บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 143 สง่า

ตอนที่ 143 สง่า

เหล่าคุณหนูยืนส่งทั้งสามคนจากไปบริเวณด้านนอกของศาลา

องค์หญิงจินเหยาเดินข้างเฉินตันจู หลิวเวยเดินตามท้าย ต่อมาเป็นนางในทั้งสี่ขององค์หญิงจินเหยา สาวรับใช้ของเฉินตันจูและหลิวเวยเดินตามอย่างช้าๆ

“คุณหนูหลิวนี้น่าสงสาร ถูกเฉินตันจูกลั่นแกล้งให้อยู่ต่อหน้าองค์หญิง” คุณหนูคนหนึ่งพูด “ตอนที่นางถูกองค์หญิงตำหนิ คุณหนูหลิวก็ไม่ได้รับผลดี”

ครั้งนี้ด้านข้างเงียบสงัด ไม่มีผู้ใดตอบรับ

เดิมทีทุกคนก็ล้วนคิดเช่นนี้ แต่ดูจากเวลานี้เหตุใดจึงเหมือนจะไม่เป็นไปอย่างที่คิด

“ข้ารู้สึกว่า องค์หญิงราวกับชอบเฉินตันจูอย่างมาก” คุณหนูคนหนึ่งพูดออกมา นางมองดูคนทั้งสามทางนั้น “มีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ ไม่เหมือนกำลังจะตำหนิเฉินตันจูแม้แต่น้อย”

หากเป็นเช่นนั้น การคาดเดาก่อนหน้าที่บอกว่าองค์หญิงจินเหยามาเพื่อเฉินตันจู อันที่จริงไม่ได้มาเพื่อสั่งสอนเฉินตันจู หากแต่มาเพื่อเล่นกับเฉินตันจู?

ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน สีหน้าของเหล่าคุณหนูเมืองอู๋เดิมต่างตกตะลึง สีหน้าของเหล่าคุณหนูเมืองซีจิงยิ่งซับซ้อน นอกจากตกตะลึงแล้ว ยังมีความผิดหวังและวิตกกังวล

ไม่กระมัง เฉินตันจูเป็นคนที่ไม่น่าชื่นชอบเพียงนี้…

จะว่าไป คนลักษณะอย่างเฉินตันจู ถึงแม้องค์หญิงเป็นผู้เติบโตในวังหลวงแต่อันที่จริงสูงส่งและไร้เดียงสา เมื่อพบเจอย่อมต้องชื่นชอบ หลี่เหลียนโบกมือไปมาต่อหน้าคุณหนูข้างนาง “ไปกันเถิด ไปกันเถิด”

คุณหนูนั้นถูกนางโบกมือจนเรียกสติกลับมาได้ “อาเหลียน เจ้าทำอันใด ไปที่ใด”

“ไปเดินเล่น” หลี่เหลียนถามนางกลับ “พวกเรามาเพื่องานเลี้ยงล่องเรือมิใช่หรือ หรือว่าจะยืนอยู่ตรงนี้ตลอด?”

จริงด้วย พวกนางมาเพื่อเข้าร่วมงานล่องเรือ เอาเถิด แน่นอนว่าสาเหตุหนึ่งเพราะเฉินตันจู อีกสาเหตุเพราะองค์หญิงจินเหยา แต่ในเมื่อเฉินตันจูและองค์หญิงจินเหยาล้วนไม่เล่นกับพวกนาง พวกนางก็คงไม่อาจยืนทื่ออยู่ตรงนี้ได้…คุณหนูนั้นหัวเราะ “ได้ พวกเราไปเล่นกัน”

คุณหนูคนอื่นรอบด้านมองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะออกมา

หลี่เหลียนเรียกขานเหล่าคุณหนูตระกูลฉางที่ฉงนอยู่ในฝูงชน “เตรียมเรือไว้แล้วใช่หรือไม่”

เหล่าคุณหนูตระกูลฉางตอบรับ “มีเรือใหญ่ที่สามารถรองรับได้สิบคน และมีเรือพายสำหรับสองคน”

หลี่เหลียนจึงยิ้มให้คุณหนูด้านข้าง “มาๆ พวกเจ้ามากับข้า พวกเรานั่งเรือเล็ก ข้าพายเอง”

คุณหนูสองคนนั้นยื่นมือผลักนางเบาๆ พลางหัวเราะ “เจ้าอย่าทำให้พวกข้าลำบาก พวกข้าไม่นั่งเรือของเจ้าหรอก”

หลี่เหลียนยิ้มเดินขึ้นหน้า “พวกเจ้าอย่าเสียใจที่ไม่นั่ง ข้าจะไปพายเองคนเดียว ให้พวกเจ้าได้เห็นถึงความเก่งกาจของข้า”

เหล่าคุณหนูหัวเราะขึ้นมา เหล่าคุณหนูตระกูลฉางก็ตั้งสติได้ จริงด้วย องค์หญิงไม่เล่นกับพวกนาง แต่พวกนางก็ไม่อาจปล่อยคุณหนูจำนวนมากขนาดนี้เอาไว้ ดังนั้นจึงรีบเรียกขานทุกคน ทางนั้นมีต้นไม้ดอกไม้สามารถชมทิวทัศน์ได้ ทางนั้นมีศาลาสูงสามารถนั่งตกปลาได้ ทางนั้นมีเรือ เรือรอคอยเป็นเวลานานแล้ว…เหล่าคุณหนูเรียกขานเพื่อนของตน เจ้าลากข้า ข้าเรียกเจ้า เลือกสิ่งที่ตนเองชอบ

ทางนี้กำลังคึกคัก คุณหนูคนหนึ่งหลังจากได้ยินสาวรับใช้กลับมารายงานก็ตะโกนออกมา “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดมา”

เหล่าคุณหนูข้างตัวตกใจกับเสียงนั้น มองดูหญิงสาวตานิดจมูกหน่อยตรงหน้า…เพิ่งตื่นจากความฝันหรือ องค์หญิงเดินทางมาอย่างไรเล่า ยังมีผู้ใดอีก

“โจว โจวเสวียน” หญิงสาวนั้นพูดอย่างรีบร้อน “พวกเจ้ารู้จักโจวเสวียนหรือไม่”

มีคุณหนูบางคนไม่รู้ พวกนางกะพริบตาด้วยความฉงน แต่ก็มีคุณหนูบางคนที่ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนนาง…คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคุณหนูจากเมืองซีจิง

“คุณชายเสวียน?”

“เป็นไปได้อย่างไร คุณชายเสวียนไม่ได้นำทัพอยู่หรือ”

เมื่อได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้ คนที่รู้จักโจวเสวียนต่างพากันตกตะลึง คนที่ไม่รู้ต่างถามขึ้น จากนั้นจึงรู้จัก เพราะว่าชื่อของโจวชิงโด่งดังเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

“เหตุใดโจวเสวียนจึงมา” จากนั้นจึงเป็นความสงสัยของทุกคน

คุณหนูคนนั้นผลักสาวรับใช้ของตนเองเบาๆ ดวงตาถลึงโตด้วยความตื่นเต้น “พี่ชายให้คนมาบอกสาวรับใช้ข้า เขาอยู่บนงานเลี้ยงทางนั้น! มาด้วยกันกับองค์หญิง!”

จริงหรือเท็จ? เหล่าคุณหนูสนทนาเสียงเบา เวลานี้มีคนตะโกนในขณะที่หันหน้าไปทางทะเลสาบ “ดู ทางนั้นมีคนมา พวกเขาจะล่องเรือ คนนั้นราวกับว่าเป็นคุณชายเสวียนจริงๆ”

เหล่าคุณหนูหลั่งไหลไปทางริมทะเลสาบ เมื่อเห็นมีชายหนุ่มจำนวนไม่น้อยเดินออกมาจากศาลา ถึงแม้จะบอกว่าเป็นงานเลี้ยงของเหล่าคุณหนู แต่ก็ยังมีบางตระกูลพาคุณชายมา ไม่ว่าชายหนุ่มหรือหญิงสาวก็ต้องมีการคบหากัน แน่นอนว่าคนที่เดินทางมามีไม่มาก เวลานี้ชายหนุ่มอายุน้อยที่เดินออกจากศาลามีราวสิบคน หนึ่งในนั้นสวมชุดแขนกว้างธรรมดา แต่รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม ถึงแม้จะอยู่ห่างไกล เขาก็ยังเป็นการมีอยู่ที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มคน

“คุณชายเสวียน! ข้าเคยพบเขา!” มีคุณหนูพูดขึ้นอย่างดีใจ

เวลานี้เหล่านายหญิงทางนี้ก็ได้ยินข่าว ไม่ใช่การคาดเดาหากแต่เป็นความมั่นใจ นายท่านฉางเดินมาบอกเอง

“เขาเพียงแค่บอกว่าติดตามองค์หญิงมา ไม่บอกว่าเป็นผู้ใด พวกข้าก็ไม่กล้าถามมาก ดูจากกิริยาท่าทางน่าจะเป็นบุตรหลานชนชั้นสูง จึงให้เขาอยู่ในงานของฝั่งชาย”

นายท่านฉางนึกถึงตรงนี้ก็รู้สึกปวดหัว ชายหนุ่มที่เดินทางมาในครั้งนี้ล้วนเป็นตระกูลชั้นสูงของเมืองอู๋เดิม ทางเมืองซีจิงถึงแม้จะมีฮองเฮาให้องค์หญิงมาเป็นตัวอย่าง ให้เหล่าคุณหนูเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ยังคงจำคำพูดของฮ่องเต้ที่ตำหนิตระกูลใหญ่ตามใจให้บุตรหลานเที่ยวเล่น จึงไม่กล้าปล่อยให้เหล่าคุณชายออกมา

ดังนั้นจึงไม่มีคนรู้จักโจวเสวียน

โจวเสวียนนั่งกินอาหาร ดื่มเหล้าอยู่ท่ามกลางชายหนุ่มเช่นนี้ อาจเพราะสนทนากันอย่างสนุกนาน เขาจึงดื่มสุราอีกหลายแก้ว เมื่อชายหนุ่มข้างตัวถามถึงตระกูลขึ้นมา โจวเสวียนจึงตอบ “ซีจิง ตระกูลโจว โจวเสวียน”

ชายหนุ่มของเมืองอู๋ถึงแม้ไม่เคยพบโจวเสวียน แต่พวกเขาต่างรู้จักตระกูลโจวเมืองซีจิง และชื่อของโจวเสวียน ทันใดนั้นล้วนตกตะลึง

บุตรชายของอวี้สื่อต้าฟูโจวชิงนั่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา

“ข้าไปพบด้วยตนเองแล้ว เขาบอกแค่มาเป็นเพื่อนองค์หญิง ไม่ให้พวกเราจัดเตรียมสิ่งใดมาก” นายท่านฉางพูด เมื่อนึกถึงสถานการณ์การสนทนา สีหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความชื่นชม “คุณชายโจวอ่อนน้อมมีมารยาท สมกับที่เป็นผู้มีการศึกษา”

เหล่านายหญิงต่างโล่งใจ พวกนางต่างกระซิบกันด้วยสีหน้าตื่นเต้น งานเลี้ยงของตระกูลฉางนี้มาได้อย่างคุ้มค่า

เสียงของเหล่าหญิงสาวดังขึ้นจากด้านนอก

เหล่านายหญิงมองหน้ากัน ก่อนจะมองไปนอกศาลา พบว่าเหล่าคุณหนูที่ยืนกระจัดกระจายในเดิมทีต่างยืนรวมอยู่บริเวณริมทะเลสาบ อีกทั้งยังชี้ไปที่ทะเลสาบด้วยรอยยิ้ม เหล่านายหญิงก็ยิ้มขึ้นมา ผู้ใดไม่เคยผ่านช่วงเวลาหนุ่มสาวกันมาบ้าง

ท่ามกลางทะเลสาบ เรือที่สามารถจุได้สิบคนกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ โจวเสวียนในชุดแขนกว้างยืนอยู่บริเวณหัวเรือคนเดียว ลมยามบ่ายพัดผ่านมาทำให้เสื้อของเขาพลิ้วไหว

คนพายเรือรู้หน้าที่อย่างยิ่ง เขาเคลื่อนเรือของแขกชายมาทางแขกหญิง

เมื่อเห็นเรือที่เข้าใกล้มากขึ้น ใบหน้าของคนบนเรือก็ชัดเจนมากขึ้น คิ้วและดวงตาราวกับผ่านการแกะสลักมา งดงามดุจดั่งหยก

เหล่าคุณหนูที่ยืนอยู่ใต้ต้นหลิวบริเวณฝั่งนั้นโบกมือเรียกขานออกมา “คุณชายเสวียน”

สายตาของโจวเสวียนมองไปยังนาง ยิ้มเบาๆ “ท่านคือ…คุณหนูตระกูลหลูหรือ”

คุณหนูนั้นดีใจจนเสียงเปลี่ยน พยักหน้าระรัว “ข้าเอง ข้าเอง คุณชายเสวียน ท่านกลับมาแล้วหรือ พี่ชายข้าคิดถึงท่านมาก ตระกูลข้าย้ายมาจนหมดแล้ว…”

นางยังอยากพูดบางสิ่ง แต่คุณหนูรอไม่ไหว ต่างพูดขึ้น “คุณชายเสวียน ท่านกลับมาเมื่อใด พี่ชายข้าคือเจียงชิงเฟิง…”

“คุณชายเสวียน คุณชายเสวียน ตระกูลข้าก็ย้ายมาแล้ว…”

เสียงของเหล่าคุณหนูเจื้อยแจ้ว คนเหล่านี้ล้วนเป็นเหล่าคุณหนูจากเมืองซีจิง เห็นได้ชัดว่าตระกูลของพวกนางรู้จักกับโจวเสวียน

ส่วนเหล่าคุณหนูในเมืองอู๋ยืนดูอย่างเงียบสงบ พวกนางไม่รู้จัก

สายตาของโจวเสวียนกวาดผ่านเหล่าคุณหนูที่พูดเจื้อยแจ้ว มาทางเหล่าคุณหนูเมืองอู๋ เขาไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงแต่ยกมือขึ้นคารวะ…

เหล่าคุณหนูเมืองอู๋อดส่งเสียงออกมาไม่ได้ มีคนตอบรับ มีคนยิ้ม มีคนเรียกขานออกมาด้วยความใจกล้า “คุณชายเสวียน”

เรือล่องผ่านไปช้าๆ คุณชายอายุน้อยผู้สง่างามจากไปไกล เหล่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาต่างยิ้มออกมา รับรู้ถึงสายตาของเหล่าหญิงสาวบนฝั่ง ยืนตัวตรงสง่างามเหมือนโจวเสวียน…การมาในครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว เกียรติยศเช่นนี้สามารถกลับไปโอ้อวดได้หลายวัน ให้เหล่าคนที่เยาะเย้ยพวกเขาว่าเดินทางมางานเลี้ยงของหญิงสาวเสียดาย

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก ชิงไหวชิงพริบเข้มข้น เจ้าของผลงานหวนชะตารัก

ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวาย เฉินตันจู บุตรสาวราชครูในท่านอ๋องอู๋

หนึ่งในท่านอ๋องที่ตั้งตนเป็นใหญ่ได้ย้อนเวลากลับมาครั้นเมื่อตนอายุสิบห้าปี

ครั้งที่บิดาและครอบครัวยังไม่ถูกสังหารด้วยแผนการร้ายของพี่เขย

เมื่อได้ย้อนกลับมาปณิธานของนางย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาของตระกูลให้ไม่พบจุดจบดังเดิม

ถึงแม้การทำเช่นนั้นจะทำให้นางถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกผลักไส

แต่เพื่อความสุขของคนที่รักนางพร้อมยอมแลกทุกสิ่ง เมื่อก้าวเดินของนางเปลี่ยนแปลงชะตาเดิม

เมื่อนั้นนางก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวังวนของการแก่งแย่งเสียแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท