ธนูที่ยิงออกมาอย่างกะทันหันทำให้สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบ
“คุณหนู ไปเถิด” เหล่าองครักษ์อกสั่นขวัญแขวน “ใต้เท้ามั่ว…”
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวในห้องรู้ดีถึงความเก่งกาจของใต้เท้ามั่ว นางพูดอย่างขุ่นเคือง “ไป!” ก้าวเท้าถอยหลังไป เหล่าองครักษ์รีบติดตาม อีกทั้งยังไม่ลืมคารวะชายที่อยู่บนหลังคา
“ไปไม่ได้…” เฉินตันจูตะโกน มองดูร่างหญิงสาวหลังม่านลูกปัดหายลับไป นางร้อนใจทันที ครานี้นางยังไม่ได้เห็นลักษณะของอีกฝ่าย
ในขณะที่นางกำลังจะตาม ธนูคันหนึ่งหล่นลงมาตรงหน้าของเธอ ปะทะเข้ากับชายกระโปรงจนโบกสะบัด…
“คุณหนูตันจู” เหล่าองครักษ์รีบรั้งนางเอาไว้
เฉินตันจูมองขึ้นไปบนหลังคา ชายหนุ่มบนหลังคามองนางเช่นเดียวกัน เขาพูดเพียงคำเดียว “ไป” พูดจบ เขาก็หันหลังกระโดดไปไกล
เฉินตันจูมองเข้าไปด้านใน เสียงฝีเท้าและร่างของหญิงสาวหายไปแล้ว สาวรับใช้คนนั้นก็จากไป ภายในจวนเหลือเพียงพวกเขา อาเถียนยังสลบอยู่บนพื้น จู๋หลินที่ได้ข่าวเดินเข้ามา
เฉินตันจูทิ้งจู๋หลินเอาไว้ในจวนของหลี่เหลียง ตนเองพาออกมาสี่คนบอกว่าต้องการเดินดู…
ไม่คิดว่านางจะมาดูที่นี่ สีหน้าของจู๋หลินซับซ้อน แม้แต่เขายังไม่รู้ที่นี่…
เขามองธนูสองเล่มที่อยู่บนประตูและบนพื้น โชคดีที่ธนูสองเล่มนี้มาทันเวลา มิเช่นนั้นเวลานี้คงเป็นซากศพที่เกลื่อนเต็มพื้น
“คุณหนูตันจู” เขาพูด “ท่านแม่ทัพเรียนเชิญ”
เฉินตันจูมองห้องที่ว่างเปล่า หนีหรือ ได้ นางไปเอาคนที่เขา! นางหันหลังเดินออกไป ก่อนจะเรียกจู๋หลิน จากนั้นชี้ไปที่อาเถียน “ส่งนางกลับไป”
จู๋หลินตอบรับ มองดูเฉินตันจูที่กำมือแน่น ทำท่าราวกับจะไปชกต่อยกับใคร
“เช่นนั้น จวนของหลี่เหลียงยังต้องเฝ้าหรือไม่” องครักษ์อีกคนถาม
คุณหนูตันจูให้พวกเขามาทำเรื่องนี้
“ยังเฝ้าอะไรอีก” คุณหนูตันจูมาเพื่อเฝ้าจวนของหลี่เหลียงที่ไหนกัน เป็นแค่คำพูดที่หลอกพวกเขา ยังถามอีกว่าเฝ้าหรือไม่เฝ้า จู๋หลินอุ้มอาเถียนขึ้นมา ก่อนจะพูด “ไปได้แล้วๆ”
ตำหนักในพระราชวังมีจำนวนมาก แม่ทัพหน้ากากเหล็กยึดครองเอาไว้หลังหนึ่ง ด้านนอกตำหนักว่างเปล่า องครักษ์หลวงของท่านอ๋องอู๋ไม่มาบริเวณนี้ อีกทั้งไม่ต้องการองครักษ์หลวงของราชสำนัก ภายในตำหนักก็ว่างเปล่า มีเพียงบริเวณที่แม่ทัพหน้ากากเหล็กอยู่วางเต็มไปด้วยจดหมาย แผนที่และถาดทราย…
ตอนที่เฉินตันจูถูกพาเข้ามา แม่ทัพหน้ากากเหล็กกำลังก้มหน้ามองถาดทรายอย่างจดจ่อ
“ท่านแม่ทัพ คุณหนูตันจูมาแล้วขอรับ” จู๋หลินพูด
แม่ทัพหน้ากากเหล็กตอบรับ แต่ไม่ได้เงยหน้า จู๋หลินก้มหน้าถอยออกไป
แม่ทัพหน้ากากเหล็กไม่พูด อีกทั้งไม่มองนาง ราวกับไม่รู้ว่าภายในตำหนักมีคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
เฉินตันจูไม่สนใจว่าเขาเจตนาไม่สนใจตนเองหรือไม่ ต้องการข่มตนเองหรือไม่ เมื่อเห็นเขาไม่พูด เฉินตันจูก็เดินหน้าขึ้น “หญิงสาวคนนั้นเป็นพวกหลี่เหลียง เหตุใดไม่ให้ข้าฆ่านาง…”
“ไม่ใช่กระมัง” แม่ทัพหน้ากากเหล็กขัด เงยหน้าขึ้น เสียงเย็นชาเหมือนหน้ากาก “ข้าห้ามไม่ให้นางฆ่าเจ้าเสียมากกว่า”
หากไม่ใช่มั่วหลินอะไรนั้นปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน หญิงสาวคนนั้นคงฆ่านางจริง…จู๋หลินเป็นคนของแม่ทัพหน้ากากเหล็ก มั่วหลินก็คงเหมือนกัน เฉินตันจูไม่พูดหลังถูกขัด
คำพูดของแม่ทัพหน้ากากเหล็กดังขึ้นต่อเนื่อง
“เฉินตันจู เจ้าฆ่าใครได้ เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจแค่ไหน เจ้าฆ่าแค่หลี่เหลียงเพียงคนเดียวไม่ใช่หรือ เจ้าฆ่าหลี่เหลียงได้เพราะว่าเขาไม่คิดว่าเจ้าเป็นศัตรู เจ้าฉวยโอกาสที่เขาไม่ระแวงเจ้า เจ้าคิดว่าตนเองมีความสามารถยิ่งใหญ่เพียงใด”
เขาโยนแผ่นไม้วางลง เดินอ้อมถาดทรายมายืนต่อหน้าเฉินตันจู
“เจ้าได้ใจอะไร เจ้ายโสอะไร”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูดจบ มองหญิงสาวที่ก้มหน้าตรงหน้า ร่างกายผอมบางสั่นเทาเล็กน้อย เขายืนอยู่ใกล้ อีกทั้งมองจากบนลงล่าง สามารถมองเห็นขนตายาวของหญิงสาวสั่นไหว…ร้องไห้หรือ
“ท่านแม่ทัพพูดถูก” เฉินตันจูเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้หน้ากากเหล็กตรงหน้า “ข้าผิดเอง ข้าฆ่าคนของพวกท่านไปหนึ่งคนแล้ว ยังกล้าคิดจะฆ่าคนที่สอง ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียจริง”
นางก้มหน้าย่อเข่า
“เวลานี้ท่านพ่อข้าไม่ใช่คนทั้งในทั้งนอก ชื่อเสียงพังทลาย ไม่มีท่านอ๋องอู๋แล้ว เมืองอู๋ต่อจากนี้ย่อมเป็นของราชสำนัก หลี่เหลียงที่ยอมจำนนต่อราชสำนักก่อนถูกข้าสังหาร ไม่ใช่คุณงามความดีหากแต่เป็นโทษ พวกของเขาย่อมต้องแก้แค้นพวกข้า ดังนั้นข้าจึงร้อนใจเพราะความกลัว”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กมองเฉินตันจูที่ก้มหน้า “เจ้าสืบหาพวกของหลี่เหลียงเพื่อสิ่งนี้ ดังนั้นจึงเกิดเรื่อง?”
เสียงของเขาชรา แต่ก็มีความแปลกประหลาด ดุจดั่งลำคอถูกมีดเฉือน ฟังอารมณ์ไม่ออก เขาเชื่อหรือว่าไม่เชื่อกัน เฉินตันจูใจเต้นระรัว เงยหน้ามองเขา “ใช่ ข้าคิดว่าเขาต้องมีพวกแน่…แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ใกล้” นางเค้นยิ้มออกมา “ข้าควรจะบอกว่าฝ่าบาทช่างกล้าหาญหรือไม่”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กละสายตาเดินกลับไปยังหน้าถาดทราย พูดอย่างเรียบเฉย “คุณหนูตันจูไม่ต้องกังวล ฝ่าบาทกล้าหาญที่จะทำเรื่องเช่นนี้ ย่อมกล้าที่จะรับความพ่ายแพ้ พวกข้าสามารถใช้หลี่เหลียงได้ เจ้าย่อมสังหารหลี่เหลียงได้”
เฉินตันจูดีใจในทันที “มีคำพูดของท่านแม่ทัพ ข้าก็วางใจ ต่อจากนี้ข้าจะไม่สืบหาพวกของหลี่เหลียงแล้ว” พูดจบนางก็คารวะอีกครั้ง “ขอบคุณท่านแม่ทัพช่วยเหลือ”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กเหลือบมองนาง “แต่ข้าไม่วางใจ”
เฉินตันจูรีบสาบาน “ท่านแม่ทัพ ท่านเชื่อข้า หลี่เหลียงตายแล้ว พวกของเขาข้าไม่สนใจแล้ว…”
“เฉินตันจู เจ้าไม่ต้องแสร้งทำ” แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูดขัดนาง สายตาด้านหลังหน้ากากเย็นชา
“เจ้ารู้ว่าหญิงสาวนั้นคือผู้ใด สำหรับเจ้าแล้ว หญิงสาวนั้นไม่ใช่เป็นเพียงพวกของหลี่เหลียง หากแต่เป็นศัตรูของเจ้า”
ปิดบังเขาไม่ได้ ภายในใจของเฉินตันจูเย็นวาบ บนใบหน้าปรากฏสีหน้าฉงน “ท่านแม่ทัพพูดอันใด”
“เฉินตันจู อย่าไปยุ่งกับนาง” เสียงของแม่ทัพหน้ากากเหล็กเรียบเฉย “เรื่องนี้เจ้าทำเป็นไม่รู้เถิด”
ภายในใจของเฉินตันจูเศร้าโศก อย่าไปยุ่งกับหญิงสาวคนนั้น แสร้งทำเป็นไม่ได้ แต่นางจะแสร้งเป็นไม่รู้ได้อย่างไร…ภายใต้แววตาของท่านพี่ ท่านพี่ใช้ความรักปรนนิบัติอยู่ข้างกาย แต่หลี่เหลียงกลับโอบกอดหญิงสาวอีกคน รักใคร่ มีบุตรด้วยกัน พวกเขาอาจยังนำความรักของท่านพี่มาล้อเล่น มาวางแผน
ชาติก่อนแม้ตายท่านพี่ก็ยังไม่รู้ แต่นางเกิดใหม่อีกครั้ง แม้แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายยังไม่ได้เห็น
“หากนางเป็นหญิงสาวที่ถูกหลี่เหลียงช่วยเอาไว้จนทำให้เกิดความรักใคร่จริง เรื่องนี้เกิดจากหลี่เหลียงย่อมสิ้นสุดที่หลี่เหลียง หลี่เหลียงตายแล้ว ข้าไม่มีทางไปทำร้ายหญิงสาวคนนี้” เฉินตันจูมองถาดทรายด้านหน้า บนใบหน้าไม่มีความเศร้า ความดีใจ หรือความหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้ นางละทิ้งสิ่งที่แสดงอยู่ สีหน้าเรียบเฉย
“แต่นางไม่ใช่”
นางมองแม่ทัพหน้ากากเหล็ก
“ท่านแม่ทัพ อันที่จริงเวลานี้ไม่ใช่ข้าจะไปยุ่งกับนางหรือไม่ ปล่อยนางไปหรือไม่ หากแต่นางจะปล่อยพวกข้าหรือไม่”
นางพูดจบก็หันหลังเดินออกไปด้านนอก แม่ทัพหน้ากากเหล็กเรียกอยู่ด้านหลัง “ช้าก่อน”
อย่างไร เวลานี้เขาจะจัดการนางเพราะหญิงสาวคนนั้น เพราะพวกของพวกเขาแล้วหรือ เฉินตันจูยืนนิ่งไม่ขยับ ไม่แม้แต่หันหน้ากลับไป นางยืนตัวตรง สัมผัสได้ถึงแม่ทัพหน้ากากเหล็กเดินมาด้านหลังตนเอง มือหนึ่งทาบเข้าที่หลังคอ…
ไม่ใช่อาวุธที่เย็นชา หากแต่เป็นผ้าอ่อนนุ่มผืนหนึ่ง อาจเป็นผ้าไหม ลำคอของนางเรียวยาว แต่ผ้าไหมนั้นอ้อมไปรอบหนึ่งผูกเอาไว้
“กลับไปเถิด” แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูด ชักมือกลับ
ทำอันใด ให้นางผูกคอตายด้วยผ้าขาวหรือ เฉินตันจูเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว