมาทั้งสิ้นแปดร้อยตัว เป็นแกะขนยาวเสียส่วนมาก มีทั้งขนแกะละเอียดตลอดจนหยาบ ปัจจุบันระดับความยาวของขนแกะเหล่านี้ถือว่าไม่เลวเลย โดยเฉพาะหลังจากกินหญ้าจากในช่องว่างระหว่างมิติของนาง แต่ละตัวอ้วนกลมดิก มองดูน่ารักอย่างยิ่ง
แกะจำนวนมากขนาดนี้แน่นอนว่าต้องมีจ่าฝูงสักตัว
ตอนที่เพิ่งซื้อแกะพวกนี้กลับมา ซ่งอิงให้พวกมันกินดีดื่มดีสารพัดและให้ต้าหวงเรียกพวกมันมาชุมนุมบริเวณเดียวกันและคอยตะโกนเสียงดังพูดคุยกับพวกมันทุกๆ วัน
แกะหลายชนิดเพราะถูกคนเลี้ยง ดังนั้นหากเกิดสติปัญญาเฉียบแหลมส่วนใหญ่ก็จะฟังภาษาคนได้
ตอนนี้ก็ไม่ได้เสียแรงเปล่า ในหมู่แกะแปดร้อยตัว มีห้าตัวเกิดสติปัญญาเฉียบแหลม สัตว์เลี้ยงเล็กๆ ประเภทนี้เป็นเช่นนี้ได้ตามจริงก็นับว่าไม่เลวแล้ว
ส่วนแกะที่เหลือเหล่านั้นแน่นอนว่าคงเป็นการยากแล้วที่จะเกิดสติปัญญาชาญฉลาดขึ้นมาได้บ้าง
พรสวรรค์ติดตัวไม่ดี กินของดีให้มากเท่าไรก็เปล่าประโยชน์
กู้หมิงเป่ากับซ่งอิงมาถึงหมู่บ้านสวนแห่งนี้กลับพบว่านอกจากข้าทาสของหมู่บ้านที่ถูกขายทิ้ง ก็เหลือคนไม่กี่คน มีข้ารับใช้ชายให้เห็นเพียงประปราย มองดูแล้วไม่ครึกครื้นเลยสักนิด
“พี่ซ่ง ท่านถูกคนหลอกแล้วหรือไม่ ที่แห่งนี้…ไฉนจึงไม่มีแม้แต่นาขาวล่ะ แม้ว่าที่ดินดอนก็ดูไม่เลว แต่พืชพันธุ์ที่ปลูกตามที่นาอุดมสมบูรณ์ต่างหากจึงจะมีมูลค่าสูง” กู้หมิงเป่าเผยสีหน้าไม่เข้าใจ “อีกทั้ง ท่านบอกกับข้าว่าเลี้ยงแกะไว้แปดร้อยตัวมิใช่หรือ แล้วใครเป็นผู้ดูแลเล่าเจ้าคะ”
“แกะแสนรู้มาก ข้าจึงไม่ต้องกังวลใจ” ซ่งอิงคลี่ยิ้มกว้าง
“…” กู้หมิงเป่ารู้สึกว่าซ่งอิงกำลังล้อเล่น
เพียงแต่ว่าการตกแต่งของบ้านสวนแห่งนี้ไม่เลวจริงๆ มองพริบตาแรกก็รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นหลังที่สร้างขึ้นมาใหม่
“พี่ซ่ง ท่านไม่ได้เอาเงินมาสร้างบ้านใหม่ทั้งหมดแล้วกระมัง เช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ สร้างบ้านไม่ใช่ปัญหาก็จริง แต่เรื่องคนงานก็ต้องทำให้เป็นจริงเป็นจัง มิหนำซ้ำยังไม่มีคนดูแลบัญชี แกะก็ไม่มีคนคอยดูแล หายไปจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ” กู้หมิงเป่ากังวลใจจะแย่
ซ่งอิงหาเงินได้ด้วยตัวเองจำนวนมากขนาดนี้จริงๆ หรือ
ทำไม ณ ขณะนี้นางรู้สึกว่าสวนว่านหลิงแห่งนั้นต้องขาดทุนเป็นแน่!
“ต่อให้ข้าไม่ได้ปลูกพืชพันธุ์ด้วยตนเอง แต่ข้าก็ยังมีหมู่บ้านสวนอยู่ด้วยเช่นกัน ข้าเคยได้ยินครอบครัวชาวนาเอ่ยว่าในฤดูหนาวต้องพลิกหน้าดินสักหน่อย พอปีถัดไปจะช่วยให้ปลูกได้ดี ท่านจะปล่อยเอาไว้อย่างนี้ได้อย่างไรกัน” กู้หมิงเป่าคลึงหว่างคิ้ว
“ไม่รีบร้อน ไม่รีบร้อน ไว้อากาศอุ่นขึ้นหน่อย หว่านเมล็ดหญ้าก็ใช้ได้แล้ว” ซ่งอิงเผยสีหน้าสบายๆ
“…” กู้หมิงเป่าเบิกตาโตชั่ววูบด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “หญ้าทั้งหมดเลยหรือ! ไร่สวนใหญ่โตขนาดนี้ ท่านจะไม่ปลูกข้าวสารธัญพืชหน่อยหรือ”
“ก็นี่คือบริเวณเลี้ยงสัตว์ จะปลูกข้าวสารธัญพืชทำไมล่ะ นอกจากนี้ก็เว้นพื้นที่เอาไว้หน่อยแล้วด้วย” ซ่งอิงสีหน้าจริงจัง
“แบ่งเอาไว้หน่อยหรือ พื้นที่ผืนนั้นที่ข้าเพิ่งเห็นรวมๆ กันแล้วก็ประมาณห้าสิบหมู่กระมัง” กู้หมิงเป่าเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ “ข้าว่าข้าทาสคงมีประมาณเจ็ดแปดครอบครัว ท่านเหลือให้พวกเขาแค่นี้เองหรือ”
“ก็พอแล้วนี่?” ซ่งอิงทำตาปริบๆ
ครอบครัวข้าทาสเหล่านี้แตกต่างกับครอบครัวผู้เช่าที่ดินทำไร่ทำนาอยู่บ้าง
ก็เพราะเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของนาง ถึงแม้นางไม่ให้พวกเขาทำการเพาะปลูก ปกติให้ของกินของดื่มตลอดจนเงินค่าแรงก็เพียงพอแล้ว
เพียงแต่ข้าวสารธัญพืชที่มีในครอบครัวอาจจะไม่ค่อยเพียงพอ ซ่งอิงจึงเว้นเอาไว้ให้หน่อยเพื่อให้พวกเขาได้ปลูกข้าวสารธัญพืชกินกันเอง แต่ก็เหลือให้มากเกินไปไม่ได้ เพราะเมื่อเก็บขนแกะได้แล้ว ถึงตอนนั้นยังต้องให้พวกเขาทำงานให้อีก ซึ่งแน่นอนว่านางก็ให้เงินค่าจ้างด้วยเหมือนกัน
กู้หมิงเป่าถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่านางพูดอย่างไรซ่งอิงก็มีท่าทีหัวรั้นท่าเดียว ทำให้นางโมโหจนเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ซ่งอิงก็พานางไปดูแกะ
ครั้นเห็นแกะหนึ่งฝูงใหญ่ กู้หมิงก็เป่าโมโหเกือบจะเป็นลม