เฉินตันจูตอบรับก่อนจะถามต่อ “เจ้าซื้อข้าวเหนียวคลุกโป๊ยเซียนมาหรือไม่”
อิงกูผงะ ก่อนจะส่งตะกร้าในมือออกมา “ซื้อแล้วเจ้าค่ะ”
ถึงแม้ท่านอ๋องถูกขับไล่ออกจากพระราชวังจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ภายในเมืองไม่ได้เกิดความโกลาหล คนยังพลุกล่านไปมา ร้านค้าก็ยังเปิดอยู่ ประตูเมืองก็ยังอนุญาตให้เข้าออก กิจการของร้านตระกูลหวังยังคงดีเหมือนเคย นางต่อแถวอยู่สักพักเพื่อซื้อข้าวเหนียวคลุกโป๊ยเซียน…ด้วยเหตุนี้นางจึงฟังได้อย่างละเอียด
เฉินตันจูรับมา ดีจริง ในที่สุดนางก็ได้กินข้าวเหนียวคลุกโป๊ยเซียนร้านตระกูลหวังอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง…” อิงกูถาม
ท่านอ๋อง? ท่านอ๋องเพียงแค่ถูกขับไล่ออกจากพระราชวังเท่านั้น ดีกว่าชาติก่อนที่ถูกตัดหัวมากแล้ว เฉินตันจูใช้ช้อนเล็กตักข้าวเหนียวขึ้นมาหนึ่งคำ ลิ้มรสหอมหวานที่กระจายภายในปาก
ชาติก่อนนางได้พบกับฮ่องเต้หลังท่านอ๋องอู๋ตาย ส่วนฮ่องเต้ต้องการให้ท่านอ๋องอู๋ตายหรือไม่ คำตอบคือแน่นอน
เนื่องจากการแบ่งพื้นที่ศักดินาให้เหล่าองค์ชายของเกาจู่ในตอนนั้น ทำให้เหล่าท่านอ๋องมีอำนาจมาก จักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ไม่อาจควบคุมได้ คิดเรียกคืนสิทธิที่เคยให้ไป ถูกเหล่าท่านอ๋องก่อกวนจนทั้งเหน็ดเหนื่อยทั้งโกรธเคืองทั้งร้อนใจทั้งหวาดกลัว ทำให้มีโรคภัยติดพันและสวรรคตเมื่ออายุยังน้อย เหลือไว้เพียงองค์ชายสามที่ยังเด็ก แม้แต่รัชทายาทยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง ดังนั้นเหล่าท่านอ๋องจึงเข้าเมืองหลวงเพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์…เฮ้อ แค่คิดก็รู้ถึงความโกลาหน
ฮ่องเต้องค์นี้ขึ้นครองราชย์ประสบอุปสรรคมากมาย หลังจากครองราชย์แล้ว ยังถูกท่านอ๋องเยียนและท่านอ๋องหลูชี้จมูกตำหนิว่าไม่เหมาะสมกับบัลลังก์ ฮ่องเต้ก้มหน้าไม่กล้าถกเถียง เพราะในมือมีเพียงกองกำลังเพียงแสนกว่า สุดท้ายร่ำไห้ร้องขอกับท่านอ๋องอู๋องค์ก่อน ท่านอ๋องโจว และท่านอ๋องฉี ให้คำมั่นมอบพื้นที่เมืองเยียนและเมืองหลูให้ทั้งสาม จึงทำให้เมืองโจว เมืองฉีและเมืองอู๋ยอมส่งกองกำลังบุกรุกเมืองเยียนและเมืองหลู
หลังจากที่เมืองเยียนและเมืองหลูล่มสลาย แม่ทัพหน้ากากเหล็กไม่พอใจที่เพียงแค่ประหารท่านอ๋องเยียนและท่านอ๋องหลู เขาลากทั้งสองออกมาใช้ม้าทั้งห้าแยกร่าง ถึงแม้ล้วนบอกว่าแม่ทัพหน้ากากเหล็กโหดเหี้ยม แต่มันก็เป็นความแค้นของฮ่องเต้เช่นเดียวกัน
หลังจากที่เมืองอู๋ล่มสลายเมื่อชาติก่อน เมืองโจวถูกกำจัดในเวลาต่อมา เหลือเพียงแต่เมืองฉี ท่านอ๋องฉีส่งโอรสเป็นตัวประกัน แต่ถึงกระนั้น ฮ่องเต้ยังคงใช้กองกำลังกับเมืองฉี ท่านอ๋องฉีถวายธิดาให้องค์ชายสามอีกคน
องค์ชายสามมีโรคติดตัว หญิงสาวนี้ใช้สูตรลับเมืองฉีเฉือนเนื้อลงยา รักษาอาการป่วยขององค์ชายสามจนหายดี องค์ชายสามรักใคร่หญิงสาวนี้อย่างมาก คุกเข่าร้องขอต่อฮ่องเต้สามวัน ฮ่องเต้เอ็นดูรักใคร่องค์ชายสามจึงสั่งหยุดกองทัพ
ต่อมาท่านอ๋องฉีสวรรคต แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ส่งรัชทายาทของท่านอ๋องฉีกลับไป เมืองฉีก็ไม่กล้าก่อการอันใด เหลือไว้เพียงแต่ชื่อเท่านั้น…
เฉินตันจูนั่งอยู่บนก้อนหินด้านนอกอารามดอกท้อ มือยันไว้ที่คาง มองดูต้นหญ้าที่ไหวไปมา นึกถึงเรื่องเหล่านี้ ท่านอ๋องอู๋จะถูกประหารเหมือนเมื่อชาติก่อนหรือไม่ ฮ่องเต้คงจะเกลียดแค้นเหล่าท่านอ๋องมากเกินไป
แต่นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่า ฮ่องเต้นำกองกำลังมาเพียงสามร้อยนาย ท่านอ๋องอู๋ยังถูกขับไล่ออกจากพระราชวังได้ ไม่กล้าทำอันใดเสียอย่างนั้น วิ่งหนีไปพักในจวนของขุนนาง ไร้ซึ่งอำนาจและบารมีของท่านอ๋องอู๋
หากท่านอ๋องอู๋องค์ก่อนยังอยู่ ถึงจะส่งคำเชิญออกไป ฮ่องเต้ก็คงไม่กล้าเข้ามา
พลานุภาพของเมืองอู๋ต่อราชสำนักมาจากการที่ท่านอ๋องอู๋ใช้กองกำลังตีลงมา แต่ท่านอ๋องอู๋ในตอนนี้คงจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้ร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ เมื่อมันผิดแปลกไป เขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร…
“เฉินตันจู!”
เสียงก้องของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหน้า ขัดความคิดเหม่อลอยของเฉินตันจู นางเห็นชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปดวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มสวมชุดยาว เท้าเหยียบรองเท้าไม้ รูปลักษณ์หล่อเหลา
เฉินตันจูเหม่อลอยไปชั่วขณะ “พี่จิ้ง? ท่านมาหาข้าเร็วเพียงนี้?”
นายน้อยรองหยางจิ้งแห่งไต้ฟูตระกูลหยางในเมืองอู๋ อายุน้อยกว่าเฉินตันหยางสองปี รูปลักษณ์อ่อนโยนกว่าเฉินตันหยาง เขาชื่นชอบการอ่านตำรา ส่วนเฉินตันหยางเป็นขุนศึก แต่ทั้งสองคนกลับเป็นสหายที่สนิทกันมาก แค่เพียงเฉินตันหยางอยู่จวน เขาก็มักจะเข้าออกพร้อมหยางจิ้ง เมื่อเฉินตันหยางไปค่ายทหาร หยางจิ้งก็มักจะขี่ม้าไปเยี่ยมเยือน
เฉินตันจูมักติดตามพี่ชาย นางจึงย่อมคุ้นเคยกับหยางจิ้ง เมื่อเฉินตันหยางไม่อยู่จวน นางมักจะให้หยางจิ้งพานางออกไปเที่ยวเล่น อาจเป็นเพราะทั้งสองคนสนิทกัน ท่านพ่อและตระกูลหยางจึงคิดหารือเรื่องงานแต่ง รอเพียงแค่นางอายุเลยสิบหก…เสียดายที่รอคอยไม่ถึง ตระกูลเฉินก็ถูกประหาร เมืองอู๋ก็ล่มสลาย ตระกูลของหยางจิ้งถูกจับเข้าคุกหลวงเพราะการใส่ร้ายของหลี่เหลียง หยางจิ้งหนีรอดออกมาได้ จนกระทั่งพบกับนางอีกครั้งเมื่อสิบปีต่อมา ให้นางไปลอบสังหารหลี่เหลียง
เฉินตันจูมองคุณชายอายุน้อยเดินเข้าใกล้
ตอนนั้นท่านพี่ถามนาง “เหตุใดเจ้าจึงชอบเล่นกับนายน้อยรองหยาง”
นางพูด “เพราะพี่จิ้งหน้าตางดงาม”
คุณชายตระกูลใหญ่ในเมืองอู๋สวมเสื้อผ้าประณีต กินอาหารรสเลิศ มีท่าทางกริยาเป็นอิสระในอีกรูปแบบ
เมื่อเห็นหยางจิ้งเข้ามา อาเถียนที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ลุกขึ้น นางเคยชินแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนการสนทนาของพวกเขา โดยเฉพาะเวลานี้
ดวงตางดงามของเด็กหญิงจ้องมองตนเองไม่กะพริบ หัวใจหยางจิ้งอ่อนระทวย เขาถอนหายใจยาว “ข้ามาสายไป เพิ่งรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น”
เฉินตันจูยิ้มให้เขา อันที่จริงคำว่าเร็วที่นางพูด หมายถึงเร็วกว่าชาติก่อนที่เขามาหานางเมื่อสิบปีให้หลัง แต่ชาตินี้เขากลับมาเร็วถึงเพียงนี้
แต่ว่าชาตินี้ เมืองอู๋ยังอยู่ ตระกูลไต้ฟูปลอดภัย หยางจิ้งไม่ได้หนีตายอยู่ด้านนอกสิบปี เขาคงไม่ได้มาเพื่อหลอกใช้นางใช่หรือไม่