บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 80 ขวางทาง

ตอนที่ 80 ขวางทาง

หวังเจียนพูดจบก็ยกถ้วยชาขึ้นดื่ม เมื่อได้ยินจึงพ่นออกมา

“ท่านพูดถูก”

เขายกมือต่อแม่ทัพหน้ากากเหล็ก เสียใจที่ตนเองต่อปากต่อคำกับแม่ทัพหน้ากากเหล็ก เขาเคยชนะเมื่อใดกัน

“แต่ว่า ท่านแม่ทัพจะมองดูลูกรักของท่านโยนเงินทิ้งไปเช่นนี้หรือ” เขาพูดด้วยความจริงใจ “จู๋หลินน่าสงสาร หากข้าจำไม่ผิด เขาเป็นเด็กกำพร้าใช่หรือไม่ ตั้งแต่เล็กอยู่ในสนามรบ กว่าจะได้มาเป็นทหารด้านหน้าฝ่าบาท หากเก็บเงินอีกเสียหน่อยค่อยหาสะใภ้ ชาตินี้เขาก็มีครอบครัวอย่างมั่นคงได้แล้ว…แต่เวลานี้เงินถูกคุณหนูตันจูหลอกไปจนหมดแล้ว!”

เฉินตันจูอยากหาเงินด้วยการเปิดร้านยา นี่เป็นการทำเรื่องเหลวไหลไม่ใช่หรือ ใครกล้าใช้ยาของนางให้นางรักษา…บุตรสาวคนเล็กของท่านมหาราชครูเฉินจะรักษาใครได้ที่ไหน จะฆ่าคนเสียมากกว่า

เงินเดือนทั้งปีของจู๋หลินจะละลายไปกับน้ำ ยังสู้เล่นพนันไม่ได้ พนันสิบครั้งแพ้เก้าครั้ง แต่ยังมีโอกาสชนะหนึ่งครั้ง

“เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าคุณหนูตันจูรักษาโรคไม่ได้” แม่ทัพหน้ากากเหล็กถาม “ตอนที่หลี่เหลียงตาย ทุกคนก็ไม่คิดว่านางกล้าฆ่าคนไม่ใช่หรือ ในเมื่อนางกล้าพูดกล้าทำเรื่องนี้ นางย่อมต้องมีความมั่นใจ เจ้าอย่าดูถูกเด็ก”

“ข้าดูถูกแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้นไม่ใช่หรือ” หวังเจียนยกมือยอมแพ้อีกครั้ง “ชาตินี้ท่านจะไม่หยุดพูดแล้วหรือ แต่ก่อนยังไม่รู้สึกว่าท่านแม่ทัพพูดมาก แต่เหตุใดเรื่องที่เกี่ยวกับคุณหนูตันจู…”

“เจ้าเป็นคนเริ่มถาม” แม่ทัพหน้ากากเหล็กโยนเอกสารให้เขา “เรื่องมีมากมาย โจวเสวียนไม่ยอมฟังคำสั่งกลับมา คิดแต่จะโจมตีเมืองฉี ทางรัชทายาทส่งข่าวกลับมาว่าโน้มน้าวเหล่าขุนนางให้อพยพเมืองแล้ว ทางภิกษุจื้อฮุยเตรียมการได้…เจ้ารับเงินเดือนมากไปหรือไม่ เรื่องเล่านี้ยังทำไม่สำเร็จ เอาเงินเดือนออกมาให้จู๋หลินเถิด”

หวังเจียนก่นด่า “ให้ใครก็ไม่ให้ลูกบุญธรรมเจ้า” ก่อนจะหอบเอกสารจากไป

จู๋หลินยื่นเงินสองถุงให้อาเถียนอย่างดีใจ

“ใช้เหล่านี้ก่อน” เขาพูด “ใช้หมดข้าค่อยตัดเงินไปแลก”

อาเถียนที่กำลังล้างสมุนไพรเช็ดมือกับตัวอย่างดีใจ “เจ้ารอก่อน ข้าไปหยิบเล่มมาจดเอาไว้…”

จู๋หลินวางเงินไว้บนโต๊ะหินด้านข้าง ก่อนจะบอกว่าข้ารู้แล้ว จากนั้นเดินจากไป

อาเถียนส่งเสียงเรียก “เจ้าดูข้าเขียนด้วย…เดี๋ยวข้าเขียนขาดนะ”

จู๋หลินเดินจากไปอย่างไม่หันกลับมา

ชุ่ยเอ๋อมองถุงเงินด้วยรอยยิ้ม “เงินมากมายเพียงนี้ พี่จู๋หลินเอามาจากไหน”

อาเถียนมองเงินสองถุงนี้ สำหรับนางแล้ว เงินที่เคยเห็นในจวนแต่ก่อนมีมากกว่านี้ จู๋หลินเป็นแค่องครักษ์ เงินเหล่านี้ก็เก็บได้อย่างยากลำบาก เฮ้อ…

“คุณหนูบอกว่าต่อไปจะซื้อยาอะไร” นางพูดกับชุ่ยเอ๋อ “เจ้าลงไปถาม”

ชุ่ยเอ๋อตอบรับ ในขณะที่จะเดินลงไป อาเถียนก็เรียกนางอีกครั้ง ก่อนจะชี้ไปยังห้องครัว

“อิงกูทำขนมเอาไว้” นางพูด “หยิบไปให้คุณหนู วันนี้คุณหนูยังไม่ได้กินขนม”

หนึ่งวันกินขนมเพียงหนึ่งครั้ง น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ

ชุ่ยเอ๋อวิ่งไปหยิบขนมในครัวลงเขาไป นางมองเห็นเฉินตันจูนั่งอยู่ในเพิงที่ก่อขึ้นมาใหม่บริเวณเชิงเขา

เพิงอยู่ตรงข้ามโรงน้ำชาของคู่สามีภรรยาวัยชรา มีถนนกั้นระหว่างกลาง เพื่อป้องกันฝุ่นควัน อาเถียนยังซื้อผ้าบางมาทำเป็นม่าน อีกทั้งให้จู๋หลินยกเตียงจากจวนตระกูลเฉินมา…

เฉินตันจูสวมชุดกระโปรง หวีผมขดขึ้นด้านบน นั่งอยู่บนเตียง พิงพนักสีแดง โบกพัดกลมเล็ก ผมที่แผ่สยายปลิวไปตามหน้า ดวงตามองดูแขกที่มาดื่มชาในโรงน้ำชาฝั่งตรงข้าม

แขกที่มีนั่งดื่มชาในโรงน้ำชาต่างหันหน้าเข้าด้านในด้วยความรู้สึกตื่นตระหนกในเวลานี้ แต่ก่อนนั่งพักเท้าดื่มน้ำชา น้ำชาหนึ่งถ้วยดื่มได้หนึ่งชั่วยาม แต่ในเวลานี้แต่ละคนล้วนยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจว่าร้อนหรือเย็น…

หญิงชราที่ขายชาเดินมาทางนี้อย่างระอา “คุณหนูตันจู ท่านทำให้แขกของข้ากลัวหมดแล้ว”

เฉินตันจูส่งเสียง “วันนี้ข้าไม่ได้เชิญให้พวกเขาดื่มยาของข้า แย่งลูกค้าท่าน”

“คุณหนูตันจู ท่านทำเช่นนี้…” หญิงชราที่ขายชาพูดด้วยท่าทางหัวเราะก็ไม่ใช่ร้องไห้ก็ไม่เชิง

พูดยังไม่ทันจบ บนถนนมีคนขี่ม้าเดินทางมาถึงหลายคน หนึ่งในนั้นชี้มาทางโรงน้ำชาทางนี้ “ที่นี่มีสถานที่พักเท้า พวกเราดื่มชา…” พูดจบสายตาจับจ้องมาทางเฉินตันจู บนถนนเต็มไปด้วยคนเดินทางผ่านไปมา หญิงสาวงดงามมักจะดึงดูดสายตาผู้คน

เฉินตันจูเห็นพวกเขามองมา พัดกลมสะบัด มองจ้องไปยังคนหนึ่งในนั้น “ท่านเดินทางมาไกล มาให้ข้าจับชีพจรให้หรือไม่ ข้าเห็นสีหน้าท่านไม่ดี ระยะนี้ปวดหัวใช่หรือไม่ ข้ามียา…”

นางยังพูดไม่ทันจบ คนที่ชี้นิ้วไปยังโรงน้ำชาชักมือกับ ก่อนจะเร่งม้าขึ้นหน้า “…อันที่จริงอีกไม่ไกลก็เข้าเมืองได้แล้ว พวกเรารีบเข้าเมืองเถิด รีบกลับบ้านดีกว่า”

พูดจบ ทั้งสามคนสะบัดแส้เร่งม้าผ่านไป ฝุ่นควันปลิวว่อน…ท่ามกลางฝุ่นควันมีเสียงต่ำส่งมา

“คำเล่าลือเป็นจริง มีคนขวางทางรักษาโรคจริง”

“หรือไม่พวกเราไปลองดู?”

“เจ้าเสียสติหรือ เจ้าเห็นว่านางหน้าตางดงามใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร เฉินตันจู…”

“เฉินตันจูเป็นใครเป็นใคร เจ้าเข้าเมืองไปสืบดูก็รู้…น่ากลัวอย่างมาก”

ม้าเร่งฝีเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว ฝุ่นควันตกลงพื้น เสียงสนทนาก็หายลับไป

เฉินตันจูสีหน้าเรียบเฉย ไม่โกรธไม่เคืองต่อคำพูดเหล่านั้น เก็บพัดกลับมาสะบัดอยู่ด้านหน้าตัว

“ท่านดูสิ คุณหนูตันจู” ถึงแม้หญิงชราจะกลัวนาง แต่หากการทำมาหากินได้รับผลกระทบ นางก็ไม่สนใจความหวาดกลัวแล้ว

“ท่านทำเช่นนี้ จะทำให้แขกของข้าหนีไปหมด ข้าทำมาหากินไม่ได้ก็คงอยู่ไม่ได้แล้ว”

เฉินตันจูยิ้มให้นาง “ท่านยายวางใจ ท่านจะมีชีวิตอยู่อย่างดี ร่างกายแข็งแรง อีกสิบปีท่านก็ไม่ป่วย”

หญิงชราขายชาหัวเราะ…ใครจะอยู่เฉยกับคำพูดไพเราะของหญิงงามได้

นางขายชาอยู่บริเวณนี้หลายปี ตั้งแต่คุณหนูตันจูยังเด็กก็รู้จักนางแล้ว ถึงแม้ฐานะแตกต่างราวดินฟ้า แต่ก็สามารถพูดได้ว่าดูนางเติบโตขึ้นมา คำล่ำลือเกี่ยวกับคุณหนูตันจูในระยะนี้นางย่อมได้ยินมาบ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อนึกถึงว่าเวลานี้คุณหนูตันจูอยู่ในเมืองอู๋เพียงคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว ภายในใจของนางก็อดสงสารไม่ได้…เชิญฮ่องเต้เข้ามา ขับไล่ขุนนางอู๋ อีกทั้งเฉินเลี่ยหู่ไม่ยอมรับท่านอ๋องอะไรกัน นางไม่เชื่อว่าหญิงสาวตัวเล็กอย่างคุณหนูตันจูสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ชายหนุ่มเหล่านั้นล้วนตายหรืออย่างไร

“คุณหนูตันจู หากท่านคิดจะเปิดร้านยาจริง แบบนี้ไม่ได้” นางเกลี้ยกล่อม “ท่านทำให้คนตกใจกลัวหมดแล้ว”

เฉินตันจูพูดอย่างระอา “ท่านยาย ข้าไม่ทำอะไร พวกเขาก็กลัวจนหนีไปเหมือนกัน”

อย่างนั้นสู้นางทำอะไรบางอย่าง ไม่แน่ว่าอาจหลอกล่อคนสองคนมาให้นางรักษาได้ จากนั้นมีโอกาสทำให้คนเชื่อใจฝีมือของนาง

หญิงชราขายชาเกลี้ยกล่อมไม่ได้ เวลานี้เยี่ยนเอ๋อวิ่งลงมา ถือจานขนมอ่อนนุ่มที่มีสีขาวชั้นหนึ่งสีชมพูชั้นหนึ่งมาให้นาง “คุณหนู ขนมเจ้าค่ะ”

ถึงแม้จะกินข้าวธรรมดาได้ แต่เฉินตันจูไม่ปฏิเสธที่จะกินขนม เฮ้อ อยู่อย่างยากลำบากเกินไป ชาติก่อนนางขมขื่นมาสิบปี กินหวานได้ก็กินมากเสียหน่อย

เฉินตันจูรับจานเล็กมา มือหนึ่งถือเอาไว้ อีกมือใช้ซ่อมเล็กจิ้มขนมขึ้นมากิน

หญิงชราขายชามองใบหน้าขาวนุ่ม ริมฝีปากสีแดงของหญิงสาวที่กำลังกินขนมทีละคำ คำพูดที่เหลือก็หยุดพูดไป…หญิงสาวตัวน้อย อยากทำอย่างไรก็ทำไปเถิด

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท