หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 24

ตอนที่ 24

หลังปรึกษาหารือกันเป็นที่เรียบร้อย สรุปคือเฝิงเหวินจะยังคงได้เล่นหนังเรื่องนี้ในบทของอาเหลียนแทนที่ซ่งจูเสียน

เธอบุคลิกเย็นชาเหมาะกับบทมาเฟียอยู่แล้ว ต่างจากซ่งจูเสียนที่เข้าไม่ถึงบทบาทอย่างเห็นได้ชัด

เนื่องจากยังไม่มีการกำหนดตัวแสดงที่แน่นอน จึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ตอนนี้บทอาเหลียนตกไปเป็นของเฝิงเหวินแล้ว ซ่งจูเสียนจึงต้องรับบทนักฆ่า หนึ่งในห้าสิบเจ็ดคนที่ถูกตามล้างแค้น นับเป็นตัวละครสมทบที่สำคัญเหมือนกัน เพียงแต่ไม่โดดเด่นมาก

ซ่งจูเสียนไม่ยอมรับการตัดสินใจนี้ เพราะไม่ได้เซ็นสัญญากับสเก็ตเชอร์สตั้งแต่แรก จึงเดินออกจากกองถ่ายด้วยความโมโห ไม่แม้แต่จะกล่าวลา

ดีที่เฝิงเหวินมีความรับผิดชอบมากกว่า ไม่ได้ทิ้งงานอย่างซ่งจูเสียน แม้จะถูกเปลี่ยนตัวก็ตาม

ไม่มีใครรู้ว่าสเก็ตเชอร์สพูดอะไรกับเฝิงเหวิน จนแสดงเจตนารมณ์ว่าบทบาทใหม่เหมาะสมกับเธอมากกว่า และจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด

กู้เซียงกับเฝิงเหวินได้เล่นบทที่ตัวเองอยากเล่น แต่แทนที่เรื่องจะจบ กลับไม่เป็นเช่นนั้น

ไม่มีใครยอมเป็นเบี้ยล่างของคนอื่นไปตลอด วงการบันเทิงแก่งแย่งชิงดีกันดุเดือดอยู่แล้ว การที่กู้เซียงกับเฝิงเหวินหาจุดลงตัวกันได้โดยไม่มีใครเสียเปรียบ สร้างความสะเทือนใจให้กับซ่งจูเสียนอย่างมาก

เธอยังพอทำใจได้หากมีคนบอกว่าอยู่ใต้เงาของเฝิงเหวินมาตลอด แต่กับกู้เซียงที่ไม่เคยเล่นหนังบู๊ต่างประเทศ ทว่าฝีมือเข้าตาสเก็ตเชอร์สจนได้รับบทนางเอก ซ่งจูเสียนไม่อาจยอมรับได้

“จูเสียน พวกเราตอบรับการให้สัมภาษณ์ในประเทศไปหลายงานแล้ว ตอนนี้จะเอายังไงต่อ?” ผู้ช่วยที่เป็นสาวเกาหลีถาม

การที่ภาพยนตร์เรื่องไล่ล่าฆ่าเบคมีดารารับเชิญเป็นคนเกาหลี ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะคนเกาหลีที่โด่งดังในฮอลลีวูดมีไม่มาก

ผลงานในครั้งนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ซ่งจูเสียนเป็นอย่างดี

ความจริงสัปดาห์หน้าเธอต้องเดินทางกลับไปให้สัมภาษณ์ที่เกาหลี จึงตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สะสมแฟนคลับเพิ่ม แต่กลับถูกดับฝันกลางทาง

“จะทำอะไรได้อีกล่ะ?” เธอตวาดผู้ช่วย “ในเมื่อพวกมันไม่เห็นหัวฉัน ฉันก็จะขวางทางให้ถึงที่สุด ไม่ยอมให้ใครได้ดีเด็ดขาด!”

ผู้ช่วยถามด้วยความสงสัย “ยังมีวิธีอื่นอีกเหรอ?”

ซ่งจูเสียนแสยะยิ้ม เธอยังมีไพ่อีกใบที่ยังไม่ได้เปิด

กู้เซียงหล่นลงมาจากฟ้า แล้วดีดเธอออกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่วนเฝิงเหวินก็มาแทนที่บทบาทของเธอ

คนทั้งกองถ่ายคิดว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนรักกัน แต่ในความเป็นจริงมันคือศึกระหว่างเฝิงเหวินกับกู้เซียงเพื่อแย่งผู้ชายคนหนึ่ง

ข่าวในวงการบันเทิง ขอเพียงเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ก็จะสามารถขยายให้ใหญ่ได้อย่างไม่สิ้นสุด

ซ่งจูเสียนสืบเรื่องของกู้เซียงมาแล้ว เธอมีชื่อเสียงในประเทศจีนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือสายงานใด แค่เติบโตอย่างรวดเร็วก็เท่ากับเพิ่มศัตรูไปในตัวแล้ว

เมื่อเอาเรื่องศัตรูหัวใจของเฝิงเหวินมาบวกกับข้อมูลที่ได้ เธอก็มั่นใจว่ากู้เซียงต้องพลาดบทนางเอกเรื่องไล่ล่าฆ่าเบคอย่างแน่นอน

มหาวิทยาลัย F มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นของตัวเอง

ช่วงนี้กระทู้ที่ชื่อว่า ‘นักบุญในคราบนักฆ่า’ ได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นการพูดถึงสาวสวยที่หนุ่มคนหนึ่งได้เจอเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

ใครเห็นก็รู้ว่ากระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจ ตอนแรกยังไม่มีใครเห็น แต่เพราะระบบของมหาวิทยาลัยมีการสับเปลี่ยนกระทู้ตลอดเวลา สุดท้ายก็ถูกดันขึ้นไปอยู่หน้าแรก

ทุกคนเปิดอ่านผ่านๆ เพื่อคั่นเวลา ทว่าหลังอ่านกลับรู้สึกตื่นเต้น และเรียกร้องให้เขียนต่อโดยเร็ว

บทความนี้เกี่ยวกับ ‘ลู่จู’ ที่บังเอิญไปเจอชายชั่วคนหนึ่งกำลังไล่ตีภรรยาจนเธอแท้งลูกกลางถนน

จู่ๆ สาวงามคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เธอชักปืนออกมา ทำท่าจะยิงหากอีกฝ่ายไม่ยอมหยุด

พอเห็นปืน ชายชั่วก็วิ่งหนีหางจุกตูด แม้นักฆ่าสาวคนนั้นจะดูเย็นชา แต่ลึกๆ เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ทั้งยังพาสาวท้องคนนั้นส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองอีก

บทความยังบรรยายถึงใบหน้าที่งดงามและบุคลิกน่าเกรงขามของนักฆ่าสาว แม้คนอ่านจะไม่คล้อยตามเสียทีเดียว แต่ลู่จูมักบรรยายท้ายตอนให้ชวนติดตามต่อ เมื่อคนอ่านกระหายใคร่รู้และพากันเรียกร้องให้เขียนต่อ จึงกลายเป็นกระทู้ดังของมหาวิทยาลัย F ไปโดยปริยาย

เด็กหนุ่มร่างอ้วนนั่งเขียนบทความเพิ่ม โดยมีเด็กหนุ่มร่างผอมคอยช่วย

“อย่าให้มันเวอร์มากนัก เดี๋ยวคนอื่นจับได้ว่าเป็นพี่กู้”

“จะพยายามแล้วกัน” เด็กหนุ่มร่างอ้วนลูบคางครุ่นคิด “เห็นไอ้แว่นมันบอกว่า มหาวิทยาลัยอื่นเอาบทความของฉันไปแชร์ต่อ”

“อยากรู้ไหมว่าทำไมถึงแชร์?” เด็กหนุ่มร่างผอมบ่น “เพราะพวกนั้นไม่คิดว่ามหาวิทยาลัย F ที่โด่งดังจะมีนักศึกษาเพ้อเจ้อและน้ำเน่าได้ขนาดนี้ไง!”

“อย่างแกจะไปรู้อะไร” เด็กหนุ่มร่างอ้วนโบกมือไล่ “ฉันต้องเอาเรื่องจริงมาเขียนให้ดูเหมือนนิยาย”

ณ หอพักหญิงของมหาวิทยาลัย F ตู้หยู่กำลังนอนพังพาบอ่านกระทู้ของมหาวิทยาลัยอยู่บนเตียง

“รีบดูเร็ว นักบุญในคราบนักฆ่าอัปตอนใหม่แล้ว”

“จริงเหรอ!” รูมเมตของเธอทำหน้าตกใจ “ถึงตอนไหนแล้ว?”

“คนเขียนก็ตลกดีนะ เป็นผู้ชายแต่เน้นเรื่องความสวยความงาม ฉันละยอมใจจริงๆ” ตู้หยู่อ่านไปบ่นไป

“รู้ได้ไงว่าเขาเป็นผู้ชาย?” รูมเมตถาม

“รุ่นพี่คณะ IT ลองเช็กเลข IP แล้ว บอกว่ามาจากหอพักชายตึกสอง ฉันยังคิดอยู่เลยว่านักศึกษาสายวิทย์ของเรามีนิสัยแบบผู้หญิงด้วยเหรอ?”

ตู้หยู่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงพูดว่า “บุคลิกของนักฆ่าหญิงที่เขาบรรยาย เหมือนกับเซียงเซียงของฉันเลย ฮ่าๆๆ ถ้าเธอได้เป็นนางเอกเรื่องนี้จริงๆ ก็ไม่แปลกหรอก”

ถ้ากู้เซียงรู้ว่ามีคนเอาเธอไปเขียนเป็นบทความ จนถูกแชร์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ จะรู้สึกยังไง

แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องพวกนั้น…

สเก็ตเชอร์สคงกลัวว่ากู้เซียงกับเฝิงเหวินจะเปลี่ยนใจ หลังเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ก็รีบประกาศออกสื่อว่านางเอกของเรื่องไล่ล่าฆ่าเบคคือกู้เซียง ส่วนเฝิงเหวินที่ถูกวางตัวไว้ก่อนหน้านี้จะรับบทเป็นอาเหลียนแทน

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงหญิงมากความสามารถถึงสองคนมาเล่น สเก็ตเชอร์สจึงภูมิใจเป็นพิเศษ ทั้งยังมั่นใจด้วยว่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี

ข่าวนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการบันเทิงจีนมาก

กู้เซียงเป็นใครมาจากไหน ก่อนหน้านี้เธอยังเป็นแค่ดาราหน้าใหม่อยู่เลย ตอนนี้ได้ไปถ่ายหนังที่ต่างประเทศแล้ว

สิ่งที่แบ่งแยกระหว่างดาราเก่าและดาราใหม่คือระยะเวลาในการทำงาน และกู้เซียงก็เพิ่งจะแสดงภาพยนตร์กับละครได้ไม่กี่เรื่องเอง

ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงจนเป็นที่รู้จัก เธอใช้เวลาเพียงสามปีเท่านั้น แค่ในประเทศก็ถือว่าดังมากแล้ว ตอนนี้ยังไปโด่งดังในต่างประเทศอีก

ต่อให้เป็นนักแสดงที่มีความสามารถ ก็ต้องอาศัยเส้นสายเข้าช่วย ใช่ว่าอยากทำก็ทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะบทของนางเอกที่เดิมถูกวางไว้ให้เฝิงเหวิน

แฟนคลับของกู้เซียงดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง รู้สึกว่าไอดอลของตัวเองคือตำนานของวงการ

สเก็ตเชอร์สประกาศว่าเขาค้นพบนักแสดงจีนสาวสวยคนใหม่ แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเฝิงเหวิน

ส่วนซ่งจูเสียนที่ขอถอนตัวไปก่อนหน้านี้ เป็นเหมือนก้อนกรวดที่ถูกโยนลงสระ สื่อบางสำนักพยายามจะซื้อตัวไปเพื่อสร้างกระแส แต่ไม่นานข่าวของเธอก็เงียบหายไป

ในที่สุด ภาพยนตร์เรื่องวีรบุรุษสุจริตของจ่านหยางก็ถ่ายทำเสร็จ

มันคือหนังสายลับที่กำลังจะโด่งดังในภายภาคหน้า ยังไม่ทันออกฉายก็ถูกจับตามองจากหลายสำนักข่าวแล้ว

หลายวันที่ผ่านมาจ่านหยางงานยุ่งมาก ต้องเดินสายให้สัมภาษณ์และโปรโมทภาพยนตร์อย่างไม่หยุดหย่อน

ปีที่ผ่านมา เขาปรากฏตัวในสื่อมากขึ้นกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นก็ยังดูแปลกไปจากคนอื่นๆ ในวงการ

เขาไม่เคยมีข่าวเสียหายให้แปดเปื้อน ที่สำคัญคือยังบริสุทธิ์อยู่ ผู้หญิงหลายคนในประเทศจึงให้ฉายาเขาว่า ‘สามีแห่งชาติ’

ตอนท้าย พิธีกรไม่ลืมที่จะถามถึงความสัมพันธ์ของจ่านหยางกับกู้เซียง

“ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าเซียงเซียงได้ไปแคสต์งานที่อเมริกา แถมยังได้เป็นนางเอกเรื่องไล่ล่าฆ่าเบคของผู้กำกับสเก็ตเชอร์สอีก ทุกคนเซอร์ไพรส์มากเพราะเธออายุยังน้อยแต่ไปไกลได้ขนาดนี้ หลังรู้ข่าวคุณรู้สึกยังไงบ้างคะ?”

จ่านหยางตอบด้วยรอยยิ้ม “ผมดีใจมากครับ ดีใจกว่าความสำเร็จของตัวเองเสียอีก”

สาวๆ ที่นั่งฟังอยู่ด้านล่างเวทีกรีดร้องด้วยความเขินอาย

“คุณจะตามไปเยี่ยมเธอหรือเปล่าคะ? ได้ข่าวว่าภาพยนตร์เรื่องไล่ล่าฆ่าเบคกำลังจะเปิดกล้องแล้ว การต้องทำงานคนละที่กับแฟน คุณรู้สึกกดดันบ้างไหมคะ?”

“ต้องไปอยู่แล้วครับ” เขาเว้นจังหวะครู่หนึ่ง “ต้องไปแสดงความยินดีสักหน่อย”

น้ำเสียงที่เขาพูด อ่อนโยนจนพิธีกรใจละลาย

แม้ในวงการบันเทิงจะมีคู่รักมากมาย แต่ก็เป็นพวกชอบอวดความหวาน แต่คู่ของจ่านหยางกับกู้เซียงไม่ได้มีเจตนาจะอวดและไม่ตั้งใจปิดบังด้วย แค่ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ เท่านี้ก็ฆ่าคนโสดได้ทั้งประเทศแล้ว

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท