รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 89 ราชวงศ์อวี่ฮว่าสยบทุกเผ่าพันธุ์!

บทที่ 89 ราชวงศ์อวี่ฮว่าสยบทุกเผ่าพันธุ์!

บทที่ 89 ราชวงศ์อวี่ฮว่าสยบทุกเผ่าพันธุ์!

อวิ๋นกู่เดินเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณ

ข้อห้ามในซากปรักหักพังโบราณแห่งนี้เหมือนกับที่ระบุในภาพวาดของท่านเซียนทุกประการ

เขาจดจำรายละเอียดข้อห้ามได้ทั้งหมด

ดังนั้น ตอนนี้เขาจึงสามารถเดินเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณได้อย่างสบายไร้ภัยอันตราย ราวกับกำลังเดินเล่นอย่างไรอย่างนั้น

อวิ๋นกู่ค่อย ๆ ย่างก้าวเข้าไปในส่วนลึกของซากปรักหักพังโบราณมากขึ้นเรื่อย ๆ

ซากปรักหักพังโบราณมีพื้นที่กว้างใหญ่จนมองไม่เห็นขอบเขต รอบข้างปกคลุมด้วยหมอกควันหนา มองไปทางไหนก็เห็นความผันผวนอยู่ตลอด ซ้ำยังมีร่องรอยอดีตกาลอยู่บนซากโบราณ

ฝุ่นละอองบนพื้นหนาเตอะ สูงหลายชุ่น*[1] เมื่อลองเหยียบลงไปก็กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ ไม่รู้ที่แห่งนี้ไร้ผู้คนมาเยือนนานเท่าใดแล้ว

อวิ๋นกู่มองสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ซากปรักหักพังที่ถูกทำลาย มีซากอาคารโบราณอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง

ฟู่ว…

เพียงเขาพ่นลมหายใจ ฝุ่นละอองหนาเตอะก็ลอยขึ้นมา พัดพาฝุ่นละอองที่ปกคลุมบนแท่นศิลาออกไป

บนแท่นศิลานั้นเต็มไปด้วยรอยร้าว ราวกับใยแมงมุมและมีอักขระไม่กี่ตัวสลักอยู่ มันเป็นอักขระโบราณ

อักขระเหล่านี้ไม่ค่อยชัดเจน อวิ๋นกู่ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะถอดความหมายอักขระเหล่านี้ออกมาได้

“หนึ่งฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล หนึ่งกาลเวลาชั่วนิรันดร์ หนึ่งวิถีแห่งเซียน เหินนภากลายเป็นเซียน…”

เขาขมวดคิ้ว อ่านซ้ำอยู่หลายครั้ง ประโยคนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยยิ่ง ดูเหมือนเขาจะเคยเห็นมันมาก่อน!

“ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล กาลเวลาชั่วนิรันดร์ วิถีแห่งเซียน เหินนภากลายเป็นเซียน”

เขาสูดลมหายใจ ในที่สุดก็จำได้ว่าประโยคนี้มาจากไหน!

“นี่คือซากปรักหักพังของราชวงศ์อวี่ฮว่า!”

อวิ๋นกู่รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อ!

จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร?

ในสมัยโบราณนั้น ‘ราชวงศ์อวี่ฮว่า’ นับว่าอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง และอยู่เหนือกองกำลังทรงพลังทั้งมวล สามารถพูดได้ว่าโลกในสมัยโบราณตกอยู่ภายใต้ราชวงศ์อวี่ฮว่า!

ราชวงศ์อวี่ฮว่าปกครองใต้หล้าสยบทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ใดก็ล้วนแต่เชื่อฟังคำสั่งของราชวงศ์อวี่ฮว่า

ในประวัติศาสตร์ ราชวงศ์อวี่ฮว่าถือได้ว่าเป็นกองกำลังทรงพลังที่สุดอย่างไร้ข้อกังขา ไม่ว่าจะยุคใดก็มิอาจมีกองกำลังใดเปรียบได้กับราชวงศ์อวี่ฮว่า ซึ่งสามารถปกครองโลกทั้งใบและทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ยำเกรง!

ในอดีตผู้คนต่างพากันเกรงขามยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

ต้องทราบก่อนว่าในอดีตมีขุมอำนาจที่ทรงพลังอยู่ไม่น้อย รวมถึงมีเผ่าพันธุ์ที่คอยกดขี่ข่มเหงมากมาย ซึ่งยากจะรวมกันเป็นหนึ่งได้!

อย่างไรก็ตาม ราชวงศ์อวี่ฮว่าสามารถรวบรวมน้อยใหญ่ให้กลายเป็นหนึ่งได้ เพียงเท่านั้นก็สามารถบอกได้แล้วว่าราชวงศ์อวี่ฮว่าน่าเกรงขามเพียงใด ถึงทำเรื่องยากยิ่งให้กลายเป็นจริงได้!

ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล กาลเวลาชั่วนิรันดร์ วิถีแห่งเซียน เหินนภากลายเป็นเซียน!

นี่คือสัญลักษณ์ของราชวงศ์อวี่ฮว่า ศูนย์รวมของความแข็งแกร่งอันทรงพลัง!

ฟ้าดินเมื่ออยู่ต่อหน้าราชวงศ์อวี่ฮว่าก็หาได้สำคัญไม่ เวลาชั่วนิรันดร์ก็เหมือนกลุ่มควันยากจะทำลายราชวงศ์อวี่ฮว่าได้!

เป้าหมายของราชวงศ์อวี่ฮว่าคือการเป็นเซียน แต่ไม่ใช่การเป็นเพียงคนเดียว ราชวงศ์อวี่ฮว่าต้องการหนทางการเป็นเซียน กลายเป็นเซียนทั้งราชวงศ์อวี่ฮว่า!!

ต่อมาจู่ ๆ ราชวงศ์อวี่ฮว่าก็หายไปจากสายตาผู้คน ทุกคนต่างคิดว่าราชวงศ์อวี่ฮว่าหาหนทางการเป็นเซียนได้แล้ว และสามารถเหินนภาบรรลุเซียนกันทั้งหมด!

“ราชวงศ์อวี่ฮว่าไม่ได้กลายเป็นเซียน แต่ถูกกองกำลังบางกลุ่มกวาดล้าง!”

อวิ๋นกู่เมื่อเข้าใจเช่นนั้นก็พลันหวาดกลัว

ที่นี่ไม่ได้มีเพียงซากโบราณสถานเท่านั้น แต่ยังมีซากศพจำนวนมากอีกด้วย กระดูกของพวกมันแวววาวมีพลังขั้นจักรพรรดิไหลเวียนอยู่ ซากศพเหล่านี้อาจจะอยู่ขอบเขตจักรพรรดิหรือมหาจักรพรรดิในขณะที่ยังชีวิตอยู่!

บนศพยังคงเครื่องแต่งกายไว้ในสภาพดี ไม่ได้ผุกร่อนเลยแม้แต่น้อย อวิ๋นกู่จำได้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์อวี่ฮว่า

หากไม่มีอะไรผิดพลาด ซากศพเหล่านี้สมควรเป็นผู้ทรงอำนาจในราชวงศ์อวี่ฮว่า!

สถานที่แห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักมีร่องรอยการสู้รบมากมาย นอกจากนี้ยังมีซากศพจำนวนมากของราชวงศ์อวี่ฮว่าอยู่ที่นี่ อวิ๋นกู่คาดเดาว่าอาจมีกองกำลังบางกลุ่มมาที่นี่ และกวาดล้างราชวงศ์อวี่ฮว่าทั้งหมด!

เป็นไปได้หรือ?

ราชวงศ์อวี่ฮว่าน่าเกรงขามอีกทั้งยังทรงพลังมาก ผู้ใดจะทำลายราชวงศ์อวี่ฮว่าทั้งหมดได้!?

หัวใจของอวิ๋นกู่เต้นไม่เป็นจังหวะ อาจมีพลังหรือกองกำลังบางกลุ่มที่ไม่เป็นที่เปิดเผยในสมัยก่อน กองกำลังอันน่าสะพรึงกลัวและน่าเกรงขาม!

เขาเดินลึกเข้าไปอีก แล้วก็พบซากอาวุธกองโตตลอดจนซากสมบัติต่าง ๆ

“เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว!”

หนังตาของเขากระตุก สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่หลงเหลืออยู่บนอาวุธเหล่านี้และซากปรักหักพังของสมบัติล้ำค่า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกลิ่นอายของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นอายของอาวุธขั้นสูงสุด…

มีแม้กระทั่งกลิ่นอายของอาวุธกึ่งจักรพรรดิ!

น่าเสียดายที่กาลเวลานั้นไร้ความปรานีที่สุด ไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่อาวุธกึ่งจักรพรรดิ หลังจากถูกกาลเวลากัดเซาะเป็นเวลานาน พลังของอาวุธกึ่งจักรพรรดิก็ดับสูญลงเช่นกัน เหลือเพียงเศษซากปรักหักพังที่แปรผันเป็นขี้เถ้า เพียงสัมผัสเบา ๆ ก็พัดหายสลายไปแล้ว…

อวิ๋นกู่ขมวดคิ้ว สุดท้ายแล้วอะไรกันกวาดล้างราชวงศ์อวี่ฮว่าทั้งหมด?

และเหตุใดจึงทำลายราชวงศ์อวี่ฮว่าทั้งหมดได้?

ทิ้งกองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ กองอาวุธขั้นสูงสุด กองอาวุธกึ่งจักรพรรดิไว้ ณ ที่แห่งนี้ เพราะเหตุใดจึงไม่นำไปด้วย?

เป็นไปได้หรือไม่ว่ากองกำลังนั้นจะดูแคลนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธขั้นสูงสุด และอาวุธกึ่งจักรพรรดิ?

แม้แต่อาวุธกึ่งจักรพรรดิยังไม่อยู่ในสายตา…กองกำลังนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด?

‘อาจจะเป็นเพราะ…เครื่องปรับอากาศ!?’

ทันใดนั้นเขาก็เริ่มคาดเดาขึ้นในใจ

ท่านเซียนชี้บอกเองว่าเครื่องปรับอากาศอยู่ในซากปรักหักพังโบราณแห่งนี้ และเครื่องปรับอากาศเป็นของที่อยู่ในบ้านเกิดของท่านเซียน…

ถึงแม้ท่านเซียนจะเพียงบอกว่าเป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้านเกิด แต่ของอะไรท่านเซียนถึงต้องเก็บมันไว้?

ทว่าสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่สำคัญ ไหนเลยถึงถูกท่านเซียนจดจำ มันต้องไม่ใช่ของธรรมดาเป็นแน่ แต่อาจเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์!

เขาสำรวจซากโบราณต่อไป แล้วก็ต้องพบว่ากองกำลังกลุ่มนั้นกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่จริง ๆ ด้วย เพราะมันมีร่องรอยถูกค้นหาอยู่ทุกที่…

“ลูกกลอนศักดิ์สิทธิ์ ลูกกลอนกึ่งจักรพรรดิยังไม่ได้ใช้ ภาพวาดช่างยิ่งใหญ่เสียจริง”

อวิ๋นกู่อดอุทานขึ้นมาอย่างไม่ได้ เขาพบซากลูกกลอนบางส่วนล้วนแต่เป็นของชั้นยอดชวนให้ผู้คนตกใจยิ่ง มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์และกลิ่นอายกึ่งจักรพรรดิ…

น่าเสียดายลูกกลอนศักดิ์สิทธิ์กับลูกกลอนกึ่งจักรพรรดิเหล่านี้ ไม่สามารถต้านทานการกัดเซาะของกาลเวลาได้ เพียงถูกเขาสัมผัสเล็กน้อยก็สลายกลายเป็นขี้เถ้า

“สะเพร่าเกินไปแล้ว…หาเครื่องปรับอากาศที่ท่านเซียนบอกไม่เจอเสียที!”

เขาขมวดคิ้วพยายามค้นหาในซากโบราณหลายครั้ง แต่ก็ไม่พบสิ่งที่เรียกว่าเครื่องปรับอากาศแม้แต่น้อย…

“เฮ้อ เป็นความผิดของข้า ข้าไม่รอบคอบ คิดว่าเพียงเข้าซากโบราณก็สามารถหาเครื่องปรับอากาศได้ จากนั้นก็เอาเครื่องปรับอากาศออกไป!”

อวิ๋นกู่ถอดถอนหายใจ

ก่อนมาเขาไม่รู้สถานการณ์ในซากโบราณ คาดไม่ถึงว่าเครื่องปรับอากาศจะหาได้ยากขนาดนี้

“จะหาง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? หากหาง่ายขนาดนั้น ตอนนั้นกองกำลังอันแข็งแกร่งคงแย่งชิงเครื่องปรับอากาศไปนานแล้ว!”

เขารู้สึกห่อเหี่ยว

แม้ว่าเขาจะเข้ามาในซากปรักหักพังโบราณได้แล้ว แต่เขาจะหาเครื่องปรับอากาศได้อย่างไร!

“ไม่ถูกต้อง ท่านเซียนจะไม่รู้สถานการณ์ ณ ที่แห่งนี้ได้อย่างไร? ท่านเซียนย่อมรู้อยู่แล้ว แต่เป็นข้าที่หาไม่พบเอง!”

ท่านเซียนเป็นผู้มากความสามารถย่อมทราบดีอยู่แล้ว เขาต้องรู้ว่าเครื่องปรับอากาศนั้นไม่ใช่ของจะหาได้อย่างง่ายดาย ย่อมเคยบอกเป็นนัยกับเขาแล้วเช่นกัน!

“ภาพวาดของท่านเซียน…”

เขานึกถึงภาพวาดของท่านเซียน คำใบ้ของท่านเซียนน่าจะอยู่ในภาพวาดมากที่สุด!

ในเวลานั้นเขาไม่ได้สนใจรายละเอียดตำแหน่งเครื่องปรับอากาศมากนัก มัวแต่สนใจเรื่องข้อห้ามเสียมากกว่า!

เขาครุ่นคิดอย่างไม่ขาดตกสิ่งใดไป ท่านเซียนวาดแผนที่ซากโบราณสถานต่าง ๆ ให้เขา รายละเอียดทั้งหมดล้วนปรากฏขึ้นในหัว

[1] ชุ่น: 1 ชุ่น ประมาณ 3.33 เซนติเมตร

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท