ตอนที่ 853 ขับไล่ออกมา
องค์หญิงชิงลั่วคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนวางยาพิษ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นถึงงานเลี้ยงในพระราชวัง งานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ใครจะกล้าหรือ!
ดีที่พรุ่งนี้ก็คือเทศกาลปีใหม่ เริ่มต้นปีใหม่ หากฮ่องเต้โมโหและคิดจะลงโทษ อย่างน้อยก็ต้องคอยหลังจากนี้ไปอีกสามสี่วัน…
เมื่อองค์หญิงชิงลั่วนึกมาถึงตรงนี้ ก็รีบคว้ามือของหมัวมัวเอาไว้ “หมัวมัว ท่านพาข้าไปขอให้ฮ่องเต้อภัยโทษให้เถอะนะ! ไม่แน่ว่าฮ่องเต้จะไม่ถือโทษเอาความก็ได้ ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอยู่หน้าตำหนักใหญ่ก็ได้… ข้า เมื่อครู่ข้าก็แค่เมาสุรา หลังจากเมาสุราก็เลยขาดสติเท่านั้นเอง ข้าไม่จะแต่งงานกับฮั่วเจ้ายวน ไม่แต่งแล้ว!”
หากตอนนี้นางยังดื้อดึงไม่ยอมรับผิดอีก เช่นนั้นฮ่องเต้ต้องยิ่งเดือดดาลแน่
วิธีเดียวก็คือยอมรับผิด ยอมรับผิดอย่างไม่หยุด เช่นนี้จึงยังจะพอรักษาฐานะองค์หญิงของนางเอาไว้ได้!
นางรู้เช่นกันว่านางซึ่งเป็นบุตรสาวบุญธรรมของฮองเฮาเช่นนี้ ถึงแม้มีฐานะเป็นองค์หญิง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความสำคัญ แต่หลายปีมานี้นางเป็นองค์หญิงจนเคยตัวแล้ว หากมีวันใดวันหนึ่งฮ่องเต้ยึดคืนบรรดาศักดิ์ของนาง นางควรจะทำอย่างไร!
หรือว่าต้องกลับไปตระกูลเสิ่นและทนมองสีหน้าแต่ละคน!
องค์หญิงชิงลั่วเตรียมจะไปทำตามที่คิดทันที แต่น่าเสียดาย ครั้งนี้ฮ่องเต้โกรธอย่างไม่ธรรมดา
ก่อนยามเที่ยงคืน ก็ให้คนส่งพระราชโองการลงมา
เห็นแก่คุณงามความดีของบิดามารดาเสิ่นชิงลั่ว แม้นางขาดคุณธรรมหลังจากเมาสุรา ก็จะไม่ถือสาเอาความในถ้อยคำเหลวไหลที่ออกมาจากปาก เพียงแต่บัดนี้รับเลี้ยงดูนางแทนแม่ทัพเสิ่นจนบรรลุนิติภาวะแล้ว อีกทั้งเห็นว่าองค์หญิงคะนึงถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับ จึงขอยึดคืนบรรดาศักดิ์และคฤหาสน์ ลดทอนตำแหน่งเป็นเสี้ยนจู่[1] และให้บุตรชายเพียงคนเดียวของแม่ทัพเสิ่นมารับตัวกลับไป
หลายปีมานี้กล่าวได้ว่าองค์หญิงชิงลั่วได้รับเกียรติและความรักใคร่เอ็นดูอย่างถึงที่สุด
นางเคยแต่งงานมาแล้ว แม้ว่าราชบุตรเขยเสียชีวิตไปแล้ว ทว่านางก็มีจวนองค์หญิง ถึงแม้เป็นเช่นนี้ ฮองเฮาเห็นนางผู้เยาว์วัยอยู่เป็นม่ายก็รู้สึกสงสารอย่างยิ่ง จึงรับนางกลับเข้ามาอาศัยอยู่ในวังหลวง ได้รับการปฏิบัติระดับนี้ คนอื่นเทียบได้ที่ไหนกัน
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!” องค์หญิงชิงลั่วได้ยินดังนั้ คนทั้งคนแทบจะเสียสติ “ฮ่องเต้ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ข้าผิดไปแล้วจริงๆ!”
ถึงอย่างไรที่ผ่านมาฮองเฮาก็เลี้ยงดูนาง ในเวลานี้จึงแวะมามองดูนางสักหน่อยเช่นกัน
เห็นนางฟุบอยู่กับพื้น น่าสงสารจับใจ จึงถอนหายใจออกมา “ถ้ารู้แบบนี้ก็คงไม่ทำแต่แรกสินะ”
“เสด็จแม่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าอีกแล้ว ข้าจะเชื่อฟังท่าน จะเลือกราชบุตรเขยคนใหม่ ข้าไม่แข่งกับซ่งซื่อแล้วเพะคะ…”
“ชิงลั่ว เจ้าไม่ได้ผิดที่แข่งกับซ่งซื่อ หากแต่เพราะไม่เห็นความสำคัญของภาพลักษณ์ราชวงศ์เรา! ครั้งนี้เราไม่อาจให้อภัยเจ้าได้แล้ว!” ฮองเฮาชักสีหน้าเย็นชากล่าว
หากเรื่องราวเกิดขึ้นในสถานการณ์อื่น หรือแม้กระทั่งนางลอบกระทำเรื่องผิดๆ เช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็ไม่เท่าไร แค่ไม่เผยออกมาสู่ภายนอกก็เป็นอันใช้ได้
แต่ครั้งนี้นางกระทำเรื่องราวต่อหน้าผู้คนตั้งมากมายเพียงนั้น
นี่ไม่เท่ากับการป่าวประกาศให้รู้ทั่วหล้าว่า นาง องค์หญิงในราชวงศ์ต้องการทำให้สามีภรรยาอื่นแตกแยก และมีจิตใจอันชั่วร้ายหรอกหรือ!
หลังจากนี้องค์หญิงคนอื่นๆ ในพระราชวังจะแต่งงานได้อย่างไร ใครยังจะกล้าเป็นราชบุตรเขยอีกเล่า!
“เสด็จแม่…” องค์หญิงชิงลั่วร้องไห้จนสะอึกสะอื้น
“ตัวเรายอมให้เจ้าเรียกเช่นนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้อย่าได้เรียกผิดอีก” ฮองเฮามองนาง จากนั้นกล่าวอีกครั้ง “อย่าหาว่าเราไม่สงสารเจ้าเลย แม้ว่าเจ้าถูกลิดรอนบรรดาศักดิ์และคฤหาสน์ แต่หลายปีมานี้ฮ่องเต้ก็ให้สิ่งของเป็นรางวัลแก่เจ้าไม่น้อยเช่นกัน ข้าได้ยินมาว่าน้องชายเจ้าผู้นั้นแม้มิใช่ผู้มากความสามารถ แต่ก็เป็นผู้มีเหตุมีผล เจ้ากลับไปครั้งนี้ เขาต้องหาคนจากครอบครัวที่เหมาะสมให้เจ้าได้เป็นแน่…”
แววตาองค์หญิงชิงลั่วเลื่อนลอยเล็กน้อย
“คนที่เหมาะสม…เสด็จแม่ ท่านก็รู้ว่าเขาไม่ได้ทั้งวิชาความรู้และไม่เป็นศิลปะการต่อสู้ บัดนี้เป็นเพียงคนไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ หากมิใช่เพราะก่อนท่านพ่อข้าตายไปทิ้งสมบัติในตระกูลไว้ให้ ปัจจุบันเขาก็คงไม่ต่างจากสามัญชนทั่วไป แล้วจะหาคู่ครองจากตระกูลดีๆ ให้ข้าได้อย่างไร! อีกทั้งเสด็จแม่ เขากับข้าไม่ได้เกิดจากมารดาคนเดียวกัน เขาจะทุ่มเทแรงใจเพื่อข้าจริงๆ ได้อย่างไรเพคะ”
ตอนที่ 854 กลับบ้าน
ในฐานะบุตรชายคนเดียวของแม่ทัพเสิ่น ตอนแรกด้วยความสามารถของบุตรชายนอกสมรสผู้นั้นก็ได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ได้
เพียงแต่ติดที่เด็กคนนั้นร่างกายไม่ดีจริงๆ เกรงว่าบรรดาศักดิ์ที่ใหญ่โตขนาดนั้นจะเกินวาสนาของเขา ฮ่องเต้จึงได้ล้มเลิกไปและเปลี่ยนมาแต่งตั้งเสิ่นชิงลั่วแทน…
ฮองเฮาคิดว่าเด็กคนนี้คล้ายเป็นโรคจิตไปแล้ว
“เดิมทีเจ้าก็คือหญิงในตระกูลเสิ่น บัดนี้อย่างน้อยเจ้าก็ยังมีบรรดาศักดิ์อย่างเสี้ยนจู่แล้ว ยังมีอะไรไม่พอใจอีกเล่า อีกทั้งญาติพี่น้องคนอื่นๆ ของตระกูลเสิ่นก็ยังอยู่ ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นพี่สาวของน้องชายเจ้าผู้นั้น เขารังแกเจ้าไม่ได้หรอก” ฮองเฮาถอนหายใจ “คืนนี้เจ้าเก็บสัมภาระให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เช้าค่อยไปจวนองค์หญิงแล้วขนข้าวของออกไปเสีย ตัวเราถือว่าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างมีเมตตามากแล้ว”
หากไม่ใช่เพราะนางเอ็นดูบุตรสาวบุญธรรมผู้นี้ ตอนแรกยามที่ชิงลั่ว…ข่มเหงราชบุตรเขย นางก็คงลงมือไปแล้ว
ราชบุตรเขยองค์หญิงชิงลั่วผู้นั้นในตอนแรกก็เป็นมากพรสวรรค์ทางวิชาการคนหนึ่ง เพียงแต่เพราะกลายเป็นราชบุตรเขยจึงหมดเส้นทางในหน้าที่การงานใหญ่โต เดิมทีอีกฝ่ายก็ทุ่มเทสิ่งดีงามให้มากมายและยิ่งดีตรงที่ชายผู้นั้นเป็นคนรู้ประสีประสา ทว่าน่าเสียดายที่มาเจอคนอย่างชิงลั่ว
หลังจากชิงลั่วแต่งงานกับเขา นางมักจะถูกตำหนิจากคนในตระกูลแม่สามีบ่อยครั้ง เป็นผลให้ราชบุตรเขยที่เป็นคนกลางวางตัวลำบาก นางแทรกแซงเรื่องการแต่งงานของน้องสาวสามี เป็นผลให้เด็กสาวคนนั้นแต่งงานกับคนผิด ชีวิตทุกข์ยากลำบาก
นางเมินเฉยราชบุตรเขยและดูถูกว่าราชบุตรเขยไม่เอาไหนอยู่บ่อยๆ
เรื่องเหล่านี้ นางผู้เป็นฮองเฮาจะไม่รู้ได้อย่างไร
เพียงแต่สงสารที่นางสูญเสียบิดามารดาตั้งแต่ยังเด็ก จึงเข้าข้างนางมากไปหน่อย
ถึงกระทั่งเพื่อความสุขของเด็กคนนี้ ฮ่องเต้จึงเรียกราชบุตรเขยเข้าเฝ้าสามสี่ครั้ง ให้ราชบุตรเขยอดทนและยอมให้นาง
หากไม่ใช่เพราะคุณงามความดีที่แม่ทัพเสิ่นช่วยชีวิตฮ่องเต้เอาไว้ มีหรือนางจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
บัดนี้กลายเป็นว่านางไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ทำให้ทั้งราชวงศ์อับอายขายหน้า เรื่องของวันนี้ไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ต้องการยึดบรรดาศักดิ์นาง หากแต่เป็นทั้งราชวงศ์!
เรื่องนี้ไม่เหลือที่ให้โต้แย้งแล้ว
ฮองเฮาพูดจบก็เดินจากไปทันที เสิ่นชิงลั่วโมโหยกใหญ่ ดีดดิ้นทุรนทุรายกับพื้น
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น คนผู้นี้ยังคงไม่ไปไหน นางแสร้งทำเป็นเสียสติ ร้องขอความเห็นใจจากฮ่องเต้
ฮ่องเต้เป็นคนแข็งกร้าวผู้หนึ่ง ครั้นได้ยินเกี่ยวกับปฏิกิริยาเสิ่นชิงลั่วหลังจากได้รับพระราชโองการ ก็ตำหนิคนกลุ่มหนึ่งว่าจัดการเรื่องราวไม่ราบรื่น ไม่นึกเลยว่าจะปล่อยให้เสิ่นชิงลั่วเอะอะโวยวายเช่นนี้ ในเมื่อนางไม่อยากเก็บข้าวของไปเสีย เช่นนั้นก็ไม่ต้องเก็บทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในวังตลอดจนจวนองค์หญิง ให้จับตัวนางขึ้นเกี้ยวแบกกลับไปส่งตระกูลเสิ่นโดยทันทีเสียเลย!
เช่นนี้ เสิ่นชิงลั่วจึงได้อึ้งทึ่งทำอะไรไม่ถูกอย่างแท้จริง
นางรู้สึกเสียใจภายหลังอย่างยิ่ง แต่ก็สายเกินไปแล้ว
น้องชายของเสิ่นชิงลั่วผู้นั้นเป็นคนซื่อตรงผู้หนึ่งจริงๆ ในเวลานี้ได้ยินว่าพี่สาวกลับคืนสู่บ้านก็ไม่ได้ดูถูกดูแคลนใดๆ ทั้งนั้น
กระทั่งคนผู้นี้มาถึงบ้าน เขายังถึงขั้นให้คนรีบช่วยแก้มัด จากนั้นสองสามีภรรยาก็เดินเข้าไปหาและปลอบขวัญ
“ท่านพี่อย่ากลัวไปเลย ตอนนี้น้องก่อร่างสร้างตัวแล้ว มีหน้าที่การงานทางด้านที่ว่าการอำเภอตำแหน่งหนึ่ง คิดว่าเลี้ยงดูท่านพี่ได้ไม่ลำบากเช่นกัน” คุณชายเสิ่นกลัวว่าพี่สาวคนนี้จะคิดสั้น
เขาไม่รู้ว่าคนผู้นี้กระทำผิดอะไร แต่ถึงอย่างไรก็เป็นพี่สาวแท้ๆ
“ไสหัวไป! พวกเจ้าไสหัวไปให้หมด!” เสิ่นชิงลั่วขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน “ล้วนเป็นเพราะเจ้า! ทำไมเจ้ายังไม่ตายอีก! หากเจ้าตายแล้ว ข้าก็จะไม่มีครอบครัวแล้วจริงๆ เสด็จพ่อและเสด็จแม่ก็จะไม่ขับไล่ข้าออกมาอย่างไร้เยื่อใยเยี่ยงนี้!”
สองสามีภรรยาสกุลเสิ่นได้ยินดังกล่าวก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างใหญ่หลวงทันที
“ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรไป ไฉนจึงพูดจาร้ายกาจเยี่ยงนี้ออกมาได้!” คุณชายเสิ่นไม่เข้าใจอย่างยิ่งเช่นกัน “ท่านพี่ ข้าให้คนไปทำความสะอาดเรือนให้ท่านแล้ว ท่านพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ เพียงแค่อย่าได้พูดถ้อยคำประเภทนี้ออกมาอีก มิฉะนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้แล้ว”
เสิ่นชิงลั่วเผยความเคียดแค้นในดวงตา
ช่วยเหลือนางหรือ หากช่วยนางจริง ตอนนั้นยามที่ฮ่องเต้ต้องการรับนางเข้าวัง เขาที่เป็นบุตรชายคนเดียวในตระกูลเสิ่นก็ควรรั้งไว้สิ!
ไม่มีคนรั้งนางไว้ ดังนั้นนางทำได้เพียงเข้าวัง!
น้องชายคนนี้ก็แค่อยากให้นางไปเป็นองค์หญิง จะได้ช่วยยกฐานะตระกูลเสิ่นก็เท่านั้นเอง!
—————————-
[1] เสี้ยนจู่ (县主) ตำแหน่งองค์หญิง หรือท่านหญิง จัดเป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 4