กู้เซียงคิดไม่ถึงว่าข่าวเสียหายของเธอจะโด่งดังในอเมริกาขนาดนี้ คงต้องมีใครแอบปั่นกระแสอย่างแน่นอน
พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเข้ามาห้ามกลุ่มคนที่กำลังโกรธจัด ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังถูกปาด้วยขวดน้ำและสิ่งของต่างๆ
จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็ดึงแขนกู้เซียงให้ไปหลบที่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของเขาขวางเธอและกันขวดน้ำพวกนั้นไว้ได้พอดี
กู้เซียงมองจ่านหยางที่ปรากฏตัวตรงหน้าแล้วอุทานด้วยความตกใจ—มาได้ไงเนี่ย?
การที่ผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวเพื่อปกป้องเธอ ทำหลายคนตรงนั้นนิ่งอึ้งไป
เสียงดังโวยวายเมื่อครู่ค่อยๆ เงียบลง เพราะสีหน้าท่าทางของเขาเอาเรื่องน่าดู
เฝิงเหวินที่เดินนำหน้าไปแล้ว หันกลับมามองด้วยความงุนงง
จ่านหยางพยายามปกป้องศีรษะของกู้เซียง ก่อนจะพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงที่คล่องแคล่วและมีเสน่ห์
“สนุกกันพอหรือยัง ถ้ายังไม่หยุดฉันจะแจ้งความ!”
เทศกาลชีซีคือเทศกาลประจำชาติของจีน หรือเรียกว่าวันแห่งความรักนั่นเอง
สถานที่ต่างๆ ล้วนเต็มไปด้วยคู่รัก ทั้งต่างเพศและเพศเดียวกัน ช่างเป็นวันที่ทรมานคนโสดเหลือเกิน
สารพัดวิธีแสดงความโรแมนติกมีให้เห็นอย่างหลากหลาย เช่น ในจอโฆษณาขนาดใหญ่จะฉายวิดีโอของคู่รักที่หยอกล้อกันอย่างหวานชื่น การแสดงความรักของคู่รักต่างแดน เป็นต้น
ราคาดอกไม้พุ่งกระฉูดเพียงชั่วข้ามคืน ไหนจะยอดจองโรงแรมม่านรูดที่คึกคักอย่างไม่เคยปรากฏในรอบปี
แต่เทศกาลชีซีในปีนี้กลับต่างออกไป
ไม่ว่าการพลอดรักแบบต่างๆ จะสร้างความบาดตาบาดใจเพียงใด แต่บทสนทนาหลักในตอนเช้าก็ยังคงเป็นเรื่องของดาราที่ไปโด่งดังอยู่ในฮอลลีวูดอย่างกู้เซียง
อันดับแรกคือบทความเรื่องนักบุญในคราบนักฆ่าของลู่จู ซึ่งโด่งดังจากมหาวิทยาลัย F ที่มีชื่อเสียง ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเงียบหายไปหลายวัน แต่จู่ๆ ก็ออกมาพูดบางอย่าง
ลู่จูขอบคุณผู้อ่านที่คอยติดตามและแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ก่อนจะประกาศเลิกเขียนบทความเพราะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น
เหตุสุดวิสัยที่ว่าคือเขาได้ปลอมตัวไปสืบหาตัวตนที่แท้จริงของนักฆ่าสาวสวยคนนั้น แล้วพบว่าเธอต้องเผชิญกับการใส่ร้าย คำสบประมาท และการกลั่นแกล้ง มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก และเสียเวลาเรียนไปกับการช่วยคนอื่นกระทั่งสอบตก
เขาพรรณนาแบบไร้ทิศทางจนคนอ่านเริ่มเบื่อหน่าย แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนประเด็น แล้วบอกว่ากำลังค้นพบความจริงบางอย่าง
ความจริงก็คือนักฆ่าสาวคนนี้จำเป็นต้องทำภารกิจฆ่า เพราะตั้งใจจะใช้โอกาสนี้เพื่อช่วยเหลือคน
พูดง่ายๆ ก็คือ เธอตั้งใจใช้ปืนปลอมซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากเพื่อหลอกไอ้ขี้เมาป่าเถื่อนให้ตกใจกลัว
แล้วทำไมทุกคนถึงเชื่อว่าเธอเป็นนักฆ่าล่ะ?
ลู่จูทิ้งให้คนอ่านเกิดความอยากรู้ ว่านักฆ่าคนนี้แท้จริงแล้วเป็นนักแสดงมืออาชีพ
ขณะกำลังเรียบเรียงว่าจะเขียนอะไรต่อ บทความก่อนหน้านี้ของเขาก็มีคนแสดงความคิดเห็นยาวเหยียด
“ไอ้ลู่จูเขียนบทความโคตรห่วย แล้วที่บอกว่าปลอมตัวไปสืบเรื่องของนักฆ่าสาว ไม่เห็นเล่าสักที!”
“ฉันก็นึกว่าเป็นมหากาพย์มาเฟีย ที่ไหนได้เป็นแค่ก่อนบ่ายคลายเครียด”
“ฉันนี่โลกสวยจริงๆ ว่าแต่นักศึกษาชายมหาวิทยาลัย F เขียนนิยายแบบผู้หญิงได้ด้วยเหรอวะ?”
“ผิดหวังจริงโว้ย ไหนบอกว่านักฆ่าสาวจะฆ่าคนรวยคืนละคนไง ไม่เห็นมีเลย!”
“โชคดีนะลู่จู โดนแก๊งจับผิดเข้าให้แล้ว ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง อาเมน”
เด็กหนุ่มร่างอ้วนไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว พอกลับมาก็ตกใจกับคอมเมนต์ที่ยาวเหยียด
“บอกแล้วว่าอย่าเขียนให้มันประหลาดมาก ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อแล้ว!” เด็กหนุ่มร่างผอมที่นั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่ายหน้า
“ถ้าไม่ใช่เพราะกู้หนานอยากล้างมลทินให้พี่สาว ฉันคงเขียนรวมเล่มเป็นนิยายชื่อ ‘ฆ่าแหลกสะท้านยุทธภพ’ ไปแล้ว” หนุ่มอ้วนยกมือกุมศีรษะ “ถ้าไม่ไหวจริงๆ คงรวมเป็นต้นฉบับไว้ก่อน เฮ้อ… หนังสือเล่มแรกของฉัน”
เด็กหนุ่มร่างอ้วนมองนามปากกา ‘ไอ้อ้วนที่บ้าน’ อย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ชีวิตนักเขียนนิยายออนไลน์ผู้ยิ่งใหญ่ ถึงคราวอวสานแล้ว” เขาบ่นด้วยความเสียดาย
“นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ซะด้วย” เด็กหนุ่มร่างผอมมองเพื่อนรักด้วยแววตาประชดประชัน
แต่จู่ๆ แววตาของเขาก็เปลี่ยนไป
“ดูสิ ดูสิ มีคนฉลาดเดาเรื่องออกแล้ว”
“ไหนๆ” หนุ่มอ้วนชะโงกหน้าดู
ในบรรดาความคิดเห็นเหล่านั้น มีคอมเมนต์หนึ่งเขียนไว้อย่างชัดเจน
“ก็ว่าอยู่ทำไมบทความคุ้นๆ ลู่จูออกมาสารภาพเดี๋ยวนี้ว่าโรงพยาบาล B โรงพัก G และนักฆ่าสาวที่ว่าคือกู้เซียงใช่ไหม?”
คนจำนวนมากตอบกลับคอมเมนต์นี้ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เมนต์บนพูดจามีเหตุผล ในที่สุดความจริงก็ถูกเฉลย”
“จริงด้วย ที่แท้ก็เป็นการเล่าเหตุการณ์จริง!”
“ลู่จูออกมาเดี๋ยวนี้ ฉันรู้ว่านายกำลังเล่นเน็ตอยู่ อย่ามัวแต่แอบ ออกมาได้แล้ว!”
“ทำไมไม่รีบออกไปล่ะ? คนเขารอนายตอบอยู่” เด็กหนุ่มร่างผอมถาม
เด็กหนุ่มร่างอ้วนครุ่นคิด ก่อนจะเคาะนิ้วบนแป้นพิมพ์
วินาทีต่อมา ข้อความตอบกลับชาวเน็ตที่ค้นพบความจริงก็ปรากฏในกระทู้
“พวกนายเดาถูกแล้ว นักฆ่าสาวคนนั้นคือกู้เซียง ฉันเพิ่งรู้สถานะที่แท้จริงของเธอช่วงที่แอบสะกดรอยตาม อย่าถามอะไรลู่จูอีกเลย ลู่จูอยากอยู่คนเดียว”
ทันทีที่ได้คำตอบนี้ ระบบของมหาวิทยาลัย F ก็ล่ม เนื่องจากมีคนเข้าใช้งานเกินจำนวนที่รองรับได้
ชาวเน็ตพูดกันปากต่อปาก เมื่อข่าวกระจายออกไป คนที่แคปหน้าจอได้ทันก็เอาเรื่องนี้ไปแชร์ในเวยป๋อ บอกว่ากู้เซียงก็คือนางเอกนิยายเรื่องนักบุญในคราบนักฆ่า จนถูกติดแฮชแท็ก #ตัวตนที่แท้จริงของนักฆ่าสาว
เลือดในกายของเด็กหนุ่มร่างอ้วนพลุ่งพล่าน เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและตื่นเต้นเร้าใจ
เรื่องราวเล่าถึงความใสซื่อบริสุทธิ์และความเจนจัดกร้านโลก ทุกอรรถรสหลอมรวมกันได้อย่างลงตัว
ก่อนหน้านี้ กระทู้ได้รับความสนใจจากทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา พอลู่จูออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริงของกู้เซียง ไม่ใช่แค่ตัวละครในนิยายที่แต่งแต้มขึ้น
สถานการณ์ของกู้เซียงจึงกลับตาลปัตร มลทินของเธอถูกล้างไปกว่าครึ่ง
เป็นเพราะเด็กหนุ่มร่างอ้วนออกแบบบุคลิกและคำพูดของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งที่เป็นเด็กสายวิทย์ แต่กลับรังสรรค์บทความที่ทำให้หลายคนชื่นชอบและหลงใหลได้
นางเอกของเรื่องรักในความยุติธรรม โดยเฉพาะฉากที่ช่วยเหลือหญิงท้องจากการถูกสามีขี้เมาทำร้าย เผชิญหน้ากับชายป่าเถื่อนโดยไม่เกรงกลัว ทั้งที่เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง
ถ้าเป็นดาราหญิงคนอื่นๆ ไม่ว่าจะสวยหรือขี้เหร่ ย่อมกลัวว่าตัวเองจะเกิดปัญหาและให้คนอื่นออกหน้าแทน
ภาพลักษณ์ของกู้เซียงดูดีขึ้นทันตา ซึ่งเรื่องนี้สามารถแบ่งได้เป็นสองประเด็น
ประเด็นแรก กู้เซียงเป็นคนที่กล้าเปิดเผยตัวตน มีจิตใจดีงาม เผชิญหน้ากับปัญหาโดยไม่เกรงกลัว
ประเด็นที่สอง การที่เธอตัดสินใจหยิบปืนปลอมออกมา ทำให้ชายขี้เมาตกใจจนเข่าอ่อน ทั้งยังทำให้ลู่จูกับเพื่อนๆ ตกใจได้อีก นับเป็นฝีมือการแสดงที่เหนือชั้นจริงๆ
เรื่องนี้ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งในเวยป๋อ
ไม่นานประเด็นร้อนอันดับสองของเวยป๋อก็ตามมา และไม่พ้นเรื่องนี้เช่นกัน
ตำรวจนครบาลเมือง G ที่ใช้ชื่อผู้ใช้ในเวยป๋อว่า ‘ตำรวจนครบาลเมือง G ออนไลน์’ ซึ่งปกติจะแจ้งข่าวสารด้วยข้อความน่าเอ็นดูแต่แฝงไปด้วยข้อคิด นานๆ จะจับกุมศิลปินด้วยคดียาเสพติดหรือทะเลาะวิวาทสักครั้ง แต่ไม่เคยพาดพิงถึงเรื่องในวงการบันเทิง
ทว่าเช้าวันเทศกาลชีซี เวยป๋อของตำรวจนครบาลเมือง G ออนไลน์ กลับโพสต์ข้อความว่า “วันนี้เป็นวันชีซี ทุกคนคงกำลังอวดความหวานกันอยู่ ส่วนลุงตำรวจขอแท็กถึงนางเอกในดวงใจ ที่ก่อนหน้านี้เป็นพลเมืองดี ใช้ความเป็นนักแสดงบู๊มืออาชีพขู่ชายขี้เมาจนเข่าอ่อน ขอกดไลก์ให้นางเอกผู้เปี่ยมไปด้วยพลังบวกคนนี้ด้วยครับ @กู้เซียง”
ในฐานะเวยป๋อของสถานีตำรวจ ย่อมไม่โพสต์ข่าวปลอมแน่นอน เพราะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ข้อความน่ารักก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่สื่อสารคือหัวใจสำคัญยิ่งกว่า
ตอนแรกมีคนสงสัยว่าบทความนักบุญในคราบนักฆ่าคือเรื่องจริงหรือเปล่า? ถึงตอนนี้ไม่มีใครคลางแคลงใจอีกแล้ว เพราะแม้แต่ตำรวจก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็น
การที่สถานีตำรวจเมือง G ออกมาพูดยกย่องกู้เซียง ทำให้คนส่วนใหญ่ที่เคารพและเชื่อถือตำรวจอยู่แล้วพากันเชื่อว่ากู้เซียงเป็นคนที่ยึดมั่นในคุณธรรม
เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้แฟนคลับกลุ่มวัยกลางคนและกลุ่มแม่บ้านเพิ่มขึ้นมาอีก
สองประเด็นใหญ่กลายเป็นประเด็นร้อน ประเด็นแรกมาจากกระทู้ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ส่วนประเด็นที่สองก็มาจากสถานะที่น่าเชื่อถือของผู้โพสต์
ตามด้วยประเด็นร้อนที่สามซึ่งยังคงอยู่ในกระแสของกู้เซียงและเป็นความจริงอีกเช่นกัน
แม้ว่ากระทู้ของลู่จูและข้อความจากลุงตำรวจจะล้างมลทินของกู้เซียงได้อย่างหมดจด แต่ก็ยังไม่สิ้นสงสัย หลายคนที่ตามข่าวยังงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น และต้องการใครสักคนมาสรุปเรื่องราวทั้งหมด
ซึ่งคนที่จะสรุปเรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คือตัวผู้ประสบเหตุเอง
หลังจากที่หายไปนาน หญิงท้องที่ถูกกู้เซียงช่วยไว้ก็ยอมปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ
เธอไม่ต้องการให้นักข่าวเบลอหน้าและยินดีจะให้สัมภาษณ์ออกทีวี เพื่อบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ในเมื่อเธอคือผู้เสียหาย คำพูดจึงมีน้ำหนักมากที่สุด
ยิ่งได้เด็กหนุ่มผมหยิกจากสำนักข่าวบันเทิงรายวันเป็นผู้สัมภาษณ์ ก็ยิ่งไม่มีอะไรที่บิดเบือน