หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 22

ตอนที่ 22

แสงสะท้อนจากดาบที่คมกริบ ทำคนดูใจเต้นแรงตาม สเก็ตเชอร์สอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดฉากบู๊ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ภาพของตัวละครที่ปะทะกันจึงงดงามมาก

ซ่งจูเสียนธรรมดาเกินกว่าจะพูดถึง ต่างจากเฝิงเหวินที่โดดเด่นจนยากจะละสายตา ในบทเขียนไว้ยังไง ก็แสดงได้ถูกต้องและครบถ้วนตามนั้น

เหวินจิ้งดูการแสดงตรงหน้าด้วยความเพลิดเพลิน ถึงจะเป็นคู่แข่ง เธอก็อดชื่นชมไม่ได้

ซ่งจูเสียนกัดริมฝีปากแน่น ใครกันที่บอกว่าเฝิงเหวินแสดงไม่ดี เท่าที่เห็นคืออีกฝ่ายแสดงดีมากจนเธอตามแทบไม่ทัน

หลังฉากนี้จบลง สเก็ตเชอร์สชมเฝิงเหวินด้วยความตื่นเต้น

“เฝิง คุณแสดงได้ดีมาก ผมไม่เคยเห็นใครเล่นฉากบู๊ดีขนาดนี้มาก่อน เพอร์เฟกต์จริงๆ รักคุณจัง”

ซ่งจูเสียนถูกมองข้ามโดยปริยาย เธอทั้งอึดอัด โมโห และมีสีหน้าลำบากใจ

จู่ๆ เฝิงเหวินก็แสดงได้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หรืออีกฝ่ายจะจงใจแย่งซีนไปจากเธอ แถมยังแสดงศิลปะป้องกันตัวได้เหนือกว่าอีก

เฝิงเหวินไม่ตื่นเต้นไปกับคำชมของสเก็ตเชอร์ส แต่กลับปรายตามองกู้เซียงเชิงเย้ยหยัน

“ตาเธอแล้ว!”

ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงเหวินพูดถึง สเก็ตเชอร์สคงลืมกู้เซียงไปแล้ว

เขาประทับใจการแสดงของเฝิงเหวินมาก ไม่น่าไปหลงเชื่อคนที่ปล่อยข่าวเรื่องการทำงานแย่ๆ ของเธอ หากรู้ว่าจะแสดงได้ดีขนาดนี้ คงไม่เปิดคัดตัวนักแสดงให้เสียเวลา

ที่เขายังสงสัยก็คือ เฝิงเหวินเสนอให้กู้เซียงมาแคสต์หน้ากล้อง แต่กลับแสดงออกเหมือนอีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นศัตรูมากกว่า

“พร้อมแล้วใช่ไหม?” สเก็ตเชอร์สถามกู้เซียง

ทุกคนอยากให้โอกาสกู้เซียง แต่กลับไม่ถามซ่งจูเสียนที่กำลังโมโหว่าพร้อมแสดงหรือไม่

เธอยังไม่หายโกรธที่ถูกเฝิงเหวินกลบบทบาทจนแทบไม่เหลือตัวตน แล้วยังถูกเร่งให้ลดตัวไปต่อบทกับดาราหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีผลงานในฮอลลีวูด ซ้ำยังเพิ่งเข้าวงการอีก

ไม่เจียมตัวซะเลย!—ซ่งจูเสียนบ่นในใจ

เธอตั้งใจจะสั่งสอนกู้เซียงสักตั้ง เพราะตัวเองก็เป็นนักแสดงบู๊เหมือนกัน แม้จะไม่โดดเด่นเท่าเฝิงเหวิน แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่ในวงการ

ซ่งจูเสียนตั้งใจจะลดบทบาทของกู้เซียงด้วยฝีมือการแสดง เพราะอีกฝ่ายดูบอบบางเหมือนแจกันดอกไม้ที่สวยแต่รูป ไม่น่าจะรู้ว่าฉากบู๊ต้องแสดงยังไง แม้แต่ตั้งการ์ดก็คงตั้งไม่เป็น

ถ้าจัดการเฝิงเหวินไม่ได้ ก็ขอจัดการเพื่อนของเธอแทนแล้วกัน!

ไฟในห้องดับลง ประตูถูกปิดสนิท

ท่ามกลางความมืด แววตาของหญิงสาวผู้อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเย็นชา

ใบหน้ายังคงงดงามอย่างสาวตะวันออกในอุดมคติ ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยแรงแค้นที่พลุ่งพล่าน คล้ายมหาสมุทรที่ปั่นป่วนด้วยคลื่น และท้องฟ้าที่แปรปรวนอย่างบ้าคลั่ง

สุขุม สงบนิ่ง ดุดัน โหดเหี้ยม

ภาพวาดจีนส่วนใหญ่จะปรากฏราชาแห่งสัตว์ร้ายยืนอยู่ท่ามกลางป่ารกชัฏ แค่เพียงลายเส้นที่ตวัดลงบนแผ่นกระดาษ ก็สามารถดึงชีวิตและจิตวิญญาณของสัตว์ร้ายตัวนั้นให้ปรากฏแก่สายตาผู้ชมได้แล้ว

กู้เซียงเหมือนสัตว์ร้ายที่สวมเสื้อผ้า หลบซ่อนอยู่อย่างเงียบเชียบ ฝนกรงเล็บเพื่อรอการจู่โจม แยกเขี้ยวคมวาวเพื่อประกาศศักดา น้ำลายของผู้ล่าหยดย้อย ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นเบื้องหน้า

ทุกสายตาจมดิ่งไปกับการแสดง จมูกคล้ายได้กลิ่นคาวเลือดจากการสังหารครั้งใหญ่

ทุกคนให้ความสำคัญกับความเหี้ยมโหดของเจ้าสาว แต่ลืมความเคียดแค้นที่อัดแน่นอยู่ในใจของเธอ

ความเหี้ยมโหดสามารถแสดงออกผ่านสีหน้าท่าทาง แต่ความแค้นต้องให้นักแสดงสอดแทรกเอง

หากสามารถแสดงความเคียดแค้นจนผู้ชมจมดิ่งและมีอารมณ์ร่วมได้ หมายความว่าผู้แสดงประสบความสำเร็จในการสวมบทบาทแล้วกว่าครึ่ง

เจ้าสาวคนนี้ไม่ใช่นักฆ่าบ้าคลั่ง เธอวางมือเพื่อลูกสาวนานแล้ว ตั้งใจจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุข น่าเสียดายที่คนรักเก่าและบอสใหญ่อย่างเบคไม่ยอมปล่อยเธอไป

เธอทุกข์ทรมานราวกับตกนรกเมื่อได้ทราบข่าวการตายของลูกสาว ความแค้นที่ฝังแน่นในอกจึงปะทุขึ้นอีกครั้ง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดการล้างแค้นที่ไม่ใช่แค่การฆ่า กู้เซียงใช้สายตาถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกภายในใจจนหลายคนตรงนั้นสะท้าน

เฝิงเหวินขบกรามแน่น ส่วนสเก็ตเชอร์สที่คิดว่าจะได้ดูฉากตลกก็ค่อยๆ ปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม

เขาเป็นผู้กำกับ ย่อมรู้ว่าอารมณ์ที่แท้จริงของตัวละครเป็นยังไง

ภายในห้องที่เล็กแคบ บานหน้าต่างแง้มเพียงเล็กน้อย แสงจากด้านนอกทะลุผ่านเข้ามา จนเกิดเส้นแบ่งระหว่างฝั่งสว่างกับฝั่งมืด

ฝั่งสว่างคือฝั่งของอาเหลียนที่อยู่ในชุดขาวราวหิมะ ใบหน้างดงามคล้ายรูปปั้นแกะสลัก

เธอยกดาบซามูไรขึ้นสูง มองเผินๆ ดูน่าเกรงขาม หากแต่ถูกกลบรัศมีจากผู้ที่อยู่ในเงามืดจนแทบไม่เหลือตัวตนในฉาก

กู้เซียงซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดที่สุดของห้อง ผมเผ้ารุงรังคล้ายผ่านการต่อสู้มาอย่างหนัก ร่างกายสะบักสะบอม นิ่งสำรวจหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาสงบนิ่ง รอจังหวะที่จะกระโดดเข้าไปขย้ำคอ

ทันทีที่ถูกแววตาดุดันคู่นั้นจ้อง ซ่งจูเสียนก็รู้สึกเข่าอ่อน เริ่มแยกไม่ออกระหว่างการแสดงกับความเป็นจริง เธอสัมผัสได้ถึงความอำมหิตชวนขนลุก คล้ายจะถูกอีกฝ่ายเอาชีวิตเดี๋ยวนั้น

ท่ามกลางความหวาดกลัว ซ่งจูเสียนไม่อาจจดจ่ออยู่กับการแสดงได้อีก แรงกดดันขนาดนี้ ต่อให้เป็นเฝิงเหวินก็ไม่อาจทนได้

หญิงสาวที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดกระตุกยิ้มเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ความแค้นระหว่างเรายังชำระไม่หมด!”

สิ้นเสียงของอีกฝ่าย ซ่งจูเสียนก็ตื่นจากอารมณ์ที่ล่องลอย และเริ่มรู้ตัวว่ากำลังถูกลดบทบาทอยู่

หากเธอมีอาการแบบนี้กับเฝิงเหวินก็พอให้อภัยได้ แต่กู้เซียงเป็นแค่ดาราหน้าใหม่ที่ไม่เคยเล่นฉากบู๊มาก่อน สเก็ตเชอร์สกับคนอื่นๆ ก็กำลังดูอยู่ แบบนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

จู่ๆ ซ่งจูเสียนก็ฉุกคิดบางอย่าง เธอชูดาบซามูไรในมือแล้วพุ่งเข้าใส่กู้เซียง แม้ดาบเล่มนี้จะเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉาก แต่ก็ยาวจนน่าหวาดเสียว

เนื่องจากหนังบู๊ไม่ได้อาศัยแค่สีหน้าท่าทางและการเข้าถึงอารมณ์ของตัวละคร แต่ต้องแสดงฉากต่อสู้ได้สมจริงด้วย

ที่เฝิงเหวินสามารถรับบทนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะแววตาและสีหน้าที่จริงจัง แต่เป็นศิลปะป้องกันตัวที่ร่ำเรียนมา ต่างจากกู้เซียงที่มีดีแค่หน้าตา เจอดาบพุ่งเข้าใส่แบบนี้ ไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งก็ต้องฉี่ราดแน่นอน

ท่าทางของอาเหลียนต่างจากในบทราวกับแสดงสด ดาบที่พุ่งเข้าใส่กู้เซียงหมายจะฟาดฟันมากกว่าป้องกันตัว ดวงตาฉายแววเคียดแค้นจนหลายคนสงสัยว่าพวกเธอไปโกรธกันตอนไหน

หญิงสาวที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดบิดกายเล็กน้อยแล้วกระโดดตีลังกาออกมา พริบตาเดียวเท้าของเธอก็เหยียบขากางเกงของอาเหลียนไว้ได้

ท่วงท่าที่แสดงล้วนเป็นเอกลักษณ์ของจีน ทั้งองอาจและน่ายำเกรง

“เพียะ!”

สิ้นเสียงตบ อาเหลียนก็ล้มลงกับพื้น

ทุกคนตกใจจนเผลออุทาน แม้แต่ซ่งจูเสียนก็ยังตะลึงค้าง เธอไม่รู้ว่ากู้เซียงทำอะไร รู้แค่ว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนพื้น โดยมีมีดจ่ออยู่ที่คอหอย

ซ่งจูเสียนเงยหน้าขึ้นมอง ภาพที่เห็นคือเจ้าสาวที่กำลังตามล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้างดงามแฝงไปด้วยความดุดัน ผมยาวปลิวไสว ดวงตาสุกสกาวปานภาพวาด บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหาร

มือเรียวยาวที่กุมด้ามดาบคล้ายหยกเนื้องามจากแดนมังกร น้ำเสียงเย็นชาเจืออ่อนโยน แววตาสับสนไปด้วยอารมณ์ที่ทั้งจมดิ่งอยู่กับความทรงจำและตื่นรู้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

“ดาบเล่มนี้ อาจารย์จู้เจี้ยนให้ข้าไว้ แม้แต่เทพก็สามารถหั่นออกเป็นสองท่อนได้!” รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏตรงมุมปาก “ว่าแต่เจ้า… ใช่เทพหรือเปล่า?”

พูดจบกู้เซียงก็เงื้อมือแล้วฟาดดาบใส่อาเหลียน

ทั้งกองถ่ายเงียบสงัดราวกับป่าช้า

สเก็ตเชอร์สจ้องกู้เซียงตาเป็นประกาย คล้ายค้นพบเพชรเม็ดงามที่ถูกซ่อนมานาน

เฝิงเหวินหน้าซีดเผือด จนแอนนาที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้องกุมมือด้วยความเป็นห่วง

ซ่งจูเสียนยังคงนั่งอยู่บนพื้น ไม่ได้ล้มลงนอนตายตามบท

เธอยังไม่ทันจะได้ส่งอารมณ์ กู้เซียงก็เข้าถึงบทบาทการแสดง ราวกับเป็นคนดำเนินเรื่องทั้งหมด

กู้เซียงชักดาบกลับ แล้วพูดกับซ่งจูเสียนอย่างนอบน้อม

“ขอโทษด้วยนะคะ ไม่คิดว่าคุณจะวิ่งเข้ามา เพราะในบทไม่ได้เขียนไว้”

สเก็ตเชอร์สกับทีมงานมองว่ากู้เซียงเป็นแค่ดาราหน้าใหม่ ไม่มีศิลปะป้องกันตัวเหมือนอย่างเฝิงเหวิน จึงปล่อยให้ทดสอบหน้ากล้องตามมารยาท ใครจะคิดว่าจู่ๆ ซ่งจูเสียนจะพุ่งดาบเข้าใส่เธอ

ซ่งจูเสียนเพียงอยากให้กู้เซียงอับอาย และแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเธอเหนือกว่าทุกทาง แต่กลับถูกตอกกลับชุดใหญ่

หลังลุกขึ้นยืนแล้วปัดฝุ่นตามเสื้อผ้าออก ซ่งจูเสียนก็ถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“เธอมีศิลปะป้องกันตัว ทำไมถึงไม่บอกแต่แรก!”

“ต้องบอกด้วยเหรอคะ?” กู้เซียงทำหน้างง “แคสต์งานทั้งที ไม่เป็นอะไรเลยคงแปลกน่าดู”

“กู้เซียง” สเก็ตเชอร์สเดินมาหาเธอด้วยความตื่นเต้น “เมื่อกี๊คุณใช้กระบวนท่าอะไร วิทยายุทธ์จีนเหรอ?”

เขาสนใจศาสตร์แห่งการป้องกันตัวแบบตะวันออกมาก ซึ่งกระบวนท่าของกู้เซียงดูไม่ต่างจากหนังจีนกำลังภายในเลย

กู้เซียงเคยเล่นหนังกำลังภายในแนวจอมยุทธ์มาแล้ว ภาพยนตร์พวกนี้ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวร่างกายที่งดงามอ่อนช้อย

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท