ตอนที่ 126 เรื่องฉาวของสื่อเจินเซียง
ฟางจั๋วหรานเหลือบมองสื่อเจินเซียงอย่างเฉยเมยแล้วเดินผ่านไป
สื่อเจินเซียงตรงเข้ามาหาเขาพร้อมใบหน้าแดงก่ำ ยื่นแอปเปิ้ลสองสามลูกในมือมาที่เขาแล้วพูดอย่างเขิน ๆ “อาจารย์ฟาง ฉันขอโทษเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานนี้ด้วยนะคะ แม่ฉันก็เป็นคนแบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าจะหยุดแม่…”
ชายหนุ่มดูไม่ได้อยากจะเสวนากับหล่อนมากนัก เขาแสดงท่าทางเย็นชาอย่างไม่ปิดบัง “คุณไม่จำเป็นต้องมาขอโทษหรอก แค่อย่ามายุ่งกับผมอีกก็พอ”
หลังพูดจบ เขาก็เมินหล่อนแล้วเดินหนีไป
สื่อเจินเซียงไม่ยอมละความพยาม รีบวิ่งตามไปขวางหน้าเพื่อจะหยุดเขา
ทันทีที่หล่อนเอ่ยเรียก “อาจารย์ฟาง” ฟางจั๋วหรานก็หันไปบอกเจ้าหน้าที่ รปภ. ของโรงพยาบาลที่ยืนอยู่ทันที “ช่วยแจ้งตำรวจด้วยครับ มีคนตามมาก่อกวนผม”
เจ้าหน้าที่ รปภ. ได้ยินแบบนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งตำรวจทันที
รปภ. อีกสองคนเข้ามากันหล่อนออกไป
หญิงสาวรู้สึกผิดมากจนน้ำตาคลอ หล่อนมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำแล้วเอ่ยกับเขาอีกครั้ง “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาก่อกวนคุณเลยนะคะ ฉันแค่มาเพื่อขอโทษแทนแม่ของฉัน”
ชายหนุ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย “ผมบอกไปแล้วไงว่าไม่จำเป็นต้องมาขอโทษ ถ้ายังจะรบกวนกันอยู่แบบนี้ ที่คุณบอกว่าไม่ได้จะมาก่อกวนจริง ๆ ก็คงจะมาตามรังควานผมใช่ไหม”
สื่อเจินเซียงนิ่งอึ้งไป
หล่อนเพียงแค่อยากจะใช้การขอโทษแทนแม่มาเป็นข้ออ้างในการมาเจอและคุยกับเขาต่างหาก
แต่จะให้บอกไปตรง ๆ แบบนั้นได้อย่างไรกัน
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็มองว่าเป็นการยอมรับข้อกล่าวหา พวกเขาจึงไล่หล่อนออกไปพร้อมกับส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาให้
ผู้หญิงหน้าไม่อายคนนี้มาตามรังควานคุณหมอถึงที่นี่เชียวเหรอ
เมื่อคุณหมอฟางเข้ามาถึงห้องทำงาน เขาก็ลงมือติดต่อคนที่จะมาช่วยจัดการกับสื่อเจินเซียงทันที
ต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบทั้งเรื่องที่มาวุ่นวายกับเขาและที่ไปหาเรื่องโจวฉายอวิ๋นเมื่อวานนี้
สื่อเจินเซียงยังไม่ทันได้เริ่มทำงานในช่วงเช้า ก็มีตำรวจมาหาหล่อนถึงที่ทำงาน และมาเตือนว่าให้หยุดตามรังควานคุณหมอฟาง
หลังจากนั้นคุณป้าอาสาสมัครชุมชนก็เข้ามา ทั้งสั่งสอน ตักเตือนเรื่องพฤติกรรมของหล่อนพร้อมกับกำชับว่าอย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ฟางจั๋วหรานอีก
จนสุดท้ายหัวหน้างานต้องเรียกหล่อนไปคุย ว่าถ้าไปก่อกวนคุณหมออีกจะถูกไล่ออก
ทั้งสามฝ่ายเข้ามาตักเตือนหล่อนในช่วงเวลาไล่เลี่ยจนสื่อเจินเซียงรับมือไม่ทัน กลายเป็นคนมีข่าวฉาวในสายตาเพื่อนร่วมงานไปในทันที
ทุกคนรู้กันหมดว่าหล่อนทำตัวน่าละอายไปก่อกวนอาจารย์ฟางถึงโรงพยาบาล
สื่อเจินเซียงอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาออกมา ความพิสมัยที่มีต่อชายหนุ่มก็เริ่มจางหายไปด้วย
หลินม่ายตกลงกับคุณปู่ฟางไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะให้ท่านช่วยซื้อเป็ดและไก่เตรียมไว้สำหรับขายวันแรงงาน เลยต้องกลับไปที่บ้านคุณปู่ฟางในวันนี้เพื่อเตรียมเอาของไปขายที่ตลาดมืดในวันรุ่งขึ้น
หลังเลิกงานตอนเช้า หลินม่ายก็ประชุมกับพนักงานทุกคนสั้น ๆ เพื่อเตรียมพร้อม
พรุ่งนี้เป็นวันแรงงานซึ่งเป็นช่วงที่ร้านจะขายดีเป็นพิเศษ
เพราะแบบนี้เมื่อเธอไปเตรียมซื้อของที่ตลาดมืดตอนเช้าจึงได้วางเงินมัดจำค่าวัตถุดิบที่ร้านขายหมูเจ้าประจำเอาไว้ก่อนสำหรับเนื้อหมูในวันพิเศษ
หลินม่ายสั่งหมูมากกว่าปกติถึง 3 เท่า ทั้งเครื่องใน ปอดหมู และมีเลือดหมูเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่ง
ปริมาณวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเท่ากับว่าทุกคนก็ต้องทำงานมากขึ้น
ก่อนอื่นเธอให้คำมั่นกับทุกคนว่าจะจ่ายค่าจ้างเพิ่มแลกกับการทำงานอย่างหนักในวันหยุดที่จะมาถึง
เจ้าของร้านสาวจะเพิ่มค่าจ้างให้มากเป็นสองเท่าจากค่าจ้างในวันปกติ
ในยุคสมัยนี้ แม้แต่คนที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐยังไม่ได้รับค่าล่วงเวลาเพิ่มในวันหยุดเลย
ค่าล่วงเวลาที่สูงขนาดนี้ทำให้ไม่มีใครคัดค้านเรื่องการทำงานในวันแรงงาน
หลังจากเสี่ยวลี่และบรรดาป้า ๆ แม่ครัวเลิกงานแล้ว หลินม่ายก็ฝากโต้วโต้วไว้กับโจวฉายอวิ๋น บอกให้ลูกอยู่รอที่บ้านเชื่อฟังป้า แล้วขับรถแทรกเตอร์กลับไปที่เมืองซื่อเหม่ย
คุณปู่ฟางเตรียมเป็ดไก่ให้เธอกว่า 500 ตัว และยังมีห่านขาวตัวใหญ่อีกจำนวนมากผูกเอาไว้ที่สวนหลังบ้าน
เพราะเป็นการนัดกันเอาไว้ว่าจะกลับมา คุณย่าฟางจึงเคี่ยวซุปขาหมูมันฝรั่งรอให้เธอมากินด้วยกัน
หญิงสาวถือซุปขาหมูมันฝรั่งชามใหญ่มาวาง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้เป็นฤดูกาลของการเก็บเกี่ยวมันฝรั่ง
เธอวางแผนจะขายเซาเข่า ซึ่งจำเป็นต้องใช้มันฝรั่งมาก ถ้าขาดไปจะมีทำให้มีตัวเลือกให้ลูกค้าน้อยเกินไป
หลังจากกินซุปขาหมูมันฝรั่งเสร็จ หลินม่ายก็ไปที่หมู่บ้านเพื่อซื้อมันฝรั่งตามที่ตั้งใจไว้
เธอซื้อมันมาเพียง 300 ชั่งก่อน ซึ่งมีชาวไร่คนหนึ่งหามาให้เธอได้
เธอใช้วิธีใครมาก่อนได้ก่อน และบรรดาชาวไร่ก็รีบเข้ามาขายให้มันให้เธออย่างกระตือรือร้น
พวกเขาพากันถามว่าเธอจะกลับมาอีกเมื่อไร จะได้เตรียมของไว้ให้เธออีก
ตอนนี้ที่ดินทำกินของทุกบ้านเข้าระบบนารวมแล้ว ทุกคนเลยต่างต้องทำงานกันหนักขึ้น ต้องเตรียมผลผลิตให้ได้มากเป็น 2 เท่า จะได้เพียงพอกับการกินอยู่ในครอบครัว
แต่ถึงอย่างนั้น พวกผลผลิตทางการเกษตรก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องการส่งขาย พวกเขาทั้งหมดต้องการจะพึ่งพาเธอ อยากให้เธอมาช่วยซื้อผลผลิตของพวกเขา
แม้ว่าหลินม่ายจะอยากช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการซื้อวัตถุดิบจากพวกเขาให้มาก ๆ แต่กำลังของเธอก็มีอยู่จำกัด ทำให้ไม่กล้าจะรับปากกับพวกเขาอย่างจริงจัง
เพียงแค่บอกไว้ว่าถ้ามันฝรั่งหมดเมื่อไรจะกลับมาซื้อไปเพิ่มอีก
หลังจากที่จัดการซื้อมันฝรั่งเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขับรถแทรกเตอร์กลับไปที่บ้านคุณย่าฟาง เพื่อเอาสัตว์ปีกทั้งหมดขึ้นรถกลับไปที่เมือง
คุณย่าฟางตกใจที่รู้ว่าเธอจะกลับเลย ท่านดูไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเท่าไร “ย่าว่าเธอต้องพักหน่อย ค้างที่นี่ซักคืนก่อนค่อยไปไหม เดี๋ยวจะเตรียมของอร่อย ๆ เอาไว้ให้กินตอนค่ำ”
หลินม่ายเข้าใจว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคงเหงาที่อยู่กันเพียงลำพังที่นี่ เธอเองก็อยากจะอยู่ต่ออีกหน่อย แต่ตอนนี้เธอมีเงินเก็บอยู่อีกไม่มากเท่าไร เรื่องทำมาหากินเลยต้องมาก่อน
คุณปู่ฟางเอ็ดคุณย่าฟางขึ้นมา “ม่ายจื่อต้องไปทำงานทำการ อย่าไปทำให้หล่อนลำบากใจสิ”
คุณย่าฟางจึงตอบด้วยท่าทางเหงา ๆ “ฉันก็แค่ถามดู ไม่ได้อยากขัดลาภใครหรอก”
ผู้ใหญ่ทั้งสองออกมายืนคู่กันที่หน้าบ้านเพื่อส่งหลินม่ายขับรถแทรกเตอร์ออกไป
หญิงสาวหันหลังกลับไปมองภาพนั้น ก็อดรู้สึกวูบโหวงในอกไม่ได้ เธอวางแผนไว้ว่าจะพาคุณปู่คุณย่าฟางไปอยู่ด้วยกันในเมืองกับเธอและลูกในวันที่ทุกอย่างมั่นคงมากกว่านี้ให้ได้
ไม่อยากให้ท่านทั้งสองตั้งอยู่ในชนบทที่ห่างไกลเพียงสองคนแบบนี้อีกแล้ว
หลินม่ายกลับมาถึงตอนหนึ่งทุ่ม
โจวฉายอวิ๋นแปลกใจเมื่อเห็นเธอที่หน้าบ้าน “ฉันคิดว่าเธอจะอยู่พักที่โน่นซักคืน ทำไมกลับมาเร็วจัง”
หลินม่ายจอดรถก่อนจะเอ่ยตอบ “ตอนแรกก็ว่าจะค้างแหละ แต่เห็นว่าพอมีเวลาเหลืออยู่ เลยกลับมาเลยดีกว่า”
จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ร้านด้วย
โจวฉายอวิ๋นจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เธอได้กินมื้อเย็นหรือยังเนี่ย เดี๋ยวไปทำแป้งจี่ไข่ให้”
“เดี๋ยวกลับมากินละกัน ฉันต้องออกไปข้างนอกต่อ” หลินม่ายลงจากรถแทรกเตอร์ เปลี่ยนไปขึ้นสามล้อแล้วปั่นออกไป
อย่างแรกคือเธอไปที่ไซต์ก่อสร้างของโรงพยาบาลผู่จี้ ขอให้นายช่างจางทำเตาสำหรับย่างเซาเข่าให้ เป็นเตาย่างแบบยาวที่ทำจากแผ่นเหล็ก บอกกับเขาว่าจะรับของพรุ่งนี้บ่ายสอง
แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีเวลาให้มากนัก แต่ของพวกนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้วัสดุดีมากก็เอาไปใช้ได้แล้ว
ช่างเก่ง ๆ อาจใช้เวลาแค่สองชั่วโมงก็สร้างเสร็จด้วยซ้ำ
นายช่างจางตกลงรับงานอย่างง่ายดายเพียงแค่ขอเงินมัดจำไว้ก่อน
หลินม่ายไม่ได้คิดมากอะไร เธอจ่ายเงินมัดจำไว้ 5 หยวน และขอให้เขาเตรียมไม้ไผ่ไว้ให้ด้วย
จะขายปิ้งย่างก็ต้องมีไม้ไผ่
จากนั้นหลินม่ายก็ไปหาลุงฉีที่หมู่บ้าน
เมื่อลุงฉีเห็นว่าเธอมา เขาก็ตกใจคิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่หลินม่ายเพียงแค่จะมาซื้อผักเท่านั้น
ลุงฉีที่เบาใจลงได้ก็เริ่มพาหลินม่ายไปดูแปลงผัก เพื่อให้เธอเลือกผักที่อยากได้ด้วยตัวเอง
หญิงสาวซื้อมะเขือม่วง 30 ชั่ง กุยช่าย10 ชั่ง ผักบุ้ง 10 ชั่ง และถั่วฝักยาวอีก 10 ชั่ง แล้วก็กลับไป
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ไม่ใช่ม่ายจื่อก็ลำบากหน่อยนะสาว คุณหมอไม่สนใครนอกจากม่ายจื่อล่ะ
ไหหม่า(海馬)