บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 6 กระซิบ

ตอนที่ 6 กระซิบ

หลี่เหลียงมีนางบำเรออีกคนอยู่ข้างนอก เวลาใกล้เคียงกับที่เขาแต่งงานเฉินตันเหยียนปีที่สอง 

เรื่องนี้ชาติก่อนเฉินตันจูรู้มาตอนหลัง 

แต่นางบำเรอคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา 

ปีที่สองที่ราชสำนักจู่โจมเมืองอู๋สำเร็จ ถึงแม้ทางตอนใต้ของเมืองอู๋ยังมีพื้นที่จำนวนไม่น้อยขัดขืน แต่สถานการณ์หลักนิ่งแล้ว ฮ่องเต้อพยพเมืองหลวง อีกทั้งสถาปนาหลี่เหลียงเป็นท่านแม่ทัพเวยอู่ อีกทั้งยังพระราชทานองค์หญิงให้แต่งงานกับเขา 

เรื่องประเภทนี้ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร เพราะมันเป็นการแสดงถึงความสำคัญขององค์จักพรรดิที่มีต่อขุนนาง แต่มีครั้งหนึ่งที่หลี่เหลียง และองค์หญิงท่านนั้นเดินทางกลับเมือง และแวะเวียนผ่านมาเยี่ยมนาง องค์หญิงถึงจะไม่ได้ขึ้นเขา แต่ตอนที่เขาลงเขานางแอบตามอยู่ด้านหลังนางยืนอยู่กลางเขา องค์หญิงมองดูเขา ไม่ได้ลงจากรถ มีเพียงแต่เด็กชายสี่ห้าขวบวิ่งออกมาจากด้านในยื่นมือร้องเรียกเขาว่าท่านพ่อ 

หลี่เหลียงหัวเราะแล้วอุ้มเขาขึ้นมา 

เวลานั้นเฉินตันจูตกตะลึงอย่างมาก หลี่เหลียง และองค์หญิงแต่งงานกันเพียงหนึ่งปี จะมีบุตรชายโตขนาดนี้ได้อย่างไร 

ภูเขาดอกท้อเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านหากเข้าเมืองหลวง แต่ละวันล้วนมีคนผ่านไปมาจำนวนมาก ข่าวสารนานาชนิดแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว นางอาศัยเวลาที่รักษาให้ชาวบ้านสืบทราบข่าวลือมา ข่าวลือนั้นกล่าวว่าหลี่เหลียงรู้จักกับองค์หญิงนั้นนานแล้ว อีกทั้งหลี่เหลียงช่วยชีวิตนางเอาไว้ องค์หญิงหลงรักเขาในแรกพบ ปิดบังตัวตนติดตามเขา… 

หลงรักแรกพบ ปิดบังตัวตนติดตามอะไรกัน หัวใจที่เย็นชาของเฉินตันจูยิ่งเย็นลงไป เห็นได้ชัดว่าแม่นางคนนี้ตั้งใจปิดบังตัวตนหลอกลวงหลี่เหลียง ส่วนหลี่เหลียงทรยศตระกูลเฉินหักหลังเมืองอู๋เร็วกว่าที่นางคิดเสียอีก 

ดูจากอายุของเด็ก หลี่เหลียงคงจะมีภรรยาใหม่ และบุตรด้านนอกหลังจากที่แต่งงานกับพี่สาวปีที่สาม พวกนางไม่สังเกตแม้แต่น้อยเวลานั้นท่านอ๋องทั้งสาม และราชสำนักยังไม่ได้เกิดสงครามกัน อีกทั้งหลี่เหลียงก็อยู่ในเมืองหลวงตลอด 

เฉินตันจูอยากจะควักลูกตาออกมา 

ตอนนี้นางมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ นางไม่จำเป็นต้องควักลูกตาออกมา นางแค่ขุดคุ้ยแม่นางคนนั้น และเด็กคนออกมา เฉินตันจูคิดอย่างเงียบๆ แต่แม่นางคนนั้นและเด็กจะอยู่ที่ใดกัน หลี่เหลียงเปิดปากพูดไม่ได้ แต่คนสนิทของเขาต้องรู้อย่างแน่นอน 

“คุณหนูรอง” องครักษ์ตระกูลเฉินเดินเข้ามา มองดูสีหน้าของเฉินตันจูอย่างเป็นกังวล “หลี่กูเหยีย…” 

เฮ้อ…เขากำลังเป็นห่วงหลี่กูเหยีย เฉินตันจูครุ่นคิดว่าจะบอกความจริงเขาดีหรือไม่ องครักษ์ที่นางพามาล้วนเป็นองครักษ์ของตระกูลเฉินหรือก็คือทหารส่วนตัวของเฉินเลี่ยหู่ 

พวกเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้ 

“พี่เขยไม่เป็นอะไร” นางพูด “คนที่ส่งจดหมายเตรียมไว้แล้วหรือ” เฉินเฉียงพยักหน้า 

“ตามที่คุณหนูรองบอก ข้าเลือกคนที่น่าเชื่อถือที่สุดคุ้มกันเฉินไฮ่ไปส่งจดหมายให้ใต้เท้า” 

ภายในใจของเขามีข้อสงสัย คุณหนูรองให้เฉินไฮ่กลับไปส่งจดหมายอีกทั้งยังให้คนกว่ายี่สิบคนคุ้มกัน อีกทั้งกำชับว่าต้องคัดเลือกเหล่าทหารที่คุ้มกันด้วยตนเอง เลือกคนที่พวกเจ้าเชื่อถือที่สุดไม่ใช่คนของหลี่กูเหยีย 

หลี่กูเหยียกับพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือ 

เฉินตันจูโบกมือให้เฉินเฉียงเดินขึ้นหน้ามา 

ภายในห้องไม่มีคนอื่น เฉินตันจูใช้ข้ออ้างว่าสงสัยทุกคนคือคนร้ายในการขับไล่ทุกคนออกไป ให้เพียงทหารคนสนิทของหลี่เหลียงเฝ้าอยู่ด้านนอกกระโจม มีอะไรที่ต้องใช้การกระซิบบอก เฉินเฉียงคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ทำให้เท่ากับเฉินตันจูที่นั่งอยู่บนเตียง 

เฉินตันจูป้องมือไว้ข้างหูของเขา “ข้าเป็นคนวางยาพี่เขยเอง” 

เฉินเฉียงคุกเข้าทั้งสองลงไปอยู่ข้างชายกระโปรงของเฉินตันจู เงยหน้าซีดเผือดอย่างอดเหลือเชื่อ เขาได้ยินอะไรนะ 

“เจ้าไม่ต้องตกใจ นี่เป็นคำสั่งของท่านพ่อ” เฉินตันจูหลอกเขา เด็กอย่างนางไม่มีทางทำให้คนอื่นเชื่อ เช่นนั้นก็ใช้ชื่อของท่านพ่อเถิด “หลี่เหลียงทรยศหักหลังเมืองอู๋ ยอมจำนนต่อราชสำนักแล้ว” 

ได้ยินว่าเป็นคำสั่งของใต้เท้า ถึงแม้เฉินเฉียงจะตกตะลึง แต่เขาไม่ได้ถามอะไรออกมาอีก สายตามองไปยังหลี่เหลียงที่นอนสลบอยู่บนเตียง สีหน้าโกรธเคือง “เหตุใดเขาจึงทำ!” 

สำหรับทหารเมืองอู๋แล้วตั้งแต่ก่อตั้งราชสำนักมา พวกเขาล้วนเป็นทหารของท่านอ๋องอู๋ มันคือคำสั่งของฮ่องเต้เกาจู่ พวกเขาเป็นทหารของท่านอ๋องอู๋ ก่อนจะเป็นทหารของตระกูลฉู่แห่งราชวงศ์ต้าเซี่ย 

หากราชสำนักและท่านอ๋องอู๋เผชิญหน้ากัน พวกเขาย่อมต้องตายเพื่อท่านอ๋องอู๋อย่างไม่มีข้อกังขา 

เฉินตันจูพูดกับเขาเสียงเบา “ที่นี่มีคนของเขามากเท่าใดไม่รู้ อีกทั้งยังมีคนของราชสำนักอีก” 

มิน่าคุณหนูถึงกำชับให้เขาหาคนที่ไว้ใจได้ที่สุดอยู่ตลอดเวลา เฉินเฉียงกำมือแน่น ค่ายทหารนี้มีทหารกว่าห้าหมื่น แต่พวกเขามีแค่สี่คน… 

เฉินเฉียงนึกถึงอีกเรื่อง “คุณหนูรอง ให้เฉินลี่นำตราอาญาสิทธิ์กลับมาหรือไม่ขอรับ” 

เฉินตันจูส่ายหัวรอยยิ้มขมขื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีดเผือด “ทางนั้นอยู่ในการควบคุมของหลี่เหลียงเช่นเดียวกัน พวกเราต้องมีคนอยู่ทางนั้น มิเช่นนั้นคนของหลี่เหลียงลงมือขุดเขื่อนขึ้นมา…” 

น้ำหลากนั้นจะเปรียบเหมือนกองทัพทหาร และม้านับหมื่นพันทำลายเมืองหลวง สีหน้าของเฉินเฉียงซีดยิ่งกว่าคุณหนูรอง ถึงแม้เมืองอู๋จะมีกองทัพหลายแสน แต่ก็ไม่อาจกีดขวางน้ำหลากได้ หากเกิดเรื่องเช่นนี้จริง เมืองอู๋คงจะมีคนตายเกลื่อน 

“หลี่กู…เหลียง คงไม่บ้าคลั่งถึงเพียงนี้?” เขาพึมพำ 

เขาเป็นเช่นนี้แน่นอน เฉินตันจูเงียบ 

“คุณหนู” เฉินเฉียงตั้งสติ ก่อนจะพูด “ตอนนี้คนของพวกเรามีน้อยเกินไป คุณหนูอยู่ที่นี่อันตราย” 

ควรจะนำคนมามากกว่านี้ 

เฉินตันจูพูด “หากพวกเราพาคนมาจำนวนมาก ไม่มีทางเข้าใกล้หลี่เหลียงได้ ครานี้ข้าทำสำเร็จ เพราะเขาไม่ระวังตัวต่อข้าหลังจากนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ใช้เขาควบคุมสถานการณ์” 

ทางเฉินลี่จำเป็นต้องมีตราอาญาสิทธิ์ของท่านพ่อถึงจะเดินเรื่องได้ 

เฉินเฉียงพยักหน้า สายตาที่มองไปยังเฉินตันจูเต็มไปด้วยความเคารพ ถึงแม้เรื่องเหล่านี้จะเป็นแผนการของใต้เท้าแต่คุณหนูรองเพิ่งจะสิบห้าสามารถทำได้เด็ดขาดเช่นนี้สมกับที่เป็นบุตรของใต้เท้า 

ถึงแม้นายน้อยจะไม่อยู่แล้ว แต่คุณหนูรองก็สามารถสืบทอดอำนาจของใต้เท้าได้ 

เฉินตันจูมองความคิดของเฉินเฉียงออก นางถอนหายใจออกมา ท่านพ่อยังมีอำนาจอันใดอีกต่อจากนี้ต้าเซี่ยจะไม่มีเมืองอู๋อีกต่อไป 

“ตอนนี้หลี่เหลียงสลบเพราะยาพิษ อย่างมากอยู่ได้อีกห้าวัน” นางพูดเสียงเบา “พวกเราต้องควบคุมทหารให้มากที่สุดภายในห้าวันนี้ เพื่อควบคุมกองทัพใหญ่” 

เฉินเฉียงตอบรับ “คุณหนูรอง ข้าจะไปบอกพวกเขาเดี๋ยวนี้ เรื่องต่อจากนี้มอบให้พวกข้า” 

เฉินตันจูพูด “พวกเจ้าต้องระวังให้ดีถึงแม้คนสนิทของหลี่เหลียงยังไม่สงสัยพวกเรา แต่พวกเขาต้องจับตาดูพวกเราเป็นแน่” 

เฉินเฉียงคุกเข่าด้วยขาข้างเดียวพร้อมกับกำหมัดพูด “คุณหนูวางใจ นี่คือทหารที่ท่านมหาราชครูเลี้ยงมาหลายสิบปี หลี่เหลียงใช้เวลาเพียงสองสามปีไม่มีทางควบคุมได้ทั้งหมด” 

เฉินตันจูพยักหน้า “ข้าคือบุตรสาวของท่านมหาราชครู น้องภรรยาของหลี่เหลียง ข้าจะบัญชาการแทนหลี่เหลียงเอง” 

เฉินเฉียงคารวะ “คุณหนูระวังตัวด้วย ข้าไปก่อน” 

เฉินเฉียงจากไปแล้ว เฉินตันจูนั่งกำมืออยู่ข้างเตียงนางไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำถูกหรือไม่ ไม่รู้ว่าทำเช่นนี้สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรหลี่เหลียงต้องตาย! 

อย่างน้อยชีวิตของหลี่เหลียงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว 

เขานั่งอยู่ริมเตียงเฝ้าหลี่เหลียงที่กำลังจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข 

… 

ค่ายที่มีทหารห้าหมื่นปักหลักอยู่บนพื้นแผ่นดินนี้เป็นบริเวรกว้าง ในกระโจมอีกด้านหนึ่งก็มีคนส่งเสียงหัวเราะออกมา 

นี่คือเสียงของชายหนุ่มที่มีความแหบพร่า เสียงลูกคอที่ชราแต่ก็ดูเหมือนถูกบางอย่างเหยียบผ่าน 

เขาถามกลั้วหัวเราะ “หลี่เหลียงถูกวางยาพิษ พวกเจ้าไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนทำ?” 

ภายในกระโจมมีแสงมืดสลัว ด้านหลังโต๊ะมีชายหนุ่มสวมชุดเกราะนั่งอยู่ตัวของเขาอยู่ภายใต้เงาดำคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขามีสามคน ชายหนุ่มหนึ่งในนั้นเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของอีกฝ่าย เขาคือรองแม่ทัพของหลี่เป่า 

“ขอรับ” เขาพูดสีหน้าหนักใจเจือปนไปด้วยความหวาดกลัว “พวกข้ากำลังสืบหาว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ เรื่องเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป คุณหนูรองเฉินเพิ่งมา…” 

เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มหัวเราะขึ้นอีกครั้ง “ใช่ คุณหนูรองเฉินเพิ่งมา หลี่เหลียงก็โดนวางยา เช่นนั้นก็ย่อมเป็นฝีมือของคุณหนูรองเฉิน” 

คุณหนูรองเฉิน? หลี่เป่าผงะ 

“พวกเจ้าคิดว่าเด็กหญิงวัยสิบห้าจะไม่กล้าฆ่าคนหรือ” ชายหนุ่มตรงหน้ายื่นนิ้วออกมา 

“อย่าดูถูกเด็กคนแม้แต่คนเดียว” 

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท