บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 5 ย้อนถาม

ตอนที่ 5 ย้อนถาม

ท้องฟ้าสว่างขึ้น เสียงร้องตกใจดังขึ้นในกระโจมแม่ทัพ 

“พี่เขย! พี่เขย ท่านเป็นอันใด ใครก็ได้รีบเข้ามา!” 

ทหารคนสนิทด้านนอกรีบพุ่งตัวเข้ามา เห็นเพียงเฉินตันจูที่สวมเพียงชุดบางและผมสยายนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าโต๊ะ ใบหน้าเล็กซีดเผือดกำลังเขย่าตัวของหลี่เหลียง 

หลี่เหลียงหมอบอยู่บนโต๊ะนิ่ง ด้านล่างแขนทับอยู่บนแผนที่และเอกสารที่เปิดกว้าง 

“ข้าตื่นมาพบพี่เขยนอนอยู่เช่นนี้” เฉินตันจูพูดไปร้องไห้ไป “ข้าอยากให้เขาไปนอนบนเตียง ข้าเรียกแล้วแต่เขาไม่ตื่น ข้ารู้สึกผิดปกติ” 

ผิดปกติจริง หลี่เหลียงเป็นคนระวังตัว เสียงร้องของเด็กหญิงและเสียงฝีเท้าของเหล่าทหารดังเพียงนี้ ถึงจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็ไม่มีทางหลับลึกเช่นนี้ 

คนทั้งหลายเดินขึ้นหน้าจัดวางให้หลี่เหลียงนอนราบลงอย่างระมัดระวัง ทหารคนสนิทตรวจดูลมหายใจ ยังมีลมหายใจ แต่สีหน้าของอีกฝ่ายไม่ดีนัก ไต้ฟูถูกเรียกเข้ามาทันที ก่อนจะบอกว่าท่านแม่ทัพตกอยู่ในอาการสลบไสล 

เฉินตันจูยืนอยู่ด้านข้าง ขยำเสื้อถามด้วยความกังวล “พี่เขยเหน็ดเหนื่อยจนล้มป่วยหรือ” ก่อนจะซักถามทหารคนสนิท “เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าดูแลพี่เขยอย่างไรกัน” น้ำตาหลั่งไหลลงมาอีกครั้ง “พี่ชายไม่อยู่แล้ว หากพี่เขยเป็นอันใดไปอีก” 

เหล่าทหารคนสนิทรู้สึกรำคาญใจกับการร้องไห้ของเด็กหญิง “คุณหนูรอง ท่านอย่าเพิ่งร่ำไห้ ท่านแม่ทัพร่างกายแข็งแรงดีเสมอมา” 

เหล่าองครักษ์ของตระกูลเฉินล้วนเข้ามาในเวลานี้ พวกเขาไม่ไว้หน้าเหล่าทหารของหลี่เหลียงแม้แต่น้อย “ท่านแม่ทัพร่างกายแข็งแรงจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ตอนนี้เวลาไหนแล้ว คุณหนูรองถามไม่ได้หรือไร?” 

เหล่าทหารของหลี่เหลียงไม่กล้าโต้แย้งกับพวกเขา ทำได้เพียงก้มหน้าพูด “ให้ไต้ฟูดูก่อนเถิด” 

เฉินตันจูถูกเหล่าองครักษ์คุ้มกันไว้อีกด้านหนึ่ง นางยืนมองดูไต้ฟูตรวจร่างกายให้หลี่เหลียง เขาหยิบเข็มเงินออกมาทิ่มนิ้วของหลี่เหลียง หลี่เหลียงไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย คิ้วของไต้ฟูขมวดมุ่น 

“ท่านแม่ทัพกินอะไรเข้าไปหรือไม่” เขาหันมาถาม 

เฉินตันจูกล่าว “พี่เขยทำข้าวต้มเนื้อให้ข้า ข้ากินไปชามหนึ่ง ที่เหลือพี่เขยกิน” 

ทหารคนสนิทก็ยืนยันคำพูดของเฉินตันจู พร้อมเอ่ยเสริม “คุณหนูรองเข้านอนเร็ว แม่ทัพใหญ่เกรงว่าจะรบกวนนางจึงไม่ได้กินมื้อดึก” 

หมายความว่ากินสิ่งของแบบเดียวกับคุณหนูรองเฉิน ไต้ฟูเหลือบมอง พบว่าคุณหนูรองเฉินมีสีหน้าซีดขาวเหมือนเมื่อวาน ไม่มีอาการอย่างอื่น 

ไต้ฟูดมกลิ่น “กลิ่นยานี้…” 

“ข้ากินยา” เฉินตันจูพูด “เมื่อคืนข้ากินยาแล้วนอนหลับไป อีกทั้งยังจุดยาสำหรับสงบจิตใจด้วย” 

เรื่องนี้ไต้ฟูเองก็รู้เช่นเดียวกัน เมื่อเฉินตันจูมาถึง เขาก็ถูกหลี่เหลียงเรียกตัวมา บอกว่าคุณหนูรองไม่สบาย ให้เขาตรวจดูอย่างละเอียด ยาของคุณหนูรองเขาก็ตรวจดูแล้ว เป็นเพียงยาธรรมดา 

เพียงแต่กลิ่นยาจางๆ ในเวลานี้แปลกประหลาด หรืออาจเป็นเพราะมีคนเข้ามาจำนวนมากทำให้กลิ่นเพี้ยนไป 

สิ่งสำคัญคือคุณหนูรองเฉินที่อยู่กับหลี่เหลียงทั้งคืนไม่มีอาการผิดปกติอันใด ไต้ฟูครุ่นคิดก่อนจะถามขึ้น “หลายวันนี้ท่านแม่ทัพกินอันใดเข้าไป” 

ในเวลานี้รองแม่ทัพทั้งสามในค่ายได้ยินข่าวเพิ่งเดินทางมาถึง เมื่อได้ยินสิ่งที่ไต้ฟูพูดจึงรู้สึกผิดปกติ พวกเขาถามขึ้น “ท่านหมายความว่าอย่างไร ท่านแม่ทัพเป็นอันใดกัน” 

ไต้ฟูพูดออกมาโดยตรง “ท่านแม่ทัพคงจะถูกวางยาพิษ” 

คนในกระโจมได้ยินต่างตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร ยาพิษ?” แต่ละคนล้วนร้องโหวกเหวกขึ้นมา มีบางคนคิดจะหันหลังเดินไปด้านนอก “ข้าจะไปหาไต้ฟูคนอื่นมา” แต่มีเสียงหญิงสาวหนึ่งดังขึ้นข่มเสียงอื่นๆ 

“หยุด!” เฉินตันจูตะโกน “ไม่ว่าใครก็ห้ามออกไป” 

ทุกคนเงียบสงบมองดูใบหน้าซีดเผือดของเด็กหญิง มือของนางกำแน่นอยู่ด้านหน้า “พวกเจ้าห้ามไปไหนทั้งนั้น พวกเจ้าล้วนต้องสงสัยว่าทำร้ายพี่เขยข้า!” 

ทันทีที่สิ้นเสียง คนภายในกระโจมยิ่งวุ่ยวายขึ้นในทันที  

“คุณหนูรอง! พวกข้าไม่ได้ทำ!”  

“พวกข้าเป็นคนของท่านแม่ทัพ จะทำร้ายท่านแม่ทัพได้อย่างไร” 

เฉินตันจูมองดูพวกเขา ฟันเล็กกัดริมฝีปากล่างพร้อมตะโกนเสียงแหลมออกมา “เหตุใดจึงเป็นไปไม่ได้ พี่ชายข้าตายภายในค่ายทหาร! คนที่ทำให้พี่ชายข้าตาย ตอนนี้จะทำร้ายพี่เขยข้า ไม่แน่ว่าจะทำร้ายข้าด้วย เหตุใดเมื่อข้ามาถึงพี่เขยข้าก็เกิดเรื่อง!” 

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ องครักษ์ตระกูลเฉินทั้งห้าจึงรายล้อมเฉินตันจูเอาไว้ 

เหล่ารองแม่ทัพภายในกระโจมเมื่อได้ยินถึงตรงนี่ก็กระจ่างใจ พวกเขาไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี เด็กตรงหน้านี้ตกใจกลัวจนเลอะเลือน ไม่มีเหตุผลไปแล้ว เฮ้อ เดิมทีพวกเขาก็ไม่หวังให้เด็กหญิงอายุสิบห้ามีเหตุผลอยู่แล้ว 

“คุณหนูรอง” รองแม่ทัพอายุสี่สิบกว่าคนหนึ่งพูดขึ้น “ท่านจำข้าได้ใช่หรือไม่ ข้าคือหลี่เป่าทหารที่ปรึกษาภายใต้ท่านมหาราชครู ท่านมหาราชครูเป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้ หากทำร้ายคนของท่านมหาราชครู ข้าเป็นคนแรกที่สมควรตาย” 

“ใช่แล้ว คุณหนูรอง ท่านอย่ากลัว” รองแม่ทัพอีกคนปลอบ “ที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนของท่านมหาราชครู” 

เขาพูดถึงตรงนี้ดวงตาก็แดงก่ำขึ้น 

“การตายของนายน้อยตันหยาง พวกข้าก็เจ็บปวดใจอย่างมาก ถึงแม้…” 

ถึงแม้ท่านอ๋องจะไม่คิดว่าการตายของนายน้อยตันหยางมาจากการถูกคนวางแผน แต่ภายในใจของพวกเขาล้วนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 

“พวกเราจะแก้แค้นแทนนายน้อยตันหยางอย่างแน่นอน” 

เฉินตันจูรู้ว่ากว่าครึ่งในนี้ล้วนเป็นคนของเฉินเลี่ยหู่ แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งไม่ใช่ อำนาจทางการทหารของท่านพ่อถูกยึดไปหลายปี กองทัพของเมืองอู๋กระจายไปนานแล้ว อีกทั้ง หางตาของนางกวาดมองไปยังคนทั้งหลายภายในห้อง ถึงแม้คนกว่าครึ่งจะเป็นคนของเฉินเลี่ยหู่ แต่ก็มีกว่าครึ่งกลายเป็นคนของหลี่เหลียงไปแล้ว 

เมื่อมาถึงเวลานี้ก็ถึงที่แล้ว หากยังดื้อรั้นต่อไปจะเกิดปัญหา เฉินตันจูสูดลมหายใจเข้า น้ำตาคลออยู่ภายในตา “พี่เขยจะหายดีหรือไม่” 

เฮ้อ คนในกระโจมต่างจิตตก 

“คุณหนูรอง ท่านวางใจ” รองแม่ทัพหลี่เป่าพูด “พวกข้าจะไปหาไต้ฟูที่ดีที่สุดมา” 

ในขณะที่ทุกคนกำลังจะก้าวเท้าออกไป เฉินตันจูก็ส่งเสียงเรียกทุกคนไว้อีกครั้ง 

เฮ้อ เด็กช่างรับมือยาก ทุกคนต่างระอาเล็กน้อย 

“รองแม่ทัพหลี่ ข้าคิดว่าอย่าเพิ่งประกาศเรื่องนี้” เฉินตันจูมองเขา ขนตายาวมีน้ำตาเกาะอยู่ แต่เด็กหญิงก็พยายามใจเย็นไม่ให้พวกมันตกลงมา “ในเมื่อพี่เขยถูกคนทำร้าย คนร้ายย่อมอยู่ในค่ายของพวกเรา หากมีคนรู้ว่าพี่เขยถูกวางยาพิษ แผนการชั่วร้ายสำเร็จ พวกเขาคงต้องก่อการโกลาหลอย่างแน่นอน” 

เรื่องเป็นเช่นนี้จริง ทุกคนภายในกระโจมต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป สายตาของเฉินตันจูกวาดผ่าน ก่อนจะพบบางคนที่มีสีหน้าแปลกประหลาด…ภายในค่ายทหารมีสายลับของราชสำนักจริง แต่สายลับที่ใหญ่ที่สุดก็คือหลี่เหลียง เรื่องนี้คนสนิทของหลี่เหลียงรู้ดีอย่างแน่นอน 

นางหลุบสายตาลงต่ำ ยกมืดขึ้นกดปลายจมูก ทำให้เสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย 

“ก่อนที่พี่เขยจะฟื้นขึ้นมา หรือทางท่านพ่อรู้ข่าว ปิดได้นานแค่ไหนก็เท่านั้นเถิด” 

เหล่าหลี่เป่าสบตากัน สนทนาเสียงต่ำ สายตาที่มองเฉินตันจูยิ่งอ่อนโยน “ได้ คุณหนูรอง พวกเรารู้ว่าควรทำอย่างไร ท่านวางใจ” 

เฉินตันจูมองดูพวกเขา “พอดีกับข้าป่วย เชิญไต้ฟูหรือกินยาล้วนบอกว่าเป็นของข้า พี่เขยสามารถดูแลข้าไม่พบผู้อื่นได้” 

หลี่เป่าพยักหน้า ก่อนจะพูดกับเหล่าทหารคนสนิทภายในกระโจมอย่างเคร่งขรึม “พวกเจ้าต้องรักษากระโจมแม่ทัพให้ดี ทุกอย่างฟังคำสั่งจากคุณหนูรอง” 

เหล่าทหารคนสนิทต่างตอบรับ หลี่เป่าถึงได้เดินจากไปอย่างเร่งรีบ ด้านนอกกระโจมมีคนจำนวนไม่น้อยมาถามหา ล้วนถูกพวกเขาไล่ไป 

เฉินตันจูนั่งอยู่ภายในกระโจม มองดูหลี่เหลียงที่นอนสลบอยู่บนเตียง ห่มผ้าห่มผืนบางให้เขา ก่อนจะเม้มปาก หลี่เหลียงไม่มีทางตื่นขึ้นมาแล้ว อย่างมากอีกห้าวันเขาก็จะตายไป 

นางก้มหน้าลงไปชิดใกล้หูของหลี่เหลียง “พี่เขย ท่านวางใจ หญิงคนนั้นกับบุตรชายของท่าน ข้าจะส่งพวกเขาไปอยู่กับท่าน” 

ดวงตาที่หลับสนิทของหลี่เหลียงมีน้ำตาหลั่งไหลออกมา เฉินตันจูยกมือเช็ดออกให้เขา 

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท