เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 127 ปีใหม่ ผู้คนจากทุกสารทิศต่างมาเยี่ยมเยียน (1)

ตอนที่ 127 ปีใหม่ ผู้คนจากทุกสารทิศต่างมาเยี่ยมเยียน (1)

แม้ว่าความเป็นอยู่ของถงจื่อจิ้งที่เรือนตระกูลหนิง มีคนไปรายงานให้ฟังทุกวัน แต่รายงานแค่ว่าวันนี้คุณชายแกะสลักตลอดทั้งวัน วันนี้คุณชายกินอาหารได้เอร็ดอร่อย วันนี้คุณชายนิ่งเงียบมากเป็นต้น

ไม่อาจรู้สึกได้เหมือนเห็นกับตาตนเอง

ไม่เจอกันไม่กี่วัน ต้องมองคุณชายใหม่แล้ว สีหน้าเช่นนี้ ทำให้พ่อบ้านถงอดขยี้ตาไม่ได้ แล้วมองอีก น้ำตารินไหลลงมาทันที

ตระกูลถงว่าจ้างอาจารย์ปฐมวัยได้แล้ว ทว่าพ่อบ้านถงไม่รู้จะบอกมั่วเชียนเสวี่ยเช่นไร เพราะที่มาพร้อมกับอาจารย์จี้ยังมีสาวใช้รูปโฉมงดงามอีกสองคน

นี่คือคำสั่งของถงเหล่า เดิมทีพ่อบ้านถงอยากจะเกลี้ยกล่อม แต่เมื่อครุ่นคิดอีกทางหนึ่ง ตอนนี้พวกเขาไม่ได้บีบบังคับคุณชาย เพียงแค่ส่งสาวใช้มาปรนนิบัติรับใช้เท่านั้น

หากคุณชายชอบพอ รับพวกนางเอาไว้ นั่นก็ถือเป็นวาสนาของพวกนาง และเป็นเรื่องที่น่ายินดีของตระกูลถง หากคุณชายไม่ชอบพอ เพียงแค่ไล่ออกก็สิ้นเรื่อง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งใดไม่เหมาะสม พูดคุยกับมั่วเชียนเสวี่ยเล็กน้อย พ่อบ้านถงได้พบถงจื่อจิ้งแแล้ว หน้าที่ก็ทำแล้ว จึงรีบร้อนจะกลับไปเรือนตระกูลถงเพื่อรายงานข่าวดีให้นายท่านฟัง

มั่วเชียนเสวี่ยมองสาวใช้ทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านหลังอาจารย์จี้ด้วยสีหน้าหมดคำจะพูด แต่เขาก็ให้อาอู่ไปเชิญถงจื่อจิ้งกลับมา “จื่อจิ้ง นี่คือท่านอาจารย์ของเจ้า”

“ท่านอาจารย์แกะสลักเป็นหรือไม่”

“ข้าไร้ความสามารถ ไม่มีความรู้ด้านการแกะสลัก แต่มีความรู้ด้านการวาดภาพเล็กน้อย มัจฉาแหวกว่ายในคงคา ปักษาโบยบินบนเวหา บุษบายิ้มท่ามกลางวาโย หากคุณชายไม่รังเกียจ ข้าวาดภาพให้คุณชายหนึ่งรูปได้” ใบหน้าของอาจารย์จี้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงไม่รีบร้อน ให้ความรู้สึกเป็นกันเองอย่างมาก

“เช่นนั้นท่านอาจารย์รีบวาดมาเร็วเข้า” เรื่องที่ถงจื่อจิ้งสนใจมีไม่มาก นอกจากแกะสลักก็คือวาดภาพ

สำหรับอาจารย์จี้ที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ถงจื่อจิ้งไม่ได้ปฏิเสธเท่าใดนัก เมื่อได้ยินว่าเขาวาดภาพเป็น บอกเขาวาดภาพให้ตนหนึ่งรูปอย่างหักห้ามใจไม่ได้

สาวใช้ทั้งสองเห็นว่าคุณชายไม่ได้ชายตามองตน รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย พวกนางได้รับการสอนมาจากหมัวมัวหลายปี เตรียมที่จะเป็นสาวใช้ห้องข้างของถงจื่อจิ้งมานานแล้ว

ทั้งสองมองตากัน จากนั้นเบียดตัวขึ้นมาด้านหน้าแล้วน้อมทำความเคารพ

เวลานี้ถงจื่อจิ้งเพิ่งเห็นว่าด้านหลังอาจารย์จี้มีสาวใช้สองคน

เมื่อเห็นสาวใช้สองคนเดินมาด้านหน้า ถงจื่อจิ้งกลับถอยหลังหนึ่งก้าว ร้องตะโกนเสียงดัง “ถงผิง ถงอัน…”

……

ณ เรือนตระกูลถง

ตอนที่พ่อบ้านถงไปห้องหนังสือ ถงเหล่ากำลังคัดลอกตัวอักษรประดิษฐ์ของผู้มีชื่อเสียง

พ่อบ้านถงกล่าว “นายท่าน เมื่อครู่องครักษ์ตระกูลถงรายงานว่า สาวใช้สองคนที่ส่งไป ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด เพียงคิดอยากจะเข้าใกล้คุณชาย คุณชายก็สั่งให้ถงผิงและถงอันลากตัวพวกนางออกไป โยนบนพื้นหิมะขอรับ ทั้งยังบอกว่า…”

ผู้เฒ่าถงได้ยินว่าถงจื่อจิ้งสั่งให้ถงผิงและถงอันลากสาวใช้สองคนออกไป ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เอ่ยถาม “พูดว่าอะไรอีก”

“พูดว่า หากเห็นพวกนางอีกครั้ง จะทุบตีและสังหารขอรับ หลังจากนั้น…” พ่อบ้านถงไม่อาจทำใจพูดต่อ

“หลังจากนั้น?” ผู้เฒ่าถงวางพู่กันในมือ มองภาพตรงหน้า แววตาฉายความชื่นชม

ไม่ได้คัดลอกตัวอักษรประดิษฐ์ที่ทำให้ตนพอใจได้มานานแล้ว

เป็นเพราะเย็นวันนี้ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าจิ้งเอ๋อร์พัฒนาขึ้นมาก เขาจึงมีอารมณ์นั่งคัดลอกตัวอักษรประดิษฐ์

พ่อบ้านถงพูดอ้ำอึ้งด้วยความไม่สบายใจ “หลังจากนั้นคุณชายออกคำสั่งว่า นับจากวันนี้ห้ามสตรีคนใดเข้าใกล้เขา หากมีสตรีคนใดเข้าใกล้เขาในรัศมีสามไม้บรรทัด ให้ถงผิงและถงอันทุบตีทำร้ายและฆ่าฟัน หากถงผิงและถงอันไม่ทำ เช่นนั้นก็จะทุบตีและฆ่าพวกเขาไปพร้อมกันขอรับ”

ฮ่าๆๆ… ถงเหล่าได้ยินคำว่าทุบตีและฆ่าฟันสองคำนี้ แหงนหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง “ทุบตีและฆ่าฟัน!จิ้ งเอ๋อร์ของข้าโตแล้วจริงๆ พ่อบ้านไปหยิบสุรามา”

พ่อบ้านถงออกไปหยิบสุราตามคำสั่ง ถงเหล่าพูดพึมพำกับตนเอง “เยี่ยมๆๆ สมกับเป็นลูกหลานตระกูลถงของข้า มีความกล้าหาญ” เห็นว่าพ่อบ้านยังไม่ได้ก้าวออกจากห้อง เขาจึงพูดสั่ง “สั่งองครักษ์ตระกูลถงไปลอบติดตามคุณชายให้มากขึ้น เขาอยากทุบตีและฆ่าฟันผู้ใด ก็ปล่อยให้เขาทุบตีและฆ่าฟัน บุตรชายของข้าจะไม่มีความเหี้ยมโหดแม้แต่น้อยได้อย่างไร”

“ขอรับ”

พ่อบ้านถงพยักหน้าอีกครั้ง กำลังจะก้าวออกไป ด้านหลังก็มีเสียงดังขึ้นอีก “ช้าก่อน”

พ่อบ้านถงหันกลับไปด้วยความจนปัญญา ถงเหล่าพูดต่อ “พ่อบ้าน เจ้ารีบส่งคนไปติดตามหมอประหลาดนั่นเสีย เมื่อเขาเจอยานำพา ให้แย่งชิงมา หากไม่อาจแย่งชิงกลับมาได้ เช่นนั้นก็ทำลายทิ้งเสีย”

“เพราะเหตุใดหรือขอรับนายท่าน”

“เพราะเหตุใดงั้นรึ ก็เพื่อจิ้งเอ๋อร์อย่างไรเล่า เจ้าดูสิเขาอยู่ที่เรือนตระกูลหนิงมานาน ทว่ากลับไม่เคยเสวนากับสตรีคนใดมาก่อน รวมถึงบุตรีของหญิงหม้ายที่องรักษ์รายงานว่าคอยยั่วยวนจิ้งเอ๋อร์ที่เรือนทุกวัน ในเมื่อเขามีใจให้แค่หนิงเหนียงจื่อ เช่นนั้นข้าที่เป็นบิดา ย่อมต้องช่วยเขา”

“นายท่าน รออีกหน่อยดีหรือไม่ขอรับ ไม่แน่ว่าคุณชายจะดีขึ้นในเร็ววัน” พ่อบ้านถงร้อนใจเล็กน้อย

“รอ? ข้าแก่มากแล้ว จะรอได้อีกกี่ปี หากจิ้งเอ๋อร์ไม่เปิดใจ ไม่ยอมรับสตรี หรือว่าจะให้ข้ารอต่อไปเช่นนี้ต่อไปอย่างนั้นหรือ”

“เอ่อ…ไม่เป็นเช่นนั้นหรอกขอรับ” พ่อบ้านถงเองก็ไม่มั่นใจ

“ทุกอย่างล้วนมีความเป็นไปได้ ข้าไม่มีวันฝากความหวังไว้กับการรอคอยที่สูญเปล่า” ใบหน้าถงเหล่าฉายความเหี้ยมโหด “หากหนิงเซ่าชิงสิ้นใจ หนิงเหนียงจื่อไม่มีที่พึ่งพิง ย่อมต้องทำดีกับจิ้งเอ๋อร์”

“นายท่าน…”

“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้ารีบไปจัดการเสีย”

ขณะที่ถงเหล่าและพ่อบ้านวางแผนทำลายยานำพาที่ใช้เพื่อช่วยชีวิตหนิงเซ่าชิงในห้องหนังสือ หนิงเซ่าชิงเดินเข้าไปในห้องของอาจารย์จี้ จี้ซวี่เหยา

จี้ซวี่เหยากำลังอ่านตำราในห้อง เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือหนิงเซ่าชิง เขามองร่างสง่างามที่อ่อนโยนนั้นอย่างพิจารณา รู้สึกว่ารัศมีในตัวหนิงเซ่าชิงส่องสว่างทั่วห้องที่แสนซอมซ่อนี้ เขาลุกขึ้นแล้วประสานมือพูด “ได้ยินชื่อคุณชายหนิงมานาน วันนี้ได้พบเจอ สมคำร่ำลือจริงๆ”

“ที่ใดกันๆ” หนิงเซ่าชิงยกมือขึ้น ทรุดตัวลงนั่งขณะจี้ซวี่ยเหยากล่าวทักทาย พูดเสียงเรียบ “ลำบากท่านอาจารย์จี้แล้ว”

แม้ว่าตระกูลจี้จะตกอับ ทว่าตระกูลที่มั่งคั่งแม้ตกอับก็ร่ำรวยกว่าผู้ที่ยากจนแต่กำเนิด

ตระกูลจี้ของจี้ซวี่เหยาครั้งหนึ่งเคยเป็นตระกูลขุนนางแห่งราชวงศ์เทียนฉี เมื่อร้อยปีก่อนเคยโดดเด่น เคยมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ แม้ว่าตอนนี้จะตกอับ ทว่าก็ยังมีที่นาอยู่บ้าง การใช้ชีวิตในแต่ละวันไม่ใช่ปัญหา ยังไม่ถึงขั้นตกอับจนต้องมาเป็นอาจารย์สอนผู้อื่นถึงเรือน

“คุณชายหนิงพูดอะไรขอรับ ซวี่เหยายังอยากจะให้คุณชายหนิงพาซวี่เหยาไปขอบคุณคุณชายหลูที่แนะนำมา ในเวลาเดียวกันก็อยากจะขอบคุณคุณชายหนิงที่สนับสนุนซวี่เหยา”

จี้ซวี่ยเหยาถ่อมตน พูดจาฉะฉาน “ตระกูลถงคือตระกูลขุนนางอันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์เทียนฉี แม้ว่าเวลานี้จะปลีกวิเวก ออกไปอยู่นอกเมืองหลวง แม้นไม่เด่นตระหง่านเข้มแข็งเหมือนเมื่อหลายปีก่อน ทว่า ถงเหล่าเป็นผู้แข็งแกร่ง อำนาจไม่เคยลดน้อย ในทางกลับกันตระกูลจี้ของข้าลำบากยากเข็ญ หากปล่อยให้สถานการณ์พาไปโดยไม่ทำการใด อีกไม่กี่ปี ในเทียนฉีก็จะไม่มีผู้ใดจดจำตระกูลจี้ของข้าได้ สำหรับตระกูลจี้แล้วนี่คือโอกาสที่ต้องรักษาเอาไว้ให้ดี วันหน้าหากตระกูลจี้กลับมารุ่งโรจน์ต้องขอบคุณท่านทั้งสองสำหรับบุญคุณในวันนี้”

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท