บทที่ 110 ไม่รังเกียจก็เอาไปด้วยเถิด
“น่าเสียดายที่ไม่มีตู้เย็น ของพวกนี้เลยต้องเททิ้งเท่านั้น”
หลี่จิ่วเต้าถอนหายใจ
เมื่อไม่มีตู้เย็น น้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่เหลือจำต้องเททิ้ง มิฉะนั้นหากเก็บไว้ถึงเที่ยงคงได้เน่าเสียกันพอดี
ทว่าเขาทำใจทิ้งไม่ลงจริง ๆ…
ชายหนุ่มวุ่นอยู่ทั้งเช้ากว่าจะทำปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้นี้เสร็จ
อีกอย่าง การทิ้งขว้างอาหารเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง!
แล้วในเวลานั้นเอง ดวงเขาของตาพลันเปล่งประกายราวกับนึกบางอย่างขึ้นมาได้
เขานึกได้ว่าสองคนนี้กล่าวว่าเป็นสหายของอวิ๋นกู่…
ทีแรกเขายังไม่รู้ ภายหลังอวิ๋นกู่มอบลูกแก้วลูกหนึ่งให้เขา เขาถึงรู้ว่าอวิ๋นกู่มิใช่คนธรรมดา หากแต่เป็นผู้ฝึกตน
สหายของอวิ๋นกู่…ก็คงมิใช่คนธรรมดากระมัง
เขาเบนสายตาไปมองคนทั้งสองอีกครั้ง ก่อนจะพบว่ารูปร่างหน้าตาและบุคลิกของทั้งคู่ ดูไม่เหมือนคนธรรมดาจริง ๆ จึงได้คาดว่าคนทั้งคู่คงเป็นผู้ฝึกตนเหมือน ๆ กัน
“ท่านทั้งสอง น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋อร่อยหรือไม่?”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยถาม
“ย่อมอร่อยอยู่แล้ว!”
“นี่ถือเป็นสุดยอดรสชาติของโลกใบนี้ทีเดียว!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงกล่าวจากใจจริง
ไม่ต้องพูดถึงสรรพคุณสะท้านฟ้าของน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ ลำพังแค่รสชาติของน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ก็นับเป็นอาหารเลิศรสที่สุดที่พวกเขาเคยได้กินแล้ว!
“ทั้งสองท่านชื่นชอบถึงเพียงนี้ หากไม่รังเกียจ น้ำเต้าหูและปาท่องโก๋ที่เหลือทั้งสองท่านก็เอาไปด้วยเถิด”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยพลางยิ้ม
ผู้ฝึกตนแตกต่างจากปุถุชน ปุถุชนไม่สามารถเก็บรักษาอาหารเหล่านี้ได้ ทว่าผู้ฝึกตนย่อมมีวิธีการเก็บรักษามากมาย
เขาเคยได้ยินมาว่าผู้ฝึกตนทุกคนต่างมีศาสตราบรรจุสิ่งของ สุดยอดยิ่งกว่าตู้เย็นและเก็บได้ทุกอย่าง ซ้ำของข้างในยังไม่เน่าเสียอีกด้วย
หากเป็นเช่นนี้ ให้ทั้งสองคนนำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่เหลือไปด้วยนับว่าเหมาะเหม็ง!
“ขอบคุณคุณชาย!”
“ขอบคุณเหลือเกิน!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงพลันรู้สึกสุขใจเหลือแสน
พวกเขาได้ลิ้มรสน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋มาแล้วด้วยตัวเอง รู้ดีว่าน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋นั้นน่าทึ่งเพียงใด ท่านเซียนให้พวกเขาเอาน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่เหลือไปด้วย นับเป็นความกรุณาอย่างใหญ่หลวงแล้ว!
“เช่นนั้นข้าจะห่อให้พวกท่าน โปรดรอสักครู่”
เห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจของทั้งสอง หลี่จิ่วเต้าเองก็เปรมปรีดิ์ไม่น้อย สองคนนี้ชอบกินน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋จริง ๆ สินะ
ชายหนุ่มหัวเราะในใจไม่หยุด ผู้ฝึกตนแล้วอย่างไร ผู้ฝึกตนก็ชื่นชอบน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ฝีมือเขาอยู่ดี!
พูดจบ เขาก็เข้าไปในครัว หยิบกล่องไม้ใส่อาหารมาใบหนึ่ง
นี่เป็นกล่องใส่อาหารที่เขาทำขึ้นด้วยตัวเอง
เมื่อก่อนหลี่จิ่วเต้าไปล่าสัตว์ที่เนินเขาเขียวอยู่บ่อย ๆ บางครั้งก็ไปตกปลาริมแม่น้ำนอกเมือง มีหลายครั้งที่เขาใช้เวลาอยู่ที่นั่นเป็นวัน
เพื่อความสะดวก เขาจึงทำกล่องใส่อาหารไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อพกข้าวไปล่าสัตว์ในป่าหรือไปตกปลาที่ริมแม่น้ำนอกเมืองด้วย
ไม้จักรพรรดิ!
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงต่างตกตะลึงจนลืมความดีใจก่อนหน้า
ท่านเซียนก็คือท่านเซียน ของที่หยิบออกมาส่ง ๆ ยังน่าทึ่งปานนี้!
พวกเขาสัมผัสได้ถึงจังหวะแห่งจักรพรรดิผ่านกล่องไม้ใส่อาหาร ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือกล่องใส่อาหารที่ทำจากไม้จักรพรรดิ!
‘วาสนาใหญ่หลวงยิ่ง!’
ในใจพวกเขาใกล้จะร้องไห้เต็มที ตื้นตันจนน้ำตาแทบไหล
นี่พวกเขาโชคดีขนาดนี้ได้อย่างไร ถึงได้พบกับท่านเซียนที่ใจดีเช่นนี้!
ไม่เพียงแต่ให้พวกเขาได้กินน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ ยังให้พวกเขาเอากลับไปด้วย ซ้ำยังบรรจุด้วยยอดศาสตราที่ทำจากไม้จักรพรรดิ…
ผู้เฒ่าเมิ่งจีเห็นแล้วอิจฉาจนทนแทบไม่ไหว
น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ กล่องใส่อาหารไม้จักรพรรดิ…สวรรค์! แต่ละอย่างล้วนเป็นของวิเศษสะท้านฟ้า น่าอัศจรรย์ยิ่ง!
‘ไม่สิ รางวัลที่ท่านเซียนประทานให้มากเกินไปหรือไม่!’
เวลานั้น เขาก็คิดขึ้นมาในใจ
ประโยชน์ที่ได้จากการดื่มน้ำเต้าหู้และกินปาท่องโก๋ เพียงพอชดเชยเรื่องที่ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วง ช่วยสังหารเหล่าผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจที่ก่อเหตุอุกฉรรจ์ในเมืองปุถุชนแล้ว
แต่ท่านเซียนยังให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงนำน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ที่เหลือกลับไปด้วย ซ้ำยังบรรจุด้วยกล่องใส่อาหารที่ทำจากไม้จักรพรรดิ…ตกรางวัลถึงเพียงนี้ดูมากเกินไปหรือไม่?
‘เข้าใจแล้ว! ภารกิจตู้เย็นที่ท่านเซียนพูดถึงน่าจะเป็นภารกิจที่มอบหมายให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงทำด้วย!’
เมิ่งจีเออออกับตนเองในใจ และค่อย ๆ เข้าใจเรื่องราวมากขึ้น
หากท่านเซียนมอบหมายให้เป็นหน้าที่เขา เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดต่อหน้าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วง ไหนจะของรางวัลที่มากเกินไปจริง ๆ อีก…
แน่ใจได้เลยว่า นี่เป็นภารกิจที่ท่านเซียนมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงทำ
‘ดูท่าสองคนนี้จะไม่ตระหนักถึงความหมายของท่านเซียนเลยสักนิด ประเดี๋ยวข้าต้องตักเตือนพวกเขาเสียหน่อย’
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าวในใจ ดูออกว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงมิได้เข้าใจความหมายของท่านเซียนเลยสักนิด
“เสร็จแล้ว”
ผ่านไปไม่นาน หลี่จิ่วเต้าก็ห่อน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้เรียบร้อย
“ขอบคุณคุณชาย!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงกล่าวขอบคุณหลี่จิ่วเต้ายกใหญ่อีกครั้ง
…
ภาคกลาง ณ แดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน
ม่านแสงมหึมาครอบคลุมไปทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน ลำแสงหลากสีว่ายเวียนวน นี่คือมหาค่ายกลคุ้มกันของแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน
เพราะจู่ ๆ แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาก็บุกเข้ามาเมื่อสองวันก่อน
ถึงแม้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่กระนั้นเมื่อเห็นคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผามาแบบไม่หวังดี รวมถึงมีท่าทีดุดันด้วย พวกเขาจึงกระตุ้นมหาค่ายกลขึ้นโดยไม่ลังเล
ยังดีที่พวกเขากระตุ้นมหาค่ายกลขึ้นทัน ไม่อย่างนั้น ป่านนี้พวกเขาคงถูกแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาล้างบางไปแล้ว!
ทว่ามหาค่ายกลคงทนต่อไปได้อีกไม่นาน
ยอดฝีมือแต่ละคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาดุดันกราดเกรี้ยวยิ่งนัก โจมตีพลังคุ้มกันของมหาค่ายกลข้ามคืนข้ามวันไม่หยุดหย่อน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มหาค่ายกลฝืนต่อไปได้อีกแค่สองวันเท่านั้น…
“เหตุใดท่านประมุขถึงต้องฆ่าบุตรธิดาของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาด้วย!”
“เฮ้อ มิใช่ว่าท่านประมุขทอดทิ้งพวกเราไปแล้วหรือ จนป่านนี้แล้วท่านประมุขกับเหล่าผู้อาวุโสยังไม่กลับมาเลย!”
สมาชิกภายในแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนต่างหวาดหวั่นขวัญผวายิ่ง
ก่อนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าเหตุใดแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาถึงบุกรุกแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนของพวกเขา แต่พวกเขามารู้เรื่องนี้ในภายหลัง
เป็นเพราะท่านประมุขของพวกเขา สังหารทายาทของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผา!
หลังจากพวกเขาได้ทราบเรื่องราวแล้ว ต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด ในใจแทบไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำ
ท่านประมุขของพวกเขาเสียสติไปแล้วหรือ?
มิเช่นนั้น ไยจึงทำเรื่องเช่นนี้ลงไปได้?
ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!
สังหารลูก ๆ ของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ย่อมเป็นการสร้างความแค้นต่อกัน หากประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นยอมเลิกรากับพวกเขาง่าย ๆ สิถึงเป็นเรื่องแปลกประหลาด!
ที่สำคัญ หากมีเพียงแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาก็ยังดีหน่อย ทว่าพวกเขากลับพบว่ายังมีแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นอีกไม่น้อย รวมทั้งเผ่าปีศาจอันแข็งแกร่งก็เดินทางมาที่นี่ด้วย แต่ละฝ่ายต่างจ้องจะเล่นงานแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนของพวกเขา!
แดนศักดิ์สิทธิ์และเผ่าปีศาจแสนแข็งแกร่งเหล่านี้ ไม่แน่ว่าจะลงมือกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนของพวกเขาเมื่อไหร่!
เฮ้อ ท่านประมุขของพวกเขานำพาแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนไปสู่จุดจบแล้วจริง ๆ…หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด แดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนของพวกเขาคงไม่สามารถผ่านพ้นเคราะห์ร้ายครั้งนี้ไปได้
จะให้ผ่านไปได้อย่างไร…
แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดและแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาไม่ยอมเลิกรากับพวกเขาง่าย ๆ จนกว่าจะตายกันไปข้าง หากเดาไม่ผิดแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออีกมากรวมถึงเผ่าปีศาจแสนแข็งแกร่งก็หมายหัวพวกเขาไว้แล้วเช่นกัน…
นับเป็นสถานการณ์ที่ไร้ทางแก้โดยสิ้นเชิง!
…
อีกด้าน เหล่าผู้ฝึกตนและเผ่าปีศาจที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในเขตเมืองปุถุชนเดินทางข้ามวันข้ามคืน จนใกล้กลับถึงภูมิภาคที่พวกเขาอยู่ ก็กลับถึงภายในถิ่นกลุ่มอำนาจของพวกเขา
“ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนบ้าไปแล้ว!”
“ถึงกับเข่นฆ่ายกใหญ่เพียงเพื่อปุถุชนจำนวนหนึ่ง!”
พวกเขาโกรธแค้นเหลือแสน ป่าวประกาศการกระทำของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนไปทั่ว หนนี้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนทำเกินไปจริง ๆ ไม่เหลือทางหนีทีไล่ให้กันสักนิด!