หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 25

ตอนที่ 25

ทุกคนในห้องยกเว้นเสี่ยวหมิ่น ย้ายไปอยู่ฝั่งของเฉินเมี่ยวทั้งหมด ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะเรียน ตู้หยู่พยายามโน้มน้าวให้เธอมาอยู่ฝั่งเดียวกัน แต่ไม่เป็นผล

 

เสี่ยวหมิ่นยังคงเป็นแฟนคลับตัวยงของเฉียวอิ้งฉิง รักด้วยใจจริง และจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเด็ดขาด

 

ตู้หยู่เริ่มหงุดหงิด “คบกันมาตั้งนาน เวลาดูละครก็เป็นพวกเดียวกันตลอด แต่ครั้งนี้กลับจะแยกฝั่ง ความเป็นเพื่อนของเราตลอดสองปีเทียบไม่ได้กับเฉียวอิ้งฉิงงั้นเหรอ?”

 

“เทียบไม่ได้อยู่แล้ว!” เสี่ยวหมิ่นกำดินสอในมือแน่น “เธอน่ะมันพวกหอยลอยตามคราด ตอนอ่านนิยายก็บอกว่าไม่ชอบตัวร้าย ไม่อยากให้ทำละครเหมือนในนิยาย แต่พอตัวร้ายได้ดี ก็เปลี่ยนข้างซะงั้น!”

 

“ก็เพราะนิยายไม่ได้พูดถึงจุดเด่นของตัวละครไง กล้าสาบานไหมว่าเธอไม่นึกสงสารเฉินเมี่ยวเลย ไม่มองว่าสวยด้วยซ้ำ!” ตู้หยู่แย้ง

 

นัยน์ตาของเสี่ยวหมิ่นฉายแววสับสน เธอไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ยังไงก็ต้องหวั่นไหวอยู่แล้ว แต่นางเอกก็คือนางเอก ต่อให้สงสารเฉินเมี่ยวจนอยากจะกระชากหน้ากากของจูชิงฮวนแค่ไหนก็ทำไม่ได้

 

หรือเพราะเฉินเมี่ยวแสดงได้สมจริงมาก จูชิงฮวนจึงถูกมองว่าเสแสร้ง แต่ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่สมเหตุสมผล เพราะกู้เซียงเป็นดาราหน้าใหม่ ไม่ควรแย่งซีนไปจากเฉียวอิ้งฉิงที่เป็นถึงดาราแถวหน้า

 

“เลิกพูดได้แล้ว!” เสี่ยวหมิ่นยกมือปิดหู “ฉันคือทีมจูชิงฮวน ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจ!”

 

“เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว!” ตู้หยู่กลอกตามองบน

 

เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น นักเรียนทุกคนรีบใส่ใบคะแนนไว้ใต้โต๊ะ หยิบกระเป๋านักเรียนและรีบเดินออกจากห้อง

 

“ไม่คุยด้วยแล้ว จะรีบกลับไปดูจ่านหยาง!” ตู้หยู่บอกเสี่ยวหมิ่น

 

คืนนี้เป็นฉากที่เฉินเมี่ยวให้เจียงเยว่ไปขืนใจจูชิงฮวน ในบทประพันธ์ก็มีฉากนี้ แต่ถ้าให้จ่านหยางไปเล่นบทเลิฟซีนจริงๆ เธอคงทำใจยอมรับไม่ได้

 

นักเขียนไม่น่าทำแบบนี้เลย เด็กสาวครุ่นคิดเพียงลำพัง จ่านหยางหล่อขนาดนั้น ทำไมถึงให้เล่นเป็นตัวร้ายที่ไปข่มขืนคนอื่น พรุ่งนี้ผู้หญิงทั้งประเทศคงพากันบ่นว่าอยากถูกข่มขืนบ้าง

 

ที่แน่ๆ คือทุกคนรู้สึกว่าหญิงมารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างจูชิงฮวน ไม่สมควรได้เข้าใกล้จ่านหยาง ถ้าคนเลวๆ มีบุญถึงขนาดนั้น แล้วจะเป็นคนดีไปทำไมกัน

 

วันนี้รถติดมาก ตอนตู้หยู่กลับถึงบ้านละครได้เล่นไปสิบกว่านาทีแล้ว แต่ก็ทันฉากขององครักษ์เจียงเยว่และเฉินเมี่ยวพอดี

 

เฉินเมี่ยวที่มักจะปรากฏตัวอย่างสง่างามกลับแต่งกายด้วยชุดธรรมดา แต่ใบหน้ายังคงงดงามหมดจด นางดูเหนื่อยล้าหลังรู้ว่าหมิงอ๋องหลงรักจูชิงฮวนหัวปักหัวปำ ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก

 

“องครักษ์เจียง ครั้งนี้…” เฉินเมี่ยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

 

“ขอรับ” นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเยว่ขัดจังหวะผู้เป็นนาย

 

เฉินเมี่ยวเงยหน้ามององครักษ์ในชุดสีดำ ซึ่งบังเอิญสบตากันพอดี

 

องครักษ์ผู้นี้เห็นชีวิตหลังการแต่งงานของนางมาโดยตลอด รู้ด้วยว่าผู้เป็นนายไม่ได้รับความโปรดปรานอย่างที่ควร จึงสร้างวีรกรรมมากมายเพื่อปกป้องนาง ไม่เคยนึกตำหนิและยินดีจะทำตามคำสั่งอย่างซื่อสัตย์

 

ซื่อสัตย์ เย็นชา สงสาร ปกป้อง…

 

เฉินเมี่ยวหลุบตาลงเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยากจะคาดเดา “จูชิงฮวนคือสนมของฮ่องเต้ แผนการครั้งนี้เสี่ยงยิ่งนัก หากไม่ระวังอาจถึงแก่ชีวิต เจียงเยว่ เจ้า…”

 

“เข้าใจแล้วขอรับ” เขาตอบ

 

เฉินเมี่ยวมององครักษ์คนสนิทอีกครั้ง

 

ตู้หมู่วางนิตติ้งที่ถักไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “สองคนนี้เหมาะสมกันดีนะ”

 

ประโยคนี้ทำตู้หยู่อ้าปากด้วยความตกใจ

 

 

ในบทประพันธ์ เฉินเมี่ยวคือตัวร้ายที่โหดเหี้ยมอำมหิต

 

ในบทละครโทรทัศน์ เฉินเมี่ยวคือเมียหลวงที่งดงามและอาภัพ

 

ในบทประพันธ์ เจียงเยว่คือสุนัขรับใช้ที่ร้ายกาจ

 

ในบทละครโทรทัศน์ เจียงเยว่คือองครักษ์ที่หล่อเหลาและเย็นชา

 

เมื่อคนที่มีบุคลิกสง่างามมาอยู่ด้วยกันจึงถูกจับคู่โดยปริยาย เท่ากับเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับคนดู

 

เคมีของเจียงเยว่และเฉินเมี่ยวชัดเจนมาก พอถูกตู้หมู่สะกิดด้วยหนึ่งประโยค ตู้หยู่ก็รู้สึกทันทีว่าสองคนนี้เหมาะสมกัน

 

ทั้งที่เป็นฉากโหดร้าย เป็นคู่ที่ต้องมีจุดจบอย่างน่าอนาถ แต่กลับแสดงออกมาเหมือนกำลังกุ๊กกิ๊กกัน

 

เฉินเมี่ยวสั่งให้เจียงเยว่ไปจัดการจูชิงฮวน ทว่าสนมของฮ่องเต้คงจัดการไม่ง่ายราวกับผักปลา เหมือนไปรนหาที่ตายชัดๆ แต่องครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ก็ยังทำตามอย่างว่าง่าย

 

“ขอรับเหนียงเหนียง แม้ต้องตายข้าก็จะสังหารนางให้ได้!”

 

อาจเพราะเรื่องราวความรักระหว่างหมิงอ๋องกับนางเอกไม่เพียงพอต่อความปรารถนาของคนดู เมื่อมีคู่พระนางเกิดขึ้นใหม่ ทุกคนจึงพบประกายแห่งความสนุกสนานและน่าประทับใจในอีกส่วนของเนื้อเรื่องแล้ว

 

คนดูตั้งชื่อให้คู่รักคู่นี้ว่า ‘แมวรัตติกาล’ และ ‘คู่จิ้นองครักษ์’

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เวยป๋อก็มีแฮชแท็กใหม่ทันที #แมวรัตติกาลคู่กันเถอะ #คู่จิ้นองครักษ์แทนคู่หลัก

 

หากจะบอกว่าเฉินเมี่ยวดึงดูดแฟนคลับที่รักในความถูกต้องมาเป็นจำนวนมาก เจียงเยว่ก็ดึงดูดแฟนคลับที่จ้องจะจับคู่คนในละครมาได้อีกจำนวนหนึ่ง

 

เสี่ยวหมิ่นยื่นขนมปังให้ตู้หยู่อย่างอารมณ์ดี

 

“ไม่ได้อยู่ทีมเดียวกัน ไม่ต้องทำเป็นสนิท!” ตู้หยู่ปฏิเสธน้ำใจอย่างตรงไปตรงมา

 

“แหม… จะไม่ใช่ทีมเดียวกันได้ไง” เสี่ยวหมิ่นอมยิ้มตอบ “ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ทีมจูชิงฮวนแล้ว”

 

ตู้หยู่คว้าแขนเพื่อนด้วยความตื่นเต้น “เธอย้ายมาอยู่ทีมเฉินเมี่ยวแล้วเหรอ?”

 

“ก็ไม่เชิง” เสี่ยวหมิ่นดึงแขนตัวเองออก กัดขนมปังหนึ่งคำ “ฉันอยู่ทีมแมวรัตติกาลต่างหากล่ะ”

 

“What?”

 

“ถึงเฉียวอิ้งฉิงจะเป็นไอดอลของฉัน แต่จ่านหยางก็เป็นชีวิตของฉันเหมือนกัน ฮ่าๆๆ” เสี่ยวหมิ่นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ความรักในละครเรื่องนี้แปลกๆ ตลอด พอได้ดูตอนเมื่อวานก็คิดว่าแบบนี้น่าจะดีกว่า เลยคิดว่าจะอยู่ทีมแมวรัตติกาลแบบเด็ดขาด”

 

“เฮอะ… ใครกันแน่ที่เป็นหอยลอยตามคราด น้ำตาลอยู่ไหนก็ย้ายไปอยู่นั่น!” ตู้หยู่ค้อนใส่เพื่อน

 

“เร็วเข้า” เสี่ยวหมิ่นหยิบโทรศัพท์ออกมา “รีบส่งข้อความบอกนักเขียนให้เปลี่ยนตอนจบกัน”

 

กู้เซียงเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

 

“ล้อเล่นใช่ไหม? แมวรัตติกาล คู่จิ้นองครักษ์ อะไรกันอีกเนี่ย!”

 

เหมือนทุกคนจะคิดถึงฉากรักจนบ้ากันไปหมดแล้ว แทนที่จะลุ้นคู่พระนาง กลับมาลุ้นคู่พระชายากับองครักษ์ที่เป็นตัวร้ายมาตั้งแต่แรกแทน แถมบอกด้วยว่าเคมีเข้ากันมาก แค่มองตาของทั้งคู่ก็รู้ว่าเปี่ยมไปด้วยความรัก

 

แค่จับคู่กันในละครก็ว่ามากแล้ว ยังมีบางความคิดเห็นที่ขอให้ทั้งสองคบกันจริงๆ อีก

 

เธอทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจปิดคอมพิวเตอร์

 

กระแสรุนแรงขนาดนี้ อย่าเพิ่งโพสต์เวยป๋อจะดีกว่า อยู่เฉยๆ น่าจะดีที่สุด

 

ฝ่ายของกู้เซียงปกติดีทุกอย่าง แต่ใครบางคนกลับเป็นเดือดเป็นร้อน

 

เฉียวอิ้งฉิงนวดขมับด้วยความเครียด เธอรู้สึกเหนื่อยและท้อใจอย่างบอกไม่ถูก

 

“เหลียงจี้ ฉันเหนื่อยเหลือเกิน”

 

“อย่าคิดมากเลย” เขากอดร่างของเธอแนบแน่น “บางทีละครเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับคุณ”

 

เฉียวอิ้งฉิงที่อยู่ในอ้อมกอดส่ายหน้าเบาๆ ตอนแรกเธอรับเล่นเรื่องนี้เพราะเหลียงจี้ แต่หลังจากที่ได้อ่านบทก็รู้สึกพึงพอใจมาก อันดับแรก นี่เป็นละครที่มาจากบทประพันธ์ ขอเพียงทำได้สมน้ำสมเนื้อ ก็ดังได้ไม่ยาก ประการที่สอง มีการใช้ทุนสร้างอย่างมหาศาล นักแสดงสมทบล้วนมีความสามารถ ทำให้มาตรฐานของละครดูสูงขึ้น หมายความว่าหลังจากละครเรื่องนี้จบ เธอจะมีชื่อเสียงและมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม จึงตั้งใจเล่นละครเรื่องนี้มาก

 

แต่เหมือนบทที่ได้รับจะจงใจทำร้ายเธอ ไม่สิ… ต้องบอกว่ากู้เซียงจงใจทำร้ายเธอ ด้วยการทำให้ทุกอย่างไม่ราบรื่นตั้งแต่แรก

 

สองตอนที่ออกอากาศในสัปดาห์นี้ เฉียวอิ้งฉิงถูกวิจารณ์บทบาทจนย่อยยับ ถูกเอาฝีมือการแสดงไปเปรียบเทียบกับกู้เซียง ยังมีบทความอีกเป็นจำนวนมากที่เขียนว่าฝีมือการแสดงของเธอเทียบไม่ได้กับการแสดงของดาราหน้าใหม่ โดยเฉพาะฉากที่ต้องปะทะกัน คล้ายว่าเธอถูกลดบทบาทจนแทบไม่เหลือตัวตน

 

หากเป็นเจี่ยงลี่ลี่หรือนักแสดงคนอื่นๆ เฉียวอิ้งฉิงคงไม่โมโหขนาดนี้

 

การที่นักแสดงเก่ามากประสบการณ์ถูกดาราหน้าใหม่แย่งซีนไปได้ ไม่ต่างจากการถูกลากไปตบกลางสี่แยก

 

เฉียวอิ้งฉิงเกลียดขี้หน้ากู้เซียงมาก ส่วนตัวเธอไม่ค่อยชอบพวกดาราหน้าใหม่ไร้ชื่ออยู่แล้ว ยิ่งเป็นกู้เซียง ก็ยิ่งเกลียดอย่างบอกไม่ถูก

 

“เหลียงจี้ ถ้าฉันถอนตัวกลางคัน…”

 

“ล้อเล่นน่ะ!” เขาตกใจกับคำพูดนี้มาก

 

เฉียวอิ้งฉิงรู้ว่าเมื่อครู่เธอวู่วามเกินไป เพราะฉีโฮ่วจ้วนถ่ายทำถึงกลางเรื่องแล้ว จะทิ้งไปง่ายๆ คงไม่ได้ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจ

 

“แล้วฉันควรทำยังไง หลายตอนมานี้ถูกมันแย่งซีนตลอด”

 

เหลียงจี้ถอนหายใจเบาๆ และลูบศีรษะอีกฝ่ายเป็นเชิงปลอบ “อย่ากดดันตัวเองนักเลย ไม่ใช่เพราะคุณแสดงไม่ดี แต่เป็นเพราะ…”

 

เขาไม่อาจพูดออกไปตรงๆ ว่ากู้เซียงแสดงได้ดีกว่า เพราะลึกๆ ก็แอบยอมรับว่าฝีมือการแสดงของเธอสร้างความประหลาดใจมากเหลือเกิน

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท