ตอนที่ 805 เนื้อของใครอร่อย
ซ่งอิงมุ่นคิ้ว ตอนนี้นางหงุดหงิดอย่างยิ่ง
นี่ไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย
“อิ๋งอิ๋ง เจ้าออกไปมองดูหน่อย” ซ่งอิงกล่าว
“พี่ซ่ง ไม่ได้นะเจ้าคะ ทางด้านนั้นเป็นหมาป่า ฟังจากเสียงนี้น่าจะมีจำนวนไม่น้อยอีกด้วย นางออกไปแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร หรือไม่…หรือไม่เราก็หลบอยู่ตรงนี้เงียบๆ…” กู้หมิงเป่าหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก
“เจ้าอย่ากลัวจนตัวสั่น ก็แค่หมาป่าเท่านั้นเอง จัดการง่ายกว่าคนเสียอีก เจ้าไม่รู้ว่าทางด้านสวนว่านหลิงแห่งนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่า…อิ๋งอิ๋งทำให้สัตว์ป่าเชื่องได้” ซ่งอิงกล่าวทันควัน
ตอนนี้หู่อิ๋งอิ๋งตรงออกไปแล้ว
ในฐานะเสือขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง เสื้อคลุมกันฝนที่นางสวมใส่อยู่ตอนนี้จึงมองดูไม่ค่อยเข้ากับตัวตนเป็นพิเศษ
“เยอะขนาดนั้นก็ทำให้เชื่องได้เช่นกันหรือ” กู้หมิงเป่ากระวนกระวายใจ
“ไม่มีปัญหา” ซ่งอิงพยักหน้า โอกาสที่ดีงามเพียงนี้นางไม่อาจปล่อยหลุดลอยไปได้ เพียงแต่อยู่ต่อหน้ากู้หมิงเป่า นางไม่สะดวกออกโรงด้วยตัวเอง จึงให้หู่อิ๋งอิ๋งเป็นฝ่ายไป ขู่ให้หมาป่าเหล่านั้นกลัวกลับไปเสียก่อน จากนั้นไว้อีกสองวันนางค่อยออกมาด้วยตนเองสักครั้ง แล้วจัดการหมาป่าเหล่านั้นเอาเข้าไปเลี้ยงในช่องว่างระหว่างมิติ
อาจเพราะซ่งอิงอยู่ในสีหน้าอารมณ์ที่สงบนิ่งเสียเหลือเกิน ในใจกู้หมิงเป่าจึงรู้สึกสงบขึ้นมาก
“พี่ซ่ง เหตุใดไหนท่านจึงกล้าหาญถึงเพียงนี้ล่ะ ทั้งยังเก่งกาจขนาดนี้อีกด้วย” กู้หมิงเป่ารำพึงรำพันด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “หากข้าเป็นเหมือนท่านได้เช่นนี้ก็ดีสิ ต่อให้ทำไม่ได้ ก็ขอให้ภายภาคหน้าได้แต่งกับใครสักคนที่เหมือนท่านเช่นนี้…”
“เช่นนั้นเกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้ ข้ายอดเยี่ยมเพียงนี้ เป็นอะไรที่ลอกเลียนแบบไม่ได้” ซ่งอิงพยักหน้าอย่างจริงจัง
“…” กู้หมิงเป่าอ้าปากพะงาบๆ เล็กน้อย ถึงขั้นหาคำพูดโต้กลับไม่ได้ไปชั่วขณะ!
เพียงแต่ว่าเมื่อซ่งอิงพูดออกมาอย่างนี้ ความวิตกกังวลที่อยู่ในใจนางก็มลายหายไปหมดสิ้น และไม่นึกเลยว่ายังมีอารมณ์หัวเราะออกมาอีกด้วย
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ไม่มีเสียงร้องของหมาป่าที่อยู่ด้านนอกแล้วจริงๆ
ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ยินเสียงฝีก้าวที่เดินเข้ามาอีกด้วย
เมื่อเปิดกระโจมออกมองดู คนพร้อมม้ากลุ่มหนึ่งก็ดาหน้าเข้ามา บนหัวม้าคลุมไว้ด้วยใบไม้ที่ทำเป็นลักษณะคล้ายงอบ และบนตัวทุกคนก็สวมเสื้อคลุมกันฝนอย่างหนาเอาไว้ด้วยเช่นกัน
เมื่อฮั่วเจ้ายวนมาถึง ท้องนภาที่เดิมทีปลุกคุมไปด้วยก้อนเมฆหนาทึบก็เริ่มใสกระจ่างอย่างช้าๆ สายฝนก็ซาลงเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน
“เหตุใดพวกเจ้าจึงอยู่ที่นี่” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยปากถาม
“มาปักธูปเซ่นไหว้น่ะสิ!” ตอนนี้ซ่งอิงรู้สึกเศร้าใจอย่างแท้จริง
นางมีชีวิตเติบใหญ่มาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัวเองอาจเป็นส่วนเกิน ผักกาดขาวยังไม่น่าเวทนาเท่านางเลย
“ข้าหมายความว่า… เหตุใดตรงนี้จึงฝนตก” หลังจากฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถามจบก็รู้สึกว่าคำพูดนี้ของตนไม่ถูกต้อง “บริเวณนี้ไม่ค่อยปกติ ถัดออกไปไม่กี่ร้อยเมตรก็เป็นท้องฟ้ากระจ่างใส… ข้าได้ยินความเคลื่อนไหวบางอย่าง จึงได้ลองมาดู”
เดิมทีเขาคิดอยู่ว่า บริเวณนี้จะปรากฏปีศาจออกมาอีกแล้วหรือไม่
เมื่อมองเห็นซ่งอิง วินาทีนั้นเขาถึงกับสงสัยว่าความเคลื่อนไหวที่ใหญ่โตนี้เป็นฝีมือนาง แต่ในนาทีถัดมา เห็นดวงตาที่บริสุทธิ์คู่นั้นของนาง ทันใดนั้นก็รู้ว่าในตอนนี้นางกำลังกลัดกลุ้มอย่างยิ่งเช่นกัน
กู้หมิงเป่าไม่รู้เช่นกันว่าคนผู้นี้คือใคร เพียงแต่รู้สึกว่าคนผู้นี้เป็นสิริมงคลไม่น้อย
“พี่ซ่ง ฝนหยุดแล้ว” กู้หมิงเป่าชี้นิ้วไปทางฟากฟ้า
ไม่มีหมาป่าแล้ว ฝนก็หยุดแล้ว หากไม่ใช่เพราะมีคราบน้ำบนพื้น นางยังจะสงสัยว่านี่เป็นแค่ความฝันฉากหนึ่งหรือไม่
ซ่งอิงรู้ว่าบริเวณใกล้เคียงท้องฟ้าแจ่มใส แต่เมื่อครู่ฝนนี้ติดตามพวกนางมา
นางถอนหายใจ จากนั้นเคลื่อนสายตาไปบริเวณด้านหลังของฮั่วเจ้ายวน บริเวณนั้น… มีคนผู้หนึ่ง มองดูมีแสงสีทองระยิบระยับเล็กน้อย อีกทั้ง เท้าไม่แตะพื้น?!
วิญญาณหรือ ดูเหมือนจะไม่ใช่
“ซ่งซื่อผู้นี้เป็นปัญหาอยู่บ้างจริงๆ อย่างที่คิดไว้ ไม่นึกเลยว่าจะไปเจอกับคุณหนูกู้อีกแล้ว เหลือเกินจริง…” ‘วิญญาณ’ ตนนั้นบ่นอุบอิบ
ซ่งอิงได้ยินชัดถ้อยชัดคำ แต่ดูจากปฏิกิริยาของคนอื่น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สังเกตเห็นคนผู้นั้น
วิญญาณ? คล้ายกับว่าไม่ค่อยเหมือน การประเมินวิญญาณในสมองนางน่าจะ… ดูอัปลักษณ์หน่อย แต่อีกฝ่ายกลับมีลักษณะของความเป็นเซียนอยู่เล็กน้อย!
เซียน?!
ซ่งอิงตาลุกวาว กินเนื้อของฮั่วเจ้ายวน กับกินเนื้อเทพเซียนที่เหาะได้ อย่างหลังจะอร่อยกว่าหน่อยหรือไม่
ตอนที่ 806 เจตนาที่ดีกลายเป็นเครื่องในของลา
เพียงแต่ ซ่งอิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าเซียนตนนี้จ้องมองกู้หมิงเป่าทำไม
“ท่านเทพชางเวยนี่ไม่ได้สายตามีปัญหากระมัง ซ่งซื่อผู้นี้เทียบกับคุณหนูกู้ยังห่างชั้นกันไกลเชียวนะ ซ่งซื่อผู้นี้อายุก็มาก นิสัยก็ดุดัน คุณหนูกู้ดีจะตาย นุ่มนวลอ่อนโยนและงามหยาดเยิ้ม…” เซียนตนนั้นถึงกับเท้าคางครุ่นคิดขึ้นมาเสียด้วย
ซ่งอิงเม้มปาก
ไม่ได้การ นางอยากเล่นงานคนเหลือเกิน
แต่นางจำเป็นต้องอดกลั้นเอาไว้
“ใต้เท้าฮั่ว ท่านว่าสายฟ้านี่อยากจะผ่าข้าให้ตายหรือไม่ เมื่อครู่ข้าเพิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าสายฟ้าอยากจะฟาดลงมาที่หัวของข้าอย่างไรอย่างนั้น” ซ่งอิงเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด
เซียนตนนั้นได้ยินดังกล่าวก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ไม่น่ากระมัง เรื่องแบบนี้ยังคาดเดาได้ด้วยหรือ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนฉลาดเฉลียวเสียด้วย มิน่าล่ะ จึงมาเป็นตัวแปรตัวหนึ่ง”
นางเป็นตัวแปรหรือ
ซ่งอิงสบถฮึ
“สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ เจ้าอย่าคิดฟุ้งซ่านไปเลย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวปลอบใจ “พวกเจ้าสองคนยังจะไปปักธูปเซ่นไหว้อีกหรือไม่ ข้าจะได้อารักขาส่งพวกเจ้าขึ้นไปเอง”
“ท่านคือใต้เท้าฮั่วหรือ!” หลังจากกู้หมิงเป่ารับรู้ก็กล่าวด้วยความตระหนกตกใจ
ฮั่วเจ้ายวนตะลึงงัน ในเวลานี้เองถึงเพิ่งสังเกตเห็นกู้หมิงเป่า ครั้นมองเห็น ฮั่วเจ้ายวนชะงักงันไปชั่วครู่ ไฉนจึงคุ้นตาเพียงนี้!
เขาเหม่อมองอยู่พักหนึ่ง ส่วนเซียนตนนั้นกลับคลี่ยิ้มออกมา “คราวนี้จะต้องถูกตาต้องใจแล้วเป็นแน่ แม้ว่าหมาป่าฝูงนั้นไม่เอาไหนไปหน่อย จึงไม่ได้นำพาวีรบุรุษมาช่วยชีวิตสาวงาม แต่ความฝันก่อนหน้านี้ก็น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง…”
ตอนนี้ซ่งอิงเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว
ฮั่วเจ้ายวน เป็นเทพเซียนลงมาจุติ หลังจากคนเขาลงมาจุติก็ยังมีคู่ชีวิตส่งมาให้ด้วย
คู่ชีวิตที่ว่านี้ ไม่ใช่นาง หากแต่เป็นกู้หมิงเป่า!
เมื่อคิดดูอย่างละเอียด หากนางไม่อยู่ ฮั่วเจ้ายวนก็มีความเป็นไปได้จริงๆ ว่าจะได้มีความสัมพันธ์แต่งงานกับกู้หมิงเป่า เพียงแต่ทำไมจึงเป็นกู้หมิงเป่าล่ะ หรือว่าเพราะกู้หมิงเป่าร่างกายไม่แข็งแรงและถูกกำหนดให้เสียชีวิตไว จะมีส่วนช่วยในเรื่องราวที่ฮั่วเจ้ายวนต้องลงมาจุติ
ในเวลานี้ในใจซ่งอิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
เซียนเหล่านี้ไม่ปกติ!
“ท่านมองอะไรหรือ” ซ่งอิงเลิกคิ้ว
ฮั่วเจ้ายวนกะพริบตาเล็กน้อย “เพียงแค่รู้สึกว่าคุณหนูกู้ดูคุ้นตาเล็กน้อย”
“ต้องคุ้นตาอยู่แล้วสิ ฝันเห็นแล้วกระมัง ผู้ชายน่ะ เข้าใจเรียบเรียงคำโกหกมดเท็จ” ซ่งอิงกลอกตามองบนใส่
ครั้นเซียนผู้นั้นได้ยินดังกล่าวก็สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง “นี่จะต้องเป็นความบังเอิญแน่ๆ…”
ฮั่วเจ้ายวนไม่รู้สึกผิดสักนิดเมื่อถูกนางดุใส่ แต่เมื่อเห็นนางเอะอะเช่นนั้นก็รู้สึกถึงความดีใจเล็กน้อยในใจ “เป็นข้าเองที่ล่วงเกินไปแล้ว”
“เช่นนั้นไปกันเถอะ” ซ่งอิงสถบฮึ
กู้หมิงเป่างุนงงสับสนเล็กน้อย ในตอนนี้เพื่อ ‘คุยซุบซิบ’ จึงมานั่งรถลากับซ่งอิงเป็นการเฉพาะ ความประหลาดใจพลุ่งพล่านในใจ ดวงตาคู่หนึ่งทอประกายแวววาว “นี่ก็คือใต้เท้าฮั่วสินะ ต่างกับที่ข้าคิดไว้จริงๆ ข้ายังนึกว่าจะเป็นหนุ่มใหญ่ร่างกำยำที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราและรอยแผลเป็นจากคมดาบเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะหน้าตา…ใช้ได้เลย”
“ก็ไม่เลวจริงๆ” ซ่งอิงพยักหน้า “มิใช่ว่าเจ้ามีความรู้สึกดีๆ กับเขาแล้วกระมัง”
นางเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา ครั้นกู้หมิงเป่าได้ยินก็หน้าแดงก่ำในทันที “เปล่า! พี่ซ่ง ท่านอย่าลืมไปสิว่าเขามีภรรยาเอกแล้ว! ซึ่งว่ากันว่าภรรยาผู้นั้นเป็นผู้ที่ถูกกำหนดเอาไว้เมื่อยามที่เขาเด็กๆ และคิดๆ ดูแล้วคงจะมีความรู้สึกรักใคร่กันอย่างยิ่งเป็นแน่”
กู้หมิงเป่าเป็นคนหนึ่งที่มีความชัดเจนโปร่งใส และทำเรื่องประเภทแย่งสามีคนอื่นไม่ได้ด้วยเช่นกัน
“อีกทั้ง ในเมื่อข้ารู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว จะเกิดความนึกเรื่องอื่นขึ้นมาได้อย่างไรกัน เพียงแต่ว่าแค่รู้สึกว่าคนผู้นี้แตกต่างจากที่คนอื่นพูดถึง จึงรู้สึกเห็นใจเขาเล็กน้อยก็เท่านั้นเอง” กู้หมิงเป่ากล่าวอีกครั้ง
เรื่องของความรู้สึก ซ่งอิงเองก็พูดยาก
ถึงอย่างไรนางก็บอกกล่าวกู้หมิงเป่าปาวๆ ไม่ได้ว่านางก็คือภรรยาเอกผู้นั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่ได้มีสัมพันธ์กับฮั่วเจ้ายวนเลยสักนิด
หากเอ่ยถ้อยคำนี้ออกไป เช่นนั้นก็จะเป็นการเห็นหัวใจดวงหนึ่งของฮั่วเจ้ายวนเป็นเครื่องในของลา[1] ราวกับว่านางจงใจอยากจะเปิดทางให้ และอาจเลี่ยงถูกผู้คนดูถูกเหยียดหยามไม่ได้
—————————-
[1] เจตนาที่ดีกลายเป็นเครื่องในของลา (好心当成驴肝肺) หมายถึง มีเจตนาที่ดีช่วยเหลือผู้อื่น แต่อีกฝ่ายกลับเข้าใจผิด ว่านี่คือเจตนาที่ไม่ดี