ตอนที่ 887 กินคนจะทำอย่างไร
ฮั่วเจ้ายวนในขณะนี้จนปัญญาอย่างแท้จริง เขาฝืนยืนหน้าไม่อายอยู่ตรงนั้น ถูกซ่งอิงเยาะเย้ยถากถางเต็มที่ไปพักใหญ่
แต่ตอนที่ฟังนางพร่ำบ่นไม่หยุดเช่นนี้ เขามักจะรู้สึกว่าเงาร่างนี้ทับซ้อนกับคนในภาพความทรงจำนั้นพอดี
คล้ายกับว่าเคยมีคนดูถูกเขาอย่างนี้มาก่อนเช่นกัน
…
ในคืนวันนั้นซ่งอิงให้เขาพักในเรือนรับรองแขก
สำหรับคนภายนอก พวกเขาคือสามีภรรยากัน จึงไม่ต้องหลีกเลี่ยงอะไรมากมายเกินไปนัก
ฮั่วเจ้ายวนไม่ได้กลับจวนของตนเอง ส่วนเซียนสองคนนั้นกลับค้นหาของอยู่ในคลังเก็บของของฮั่วเจ้ายวนจนแทบจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน แต่ก็หาตำราฝึกฝนเซียนนั่นไม่เจอ
บนสวรรค์มีทักษะวิชาการอนุมาน เมื่อหลายปีก่อน พวกเขาเคยอนุมานว่าของสิ่งนี้มีประโยชน์ จึงนำสิ่งของส่งต่อมายังตระกูลฮั่วไว้ล่วงหน้า
การอนุมานในตอนนั้นคาดเดาถึงเรื่องราวภายภาคหน้าของโลกอย่างแม่นยำไม่ได้เสียทีเดียว แต่ว่ากันตามสถานการณ์ทั่วไป ฮั่วเจ้ายวนจะเจอของสิ่งนี้หลังจากพบว่ากู้หมิงเป่าเป็นปีศาจ และเอามาใช้ฝึกตนเป็นเซียนกำจัดปีศาจ!
ตอนนี้ไม่มีของสิ่งนี้แล้ว เขายังจะบำเพ็ญตนเป็นเซียนได้อย่างไร
เซียนทั้งสองคนนี้ไม่ได้ความสามารถสูงล้ำ อีกทั้งอยู่ในโลกมนุษย์ เป็นธรรมดาที่จะไม่อาจค้นพบได้ว่าฮั่วเจ้ายวนเริ่มฝึกตนเป็นเซียนแล้ว
เซียนทั้งสองตนก้มหน้าก้มตาด้วยความห่อเหี่ยวใจ
และเมื่อถึงยามเช้าตรู่ ซ่งอิงก็ลากฮั่วเจ้ายวนแล้วยังมีกู้หมิงเป่าอีกคนไปหาซ่งสวินที่หมู่บ้านสวนชานเมือง
กระทั่งยามที่ซ่งอิงไปถึง นางจึงพบว่าปีศาจน้อยของตนเองในตอนนี้เปลี่ยนเป็นรูปร่างคนที่ดูว่านอนสอนง่ายรวมตัวกันอยู่ในลานบ้าน
“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ที่นี่” ซ่งอิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“เถ้าแก่เหนียง พี่ชายของท่านเข้าไปในห้องไม่ยอมออกมาเลย อาหารมื้อเย็นก็ไม่กิน จะช่วยวาดรูปให้พวกเราก็ยังวาดไม่เสร็จ จริงสิ เมื่อวานเขายังเป็นลมไปด้วย…” มีผู้หนึ่งที่ค่อนข้างรู้ความหน่อยก้าวออกมาบอกในทันที
ซ่งอิงถอนหายใจ “พวกเจ้าแยกย้ายกันไปเถอะ ระยะนี้ลำบากพวกเจ้าแล้วเช่นกัน ไว้เดี๋ยวข้าจะให้หวงเมี่ยนมาสอนระเบียบกับพวกเจ้า” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
นางไม่ควรรีบร้อนหาเงินจนมองข้ามปัญหาด้านการอบรมสั่งสอนของบรรดาลูกน้องเหล่านี้เลย
เมื่อซ่งอิงเอ่ยพูดเช่นนี้ บรรดาปีศาจน้อยก็แยกย้ายกันไปในทันที
ซ่งอิงเคาะประตู
ไม่มีเสียงใด
“พี่ใหญ่ ข้าเอง” ซ่งอิงส่งเสียงตะโกน
เมื่อนางเอ่ยถ้อยคำนี้ออกไปไม่นานนัก ก็มีเสียงคนเดินโซเซแว่วออกมา ครั้นเปิดประตูออกได้ก็เอ่ยพูดในทันที “อา อาอิง มี มีปีศาจ ปีศาจหลายตัว…”
“ไม่มีหรอก พี่ใหญ่ ท่านตาฝาดแล้ว ไม่มีอะไรทั้งนั้น!” ซ่งอิงกล่าวทันที
กู้หมิงเป่ามองซ่งสวินอย่างเห็นใจ “พี่ใหญ่ซ่ง นี่เพิ่งไม่เจอกันวันเดียว ไฉนท่านกลายเป็นสภาพเช่นนี้ไปได้”
ผมเผ้ากระเซิงกระเซิงคล้ายกับรังนกก็ไม่ปาน เสื้อผ้าตามตัวยับยู่ยี่ไปหมด และดูคล้ายว่าหนวดเครางอกออกมาเล็กน้อย ดวงตาสองข้างแดงก่ำ ขอบตาล่างคล้ำ หน้าซีดเผือด มองดูหวาดกลัวเป็นพิเศษ
เมื่อก่อนตอนที่ซ่งสวินสอบ นางยังเคยมองดูจากไกลๆ เช่นกัน ทว่าตอนนั้นเขาออกมาจากห้องสอบก็ยังดูไม่แย่ปานนี้เลยนี่
หลังจากซ่งสวินได้ยินเสียงของกู้หมิงเป่าก็ดูตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นแววตาอ่อนโยนของกู้หมิงเป่า จึงได้รู้สึกดีขึ้นหน่อย
“น้องพี่ ข้ามองเห็นปีศาจแล้วจริงๆ…” ซ่งสวินชี้ไปที่ฮั่วเจ้ายวน “ไม่เชื่อเจ้าถามท่านอ๋องฮั่วสิ!”
ฮั่วเจ้ายวนเม้มปาก กล่าวอย่างคำนึงถึงมโนธรรมในใจ “ทำไมต้องถามข้าด้วย เมื่อวานข้าไม่ได้มาสักหน่อย”
“…” ซ่งอิงเบิกตาโต ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง
พูดเช่นนี้จะไม่เป็นการทำให้พี่ชายของนางยิ่งสติกระเจิงหรือ!
ปรากฏว่าเป็นไปอย่างที่คิดไว้ ซ่งสวินสับสนอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่สิ เมื่อวานข้าพูดคุยกับท่านอยู่เห็นๆ ตอนนั้นข้ายังวาดภาพ…”
ฮั่วเจ้ายวนถูกซ่งอิงถลึงตาใส่จนจำใจ ทำได้เพียงแก้คำพูด “อ้อ ข้าลืมไปชั่วขณะ เมื่อวานข้ามาพูดคุยกับท่าน ตอนนั้นท่านสติสัมปชัญญะไม่ค่อยดี อาจจะมองเห็นภาพลวงตาแล้วก็เป็นได้”
“ภาพลวงตาหรือ” ซ่งสวินส่ายหน้า
มีภาพลวงตาที่เหมือนจริงขนาดนี้ด้วยหรือ
“ข้า ข้าคิดว่าไม่ใช่……น้องพี่ คนเหล่านั้นผิดปกติ เจ้าอย่าเอาพวกเขาไว้เลย เกิดพวกเขากินคนจะทำอย่างไร!” ซ่งสวินกล่าวอีกครั้ง
ตอนที่ 888 สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
น่าสงสารซ่งสวินคนเล่าเรียนหนังสือที่มีระเบียบกฎเกณฑ์ผู้หนึ่ง ในตอนนี้กดดันถึงกับใกล้เสียสติเต็มทนแล้ว
ซ่งอิงเคยเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ที่ไหนกันเล่า นางจึงปวดใจอย่างยิ่งในทันใด
ต่อให้เลี้ยงพี่ชายจนอายุร้อยปี นางก็ยังกังวลและห่วงใยจนเขาอายุเก้าสิบเก้าปี ไฉนฮั่วเจ้ายวนจึงไม่เข้าใจหัวอกผู้เป็นน้องสาวอย่างนางผู้นี้ กระทำเรื่องชั่วช้าระดับนี้เสียได้!
“พี่ใหญ่ เรื่องเหล่านี้ไว้เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ท่านพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนได้หรือไม่” ซ่งอิงกล่าว
ซ่งสวินส่ายหน้าพัลวัน “มีปีศาจจริงๆ ข้าไม่ได้บ้า”
เขายืนกรานหนักแน่นมาก
เขารู้ว่าคำพูดของตนดูไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง หากเป็นการเห็นปีศาจในสถานที่อื่น เขาไม่พูดก็ได้ แต่ที่นี่คือหมู่บ้านสวนของซ่งอิง ซ่งอิงมาที่นี่บ่อยครั้ง หากเขายังคงไม่เอ่ยปากบอก เช่นนั้นภายภาคหน้ามีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าปีศาจเหล่านี้จะกินซ่งอิง!
ซ่งสวินจึงจำเป็นต้องทำให้พวกเขาเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ขึ้นมา
ใต้หล้านี้เปลี่ยนไปจากเดิม มีปีศาจโผล่มาแล้ว!
ซ่งอิงสับสนลังเลใจ
ในเวลานี้เอง ฮั่วเจ้ายวนลงมืออย่างกะทันหัน หลังจากเคาะลงไปที่หลังศีรษะของซ่งสวินเกิดเสียงดัง ปึก ในชั่วพริบตาเดียว ซ่งสวินก็หมดสติไป
ซ่งอิงถลึงตาเล็กน้อย ฮั่วเจ้ายวนกลับเผยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน “เจ้าดูสิ เขาหลับแล้ว”
“…” กู้หมิงเป่าถึงกับถอยไปด้านหลัง
โชคดีที่…ไม่ได้แต่งงานกับท่านอ๋องฮั่วผู้นี้
พี่ซ่งของนางน่าสงสารเหลือเกิน เจอบุรุษที่ไม่อ้อมค้อมและตรงไปตรงมาถึงเพียงนี้ ชีวิตในแต่ละวันต้องลำบากอย่างยิ่งแน่นอนกระมัง!
“ก็จริง” หลังจากซ่งอิงประหลาดใจชั่วครู่ แต่แล้วกลับพยักหน้า “ใต้เท้าฮั่ว ท่านเฝ้าพี่ชายข้าไว้ระหว่างเขานอนหลับ ข้ากลัวว่าอีกเดี๋ยวยามที่เขาตื่นขึ้นมาจะเอะอะโวยวายเอาได้”
ฮั่วเจ้ายวนพยักหน้า
“พี่ซ่ง ไฉนพี่ใหญ่ซ่งจึงมักจะโวยวายว่ามีปีศาจเล่าเจ้าคะ” กู้หมิงเป่าไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้นางยังนึกว่าซ่งสวินเป็นปีศาจด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าซ่งสวินกลัวถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเห็นทีว่านางคงคิดมากไปแล้ว เรื่องราวในวันนั้นน่าจะเป็นฝีมือจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ
“อาจเป็นผลจากแรงกดดันจากหลายวันก่อนหน้านี้ที่มากเกินไป” ซ่งอิงถอนหายใจ
“ก็จริง พี่ใหญ่ซ่งอายุแค่นี้ ไม่นึกเลยว่ามีอนาคตในหน้าที่การงานถึงเช่นนี้ได้ เขาคงต้องทุ่มเทความพยายามในช่วงที่ผ่านมาผิดจากธรรมดาทั่วไปเป็นแน่” กู้หมิงเป่าพยักหน้า “พี่ซ่ง ท่านต้องเอาใจใส่เขาให้มากๆ นะเจ้าคะ ที่ผ่านมาข้าเคยได้ยินเช่นกันว่ามีคนสอบผ่านราชสำนัก แต่ผลสุดท้ายกลับ…เสียสติไป”
นางคิดว่าซ่งสวินต้องเอาการสอบคัดเลือกขุนนางเป็นเป้าหมายในชีวิตอย่างแน่นอน ดังนั้นบัดนี้จู่ๆ เป็นจริงแล้ว หลังจากนี้จึงไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ดังนั้นจึงเกิดภาพหลอนขึ้นมาบ้าง
เพียงแต่อาการป่วยนี้มาอย่างกะทันหันเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลย
“ข้าเข้าใจ” ซ่งอิงพยักหน้ารัว “เร่งรีบมาตลอดทาง ลำบากเจ้าแล้วเช่นกัน ไปหาอะไรกินก่อนเถิด”
กู้หมิงเป่าพยักหน้าตอบรับทันที จากนั้นก็ไปทางด้านห้องครัวเพื่อหาอะไรรับประทาน
ซ่งอิงรีบเข้าไปอยู่ในห้องของตนเอง จากนั้นเข้าสู่ช่องว่างระหว่างมิติ
“สืออิ๋ง อาการของพี่ชายข้าไม่ค่อยดีเลย” ซ่งอิงกล่าว
“เช่นนั้น…ให้ข้าไปลองดู?” สืออิ๋งเอ่ยถาม
“อย่าขู่ให้เขากลัวเชียว ต้องใช้อารมณ์สัมผัสใจคน และใช้เหตุผลทำให้คนเข้าใจ อธิบายกับเขาว่าทำไมวันนั้นต้องกินคน หากเป็นไปได้ เจ้าก็หลอกเขาหน่อย บอกไปว่าปากนั้นมองดูคล้ายว่าเป็นปาก แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ถูกย่อยหลังจากกินเข้าไป แต่ว่า…”
ซ่งอิงแต่งเรื่องต่อไม่ได้แล้วเช่นกัน “เจ้าทำตามเห็นสมควรแล้วกัน โดยสรุป ข้าไม่อยากให้เขาสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”
“ตกลง ข้าจะทำตามที่ท่านว่า!” สืออิ๋งขานรับทันที “เพียงแต่หัวหน้า หลังจากข้าเข้าสู่ร่างคน พลังปีศาจจะแกร่งขึ้นมาหน่อย วันนั้นข้าปรากฏตัวเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ฉะนั้นเพียงชั่วครู่เดียวก็ไม่น่ากังวลอันใด แต่หากเป็นช่วงเวลายาวนานหน่อย ข้ากังวลว่าจะมีเทพเซียนมาหาเรื่องข้า”
“ประเด็นนี้เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป” ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย
หากฮั่วเจ้ายวนกล้าลงมือ นางก็จะขังเขาเอาไว้เช่นกัน ขังให้อยู่ในช่องว่างระหว่างมิติไปชั่วชีวิต ไม่ต้องโผล่หัวออกมาอีกเลย!