บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 39 ข่าว / ตอนที่ 40 ขั้นตอน

ตอนที่ 39 ข่าว / ตอนที่ 40 ขั้นตอน

ตอนที่ 39 ข่าว

การป่วยของเฉินตันจูเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็หายดีได้เร็วกว่าที่ไต้ฟูคาดการณ์เอาไว้ ครึ่งเดือนต่อมานางก็สามารถลุกขึ้นได้แล้ว อากาศร้อนอบอ้าวขึ้น เดินไปมาในป่าไม่นานเหงื่อก็ออกเต็มตัว

“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู” อาเถียนมือหนึ่งถือพัดพัดให้เฉินตันจู มือหนึ่งหิ้วตะกร้าใบเล็ก ตะกร้าด้านบนมีผ้าคลุมอยู่ “พวกเรานั่งพักเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ เดินมานานแล้ว”

นานอะไรกัน เพิ่งเดินออกมาจากอารามไม่ถึงหนึ่งร้อยก้าว เฉินตันจูหันหน้ากลับไป มองเห็นอารามดอกท้อที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นมุมหนึ่งของลานอารามดอกท้อ ในลานมีสาวรับใช้สองคนกำลังตากผ้าห่ม บางคนนั่งอยู่บนขั้นบันไดตากดอกไม้ป่าที่เก็บมาจากบนภูเขา หัวเราะกันอย่างสนุกสนานร่าเริง…เฉินตันจูหายดีแล้ว ทุกคนจึงวางใจลง

ถึงแม้ด้านนอกมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่นายท่านถูกขังเอาไว้ ตระกูลเฉินถูกกีดกันอยู่ด้านนอกราชสำนัก พวกนางอยู่ในอารามดอกท้อนี้ก็ราวกับตัดขาดจากโลกภายนอก

“สิ่งสำคัญคือพวกเราไม่มีเรื่องอันใด” อาเถียนนำผ้าปูไว้บนก้อนหิน พยุงเฉินตันจูนั่งลง จากนั้นหยิบกาน้ำชาและถ้วยน้ำชาออกมา รินน้ำชาให้เฉินตันจูถ้วยหนึ่ง “ฝ่าบาทและท่านอ๋องกินอยู่ร่วมกันในวัง สามวันงานเลี้ยงเล็ก ห้าวันงานเลี้ยงใหญ่ คึกคักยิ่งกว่าปีใหม่เสียอีก”

เฉินตันจูถือพัดสะบัดไปมาเบาๆ พลางดื่มชา “เมืองอู๋ปลอดภัย ทำให้เมืองโจวและเมืองฉีตกอยู่ในอันตราย แต่เมืองอู๋ไม่เงียบสงบเช่นนี้ไปตลอด…”

เมื่อฮ่องเต้จัดการท่านอ๋องโจวและท่านอ๋องฉี ก็ถึงคราจัดการท่านอ๋องอู๋แล้ว แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับนางแล้ว ชาตินี้นางทำให้ท่านพ่อและตระกูลเฉินออกห่างจากเรื่องเหล่านี้แล้ว

ถึงแม้อาเถียนบอกว่าแม่ทัพหน้ากากเหล็กเคยมาตอนที่นางป่วย แต่ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาก็ไม่เคยพบแม่ทัพหน้ากากเหล็กอีก ประโยชน์ของนางหมดสิ้นแล้ว

แต่นางยังสงสัยเล็กน้อย นางบอกอาจารย์ฮุ้ยจื้อให้ไว้ชีวิตของท่านอ๋องอู๋ ฮ่องเต้จะจัดการท่านอ๋องอู๋อย่างไร

ความสงสัยของเฉินตันจูมีคำตอบในไม่ช้า วันนี้หลังจากกินข้าว นางออกจากอารามมา ทันทีที่เดินมาถึงริมแม่น้ำและนั่งลง เสียงของหยางจิ้งดังขึ้นอีกครั้ง

“เฉินตันจู!”

ไม่ใช่คำเรียกขานสนิทสนมเหมือนแต่ก่อน น้ำเสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า

เฉินตันจูมองไปอย่างตกตะลึง เห็นเพียงแต่บนทางเขาร่างของหยางจิ้งเดินเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว ไร้ซึ่งท่าทางสง่างามเหมือนครั้งก่อน เสื้อแขนกว้างสะเปะสะปะ บนศีระไร้เครื่องครอบ ท่าทางน่าอนาถ

อาเถียนไม่เหมือนแต่ก่อน เมื่อเห็นหยางจิ้ง นางรีบยืนขึ้นกางแขนรั้งเอาไว้ “คุณชายรองหยาง ท่านจะทำอันใด”

หยางจิ้งยืนนิ่ง มองไปยังเฉินตันจู สีหน้าเศร้าโศก “เฉินตันจู เมืองอู๋ ไม่มีแล้ว”

เมืองอู๋ไม่มีแล้วคืออะไร อาเถียนทำหน้าตกใจ เฉินตันจูเองก็ตกใจ ตกใจว่าไม่มีได้อย่างไร

“เกิดอะไรขึ้น” นางถาม ส่งสัญญาณให้อาเถียนถอยไป ปล่อยหยางจิ้งเข้ามา

ใช่ว่านางจะไม่ระแวงต่อหยางจิ้ง แต่หากหยางจิ้งบ้าคลั่งขึ้นมา อาเถียนคงรั้งไว้ไม่อยู่

หยางจิ้งเดินเข้ามาอย่างโศกเศร้า ล้มนั่งลงบนหินด้านข้าง เฉินตันจูลุกขึ้นรินน้ำชาให้เขา อาเถียนคิดจะเดินเข้ามาช่วย แต่ถูกเฉินตันจูห้ามไว้ ทำได้เพียงมองคุณหนูรินน้ำชา จากนั้นหยิบผงบางอย่างออกมาจากถุงหอมใส่ลงไป…เอ๊ะ อะไรกัน

หยางจิ้งจิตใจเหม่อลอยไม่ทันสังเกต เฉินตันจูยื่นน้ำชาไปตรงหน้าเขา เรียกขาน “พี่จิ้ง ท่านอย่ารีบร้อน ค่อยๆ เล่าให้ข้าฟัง”

หยางจิ้งรับน้ำชามาดื่มจนหมด เขามองหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าเล็กขาวกว่าแต่ก่อน ขาวเสียจนโปร่งใสภายใต้แสงแดด ดวงตาใสจ้องมองเขาด้วยท่าทีเขินอาย…

“เจ้านะ” เขาถอนหายใจด้วยความโศกเศร้า “เจ้าชักหมาป่าเข้าบ้าน”

เฉินตันจูกัดริมฝีปากล่าง ราวกับตกใจในท่าทีของเขา “เกิดอันใดขึ้น ท่านรีบพูด”

หยางจิ้งพูด “ฮ่องเต้ให้ท่านอ๋องไปเป็นอ๋องในเมืองโจว”

เฮอะ เฉินตันจูเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ภายในใจชื่นชมความเฉลียวฉลาดของฮ่องเต้ที่คิดหาวิธีให้ท่านอ๋องอู๋มีชีวิตอยู่ แต่บนโลกนี้ไร้ซึ่งท่านอ๋องอู๋เช่นนี้ได้

ตอนที่ 40 ขั้นตอน

เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

เวลานั้นงานเลี้ยงกำลังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน หลังจากท่านอ๋องโจวตายแล้ว สายเลือดของท่านอ๋องโจวต่างหนีตาย บ้างถูกทหารของราชสำนักจับได้ บ้างถูกขุนนางชั้นสูงของเมืองโจวจับได้มอบให้ราชสำนัก กองทัพของราชสำนักในเมืองโจวบุกไปทางไหนก็แหลกราบไปทางนั้น

ขุนนางชั้นสูงในเมืองอู๋ต่างตกใจกับสถานการณ์ของเมืองโจว ตอนที่เกาจู่สถาปนาอ๋องนั้น ท่านอ๋องโจวเป็นพระราชโอรสคนเล็กสุด เวลานี้เป็นท่านอ๋องที่อายุมากที่สุด ประสบกับสงครามห้าเมือง ตัวของท่านอ๋องโจวมีความเก่งกาจ ถึงแม้เมืองโจวไม่ได้อุดมสมบูรณ์ง่ายต่อการเฝ้าระวังยากต่อการบุกรุกเหมือนเมืองอู๋ แต่หลายสิบปีมานี้ทำสงครามมากกว่าเมืองอู๋อย่างมาก กองกำลังของเมืองโจวดุดันโหดเหี้ยม ไม่คิดว่าจะพ่ายแพ้…

เหล่าท่านอ๋องพ่ายแพ้ต่อราชสำนัก ราชสำนักนี้ไม่ใช่ราชสำนักเหมือนแต่ก่อนแล้ว

เหล่าขุนนางชั้นสูงของเมืองอู๋มองดูฮ่องเต้ที่นั่งอยู่กับท่านอ๋องต่างเกิดความเกรงขามภายในใจ อีกทั้งรู้สึกโชคดีที่ราชสำนักกับเมืองอู๋เจรจากัน มิเช่นนั้นเมืองแรกที่ถูกล้มก็คงจะเป็นเมืองอู๋

ดังนั้นจึงมีคนเดินทางไปยินดีกับฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้กลับร่ำไห้ขึ้นมา ร่ำไห้จนทุกคนไม่รู้ต้องรับมืออย่างไร

ที่แท้ฮ่องเต้กำลังโศกเศร้ากับท่านอ๋องโจว เขาไม่ได้ต้องการกำจัดเมืองโจว หากแต่ไม่รู้เหตุใดท่านอ๋องโจวจึงทำกับเขาเช่นนี้

“เหล่าท่านอ๋องเป็นเสด็จอาของข้า เกาจู่ทิ้งคำสั่งสอนเอาไว้ ข้าเองก็จำขึ้นใจ” ฮ่องเต้พูดกับท่านอ๋องอู๋ด้วยความเจ็บปวด

“สมัยเกาจู่ เหล่าท่านอ๋องช่วยสร้างความมั่นคงให้แผ่นดิน ต่อมาเสด็จพ่อของข้าสวรรคตอย่างกะทันหัน พระราชโอรสองค์โตและองค์รองคิดจะทำร้ายข้าหลายครั้ง ได้ท่านอ๋องโจวและเสด็จพ่อของเจ้าช่วยเหลือข้าในยามคับขัน ทำให้ข้ามีวันนี้ เวลานี้ท่านอ๋องโจวก่อเรื่องผิดครรลอง ข้าไม่คิดจะสังหารเขา ข้าเพียงแค่ต้องการถาม หากเขายอมรับผิด ข้าจะสังหารเสด็จอาของตนเองได้อย่างไร หัวใจของข้าเจ็บปวดยิ่งนัก”

ท่านอ๋องอู๋และฮ่องเต้ร่ำไห้ด้วยกัน “ฝ่าบาทอย่าเสียใจ ยังมีข้าอยู่”

ฮ่องเต้จับมือของท่านอ๋องอู๋ “ท่านอ๋องโจวตายแล้ว เมืองโจวไม่มีแล้ว? ข้าจะไปพบหน้าเสด็จทวดได้อย่างไร น้องข้าช่วยข้าได้หรือไม่”

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ท่านอ๋องอู๋ไม่อาจปฏิเสธ ฮ่องเต้จึงให้เขาไปเป็นท่านอ๋องโจว เขายกเมืองโจวให้ ท่านอ๋องอู๋และเหล่าขุนนางในงานเลี้ยงต่างผงะไป หมายความว่าพื้นที่เมืองโจวยกให้เมืองอู๋หรือ เหมือนเมืองอู๋ เมืองโจว เมืองฉีแบ่งเมืองเยียน เมืองหลูอย่างนั้นหรือ มีเรื่องดีเช่นนี้หล่นลงมาจากสวรรค์?

ฮ่องเต้ไม่ได้อธิบายอันใดมาก เพียงแต่พูดว่าสถานการณ์เมืองโจววุ่นวายอย่างมาก ให้เมืองอู๋ไปสยบเมืองโจวก่อน

“น้องข้า เจ้าจัดการเมืองอู๋ได้ดีเพียงนี้” ฮ่องเต้จับมือของท่านอ๋องอู๋ พูดอย่างหนักแน่น “ข้าหวังว่าเจ้าจะจัดการเมืองโจวให้เหมือนเมืองอู๋”

จากนั้นฮ่องเต้เขียนพระราชโองการในงานเลี้ยง อีกทั้งประทับตา ส่งพระราชโองการไปทั่วเก้าแคว้น

ท่านอ๋องอู๋รับพระราชโองการด้วยความงุนงง วันรุ่งขึ้น เมื่อสร่างเมาเขาจึงเรียกรวมเหล่าขุนนางมาหารือเรื่องนี้ พร้อมทั้งวิธีการจัดการ ส่งผู้ใดไปเมืองโจวพวกเขาย่อมไม่อยากไป เหล่าขุนนางต่างตื่นเต้นขึ้นมา เมืองโจวกลายเป็นของท่านอ๋องอู๋ แต่ท่านอ๋องอู๋ไม่ไป พวกเขาในฐานะขุนนางเป็นตัวแทนของท่านอ๋อง เมื่อถึงเมืองโจว พวกเขาก็สามารถ…ในขณะที่ท่านอ๋องและขุนนางกำลังหารือกันนั้น ฮ่องเต้ส่งแม่ทัพหน้ากากเหล็กนำทัพทหารมาเร่งเร้าให้ท่านอ๋องอู๋ออกเดินทาง

ท่านอ๋องอู๋ถามด้วยความตกใจหรือว่าเขาต้องออกจากเมืองอู๋ไปเมืองโจว แม่ทัพหน้ากากเหล็กตอบว่าแน่นอนต่อจากนี้ท่านเป็นท่านอ๋องโจวแล้ว ย่อมต้องออกจากเมืองอู๋ จากนั้นสายตาเย็นชาด้านหลังหน้ากากเหล็กกวาดผ่านเหล่าขุนนางอู๋ ก่อนจะพูดขึ้นพวกเจ้าก็ด้วย ต่อจากนี้เป็นขุนนางเมืองโจวแล้ว ออกเดินทางไปด้วยกันเถิด

เวลานี้ทุกคนต่างตระหนักได้ว่าถูกฮ่องเต้หลอก ฮ่องเต้ไม่ได้ต้องการสร้างเมืองโจวใหม่ หากแต่ต้องการล้มเมืองอู๋!

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท