บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 78 ทำมาหากิน

ตอนที่ 78 ทำมาหากิน

จู๋หลินผงะ ทันใดนั้นไม่รู้ต้องตอบรับอย่างไร

อาเถียนที่อยู่ภายในรถหน้าแดงก่ำ นางกัดริมฝีปากล่างเอาไว้

เฉินตันจูมองไปยังนาง “อาเถียน พวกเราไม่มีเงินแล้วหรือ”

น้ำตาของอาเถียนหลั่งไหลลงมา พวกนางมีเงินที่ใดกัน…อารามดอกท้อเป็นเพียงสถานที่พักผ่อนชั่วคราวของคุณหนู ไม่ได้เก็บเงินเอาไว้ สิ่งที่กินสิ่งที่ใช้ก็มีคนในตระกูลส่งมาให้

ตั้งแต่คุณหนูจากอารามดอกท้อไปในค่ำคืนนั้น ภายในจวนก็เกิดเรื่องใหญ่อย่างต่อเนื่อง ตระกูลเฉินถูกปิดจวน ไม่มีคนออกมาอีก เฉินเลี่ยหู่ไม่รับเฉินตันจูเป็นบุตรสาว ย่อมไม่ได้ส่งเงินและอาหารสิ่งของเครื่องใช้

ต่อมาตระกูลเฉินเดินทางออกจากเมืองอู๋ไป

เงินที่นางเก็บไว้ตั้งแต่เป็นสาวรับใช้ก็ใช้จนหมดแล้ว

“ก่อนที่คุณหนูใหญ่จากไปมีทิ้งเงินไว้จำนวนหนึ่ง” อาเถียนพูดพลางร้องไห้ เพียงแต่ตระกูลเฉินก็ไม่มีเงินมาก เมืองอู๋อุดมสมบูรณ์ แต่ตระกูลเฉินไม่มีกิจการอะไร ครั้งนี้เดินทางกลับซีจิงต้องใช้จ่ายมาก

เงินที่คุณหนูใหญ่ทิ้งไว้ไม่พอใช้แม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่คุณหนูกินและใช้…

สิ่งที่นางกินสิ่งที่นางใช้ล้วนเหมือนแต่ก่อน ข้าวคำหนึ่งล้วนแพงมาก

เฉินตันจูถอนหายใจ “เจ้าเด็กโง่ เงินไม่พอ เจ้าต้องบอกข้า” อาหารไม่ต้องซื้อดีมาก ประหยัดหน่อยจะเป็นอะไรไป

“คุณหนูใหญ่ทิ้งโฉนดจวนเอาไว้ให้” อาเถียนหลั่งน้ำตา “บอกว่าหากเงินไม่พอ ให้คุณหนูขายจวนทิ้ง ข้าเสียดาย…”

นายท่านจากไปแล้ว หากขายจวนทิ้ง คุณหนูจะไร้บ้านแล้วจริงๆ

เฉินตันจูส่ายหัว มองไปยังจู๋หลิน “แต่ก็ไม่อาจใช้เงินของจู๋หลิน”

ถึงแม้นางจะใช้พวกเขาเป็นเหมือนองครักษ์ แต่เพราะพวกเขาเป็นองครักษ์ในเดิมที ใช้แรงงานก็ว่าไป แต่จะใช้เงินของเขาได้อย่างไร

จู๋หลินมองอาเถียนที่ร้องไห้ อีกทั้งฟังคำพูดนั้น เขาพูดด้วยความตะกุกตะกัก “ไม่ ไม่เป็นไร”

หญิงสาวสองคนนี้ไม่มีเงินจริงๆ ก็แค่กินอาหารใช้เงินเล็กน้อย ไม่ถึงกับตาย

“ไม่มีเงินไม่ใช่ไม่เป็นไร” เฉินตันจูพูด เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ชาติก่อนเขาถูกกักขัง กินดื่มมีหลี่เหลียงดูแล ดังนั้นจึงไม่เคยต้องสิ้นเปลืองแรงใจเรื่องนี้ แต่ชาตินี้ไม่ใช่

หลี่เหลียงถูกนางสังหาร นางมีชีวิตอยู่อย่างอิสระ นางย่อมต้องเพิ่งพาตนเอง

อีกทั้งนางยังต้องใช้เงินในอีกหลายที อาทิหากจางเหยามาถึง นางคงไม่อาจปล่อยให้เขาลากร่างกายที่ป่วยหนักขอข้าวกินด้านล่างหมู่บ้านภูเขาดอกท้อ

นางต้องให้เขาได้กินอาหารที่ดีสวมชุดที่ดี เดินทางไปหาพ่อตาอย่างสง่างาม เข้าศึกษาในกั๋วจื่อเจี้ยนอย่างเป็นตัวเอง การศึกษาก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เงิน

“อาเถียน ใช้เงินจู๋หลินไปเท่าใด เจ้าคำนวณที” นางพูด

อาเถียนเช็ดน้ำตาพยักหน้า “ข้าจดเอาไว้หมด ทุกครั้งข้าซื้ออะไรข้าล้วนจดเอาไว้ ข้าจะคืนเขาอยู่แล้ว”

จู๋หลินรีบพูด “ไม่ต้องขอรับ ข้าไม่มีเรื่องที่ต้องใช้เงิน พวกท่านใช้เถิด”

เฉินตันจูยิ้มให้เขา “กลับเถิด วันนี้ไม่ซื้อข้าวดอกท้อแล้ว เข้าร้านซื้อข้าวสารธรรมดาก็พอ แต่เจ้ายังต้องจ่ายเงินก่อน”

จู๋หลินตอบรับ รีบวางม่านลง…เขาทนดูไม่ได้ หญิงสาวสองคนน่าสงสารอย่างมาก

แค่ซื้อของกินของใช้ไม่ใช่หรือ พรุ่งนี้เขาจะไปขอเบิกเงินเดือนปีหน้าทั้งปีเสีย

รถม้าเคลื่อนไปด้านหน้าอย่างโยกเยก เฉินตันจูเช็ดน้ำตาให้อาเถียนที่ยังคงร้องไห้อยู่

“อย่าร้องเลย” นางถอนหายใจ “อาเถียน หลายวันนี้เจ้าลำบากแล้ว”

ชาติก่อนนางทนทุกข์ทรมานภายในใจทุกค่ำคืน อาเถียนที่อยู่เคียงข้างนางย่อมเหมือนกัน ชาตินี้ถึงแม้คนในตระกูลปลอดภัย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็น่ากลัว อาเถียนไม่เคยประสบกับชาติก่อน นางเป็นเพียงสาวรับใช้ธรรมดา ภายในใจคงอกสั่นขวัญแขวนอย่างมาก

“คุณหนู อย่าขายจวนนะเจ้าคะ” อาเถียนสะอึกสะอื้น “หากนายท่านกลับมา หรือคุณหนูอยากกลับไปพัก”

หญิงสาวดีๆ จะอยู่ในอารามเล็กบนภูเขาทั้งชีวิต หรือ

อันที่จริงแล้วเธออยู่ในอารามเล็กมาทั้งชีวิตจริงๆ เฉินตันจูถอนหายใจ

“ได้ ไม่ขายจวน” นางพูด โยกหัวไหล่ของอาเถียน “มา ตั้งสติ พวกเราต้องคิดวิธีหาเงินเลี้ยงตัวเอง”

อาเถียนรีบเช็ดน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยความกังวล “พวกเราจะหาเงินอย่างไร”

สายตาของเฉินตันจูจับจ้องไปยังยาห่อหนึ่งบนรถ “ข้าบอกกับหลิวจั่งกุ้ยไว้ไม่ใช่หรือ เปิดร้านยา เป็นหมอ”

อาเถียนอุทานด้วยความตกใจ ถลึงตามองเฉินตันจู “คุณหนูพูดจริงหรือเจ้าคะ ท่านจะเรียนวิชาแพทย์”

ต้องเรียนนานเพียงใดกัน หลิวจั่งกุ้ยนั้นจะชราไปก่อนหรือไม่

อันที่จริงเธอเรียนมาได้เจ็ดแปดปีแล้ว เฉินตันจูคิดในใจ

“ข้าไม่อาจรักษาได้ทุกโรค ปวดหัวตัวร้อน แมลงกัดต่อยยังพอได้” นางพูด “พวกเราพลางเปิดร้านยาพลางเรียนไป”

แต่ก็ไม่ได้เรียนง่าย อาเถียนคิดในใจ แต่นางไม่ได้คัดค้าน เวลานี้คุณหนูกังวลเรื่องปากท้อง ให้นางมีอะไรทำก็ดี…ถึงแม้จะรักษาโรคไม่ได้ แต่ขายยาก็ยังดี อย่างน้อยขายยาที่ซื้อมาในหลายวันนี้ออกไปก่อน

จู๋หลินยังคงซื้อข้าวดอกท้อ ทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง “ครั้งหน้าค่อยเปลี่ยนเถิด” ก่อนจะจากไป

เฉินตันจูสีหน้าซับซ้อน ใช้อีกฝ่ายเป็นเวลานานจนคิดว่าเขาเป็นคนของตัวเองไปแล้วหรือ ช่างเถิด คนบางคนเรื่องบางเรื่องนางไม่อาจตัดสินใจได้ ปล่อยไปเถิด

“คุณหนูวางใจ” อาเถียนพูดเสียงเบา “ข้าวสารของคนอื่นล้วนเป็นข้าวธรรมดา”

ภายในอารามนอกจากนางแล้ว ยังมีสาวรับใช้สี่คนที่ต้องกินข้าว อิงกูเป็นคนเตือนนางถึงจะนึกขึ้นได้ว่าให้ซื้อขาวสารธรรมดาตั้งแต่แรก

“หลายวันนี้ ทุกคนไม่ได้อดอาหารใช่หรือไม่” เฉินตันจูถาม

อาเถียนส่ายหัว “ไม่ได้อด แค่ลดกับข้าวลง”

เช่นนั้นก็ดี นางไม่อาจให้คนที่ตามมาต้องอดอาหาร เฉินตันจูตั้งสติ “เตรียมหาเงินเถิด”

ค่ำคืนนี้เฉินตันจูไม่ได้เข้านอนด้วยความอ่อนเพลีย นางขีดๆ เขียนๆ อยู่ภายในห้อง วันรุ่งขึ้นตื่นมาแต่เช้าเดินวนไปมาอยู่บนภูเขา ในมือถือตะกร้าคนละใบกับอาเถียน

“อยู่กับภูเขาทำมาหากินกับภูเขา” เฉินตันจูพูดชี้ไปยังภูเขาดอกท้อ “ภูเขาดอกท้อของพวกเรามีสมุนไพรจำนวนมาก ไม่ต้องใช้เงินก็สามารถนำมารักษาโรคได้”

อาเถียนพยักหน้า นางรู้ว่ามีสมุนไพรอยู่บนภูเขา แต่คุณหนูรู้ว่าใช้สมุนไพรรักษาโรคอย่างไรจริงหรือ นางแยกสมุนไพรออกหรือ

เฉินตันจูไม่ได้ทำให้อาเถียนผิดหวัง นำพานางขุดสมุนไพรเต็มสองตะกร้าในช่วงเช้า จากนั้นสอนวิธีการล้างและตากแห้งให้อิงกู

เฉินตันจูนั่งรถไปร้านยาของหลิวจั่งกุ้ยเพื่อซื้ออุปกรณ์ทำยา…แสดงให้เห็นว่าตนเองต้องการเปิดร้านยาจริง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่เห็นคุณหนูตระกูลหลิว

“คุณหนูรูปงามในวันนั้นเป็นบุตรสาวของจั่งกุ้ยหรือ” นางถาม

หลิวจั่งกุ้ยตอบรับด้วยรอยยิ้ม

“คุณหนูหลิวก็เรียนหมอหรือ” เฉินตันจูถาม พลางมองไปซ้ายขวา “วันนี้ไม่เห็นนาง”

หญิงสาวที่เรียนหมอมีไม่มาก ศึกษาก็เพียงแค่ผิวเผิน ไม่มานั่งตรวจ ถึงแม้เขาจะเปิดร้านยา แต่ก็เหมือนดั่งที่ภรรยาไม่ได้ศึกษาวิชาแพทย์กับพ่อตา บุตรสาวของเขาย่อมไม่ศึกษา แต่คนในตระกูลของหญิงสาวนี้ปล่อยให้นางทำ อย่าได้คิดว่าทุกคนจะเป็นเช่นนี้

หลิวจั่งกุ้ยยิ้ม “นางไม่เรียน อีกทั้งไม่มาร้าน นางไปจวนของท่านยายนาง”

ท่านยายคนนี้ เฉินตันจูเคยได้ยินจางเหยาพูดถึงเมื่อชาติก่อน หลังจากที่จางเหยามาถึง คุณหนูหลิวคนนี้ก็เดินทางไปพักในจวนของท่านยายเพราะคัดค้านการหมั้นหมาย

เฉินตันจูจึงไม่ถามมาก นางชอบจางเหยา แต่ไม่อาจบังคับให้หญิงสาวทั้งหมดชอบเหมือนกัน คุณหนูหลิวไม่พึงพอใจกับการหมั้นหมายครั้งนี้ แต่ก็ตำหนิไม่ได้ สำหรับคุณหนูหลิวแล้ว การหมั้นหมายเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ย่อมต้องคำนึงให้มาก

เฉินตันจูกลับมายังอารามดอกท้อ นำอาเถียนและอิงกูใช้เวลาหลายวันในการทำวัตถุดิบยากองหนึ่งออกมาได้ อีกทั้งยังมียาที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ ร้านยาเล็กแห่งหนึ่งสามารถเปิดกิจการขึ้นมาได้แล้ว

เฉินตันจูให้อาเถียนลงภูเขาไปบอกชาวบ้านและคนที่ผ่านไปมา หากร่างกายไม่สบายให้ขึ้นมาหยิบยาในอารามดอกท้อได้โดยไม่เสียเงิน

อาเถียนตะลึง “ไม่เสียเงิน?” พวกนางต้องการขายให้ได้เงินไม่ใช่หรือ

“เด็กโง่” เฉินตันจูพูด “พวกเราต้องสร้างชื่อเสียงก่อน มิเช่นนั้นจะให้คนออกเงินได้อย่างไร”

อาเถียนกระจ่าง ก่อนจะแลบลิ้นออกมา ดูท่าทางคุณหนูจะรู้วิธีการหาเงินมากกว่านางเสียอีก นางพาอิงกูลงเขา มีคนประกาศบนเส้นทาง มีคนประกาศในหมู่บ้าน

แต่หลายวันผ่านไป คนที่มาหยิบยาในอารามดอกท้อไม่มีแม้แต่คนเดียว

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท