บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 50 ครุ่นคิด

ตอนที่ 50 ครุ่นคิด

เฉินตันจูไม่สนใจที่จะถกเถียงกับจางเจี้ยนจวิน เวลานี้นางไม่กังวลแต่อย่างใด ถึงแม้ฮ่องเต้จะชอบจางเหม่ยเหรินจริง แต่ก็ไม่กล้าที่จะรั้งจางเหม่ยเหรินเอาไว้แล้ว 

 

 

“หากใต้เท้าจางรู้สึกไม่เป็นธรรม เช่นนั้นก็เชิญท่านอ๋องกลับไปอีกครั้ง พวกเราไปถกเถียงต่อหน้าฝ่าบาท” เฉินตันจูพูด ทำท่าจะหันหลัง “ฝ่าบาทยังอยู่ในตำหนัก” 

 

 

ท่านอ๋องอู๋ไม่อยากสร้างความเดือดร้อยอีก จึงรีบพูด “เรื่องเล็กเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่จบไม่สิ้น” 

 

 

เฉินตันจูจึงคารวะอีกครั้ง “ข้าขอตัว” พูดจบจึงเดินผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

ทุกคนต่างหลีกทางให้ มองดูแม่นางเดินจากไปอย่างแผ่วเบา 

 

 

จางเจี้ยนจวินมองแผ่นหลังของเฉินตันจู สายตาดุจมีด เกลียดแค้นเสียจริง 

 

 

“ท่านอ๋อง เฉินตันจูกำลังทำให้ฝ่าบาทและท่านอ๋องผิดใจกัน” เขาพูดอย่างขุ่นเคือง “ภักดีอันใดกัน” 

 

 

แต่นางเอาจางเหม่ยเหรินคืนมาให้เขา ท่านอ๋องอู๋คิดในใจ ปลอบประโลมจางเจี้ยนจวิน “นางทำเกินไปที่บังคับให้จางเหม่ยเหรินฆ่าตัวตาย ข้าเองก็ไม่ชอบนาง จิตใจช่างโหดเหี้ยม” 

 

 

จางเจี้ยนจวินต้องการพูดอันใดอีก แต่ท่านอ๋องอู๋รำคาญเล็กน้อย 

 

 

“ใต้เท้าจาง มีข้าอยู่ เหม่ยเหรินไม่มีทางตาย เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ” 

 

 

เฮ้อ เวลานี้จางเหม่ยเหรินกลับมาอยู่ข้างตัวท่านอ๋องอู๋แล้ว อีกทั้งฮ่องเต้ไม่มีทางรั้งจางเหม่ยเหรินเอาไว้ ต่อจากนี้ความรุ่งเรืองของตระกูลเขาขึ้นอยู่กับท่านอ๋องอู๋ จางเจี้ยนจวินครุ่นคิดในใจ ไม่อาจทำให้ท่านอ๋องอู๋ไม่พอใจได้ 

 

 

“พ่ะย่ะค่ะ” เขาพูดอย่างเคารพ ก่อนจะทำหน้าน้อยใจ “ท่านอ๋อง ข้าแค่ทนไม่ได้แทนท่านอ๋อง เฉินตันจูเหยียดหยามท่านอ๋องเกินไป เรื่องทุกอย่างล้วนเกิดจากนาง สุดท้ายนางยังทำตัวเป็นคนดี” 

 

 

“ตระกูลท่านมหาราชครูเฉินล้วนเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ” ท่านอ๋องอู๋เห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะนึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ ถามขุนนางคนอื่น “ท่านมหาราชครูเฉินยังไม่ตอบหรือ” 

 

 

ขุนนางคนนั้นตอบรับ “ปิดประตูไม่ออกมา นอกจากใต้เท้าฉี มีอีกสามคนไปตระกูลเฉินมาแล้ว” 

 

 

หลายวันนี้ใจของจางเจี้ยนจวินอยู่ทางฮ่องเต้ จึงไม่ได้สนใจว่าท่านอ๋องอู๋ทำอันใดบ้าง เวลานี้ได้ยินท่านอ๋องอู๋พูดถึงศัตรูอย่างท่านมหาราชครูเฉิน…ไม่ ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไปเขาและท่านมหาราชครูเฉินเป็นศัตรูกัน จึงรีบถามว่าเรื่องอันใดอย่างระแวง 

 

 

“ข้าจะไปเมืองโจว ทางนั้นเพิ่งจบสงคราม วุ่นวายอย่างมาก อีกทั้งยังมีกองกำลังที่เหลือของท่านอ๋องโจว ขุนนางอื่นจะไปไม่ไป แต่ท่านมหาราชครูเฉินต้องนำทัพไม่อาจขาดได้” ท่านอ๋องอู๋อธิบาย “ข้าให้คนไปเรียกเขา แต่เขาไม่ยอมออกมา ข้าออกคำสั่งขังเขาก็จริง แต่เขาไม่คิดดูว่าเหตุใดข้าจึงขังเขา ไม่ใช่เพราะเขาทำเรื่องผิดต่อข้าก่อนหรือ” 

 

 

ท่านอ๋องอู๋ยังคงให้ความสำคัญกับท่านมหาราชครูเฉิน จางเจี้ยนจวินทั้งแค้นทั้งโกรธ ก่อนจะเกลี้ยกล่อม “ท่านอ๋องอย่าใจร้อน ท่านอ๋องส่งคนไปอีกหลายครั้ง ท่านมหาราชครูเฉินย่อมต้องออกมา” 

 

 

ท่านอ๋องอู๋ไม่รีบร้อน ท่านอ๋องอู๋ทำได้เพียงโกรธ เมื่อได้ยินดังนี้จึงยิ่งโกรธ “เขาจะมาก็มา” พูดจบก็พาคนจากไป เหล่าขุนนางคนอื่นมีติดตามท่านอ๋องไป มีจากไปเอง…ท่านอ๋องอพยพไปเมืองโจวไม่ง่าย เหล่าขุนนางอย่างพวกเขาก็ไม่ง่ายเช่นกัน 

 

 

“ตระกูลเจ้าไปทั้งหมดหรือ” 

 

 

“ไปทั้งหมดได้อย่างไร ตระกูลข้ามีร้อยกว่าคน มีเพียงข้าไปก่อน เตรียมบ้านทางนั้นก่อนค่อยว่ากัน” 

 

 

“ฮึ พวกที่ป่วยไม่ต้องวุ่นวาย” 

 

 

“ท่านอ๋องนิสัยดีเกินไป ไม่ถือโทษโกรธพวกเขา พวกเขาถึงได้แสร้งป่วยอย่างไม่เกรงกลัว” 

 

 

ขุนนางทั้งหลายพึมพำ ทั้งอิจฉาทั้งแค้น ผู้ใดอยากจากแผ่นดินเกิดไปกัน แต่ก็ไม่มีวิธีอันใดที่พวกเขาไม่กล้าโกรธแค้นฮ่องเต้ และท่านอ๋องอู๋… 

 

 

จางเจี้ยนจวินเดินตามอยู่ด้านหลังอย่างโศกเศร้า เขาไม่มีอารมณ์ไปดูบุตรสาว ได้ยินดังนี้จึงตั้งสติขึ้นมาได้ ไม่กล้าโกรธแค้นฮ่องเต้และท่านอ๋องอู๋ แต่สามารถโกรธแค้นคนอื่นได้ 

 

 

เฉินตันจู จางเจี้ยนจวินตั้งสติขึ้นมาได้ทันที เขายืดตัวตรง มองไปยังด้านนอกพระราชวัง เจ้าบอกว่าทำเพื่อท่านอ๋องไม่ใช่หรือ เช่นนั้นเจ้าก็โอบอุ้มความจงรักภักดีนี้ทำเรื่องชั่วร้ายเถิด 

 

 

จัดการจางเหม่ยเหรินถูกฮ่องเต้รับเข้าวังหลัง ตัดขาดหนทางก้าวหน้าของตระกูลจางอีกครั้ง ส่วนจางเจี้ยนจวินจะใช้สายตาดุจมีฆ่านางอยู่ด้านหลัง เฉินตันจูไม่สนใจ…ถึงแม้ไม้มีเรื่องนี้ จางเจี้ยนจวินยังคงใช้สายตาดุจที่แบบอยากฆ่านางอยู่ดี 

 

 

แต่ครั้งนี้ สายตาฆ่านางไม่ตาย 

 

 

เฉินตันจูเดินออกจากพระราชวัง อาเถียนที่เป็นกังวลรีบเดินออกมาจากข้างรถ ถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” 

 

 

เฉินตันจูยิ้มให้นาง “ย่อมไม่มีปัญหา” 

 

 

อาเถียนไม่รู้จะตอบนางอย่างไร “จางเหม่ยเหรินฆ่าตัวตายตามที่คุณหนูบอก?” 

 

 

คุณหนูรองให้เตรียมรถเข้าวังอย่างกะทันหัน นางถามเสียงเบาบนรถว่าจะทำอันใด คุณหนูบอกว่าต้องการให้จางเหม่ยเหรินฆ่าตัวตาย ตอนนี้นางคิดว่าตนเองหูฝาด… 

 

 

นางเป็นกังวลแทบตายอยู่ด้านนอกพระราชวัง กังวลว่าจะพบร่างของคุณหนูรอง 

 

 

ไม่คิดว่าจะสำเร็จแล้ว? 

 

 

เฉินตันจูอดหัวเราะไม่ได้ มีเพียงอยู่กับอาเถียน นางถึงผ่อนคลายอย่างแท้จริง 

 

 

“ไม่ใช่ จางเหม่ยเหรินไม่ตาย” นางพูดเสียงเบา “แต่หนทางที่จางเหม่ยเหรินคิดจะยั่วยวนฮ่องเต้ไม่มีแล้ว” 

 

 

อาเถียนมองซ้ายทีขวาที พูดเสียงเบา “คุณหนูพวกเราขึ้นไปพูดบนรถ ด้านนอกคนมาก” 

 

 

มองดูเฉินตันจูและอาเถียนขึ้นรถ จู๋หลินที่เป็นคนขับยืนอยู่ด้านข้างรถอย่างระอา 

 

 

เขาคือคนนั้นใช่หรือไม่ 

 

 

นอกจากเขาแล้ว คนที่เห็นเฉินตันจูต่างเดินอ้อมไป มีคนมากที่ใดกัน 

 

 

ภายในรถมีเสียงสนทนาดังขึ้นแผ่วเบา จู๋หลินสะบัดแซ่ม้าไปด้านหน้า ก่อนจะถาม “คุณหนูตันจู กลับอารามดอกท้อหรือ” 

 

 

เสียงสนทนาหยุดลง อาเถียนเปิดผ้าม่านขึ้น มองเขาอย่างระแวง “ใช่…ตอนที่ข้าและคุณหนูพูดคุยกัน เจ้าอย่ารบกวน” 

 

 

เรื่องที่คุณหนูตันจูทำ ท่านแม่ทัพดูอยู่ตลอด ยังต้องให้เขามาแอบฟัง?…อืม ควรจะบอกว่าท่านแม่ทัพแอบฟังเองจนหมดแล้ว 

 

 

จู๋หลินเบะปากภายในใจ บังคับรถอย่างตั้งใจ 

 

 

ภายในรถ อาเถียนฟังเฉินตันจูเล่าจบ ทั้งตกใจทั้งกลัว สุดท้ายมองไปยังเฉินตันจู “คุณหนูรอง ข้ารู้ว่าท่านเก่ง แต่ไม่รู้ว่าเก่งเพียงนี้” 

 

 

ทำอย่างนั้นต่อหน้าฮ่องเต้เชียว 

 

 

“อันที่จริงไม่มีอันใด” เฉินตันจูพูด “ท่านพ่อทำเรื่องแบบนี้เสมอมา” 

 

 

อาเถียนพยักหน้า ก่อนจะส่ายหัว “แต่นายท่านไม่ได้เด็ดเดี่ยวเหมือนคุณหนู” 

 

 

ทุกครั้งที่นายท่ายกลับมาจากท่านอ๋อง มักจะขมวดคิ้วสีหน้าเศร้าโศก อีกทั้งเรื่องที่นายท่านพูด สิบเรื่องมีแปดเรื่องที่ไม่สำเร็จ 

 

 

“ไม่ใช่เพราะท่านพ่อ” เฉินตันจูถอนหายใจ 

 

 

เรื่องนี้อาเถียนรู้ “เหมือนดั่งคำพูดที่ว่า พบคนไม่ดีกระมัง” 

 

 

อาเถียนใจกล้ามากขึ้น กล้าพูดถึงท่านอ๋องอู๋เช่นนี้ เฉินตันจูหัวเราะก่อนจะส่ายหัว พบคนไม่ดี แต่ฮ่องเต้เป็นคนดีหรือ อันที่จริงก็ไม่ใช่ แต่เป้าหมายของท่านอ๋องอู๋และฮ่องเต้แตกต่างกัน 

 

 

ครั้งนี้นางถอยออกมาได้ เพราะมีเป้าหมายเหมือนฮ่องเต้เท่านั้น 

 

 

ฮ่องเต้… 

 

 

ชาติก่อนเฉินตันจูถูกขังไว้บนภูเขาดอกท้อ ไม่มีโอกาสเดินไปต่อหน้าฮ่องเต้ได้เหมือนเวลานี้ แต่นางเคยได้ยินผู้ที่ผ่านไปมาบนภูเขาถกเถียงเรื่องบ้านเมือง รู้สึกว่าฮ่องเต้น่ากลัวยิ่งกว่าท่านอ๋องอู๋เสียอีก 

 

 

อาทิเรื่องการตายของอวี้สื่อไต้ฟูโจวชิง 

 

 

อวี้สื่อไต้ฟูโจวชิงกำเนิดในตระกูลชั้นสูง เป็นสหายเรียนของฮ่องเต้ เขาเสนอกฎหมายใหม่จำนวนมาก กล้าตำหนิฮ่องเต้ในราชสำนัก ถกเถียงถูกผิดกับฮ่องเต้ ได้ยินว่าตอนที่ถกเถียงยังเคยลงมือกับฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้ไม่เคยลงโทษเขา อีกทั้งเชื่อฟังเขาเสียส่วนใหญ่ อาทิพระราชโองการเรียกคืนพื้นที่ศักดินา 

 

 

โจวชิงตายในมือของเหล่าท่านอ๋อง ฮ่องเต้โกรธอย่างมาก ตัดสินใจล้มล้างเหล่าท่านอ๋อง ตอนที่เหล่าราษฎรพูดถึงเรื่องนี้มักไม่คิดถึงเหตุผลอันใดมาก เพียงแค่รู้สึกว่าโจวชิงมีความทะเยอทะยานที่ไม่สมหวัง ฮ่องเต้โกรธเคืองแก้แค้นแทนสหาย…ช่างทำให้คนตื้นตัน 

 

 

ผ่านไปสิบปี เรื่องนี้ยังมักถูกคนพูดถึง อีกทั้งยังถูกเขียนออกมาเป็นบทละคร นำมาแสดงในงานวัด เหล่าชาวบ้านชอบดูอย่างมาก 

 

 

แต่ว่า…ท่ามกลางความตื้นตันนี้ เฉินตันจูยังได้ยินเรื่องเล่าอีกแบบ 

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท