ตอนที่ 857 ไม่ใช่ราชันปีศาจ
ซ่งอิงจนปัญญาเช่นกัน เสื้อผ้าที่ทอจากขนสัตว์เหล่านี้เป็นถึงงานฝีมือ แน่นอนว่าต้องสอนให้คนที่ซื่อสัตย์ ดังนั้น ณ ตอนนี้ก็มีแค่ครอบครัวข้าทาสเหล่านี้ในหมู่บ้านที่ทำเป็น
ขาดแคลนคนทำงาน นางคงต้องเร่งทำเวลาเพาะเลี้ยงปีศาจน้อยจึงจะได้เรื่อง
จะว่าไปในช่องว่างระหว่างมิติก็มีปีศาจที่สติปัญญาเฉียบแหลมอยู่ไม่น้อย นางเก็บตัวสองสามวันนี้ก็คง ‘ทำให้ผลผลิตสุกงอม’ ได้สักหน่อย
“นี่เป็นเพียงชุดแรกเท่านั้น ทางด้านเมืองหลวงค่อนข้างหนาวเย็น ถุงมือและถุงเท้าขนแกะนี้ใช้ได้จนถึงช่วงเดือนสี่ อีกทั้งใกล้สอบคัดเลือกขุนนางแล้ว ข้าจะทำออกมาหนึ่งชุดใหญ่ๆ ก่อนผู้เล่าเรียนเหล่านั้นสอบคัดเลือกขุนนาง ถึงตอนนั้นค่อยแบ่งออกมาให้เจ้ามากหน่อยแล้วกัน” ซ่งอิงบีบๆ แก้มของกู้หมิงเป่า
“เช่นนั้นตกลงตามนี้นะ ข้าต้องการสีแดงแสดประเภทนี้ เอามาหลายคู่หน่อยจะได้สะดวกแก่การเปลี่ยนใส่ด้วยเช่นกัน” เกลี้ยกล่อมกู้หมิงเป่าไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ซ่งอิงพยักหน้ารัว
ซ่งอิงไม่ได้คิดปิดบังกู้หมิงเป่าในส่วนความสามารถของการถักทอของพวกนี้ แต่กู้หมิงเป่าเป็นผู้หนึ่งที่หัวแหลมมาก นางรู้ว่าของพวกนี้เป็นสิ่งที่ซ่งอิงเตรียมเอามาหาเงิน เพื่อเลี่ยงการเอาเปรียบ จึงไม่ได้มองดูมากนักด้วยซ้ำ
ตอนเย็น ซ่งอิงไม่ได้อยู่บำเพ็ญเพียรในเรือนของตน แต่เข้าไปในช่องว่างระหว่างมิติ
ในช่องว่างระหว่างมิติ ก้อนแสงกลมสองก้อนนั้นใหญ่ขึ้นไม่น้อย โดยเฉพาะส่วนที่ออกมาจากร่างของกู้หมิงเป่าก่อนหน้านี้ ตอนนี้ดูแสบตาขึ้นมาก
ส่วนเซียนสองตนนั้น ไม่กินไม่ดื่มก็ไม่หิวตาย แค่พวกเขาดูอ่อนล้าเล็กน้อย นั่งยองอยู่ในกรงวาดเป็นก้อนกลมๆ
ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว พวกเขาไม่เคยเห็นคนนอกเลย
ไม่เพียงเท่านั้น ในสถานที่แห่งนี้ยังดูแปลกประหลาดเป็นพิเศษอีกด้วย
มีอยู่วันหนึ่ง จู่ๆ หิ่งห้อยที่อยู่บริเวณโดยรอบก็หายลับไป หลังจากผ่านไปหลายวันถึงเพิ่งบินกลับมา!
นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ซ่งอิงผู้นี้ปรากฏตัวก็กะทันหันอย่างยิ่ง ถึงขนาดบทจะไปก็ไป ดูเหนือธรรมชาติเสียยิ่งกว่าเทพเซียนอย่างพวกเขาอีก!
สถานที่แห่งนี้ประหลาดมากจริงๆ เดิมทีพวกเขาคาดเดาว่าที่นี่คือหุบเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกล แต่ตอนนี้เห็นทีว่าเหมือนเศษเสี้ยวที่อยู่โดดเดี่ยวผืนหนึ่งเสียมากกว่า!
ตอนนี้ซ่งอิงปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันอีกครั้ง เซียนหลิงเฟิงเอ่ยถามทันที “แม่นางซ่ง ที่นี่…ไม่ใช่โลกมนุษย์กระมัง”
ซ่งอิงไม่สนใจเขา
ในทางกลับกัน นางหย่อนตัวลงนั่งขัดสมาธิด้วยสีหน้าจริงจังแล้วเริ่มบำเพ็ญเพียร
เมื่อนางบำเพ็ญเพียร เซียนทั้งสองตนก็รู้สึกเพียงว่าดวงจันทร์สีเงินนั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกลมขึ้นมากในชั่วพริบตา เรียกได้ว่าท้องนภาและพื้นดินเปลี่ยนสีก็ยังไม่เกินจริง แสงจันทร์ทรงกรดสาดออกมาจากดวงจันทร์สีเงินไม่ขาดสาย และไม่นึกเลยว่ายังกลั่นตัวออกมาเป็นของเหลวชนิดหนึ่ง ก่อนจะกระจายตัวออกมา!
ต้นพืชในที่แห่งนี้โอนเอนไปมา ถึงขั้นเหมือนกับกำลังแก่งแย่งกันรับของดีๆ เหล่านั้น
“ที่แท้เป็นโลกปีศาจ! ที่นี่คือโลกของปีศาจ!” สีหน้าหลิงเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นภาพนี้
ปีศาจมีของล้ำค่ามากมาย เขาจำได้ จำได้ว่า…
มีขวดล้ำค่าใบหนึ่ง ข้างในบรรจุดวงจิตและพลังของปีศาจเอาไว้เต็มเปี่ยม ของที่ว่านั้นเป็นสิ่งที่จักรพรรดิปีศาจคิดค้นออกมาด้วยตนเอง หลายปีก่อนตอนที่โลกปีศาจมีแนวโน้มอ่อนแอ จักรพรรดิปีศาจก็ใช้ของสิ่งนี้เอาโลกปีศาจแอบซ่อนไว้ พาโลกปีศาจหนีไปทั่ว ไม่ว่าใครก็หาไม่เจอ!
เซียนสองตนนั้นยังไม่ทันตระหนกตกใจ ก็เห็นเพียงแสงกลมสองก้อนบนต้นวัฏจักรจู่ๆ ก็ระเบิดแสงโชติช่วงชัชวาลขึ้นมาในชั่วพริบตา ที่แท้เพราะได้ดูดซับของเหลวของจักรพรรดิเอาไว้จำนวนมากนี่เอง
ซ่งอิงรู้สึกเพียงตนเองสบายตัวสบายใจ ในช่องว่างระหว่างมิติแห่งนี้ นางไม่รู้สึกถึงความกดดันอะไรสักนิด ดังนั้นเมื่อบำเพ็ญเพียรขึ้นมาจึงไม่ต่างกับสิ้นเปลืองสติปัญญาน้อยแต่ได้ผลมาก
อีกทั้งตอนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง จันทร์กลมๆ บนท้องนภาทำให้นางมีความอยากอาหารเป็นพิเศษ อยากจะกลืนกินหนึ่งถาดใหญ่ๆ ในคำเดียวทำนองนั้น
ตอนที่นางบำเพ็ญเพียร บนท้องฟ้าและพื้นดิน แล้วยังมีในสระน้ำที่นางขุดเอาไว้ในช่องว่างระหว่างมิติ เกิดแสงระยิบระยับมากมายขึ้นมาต่อเนื่อง และเมื่อมองไปอีกครั้ง ไม่นึกเลยว่าจะปรากฏปีศาจน้อยเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย
“…” หลิงเฟิงงุนงงจนทำอะไรไม่ถูก
ราชันปีศาจไม่มีความสามารถเช่นนี้
ตอนที่ราชันปีศาจบำเพ็ญเพียร แม้ว่าส่งผลกระทบต่อปีศาจน้อยเหล่านั้นได้ แต่ไม่มีทางส่งผลกระทบได้มากขนาดนี้เป็นแน่!
ซ่งอิงผู้นี้ ไม่ใช่ไท่ฉิน หากแต่เป็นจักรพรรดิปีศาจจู๋อิ๋ง!
ตอนที่ 858 แก้วตาดวงใจ
ในขณะนี้เซียนสองตนตัวสั่นเทา ก็รู้สึกว่าตอนนี้เหมือนเป็นความฝันหนึ่ง
เพียงชั่วพริบตาเดียว บริเวณรอบกรงก็มีปีศาจน้อยเพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก
ที่พวกเขาสวมใส่อยู่บนตัวส่วนใหญ่ดูหลากสีสันสดใส มองไปพริบตาเดียวก็มองออกได้ว่าก่อนหน้านี้อาบแสงจันทร์อยู่แห่งหนไหน
เพียงแต่มีปีศาจจำนวนมากที่บินเข้ามาจากบริเวณไกลๆ เช่นกัน
สถานที่แห่งนี้ใหญ่โตเกินไปแล้ว มองไม่เห็นขอบเขตสิ้นสุดเลยด้วยซ้ำ
“พวกเขารูปลักษณ์เหมือนกับพวกเราเลย” หิ่งห้อยตัวเดียวที่เปลี่ยนเป็นปีศาจในร่างคนชี้ไปยังหลิงเฟิงยามเอ่ย
“ไม่เหมือน พวกเราเป็นปีศาจ พวกเขาเป็นเทพเซียน” ปีศาจเถียนชี[1]ส่ายหน้า “เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้หอมอย่างพวกเรา ดมดูจะได้กลิ่นแปลกๆ”
หลิงเฟิงเบิกตาโตชั่วขณะ!
ต้องมีกลิ่นอยู่แล้วสิ ก็ไม่ได้อาบน้ำตั้งหลายวันแล้วนี่!
อยู่ในนี้ใช้วิชาก็ไม่ได้ ถึงแม้เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวป้องกันฝุ่นได้ แต่พวกเขาก็ไม่ใช่เทพเซียนระดับสูงเป็นพิเศษ ที่สวมใส่อยู่ก็ไม่ใช่อาภรณ์ล้ำค่าชั้นยอดอะไรพวกนั้น
ปีศาจเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่โยกย้ายเข้ามาจากข้างนอก ส่วนใหญ่จึงเรียนรู้ภาษาคนได้แล้วด้วยตนเอง
ถึงแม้พูดไม่ได้ ตอนนี้ได้ยินคนอื่นพูดเจี๊ยวจ๊าว ไม่ทันไรก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ที่เปลี่ยนมาเป็นร่างมนุษย์ ตอนที่เปลี่ยนร่างจึงได้จุดเด่นอย่างการพูดภาษาคนติดตัวมาด้วย
หลังจากฝึกฝนบำเพ็ญเพียรอยู่ในนี้เป็นเวลาหนึ่งคืน ซ่งอิงก็ลืมตามอง พบว่ามีปีศาจเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
อีกทั้งปีศาจในครั้งนี้ยังแตกต่างจากครั้งก่อนๆ มีสัตว์ดุร้ายจำนวนน้อยมาก
หากไม่ใช่พืช เช่นนั้นก็เป็นแมลงที่บินได้ ดอกไม้ นกและปลา อีกไม่กี่ตัวที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ส่วนมากล้วนเป็นตัวที่นางจับได้ระหว่างการเดินทางมาเมืองหลวง ตัวอย่างเช่นงูขาว
ที่แท้เพราะในช่องว่างระหว่างมิติแห่งนี้อากาศบริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นพวกพืชก็คงบรรลุได้ไม่ง่ายดายถึงเพียงนี้
ต้องเข้าใจว่าภูตโสมอยู่ข้างนอกใช้เวลาดำรงชีวิตเป็นพันปีกว่าจะบำเพ็ญเพียรจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ไม่ง่ายดายเลยสักนิด
“พี่ใหญ่!” จู่ๆ ซ่งอิงได้ยินเสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นมา
นางมองไปโดยรอบ จากนั้นก็จับจ้องไปที่บนต้นวัฏจักรนั่น ครั้นซ่งอิงยกเท้าขึ้นก็เหาะเหินเข้าไปหา
แสงกลมๆ ทั้งสองนั้น ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว!
เพียงแต่ยังมีตนหนึ่งที่หลับลึกอยู่ ที่พูดอยู่ในขณะนี้เป็นอีกตนหนึ่ง ซึ่งก็คือดวงจิตปีศาจของ ‘กู้หมิงเป่า’ สืออิ๋ง
“เจ้าเรียกข้าหรือ” ซ่งอิงขมวดคิ้ว
ปีศาจตนนี้น้ำเสียงน่าสนใจไม่น้อย มันส่ายลำแสงไปมา “ข้าจะบีบพวกสารเลวกลุ่มนั้นให้ตายให้หมด ไม่นึกเลยว่าจะฉวยจังหวะที่ท่านไม่ทันระวังลงมือกระทำชั่ว! พี่ใหญ่ ล้วนเป็นข้าเองที่ไม่ดี ตอนนั้นไม่ได้ปกป้องท่านให้ดีๆ!”
“…” ซ่งอิงเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ
ครั้นฟังอย่างถี่ถ้วน นางได้ยินเป็นเสียงของกู้หมิงเป่า แทบจะถอดแบบเดียวกันมา เพียงแต่อารมณ์ในน้ำเสียงต่างกันลิบลับ
“ปกป้องข้าหรือ” ซ่งอิงขมวดคิ้ว “ข้าอ่อนแอขนาดนั้นเชียวหรือ”
“แน่นอน พี่ใหญ่ ตอนที่ท่านเกิดมาเกือบถูกเทพเซียนเด็ดไปแล้ว ท่านลืมแล้วหรือ” สืออิ๋งกล่าวอีกครั้ง “อ้อ จริงสิ ท่านลืมไปแล้ว”
“…” เด็ดหรือ
นางจำได้ว่านางมาจากนกนี่
ซ่งอิงหันหน้าไปจับจ้องเซียนสองตนนั้นที่เอาแต่นิ่งเงียบ ทั้งสองท่านนั้นถูกนางจับจ้องจนรู้สึกขนลุกชันไปทั้งตัว “อันเนื่องจากต้นวัฏจักรนี้ พวกเราจึงเข้าใจผิดไป…แต่ แต่หากเจ้ามีขวดที่แปลกประหลาดเป็นพิเศษอยู่หนึ่งใบ เช่นนั้นเจ้าก็มิใช่ไท่ฉินแล้วละ…”
ผู้อื่นควบคุมขวดนั้นไม่ได้
“พวกเขาสองตนเป็นพวกโง่เขลา จะรู้จักพี่ใหญ่ได้อย่างไร!” สืออิ๋งสบถฮึอย่างดูถูก
ซ่งอิงสองมือกอดอก ทำท่าทางครุ่นคิด “ดังนั้นข้ามิใช่นก แล้วเป็นอะไรล่ะ ผลไม้หรือ”
นี่เป็นนกเสียยังดีกว่า! อย่างน้อยก็ยังบินได้!
“นกหรือ พี่ใหญ่ ที่แท้ท่านก็ชอบไท่ฉินมากที่สุดใช่หรือไม่ ข้าไม่ใช่แก้วตาดวงใจของท่านแล้วหรือ” แสงกลมๆ ของสืออิ๋งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “อีกอย่างนะ พี่ใหญ่ ไฉนท่านจึงเก็บเอาลั่วเจิน นางหญิงชั่วร้ายผู้นั้นมาด้วยเล่า ล้วนเป็นเพราะตอนแรกนางประพฤติตนไร้คุณธรรม รู้จักแต่ไปนอนกับบุรุษของโลกเทพเซียน นี่จึงได้ทำให้เสียเวลาเรื่องสำคัญไป!”
—————————-
[1] เถียนชี (田七) เป็นพืชสมุนไพรอยู่ในตระกูลโสมคน