บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 2 ลักขโมย

ตอนที่ 2 ลักขโมย

เฉินตันเหยียนตกใจกับน้องสาวที่กลับมาอย่างกะทันหัน นางมีคำถามมากมายอยากจะถาม แต่เด็กหญิงที่พุ่งเข้ามาในอ้อมกอดราวกับเพิ่งตกน้ำมา 

“ฝนตกหนักเพียงนี้…เจ้านี่!” เฉินตันเหยียนดึงนางเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว “เตรียมน้ำร้อน ต้มน้ำขิงมาถ้วยหนึ่ง หยิบยาลดหนาวมาด้วย” 

เหล่าสาวรับใช้ที่ติดตามมายุ่งขึ้นในทันที เฉินตันจูไม่ได้พูดอะไร นางถูกเฉินตันเหยียนจูงกลับเข้าไปด้านใน ทิ้งร่องรอยของน้ำฝนไว้บริเวณโถงทางเดิน 

ประตูใหญ่ตระกูลเฉินปิดสนิท ฝนยามค่ำคืนยังคงตกอยู่เช่นนั้น แสงไฟสั่นไหวไปมา เหล่าบ่าวรับใช้ต่างยุ่งงาน มีความสงบสุขอย่างแปลกประหลาด 

เฉินตันจูแช่น้ำร้อนเสร็จก็ถูกสาวรับใช้สองคนคลุมส่งออกมา เฉินตันเหยียนเป่าผมให้นาง มองดูนางดื่มน้ำขิงและยา 

ตอนที่เฉินตันจูกำเนิด เฉินตันเหยียนอายุสิบปีแล้ว เฉินฮูหยินจากไปหลังให้กำเนิดบุตรสาว เฉินตันเหยียนจึงเป็นทั้งพี่สาวเป็นทั้งมารดา ดูแลเฉินตันจูจนเติบโต 

“เจ้าอยากกลับมาก็ต้องดูเวลาบ้าง” เฉินตันเหยียนจำหนิ “รอฝนหยุดตกค่อยออกเดินทางจะเป็นอะไรไป” 

เฉินตันจูประคองถ้วยดื่มยาทีละคำ สัมผัสถึงรสชาติขมฝาดระหว่างลิ้น ไม่ได้พูดอะไร 

“อาจู เจ้าอายุสิบห้าแล้ว ไม่ใช่เด็ก” เฉินตันเหยียนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตายของน้องชาย สำหรับท่านพ่อและตระกูลเฉินล้วนเป็นผลกระทบที่สาหัส ไม่อาจปล่อยให้น้องเล็กเล่นสนุกเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว “ท่านพ่ออายุมากร่างกายไม่ดี ตันหยางก็เกิดเรื่อง อาจู เจ้าอย่าทำให้ท่านพ่อต้องเป็นกังวล” 

เฉินตันจูเงยหน้าขึ้นมองนาง “ท่านพี่ วันพรุ่งท่านพี่จะไปที่ใด” 

นางถามขึ้นอย่างกะทันหัน เฉินตันเหยียนตอบอย่างเหม่อลอย “ไปพบพี่เขยจะ…” นางหยุดลงทันที เมื่อเห็นดวงตาดำสนิทของน้องสาวกำลังจ้องมองตนเอง “ข้ากลับจวน พี่เขยเจ้าไม่อยู่ ภายในจวนมีเรื่องมากมาย ข้าไม่อาจอยู่ที่นี้ได้นาน” 

ตระกูลหลี่จะมีเรื่องอันใด พ่อแม่ของหลี่เหลียงล้วนอยู่ที่บ้านเกิด เวลานี้อาจถูกหลี่เหลียงคุ้มครองเอาไว้แล้ว 

จวนในเมืองหลวงของหลี่เหลียงว่างเปล่าท่านพี่ไม่มีบุตรกับเขาแม้แต่คนเดียวแต่งงานห้าปี ท่านพี่แท้งบุตรไปหนึ่งครั้งระยะนี้กำลังรักษาร่างกายของตนเอง 

ภายในบ้านมีนางบำเรออยู่สองคน แต่หลายปีนี้หลี่เหลียงขยับขันแข็งในกองทัพอย่างมาก นางบำเรอทั้งสองก็ไม่มีบุตรเช่นเดียวกัน 

ท่านพี่รู้สึกผิดต่อหลี่เหลียง คอยดื่มยาสมุนไพรต่างๆ ไหว้สักการะวัดวาอารามน้อยใหญ่ หลี่เหลียงมักบอกให้ท่านพี่ไม่ต้องใส่ใจ อีกทั้งไม่จำเป็นต้องรีบร้อน 

มุมปากของเฉินตันจูเผยให้เห็นรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาเพียงแค่ไม่รีบร้อนที่จะมีบุตรกับท่านพี่ อันที่จริงเวลานี้เขามีบุตราชายแล้ว หญิงสาวผู้นั้น… 

เฉินตันจูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาจับจ้องไปยังท้องน้อยของท่านพี่ เฉินตันเหยียนรูปร่างผอมบาง แต่อันที่จริงเวลานี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว 

ครานี้นางไปพบหลี่เหลียงเพื่อไม่ให้ท่านพ่อพบเข้า ไปกลับใช้เวลาแปดวันเหน็ดเหนื่อยจนเป็นลมล้มไปหลังจากที่เชิญไต้ฟู[1]มาถึงพบว่าตั้งครรภ์แล้ว แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับความยินดีปรีดา ก็ต้องเผชิญกับความตาย 

“อาเหลียง ข้ามีลูกแล้ว พวกเรามีลูกแล้ว” เฉินตันเหยียนถูกแขวนไว้หน้าประตูเมือง ร้องไห้ตะโกนบอกอีกฝ่าย 

หลี่เหลียงที่อยู่ด้านล่างหัวเราะเสียงดัง “เช่นนี้เจ้าตายไปก็ไม่โดดเดี่ยวแล้ว มีลูกอยู่เป็นเพื่อนเจ้า” 

หลี่เหลียงดึงคันธนู ยิงธนูใส่ท่านพี่อย่างแม่นยำ…“ท่านอ๋องอู๋ ข้าช่วยท่านฆ่าบุตรสาวแห่งขุนนางชั่ว” 

นี่ถึงจะเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่สิ่งที่เล่าขานกันในเวลาต่อมาว่าหลี่เหลียงโกรธาเพราะหญิงงาม ตอนที่เกิดเรื่องนางไม่ได้อยู่ในอารามดอกท้อ ไม่ได้ถูกบ่าวรับใช้ซ่อนเอาไว้ ตอนนั้นนางวิ่งไปถึงหน้าประตูเมืองเห็นฉากนี้กับตา 

ดังนั้น ถึงแม้ไม่มีใครบอกกล่าวตนถึงการตายของพี่ชายเฉินตันหยาง แต่นางก็เดาได้ว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่เหลียงอย่างแน่นอน 

ท่านพี่ตายแล้ว หลี่เหลียงถึงได้ครอบครองกองทัพที่เฝ้าอยู่ทางเหนืออย่างแท้จริง เขาถึงสามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ 

“อาจู?” เฉินตันเหยียนเอื้อมมือโบกไปมาต่อหน้าเฉินตันจู ขานเรียกอีกฝ่ายอย่างกังวล “เจ้าเป็นอันใดไป” เฉินตันจูตั้งสติกลับมาได้ “ท่านพี่ พรุ่งนี้ท่านอย่าเพิ่งกลับไปอยู่ต่ออีกเสียสองวันเถิด” นางยื่นมือกอดเฉินตันเหยียนเอาไว้ แนบชิดอยู่ด้านหน้าของนางสัมผัสถึงการเต้นของหัวใจพี่สาว อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงบริเวณท้องของนางอย่างระวัง “ข้าคิดถึงท่าน” 

เฉินตันเหยียนใจอ่อนระทวย อีกทั้งโศกเศร้าอย่างมาก การตายของน้องชายเฉินตันหยาง สำหรับเฉินตันจูแล้วคือการเผชิญกับการตายของคนในตระกูลเป็นครั้งแรก ตอนที่ท่านแม่จากไปนางยังเป็นเด็กทารก 

เฉินตันเหยียนกอดเด็กหญิงไว้ในอ้อมกอด “อาจู เจ้าไม่ต้องกลัว…” 

มีคนเปิดผ่านเดินเข้ามาพร้อมขานเรียกเสียงเบาๆ “คุณหนูใหญ่” 

เมื่อเห็นเฉินตันจูอยู่ด้วยจึงหยุดลง เฉินตันจูเองก็เห็นนาง นางคือสาวรับใช้ของท่านพี่เสี่ยวเตี๋ย 

เฉินตันเหยียนถาม “มีอันใด” 

เสี่ยวเตี๋ยรู้ว่าไม่ควรพูด แต่ก็ข่มความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ จึงถามขึ้น “ยังต้องเก็บของหรือไม่เจ้าคะ” 

เฉินตันเหยียนเข้าใจความหมายของนาง สายตาฉายแววตื่นเต้น ก่อนจะพูดขึ้น “ไม่ต้องเก็บ อีกสองวันเราจะกลับมา” นางหันไปยิ้มกับเฉินตันจู “อาจู ไม่ต้องกลัว ข้าจะอยู่กับเจ้าอีกสองวัน” 

เฉินตันจูมองดูเสี่ยวเตี๋ยที่ถอยออกไป นางรู้ว่าเสี่ยวเตี๋ยขโมยตราอาญาสิทธิ์ของท่านพ่อได้แล้ว 

นี่คือเป้าหมายการกลับมาครานี้ของท่านพี่ 

นางหลุบตาต่ำลง “เจ้าค่ะ” 

เฉินตันเหยียนทัดเส้นผมของนางไว้ด้านหลัง ก่อนจะพูดเสียงเบา “คืนนี้พี่จะนอนกับเจ้า” 

เฉินตันจูพยักหน้ายืนขึ้นอย่างเชื่อฟัง จูงมือนางเดินเข้าห้องภายในห้องเหล่าสาวใช้จุดธูปหอม พร้อมทั้งปูผ้าห่มนุ่มเอาไว้เรียบร้อย 

“เจ้านอนก่อน” เฉินตันเหยียนพูด “ข้าไปเตรียมการกับเหล่าบ่าวไพร่ก่อน” 

เฉินตันจูนั่งกอดเข่าอยู่บนหัวเตียงพลางพยักหน้าให้นาง เฉินตันเหยียนเดินออกไป เฉินตันจูรีบลงจากเตียง นั่งอยู่หน้าโต๊ะยกพู่กันเขียนชื่อยาหลายชนิดก่อนจะเรียกสาวรับใช้คนหนึ่งเข้ามา 

“เจ้าไปหายาพวกนี้ที่ห้องยามาให้ข้า ข้าเพิ่งเรียนสูตรยาใหม่ วางไว้ใต้หมอนจะทำให้นอนหลับดี” 

เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เท้าของเฉินเลี่ยหู่ อีกทั้งบาดแผลต่างๆ ที่ทิ้งไว้หลังสงคราม ตระกูลเฉินจึงมีห้องยาและมีไต้ฟูประจำจวน สาวรับใช้รับคำสั่งก่อนจะหยิบกระดาษเดินจากไป ไม่ถึงหนึ่งเค่อ[2]ก็กลับมาพร้อมกับยาเหล่านี้ล้วนเป็นยาที่พบบ่อย สาวรับใช้ยังใช้ผ้าผืนใหม่ห่อมาโดยเฉพาะ 

เวลานี้เฉินตันเหยียนเองก็กลับมา นางเปลี่ยนชุดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเห็นห่อยาจึงถามขึ้นอย่างสงสัย 

“เจ้าทำอันใด” 

เฉินตันจูให้สาวรับใช้ถอยลงไปประเคนห่อยาให้นางสูดดม “ท่านพี่ หอมหรือไม่ สูตรยาใหม่ที่ข้าค้นพบ สามารถสงบจิตใจได้” 

เด็กหญิงมักชอบทำถึงเครื่องหอม ตอนเด็กเฉินตันเหยียนก็เป็นเช่นนี้ นางหัวเราะพร้อมสูดดม 

“ดีจริง มานอนเถิดดึกแล้ว” 

เฉินตันจูตอบรับก่อนจะลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งมา พร้อมทั้งซ่อนปิ่นปักผมยาวไว้ในแขนเสื้อ 

พี่น้องสองคนขึ้นไปบนเตียง เหล่าสาวใช้ดับไฟถอยออกไป เนื่องจากต่างคนต่างมีเรื่องในใจ ทั้งสองคนจึงไม่ได้พูดอะไรอีกในไม่ช้าเฉินตันเหยียนก็หลับไปภายใต้กลิ่นหอมของสมุนไพรข้างหมอน เฉินตันจูลืมตาขึ้นพร้อมเลิกกลั้นหายใจ 

นางหยิบปิ่นเงินจิ้มลงไปบังหลังคอของเฉินตันเหยียน เฉินตันเหยียนที่ตกอยู่ในภวังค์คิ้วขมวด นาทีถัดมาใบหน้าของนางก็ผ่อนคลายลง 

เฉินตันจูคลายเสื้อตัวใหญ่บนตัวนางออกมองเห็นด้านในเปลี่ยนเป็นชุดกะทัดรัด ถุงขนาดเล็กมัดไว้ข้างเอว นางลูบคลำเข้าไปด้านในก่อนจะหยิบสิ่งหนึ่งออกมา จ่อสิ่งนั้นเข้ากับไฟสลัวในห้องพบว่ามันคือตราอาญาสิทธิ์ 

เฉินตันจูถอนหายใจแผ่วเบาออกมา เดินข้ามเฉินตันเหยียนลงจากเตียง นำยาในห่อทิ้งลงในเตาเผาธูปหอม ก่อนจะหันกลับไปมองเฉินตันเหยียนที่นอนสลบจากนั้นหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป 

ฝนยังคงตกกระหน่ำ ก่วนเจียที่เพิ่งนอนลงไปถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง 

“คุณหนูรอง?” เขามองคุณหนูรองที่ปรากฏตัวตรงหน้าอีกครั้งด้วยความตกตะลึง เด็กหญิงสวมชุดกันฝนและหมวกอีกครั้ง 

“ท่านคงไม่ได้อยากกลับอารามดอกท้อตอนนี้ใช่หรือไม่ขอรับ” 

เฉินตันจูพยักหน้า “ใช่ ก่วนเจียช่วยเตรียมองครักษ์ให้ข้าสิบคน” 

ก่วนเจียปวดหัวราวจะระเบิด “คุณหนูรอง ท่าน…ข้าไปเรียกใต้เท้า” 

เฉินตันจูส่งเสียงไม่พอใจ “ข้าไม่ได้มาพบท่านพ่อ ข้าแค่ได้ยินว่าท่านพี่กลับมาแล้ว ข้าจึงกลับมาดูท่านพี่ ตอนนี้เสร็จแล้ว ข้าจะกลับแล้ว” 

เด็กดื้อคนนี้ก่วนเจียระอา คุณชายเป็นเด็กผู้ชายที่ตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยเป็นเช่นนี้ เมื่อคิดถึงคุณชาย ก่วนเจียรู้สึกปวดใจอย่างมาก… 

“ท่านพี่บอกว่า พี่เขยจะแก้แค้นให้ท่านพี่” เฉินตันจูพูดอีกครั้ง 

ก่วนเจียถอนหายใจ หัวใจของคุณหนูรองก็คงเจ็บปวดจากเรื่องของคุณชายถึงได้บ้าคลั่งเพียงนี้ เขาไม่ได้ถามอะไรต่อเพียงแต่พูดเสียงนุ่ม 

“ขอรับ ข้าให้คนไปส่งคุณหนูขึ้นเขาหรือไม่ครานี้พวกเรานั่งรถดีหรือไม่ ฝนตกหนักเกินไป” 

เฉินตันจูไม่ได้ปฏิเสธ ก่วนเจียเตรียมการอย่างรวดเร็ว จวนตระกูลเฉินไม่ได้หลับทุกคน เหล่าองครักษ์ล้วนมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน 

“เพียงแต่ อาเถียนหลับไปแล้ว” ก่วนเจียพูด “เรียกนางขึ้นมาหรือไม่ขอรับ” 

เฉินตันจูส่ายหัว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจ “ไม่ต้อง ข้าไม่ชอบอาเถียนแล้ว อย่าให้นางตามข้าอีก เจ้าไม่ต้องหาสาวรับใช้คนใหม่ให้ข้า บนภูเขามีคนเพียงพอคนมากเกินไปข้ารำคาญ” 

อาเถียนทำให้คุณหนูรองโกรธ ก่วนเจียรู้สึกประหลาดใจ อารมณ์ของคุณหนูมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ เขาไม่กล้าถามอะไรมากรีบตอบรับเอาไว้ เฉินตันจูเดินขึ้นรถก่อนจะหันหน้ากลับมา 

“วันพรุ่งเจ้าให้ไต้ฟูมาดูท่านพี่เสียหน่อย ข้ารู้สึกว่าคืนนี้นางดูไม่ดีนักไออยู่ตลอดเวลา” 

ก่วนเจียตอบรับ “คุณหนูวางใจได้ ข้าจำเอาไว้แล้ว” 

เฮ้อ…คุณชายเกิดเรื่องไปแล้ว คุณหนูใหญ่อย่าเกิดอีกคนต้องระวังให้มาก 

“คุณหนูรอง ท่านถึงบนภูเขาต้องดื่มน้ำขิงให้มากนะขอรับ” ก่วนเจียกำชับ 

เฉินตันจูตอบรับก่อนจะเดินขึ้นรถไปไม่พูดอะอีก เหล่าองครักษ์สวมชุดฟางและหมวกกันฝนลากจูงรถม้าไปยังทิศทางของประตูเมือง 

เฉินตันจูนั่งอยู่ในรถม้า มองดูจวนตระกูลที่ถูกทิ้งไว้ด้านหลังสาวใช้อาเถียนจัดการแล้ว นางไม่มีทางตามขึ้นไปบนเขาพบว่าตนไม่อยู่ การฝังเข็มและยาสมุนไพรนั้นทำให้ท่านพี่สลบได้สองวัน นางไม่มีทางพบว่าตราอาญาสิทธิ์หายไป ส่วนไต้ฟูจะจับชีพจรให้นางก็จะพบว่านางตั้งครรภ์ 

เมื่อเฉินตันเหยียนตื่นขึ้นแล้วพบว่าตราอาญาสิทธิ์หายไป คงจะคิดว่าถูกท่านพ่อพบเข้าเอาคืนไปแล้ว บางทีอาจหาวิธีขโมยตราอาญาสิทธิ์อีกครั้ง หรือบางทีอาจพูดความจริงขอร้องท่านพ่อ แต่ท่านพ่อไม่มีทางให้ตราอาญาสิทธิ์ อีกทั้งหากรู้ว่านางตั้งครรภ์ ท่านพ่อคงไม่มีทางยอมให้นางออกจากประตู 

อย่างไรแล้วเมื่อรอพวกเขาพบว่าเรื่องผิดปกติ เฉินตันจูก็มีเวลาเพียงพอในการจัดการเรื่องต่างๆ แล้ว 

ใช่…เฉินตันจูไม่คิดจะห้ามท่านพี่ตั้งแต่แรกหรือว่าบอกท่านพ่อโดยตรง การจัดการเรื่องตราอาญาสิทธิ์ไม่อาจจัดการกับฝันร้ายที่กำลังจะมาถึงได้ 

หากคิดจะจัดการฝันร้าย ต้องกำจัดบุคคลสำคัญ 

เมื่อทะลุผ่านประตูเมืองไปแสงไฟอยู่ด้านหลัง ด้านหน้าคือท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด เฉินตันจูเปิดผ้าม่านขึ้น ก่อนจะเรียกเหล่าองครักษ์ 

เหล่าองครักษ์หันหน้ากลับมา 

เฉินตันจูยกตราอาญาสิทธิ์ขึ้น “คำสั่งท่านมหาราชครู ออกเดินทางไปถังอี้” 

ครานี้นางจะไปพบหลี่เหลียงแทนท่านพี่เอง 

—————————————————- 

[1] ไต้ฟู หมายถึง หมอ 

[2] หนึ่งเค่อ เทียบเท่าเวลาประมาณ 15 นาที 

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท