รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 66 ท่านเซียนคาดเดาทุกอย่างดั่งสวรรค์ควบคุมทุกสรรพสิ่ง!

บทที่ 66 ท่านเซียนคาดเดาทุกอย่างดั่งสวรรค์ควบคุมทุกสรรพสิ่ง!

บทที่ 66 ท่านเซียนคาดเดาทุกอย่างดั่งสวรรค์ควบคุมทุกสรรพสิ่ง!

“เจ้ากังวลกระไรอยู่”

ชายชราเมิ่งจีมองมาด้วยแววตาแปลกพิลึก

ปกติแล้วหลังจากรู้เรื่องนี้ เขาเองก็คิดว่าราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ช่างโชคร้ายนัก

เนื่องจากเท่าที่รู้มา ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ไม่รู้ว่าเผ่าอสรพิษโซ่แดงวางแผนไว้แล้ว เมื่อราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ปรากฏตัว เรียกได้ว่าเขาถูกผูกติดกับความวอดวายทั้งปวงแล้ว

ทว่าตอนนี้รู้ว่าลั่วสุ่ยกำลังติดตามท่านเซียนอยู่ อืม… เห็นทีคนที่โชคร้ายที่สุดคงไม่แคล้วเผ่าอสรพิษโซ่แดง!

นั่นท่านเซียนเชียวนะ ลั่วสุ่ยกับราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ได้รับประโยชน์อย่างแน่นอนจากการติดตามท่านเซียน ทีนี้การจัดการกับเผ่าอสรพิษโซ่แดงไม่เรียกว่าง่ายหรอกหรือ

แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิด…

หลังจากที่ลั่วสุ่ยได้ยินข่าว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล

“ข้าจะไม่กังวลได้อย่างไร เผ่าอสรพิษโซ่แดงกำลังรอให้ท่านพ่อของข้าปรากฏตัวอยู่นะ!”

เจ้าแมวขาวกระวนกระวายยิ่ง

“ท่านเซียนไม่ได้มอบอะไรให้หรือขอให้พ่อเจ้ากลับไปแก้แค้นหรือ?”

ชายชราเมิ่งจีเอ่ยถาม

เขานึกว่าท่านเซียนจะมอบสมบัติบางอย่างให้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ และนำมันกลับไปเพื่อหาทางแก้แค้นเผ่าอสรพิษโซ่แดงเสียอีก

“ไม่เลย”

ลั่วสุ่ยส่ายหัวและบอกว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่เพียงมอบข้าวต้มกับนางหนึ่งชามเพื่อช่วยบิดารักษาบาดแผล ส่วนสิ่งอื่น… เขาไม่ได้ให้ไว้

หากได้รับ นางคงไม่ต้องกังวลมากนัก

“ท่านพ่อเคยบอกว่าข้าวต้มเป็นของขวัญแสดงน้ำใจ น้ำใจที่มอบให้ควรหยุดอยู่ตรงนี้ และการแก้แค้นต้องพึ่งพาตัวเอง…”

ขณะนั้น นางเกลี้ยกล่อมบิดาไม่ให้กลับภาคกลาง หรือก็คือให้รออีกสักระยะก่อนถึงจะกลับได้

สิ่งที่คิดในตอนนั้นคือ คงจะได้อะไรมากมายจากการติดตามผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ แล้วแบ่งปันผลประโยชน์เหล่านี้กับบิดาซึ่งจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นนางจะกลับตามไป

แต่ท่านพ่อกล่าวว่ามันเป็นไปไม่ได้

ยามผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่มอบข้าวต้มเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ บิดาขอให้ชายหนุ่มรับนางเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งหมายความว่าท่านพ่อสามารถแก้แค้นด้วยตัวเองโดยไม่ต้องกังวลใด ๆ

“ท่านพ่อบอกว่าเขามีสหายมากมายที่ไว้ใจได้ และสามารถทำลายเผ่าอสรพิษโซ่แดงพร้อมกับสหายเหล่านี้ได้”

ด้วยเหตุนี้ นางจึงโล่งใจที่พ่อของนางกลับไปภาคกลาง

ใครจะรู้… ว่าเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้!

“อย่างไรเสีย พ่อของเจ้าก็ผ่านประสบการณ์มามากมายนัก ลองคิดให้รอบด้านสิ!”

ชายชราเมิ่งจีกล่าว “พ่อของเจ้าพูดถูก ไม่มีอะไรผิดเลยสักนิดเดียว ท่านเซียนยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากต้องการล้างแค้นให้จริง เขาย่อมสามารถทำลายเผ่าอสรพิษโซ่แดงได้ในความคิดเดียว แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เขามอบเพียงข้าวต้มเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเท่านั้น ท่านเซียนต้องการให้พ่อของเจ้าแก้แค้นด้วยตัวเองจริง ๆ!”

เขากล่าวต่อ “ด้วยวิธีนี้ เพื่อแก้แค้นด้วยน้ำมือของตัวเอง เขาจะไม่เสียใจใด ๆ …ท่านเซียนกำลังนึกถึงเจ้าด้วย!”

ชายชรากล่าวต่อด้วยสีหน้าแปลก ๆ ว่า “เจ้าโชคดีนักที่ได้พบกับท่านเซียนมากคุณธรรมเช่นนี้ ใครเล่าจะนึกถึงเจ้าเช่นนี้กัน!”

ท่านเซียนนั้นเหนือธรรมชาติ เขานึกถึงลั่วสุ่ยและราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์เช่นนี้ได้ แสดงว่าทั้งสองช่างโชคดีนัก!

“ข้ารู้ดีถึงความเมตตาของผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ ทว่า… ยามนี้ข้าควรทำเช่นไรดี!”

ลั่วสุ่ยเข้าใจเจตนาของผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ และพ่อของนางก็แจ้งให้ทราบชัดเจนแล้วในตอนนั้น

“ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านเซียนถึงพาข้ากลับมาตอนนี้!”

ชายชราเมิ่งจีคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน และย่อมต้องการเข้าใจทุกอย่าง

ก่อนหน้านี้เขาแสร้งทำเป็นใหญ่ต่อหน้าท่านเซียน กระนั้นอีกฝ่ายยังพาเขากลับมาบ้านเพื่อชี้ให้เห็นถึงประสบการณ์มากมาย จนป่านนี้ยังสงสัยว่าเหตุใดท่านเซียนถึงดีกับเขานัก…

เวลานี้เขาเข้าใจแล้ว!

“ท่านเซียนรู้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพ่อของเจ้า!”

ชายชราเมิ่งจีเอ่ยอย่างจริงจัง “ท่านเซียนต้องการให้พ่อของเจ้าแก้แค้นด้วยตัวเอง แต่เขาดันทำพลาด…”

ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วน แม้แต่กลุ่มเผ่าอสูรที่อยู่ภาคกลางยังต้องขอพึ่งพาความช่วยเหลือจากนิกายลับสวรรค์

นิกายลับสวรรค์ใช้ทักษะการอนุมานเพื่อช่วยให้ผู้ฝึกตนเหล่านี้ และกลุ่มเผ่าอสูรผ่านวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่า

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสร้างกรรมดีมากมายกับนิกายลับสวรรค์

ด้วยความสัมพันธ์อันดีเหล่านี้ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นผู้รอบรู้ที่สุด และรู้ทุกอย่างที่อยู่ในภาคกลาง

ครั้งนี้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์กลับมายังภาคกลางอย่างลับ ๆ และพวกเขาก็รู้ได้ทันที

ว่าเผ่าอสรพิษโซ่แดงวางแผนที่จะทำให้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ปรากฏตัว!

“สหายของพ่อเจ้าไว้ใจได้ แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไปเสียจริงจนรั่วไหลไปถึงหูของเผ่าอสรพิษโซ่แดง”

ชายชราเมิ่งจีกล่าว “เผ่าอสรพิษโซ่แดงเป็นปรปักษ์กับพ่อเจ้ามานานแล้ว ในกลุ่มสหายพ่อเจ้า… มีหนอนบ่อนไส้จากเผ่าอสรพิษโซ่แดง…”

ในตอนแรก เมื่อเผ่าอสรพิษโซ่แดงจัดการกับราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ ทุกอย่างจึงถูกจัดวางอย่างแม่นยำ และมีการจัดแจงสายลับในกลุ่มสหายของราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ล่วงหน้า

หลังจากเหตุการณ์นั้น เผ่าอสรพิษโซ่แดงไม่ได้ถอดสายลับเหล่านั้นออก และตอนนี้สายลับเหล่านั้นก็มีประโยชน์ในการบอกให้เผ่าอสรพิษโซ่แดงรู้ว่า ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ยังไม่ตายและกำลังกลับไปยังภาคกลาง

“ท่านเซียนมีจิตใจดี เขาคงไม่อยากให้พ่อของเจ้าตายอย่างอนาถ จึงพาข้ากลับบ้าน…”

ชายชราเมิ่งจีกล่าว ในที่สุดก็นึกถึงเหตุผลที่ท่านเซียนพาเขากลับมาที่แห่งนี้ได้

“ท่านเซียนเป็นดั่งสวรรค์ที่ควบคุมทุกสรรพสิ่ง ครั้งนี้เขาไม่ได้พาเจ้าออกไปเพื่อต้องการให้ข้าไขข้อกระจ่างให้เจ้า และยังรู้ว่าบิดาของเจ้าคงไม่มาหาในช่วงระยะนี้ ดังนั้นอย่าตื่นตระหนกไป จงมอบประสบการณ์แห่งเต๋าให้ข้าเผื่อมันจะช่วยได้บ้าง…”

ชายชราเมิ่งจีอารมณ์ดีมาก… ท่านเซียนก็คือท่านเซียน ทุกอย่างเป็นไปตามคาด!

“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ถึงไม่พาข้าออกไป ตามปกติแล้วจะพาข้าออกไปด้วย…”

ลั่วสุ่ยตระหนักได้ทันที

ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่พาแค่หลิงอินไป ตามปกติเขามักพานางไปที่นั่นด้วย แต่คราวนี้กลับไม่พาไป

“ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่…”

ลั่วสุ่ยรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเบ้า ผู้อาวุโสใจดีกับนางมาก!

ชายชราเมิ่งจีหยิบแผ่นคาถาออกมาและท่องสักสองสามคำ จากนั้นแผ่นคาถาก็เผาไหม้กลายเป็นถ่าน แล้วลำแสงก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

“นี่คือยันต์ส่งเสียง ข้าบันทึกทุกอย่างในยันต์ส่งเสียงแล้ว เจ้านิกายจะได้รับข้อมูลนี้ ข้าขอให้เจ้านิกายช่วยราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้”

ชายชราเมิ่งจีกล่าว

ในแง่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว นิกายลับสวรรค์ไม่ได้แข็งแกร่งปานแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงนั้น

เผ่าอสรพิษโซ่แดงมีพลังมหาศาล และแข็งแกร่งหรืออ่อนแอกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น หากนิกายลับสวรรค์ต้องการเผชิญหน้ากับเผ่าอสรพิษโซ่แดงจริง โอกาสในการชนะก็ไม่สูงนัก

อย่างไรก็ตาม นิกายลับสวรรค์มีเส้นสายมากเกินไปในภาคกลาง และผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนต่างโปรดปรานนิกายลับสวรรค์

ตราบใดที่นิกายลับสวรรค์ยกแขนขึ้น ขุมพลังเหล่านี้จะตอบสนอง

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า นิกายลับสวรรค์เป็นกองกำลังที่ไม่ควรได้รับการยั่วยุมากที่สุดในเหยียนโจว!

“ขอบคุณ ขอบคุณท่าน!”

ลั่วสุ่ยรู้สึกขอบคุณไม่รู้จบ

นางรู้ว่านิกายลับสวรรค์น่าทึ่งเพียงใด และหากนิกายลับสวรรค์ลงมือ พ่อของนางจะไม่เป็นอะไรมากนัก

“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก นี่คือการกระทำของท่านเซียนทั้งนั้น!”

ชายชราเมิ่งจีกล่าว

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท