รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 101 ประมุขทั้งสองคลุ้มคลั่งไปแล้ว

บทที่ 101 ประมุขทั้งสองคลุ้มคลั่งไปแล้ว

บทที่ 101 ประมุขทั้งสองคลุ้มคลั่งไปแล้ว

ณ ภาคกลาง

ท่ามกลางหุบเขาทอดยาว มีตำหนักงดงามตั้งเรียงรายเป็นทิวแถว พร้อมกับให้กลิ่นอายความเป็นมงคลดูราวกับตำหนักเทพเซียนอย่างไรอย่างนั้น

ที่แห่งนี้คือแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิด

“เฮ่ออู๋ ไอ้ตัวบัดซบ หากฆ่าเจ้าไม่ได้ ข้าจักตอนตัวเองทิ้งเสีย! ”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดคำรามราวกับราชสีห์คลั่ง สุ้มเสียงของเขาสั่นสะเทือนนภาดุจเสียงอัสนี มันเต็มไปด้วยจิตสังหารท่วมท้น!

อีกด้านหนึ่งของภาคกลาง

ณ เกาะกลางทะเลแสนงดงาม มีหมู่มวลผกานับร้อยบานสะพรั่ง เป็นภาพสีสันที่ดูสวยสดงดงามอย่างยิ่ง

ที่แห่งนี้คือแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผา!

“อ๊าก ธิดาข้า! “

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาเองก็เสียสติเช่นกัน คลื่นนับพันซัดสาดราวกับเกิดพายุครั้งใหญ่ กระหน่ำระลอกแล้วระลอกเล่า

ร่างอวตารเชื่อมกับร่างกายของพวกเขา พวกเขาจึงสามารถรู้สถานการณ์ฝั่งร่างอวตารได้ในทันที และรู้ว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนสังหารบุตรธิดาของพวกเขาไปแล้วด้วย

พวกเขาโกรธเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยปากเรียกยอดฝีมือกับกองกำลังทั้งหมดมาทันที พวกเขาจะตามไปสังหารประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนตอนนี้!

“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น?”

“สวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดกับแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาจะเปิดศึกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนอย่างนั้นหรือ?”

ผู้คนในภาคกลางต่างตื่นตระหนกและพากันหวั่นวิตก

การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์…ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!

ณ แดนบูรพาทิศ

หลังสังหารกู้เฟยกับถังอีอีแล้ว ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน แสงแดดสาดส่องมาที่เขา ทำให้เงาของเขาทอดยาวลงบนพื้น

เฮ่ออู๋ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง สีหน้าดูว่างเปล่าแต่ก็ปลดปลงในขณะเดียวกัน หลังสังหารกู้เฟยกับถังอีอี เขาย่อมไม่มีหนทางให้ย้อนกลับแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็ไร้เส้นทางย้อนกลับเช่นกัน

หากท่านเซียนช่วยจัดการให้ พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่เป็นอะไร กลับกันแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมด้วย

แต่หากท่านเซียนเพิกเฉยและไม่เอ่ยปากช่วย เขากับแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนคงยากจะรอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ ไม่แคล้วถูกแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดกับแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผากำจัดเป็นแน่

แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองก่อศึก แดนศักดิ์สิทธิ์แดนอื่นย่อมเล่นไม่ซื่อ ไม่แน่ว่าอาจเกิดคลื่นลูกใหญ่ หากท่านเซียนไม่จัดการ หายนะครั้งนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนคงยากจะรอดพ้นแล้ว…

“แดนศักดิ์สิทธิ์จัดกระบวนกองทัพ จำต้องใช้เวลาสักพัก…”

เขาเงยศีรษะขึ้น ดวงตาคู่นั้นฉายประกายเจิดจ้า ปัดความว่างเปล่าและปลดปลงก่อนหน้านี้ทิ้งไป

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาถอนหายใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือทำตามคำสั่งของท่านเซียนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน!

คำสั่งไม่เสร็จสิ้นก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดอะไร

ต้องทำตามคำสั่งให้ลุล่วงเท่านั้นจึงจะเป็นอันใช้ได้!

หลังจากนั้นร่างของเขาก็มุ่งไปยังเมืองข้างเคียงอย่างรวดเร็ว ยกมือเพียงครั้งเดียวก็กวาดล้างผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจที่สร้างความวุ่นวายให้กับเมืองปุถุชน

ในขณะเดียวกัน หมิงเยวียยังคงถูกหูช่วงไล่ล่า และเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโจมตีหูช่วงกลับ

เขากับหูช่วง ทั้งสองต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในภาคกลาง

น่าเสียดายที่เขาแก่ชราเกินไป และเขาเข้าสู่วัยชราอย่างแท้จริง หากเปรียบกับหูช่วง อีกฝ่ายดู ‘อ่อนวัย’ และยังไม่เข้าสู่วัยชราอย่างแท้จริงเช่นเขา

การปะทะฝีมือเป็นไปอย่างดุเดือด แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พ่ายแพ้ให้กับหูช่วง ถูกหูช่วงบั่นศีรษะไป

ทว่าหูช่วงเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีเช่นกัน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล หากไม่ใช่เพราะความ ‘อ่อนวัย’ ทำคุณประโยชน์ให้ เขาอาจฆ่าหมิงเยวียไม่ได้

ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้ารีรอ กลืนยารักษาบาดแผลและรีบมุ่งไปยังเมืองปุถุชนอื่นต่อ!

นิกายเจ็ดดารา พรรคไป่จี๋ เผ่าคชมังกรล้วนแล้วแต่เป็นกองกำลังแข็งแกร่งในภาคกลาง และเป็นรองเพียงแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ทว่ามันก็ยังมีช่องว่างกับแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี

ผู้อาวุโสแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนไล่ล่ายอดฝีมือเหล่านี้ ตัดศีรษะพวกเขาทั้งหมดแล้วรีบไปยังเมืองมนุษย์เมืองอื่นโดยไม่หยุดพัก

ยกเว้นสำนักไท่หัวกับสำนักเมฆาลับฟ้าไว้ เหล่าผู้ฝึกตนของแดนบูรพาทิศทั้งหมดต่างแยกย้ายกันไปกวาดล้างในพื้นที่แต่ละแห่ง

มีปุถุชนมากมายที่ถูกผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจเข่นฆ่า แต่เมื่อผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจบางส่วนได้ยินข่าวคราวนี้ก็รีบหนีหายไปในทันที!

การเคลื่อนไหวทุกอย่างจำต้องรวดเร็ว ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนสั่งการกำชับลงมาเป็นอย่างดี ในเวลาไม่ถึงครึ่งวันก็ไร้ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจรบกวนเมืองของปุถุชนอีกต่อไป!

ในที่สุด เมืองของปุถุชนก็ได้รับความคุ้มครองอย่างปลอดภัย

“รักษาบาดแผลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จากนั้นค่อยช่วยกันฟื้นฟูเมืองปุถุชนขึ้นมาใหม่!”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนออกคำสั่งอีกครั้ง กองกำลังของแดนบูรพาทิศทั้งหมดก็เร่งเข้าช่วยชีวิตมนุษย์ รวมถึงรักษาบาดแผล และช่วยกันฟื้นฟูเมืองปุถุชนขึ้นมาใหม่

“พวกที่หนีไปได้ จงเร่งตามสืบเรื่องของพวกมันมาให้หมด อย่าให้พวกมันหนีรอดไปได้!”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนปฏิบัติตามท่านเซียนรับสั่งอย่างเคร่งครัด เขาไม่อาจปล่อยให้ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจที่สร้างปัญหาในเมืองปุถุชนหนีรอดไปได้ ถึงแม้ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจจะหนีออกจากแดนบูรพาทิศได้ แต่เขาจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีไป และจักสังหารให้สิ้นเสีย!

ณ สำนักไท่หัว

เวิงอู๋โยวกับโจวตงสบสายตากัน ในใจเต็มไปด้วยความทึ่ง

สำนักไท่หัวไม่ใช่สำนักเล็ก ๆ ย่อมได้รับข่าวสารพวกนี้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะข่าวคราวครั้งนี้ที่บังเกิดเรื่องใหญ่มาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่รู้!

“ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเคลื่อนไหวใหญ่โตยิ่งนัก! ”

“มีแดนศักดิ์สิทธิ์กับเผ่าปีศาจทรงอำนาจไม่น้อยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกลับไม่คิดปล่อยพวกมันไป แต่เลือกที่จะสังหารพวกมันทั้งหมด!”

พวกเขาพลันรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมา ในใจเต็มไปด้วยความสะพรึงกลัว

ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ร้ายแรงมาก นอกจากแดนบูรพาทิศ ผู้ฝึกตนจากแดนอื่นนั่นคือ แดนประจิมทิศ อุดรทิศ ทักษิณทิศ ภาคกลางกับเผ่าปีศาจ ล้วนถูกสังหารตายตกกันไปมาก…

อาจกล่าวได้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนสร้างศัตรูกับทั้งเหยียนโจว!

“โหดร้ายเกินไปแล้ว!”

โจวตงลอบกลืนน้ำลาย เขาคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะโหดเหี้ยมและสร้างความโกลาหลได้ปานนี้!

“ประเดี๋ยวก่อน…เหตุใดกองกำลังที่ถูกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเลือกไปทำภารกิจ ถึงไม่มีสำนักไท่หัวกับสำนักเมฆาลับฟ้าของพวกเราเล่า?”

เวิงอู๋โยวกล่าว

“จริงด้วย”

โจวตงก็นึกขึ้นได้เช่นกัน

เขากับลวี่เหลียงอยู่ในสำนักไท่หัวตลอดเวลา

ตอนข่าวเพิ่งมาถึง เขายังกังวลว่ามันจะเกี่ยวข้องกับสำนักเมฆาลับฟ้า ในใจอยากจะรีบกลับสำนักเมฆาลับฟ้าทันที

ทว่าเขายังไม่ทันได้ออกไป ก็ได้รับข่าวแล้วว่าสำนักเมฆาลับฟ้ายังอยู่ดี อีกทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็ไม่ได้เลือกยอดฝีมือจากสำนักเมฆาลับฟ้าไปร่วมกวาดล้างด้วย

เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นไวเกินไปแล้ว พอมีข่าวหนึ่งมา อีกข่าวก็ตามมาด้วย เขายังไม่ทันได้กลับไป ข่าวก็บอกว่าทุกอย่างจบลงแล้ว

“เฮ้อ เข้าใจแล้ว”

ในตอนนี้เอง ลวี่เหลียงก็ถอนหายใจพลางกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้พวกข้าไปหาผู้อาวุโส แต่ผู้เฒ่าเมิ่งจีบอกว่าผู้อาวุโสหลับอยู่จึงไม่สะดวกพบแขก…ขอบเขตของผู้อาวุโสสูงส่งปานใดกัน ไหนเลยจะหลับได้? ผู้อาวุโสต้องรู้เป็นแน่ว่ามีคนตามพวกเรามา…”

เขาคาดเดาออกมา

“ท่านประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเคยกล่าวว่า เขาเคยเห็นผู้อาวุโสและรู้ว่าผู้อาวุโสอยู่ในเมืองนี้ เพียงแค่ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของผู้อาวุโสเท่านั้น…”

ลวี่เหลียงเอ่ยเสริมต่อ “แล้วการที่ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนมาเยือนสำนักไท่หัว ก็เพราะเห็นว่าพวกเราทะลวงขอบเขตได้รวดเร็วเกินไป เขาย่อมคิดเป็นแน่ว่าพวกเรากับผู้อาวุโสมีความเกี่ยวข้องกัน”

ด้วยคำกล่าวนี้ราวกับทุกอย่างประกอบเข้ากันโดยสมบูรณ์ ว่าเหตุใดประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจึงปฏิบัติกับพวกเขาเป็นอย่างดี แม้กระทั่งพาพวกเขาเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณด้วย

“ก่อนหน้านี้ ผู้เฒ่าเวิงเคยโกหกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนว่าพวกเราไม่เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโส แต่เป็นบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักเราที่มีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสแทน”

ลวี่เหลียงกล่าวต่อ “ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนในเวลานั้นน่าจะเชื่อพวกเรา ทว่าเขาย่อมมีความเคลือบแคลงหลงเหลืออยู่ จึงได้จับตาดูพวกเราอยู่ตลอดเวลา!”

ข้อห้ามในซากปรักหักพังโบราณสลายหายไปเป็นเพราะมีคนเข้าไปข้างในก่อนหน้านี้ พวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้อาวุโสเป็นแน่

เมื่อคิดว่านี่ต้องเป็นฝีมือของผู้ทรงพลัง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงรีบไปเมืองชิงซานเพื่อเยี่ยมเยียนผู้อาวุโส

ตอนนั้นมีความเป็นไปได้ว่า ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนอาจจะตามพวกเขามา…

“ต่อให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะเสียสติขึ้นมาจริง แต่เขาก็คงไม่กล้าสังหารผู้คนเช่นนี้หรอกกระมัง เป็นไปได้ว่าประมุขศักดิ์สิทธิ์แดนเหิงเทียนน่าจะได้รับคำมาจากผู้อาวุโส…” ลวี่เหลียงว่า

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท