บทที่ 109 สุดเข้าคู่ เปิดจุดลับทั้งห้าของร่างกาย!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
หลี่จิ่วเต้าเห็นทั้งสองดื่มน้ำเต้าหู้เข้าไปได้อึกหนึ่ง จู่ ๆ ก็แข่งกันทำสีหน้าประหลาด เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หรือว่า…น้ำเต้าหู้ฝีมือเขารสชาติแย่มากเลยหรือ?
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงรู้สึกได้ถึงสายตาที่ท่านเซียนมองมา แล้วประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “สวรรค์! อร่อยเกินไปแล้ว ช่างเป็นสุดยอดรสชาติในโลกมนุษย์จริง ๆ!”
หูช่วงเอ่ยเสริมต่อ “คุณชายโปรดอภัยให้ท่าทีเสียมารยาทของพวกเราด้วย พวกเราไม่เคยดื่มสิ่งใดที่รสชาติล้ำเลิศขนาดนี้จริง ๆ”
เมื่อได้ยินที่ทั้งคู่กล่าว หลี่จิ่วเต้าพลันกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เขาก็ว่า ด้วยฝีมือปลายจวักของเขา ไฉนเลยจะทำน้ำเต้าหู้ได้รสชาติแย่?
“อย่าเอาแต่ดื่มน้ำเต้าหู้ มา ๆ กินปาท่องโก๋ด้วย”
ชายหนุ่มเอ่ย “กินปาท่องโก๋คู่กับน้ำเต้าหู้ต่างหาก จึงจะนับเป็นสุดยอดรสชาติในโลกมนุษย์!”
“ได้เลย!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงต่างคนต่างหยิบปาท่องโก๋ขึ้นมา แล้วกัดกันคนละคำสองคำ
ปาท่องโก๋กรอบมากจริง ๆ เมื่อกัดไปแล้วก็ส่งเสียง ‘กรอบแกรบ’ นอกจากนี้ พวกเขาต่างรู้สึกว่าหลังกินปาท่องโก๋เข้าไป อวัยวะภายในต่าง ๆ ล้วนเปี่ยมด้วยพลังชีวิตมากขึ้น!”
กระแสความอบอุ่นปรากฏขึ้นมากมาย หล่อเลี้ยงอวัยวะภายในต่าง ๆ ของพวกเขา
นอกจากนี้ เมื่อประกายแสงพิเศษห้าจุดปรากฏขึ้นภายในกายพวกเขา ไหลเวียนเป็นร่องรอยจังหวะพิเศษ เชื่อมต่ออวัยวะภายในของพวกเขาเข้าด้วยกัน!
‘จุดลับทั้งห้าของร่างกาย*[1]!’
พวกเขาต่างนิ่งอึ้งกันไปหมด กัดปาท่องโก๋แค่คำเดียวกลับสามารถทลายจุดลับทั้งห้าของร่างกายได้!
จุดลับทั้งห้าของร่างกาย คือระดับขอบเขตพลังกายในตำนานโบราณ
ลือกันว่า ร่างกายมนุษย์มีจุดลับอยู่ห้าจุด ทุกจุดลับมีพลังกายแกร่งกล้าแฝงอยู่ หากเปิดจุดลับทั้งห้าได้ พลังกายที่มีสามารถทวีคูณขึ้นไปอีกห้าเท่า จึงนับว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง!
นับแต่ยุคโบราณมา มีผู้ฝึกตนตั้งไม่รู้เท่าใดใฝ่ฝันอยากจะเปิดจุดลับทั้งห้าของร่างกาย อนิจจา แทบไม่มีผู้ใดฝึกตนได้สำเร็จ จุดลับทั้งห้าของร่างกายนี้เปรียบเหมือนข่าวลือเสียมากกว่า ราวกับไม่มีอยู่จริง!
‘มิน่าเล่า ท่านเซียนถึงบอกว่าน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋สุดเข้าคู่กัน! สุดจะเข้าคู่จริง ๆ นั่นแล!’
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนคิดในใจ
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจุดลับทั้งห้าของร่างกายเปิดออกได้ เพราะน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ผสานกันจนเป็นหนึ่ง หากมีเพียงพลังจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เกรงว่าคงจะไม่สามารถเปิดจุดลับทั้งห้าของร่างกายได้
บัดนี้เขาได้ครอบครองร่างวัชระแล้ว บวกกับการทวีคูณความแข็งแกร่งอีกห้าเท่าจากจุดลับทั้งห้า พลังกายของเขาอยู่ในขอบเขตที่ไร้เทียมทานไปแล้ว!
จากการคาดเดาของเขา ต่อให้เป็นอาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อย!
เหนืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปคือ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์
ในแต่ละแดนศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดต่อกันมา ทว่าไม่มีที่ใดที่มีอาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์
แดนศักดิ์สิทธิ์ในยุคนี้ไม่อาจนำไปเทียบกับแดนศักดิ์สิทธิ์ในโบราณกาลได้…
แดนศักดิ์สิทธิ์ในโบราณกาลเรียกได้ว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง มีกำลังรบมากมายทั้งวิญญาณนักบุญ ราชันศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงศัสตราที่มีมากมายเกินคณานับ ทั้งอาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ และอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
แดนศักดิ์สิทธิ์ในยามนี้ ต่างชั้นไปไกลโข อย่าว่าแต่กำลังรบสุดแข็งแกร่งอย่างราชันศักดิ์สิทธิ์ และจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เลย พวกเขาไม่มีแม้แต่วิญญาณนักบุญ ส่วนศัสตราขั้นสูงนั้น อาวุธศักดิ์สิทธิ์ถือว่าสูงที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว…
พูดแบบไม่เกรงใจ พวกเขาในตอนนี้ขนานตนว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ล้วนเป็นบารมีจากยุครุ่งเรืองสูงสุด หากว่ากันตามตรง กำลังสามารถของพวกเขาในตอนนี้ ไม่คู่ควรกับตำแหน่งแดนศักดิ์สิทธิ์เลยสักนิด
‘บัดนี้ข้าสามารถกลับภาคกลางได้อย่างสบายใจแล้ว!’
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์คิดในใจ
จุดลับทั้งห้าเปิดออก ร่างวัชระได้รับการผนึกกำลังห้าเท่า แม้แต่อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ยังยากจะทำอันตรายเขาได้ เช่นนี้เขาจะทำอย่างไรที่ภาคกลางก็ย่อมได้ ไหน ๆ ก็มีพลังเหนือประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์กับราชันอสูรทั้งปวงแล้ว!
นอกจากนี้ หูช่วงเองก็ได้ดื่มน้ำเต้าหูและกินปาท่องโก๋เช่นกัน คิดแล้วคงเป็นเฉกเช่นเดียวกับเขาที่ได้รับร่างวัชระ พร้อมกับได้เปิดจุดลับทั้งห้าของร่างกาย
สองคนผนวกกำลังกัน ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์และราชันอสูรทั้งหลายย่อมไม่อาจต่อกรกับพวกเขาได้ พวกเขาจะได้ปฏิบัติภารกิจที่ท่านเซียนมอบหมายให้สำเร็จเสียที!
“อร่อยใช่หรือไม่?”
หลี่จิ่วเต้าเห็นทั้งสองกินปาท่องโก๋เข้าไปแล้วมีสีหน้าเหมือนกับตอนดื่มน้ำเต้าหู้เมื่อครู่ จึงคิดไปว่าทั้งคู่คงทึ่งกับความอร่อยของปาท่องโก๋เช่นกัน
“ใช่แล้ว อร่อยมากขอรับ!”
“น้ำเต้าหูกับปาท่องโก๋ สุดเข้าคู่ในใต้หล้า!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเอ่ยชมไม่ขาดปาก
“ข้าทำไว้เยอะมาก ทั้งสองท่านกินได้ตามสบายเลยนะ”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวพลางยิ้ม
“ขอบคุณคุณชายขอรับ!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์และหูช่วงตอบ กินปาท่องโก๋ไป ดื่มน้ำเต้าหู้ไป ชีวิตสุดแสนสำราญยิ่ง
ทว่าไม่นานนักพวกเขาก็สำราญไม่ออก
พลังที่เจืออยู่ในปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้นั้นน่าทึ่งเกินไป พวกเขากินไปไม่น้อยแล้ว และไม่สามารถกินได้อีก ขืนกินต่อไป พวกเขาคงแบกรับไม่ไหวจริง ๆ ไม่แคล้วตัวระเบิดออกในที่สุด!
“คุณชาย พวกเราอิ่มแล้วขอรับ”
พวกเขาสองคนเอ่ย ก่อนจะวางถ้วยและตะเกียบลงอย่างอาลัยอาวรณ์
น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ยังเหลืออีกมาก แต่พวกเขากลับไม่สามารถกินได้แล้ว…
“ข้าก็อิ่มแล้วนายท่าน…”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีวางถ้วยและตะเกียบลงอย่างอาลัยอาวรณ์เช่นกัน เขาเองก็ไม่สามารถกินเข้าไปได้อีก
เมื่อได้กินปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ ตัวเขาได้รับร่างวัชระ พร้อมกับเปิดจุดลับทั้งห้าของร่างกายเช่นกัน
“อิ่มกันหมดแล้วหรือ…”
หลี่จิ่วเต้ารู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคนกินได้มากน้อยเพียงใด จึงทำปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ไว้ให้มากก่อน นี่ก็ยังเหลืออีกไม่น้อย…
“หากมีตู้เย็นก็คงจะดี”
เขาทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้
อากาศยามนี้ร้อนอบอ้าวยิ่งนัก ปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ที่เหลือไม่อาจเก็บไว้ได้ นี่ทำให้เขาพลันนึกถึงตู้เย็นที่ดาวเคราะห์สีฟ้าขึ้นมา
ถึงแม้อวิ๋นกู่จะมอบลูกแก้วให้เขาหนึ่งลูก ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้ตามที่ใจนึก หนาวก็ได้ ร้อนก็ได้
ทว่าเขาไม่สามารถลดอุณหภูมิจนต่ำเกินไปเพียงเพื่อเก็บรักษาปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้
หากเป็นเช่นนั้น เขาคงได้หนาวตายพอดี
ตู้เย็น?
ผู้เฒ่าเมิ่งจีตาเป็นประกาย คำนี้เขาไม่เคยได้ยินอีกแล้ว!
คิดแล้วคงเป็นวัตถุจากบ้านเกิดของท่านเซียนอีกเช่นเคย!
“ไม่ทราบว่าตู้เย็นที่นายท่านว่าคือสิ่งใดหรือขอรับ?”
หลังได้รับบทเรียนจากคราวก่อน ผู้เฒ่าเมิ่งจีก็รีบสอบถามกับท่านเซียนทันที
ต้องเป็นคำสั่งต่อไปของท่านเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย
“อ้อ มันเป็นของเล็ก ๆ จากบ้านเกิดของข้า ผักสดผลไม้ต่าง ๆ ที่ผู้คนซื้อมามักเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อรับประกันความสดใหม่ของผักและผลไม้ พูดง่าย ๆ คือ สิ่งที่นำไปเก็บไว้ในนั้นจะไม่เน่าเสีย…”
หลี่จิ่วเต้าบอก
รับประกันความสดใหม่ ไม่เน่าเสีย?
ศาสตราธาตุน้ำแข็งทั่วไปก็ทำได้มิใช่หรือ?
ผู้เฒ่าเมิ่งจีคิดในใจ
ทว่าไม่นานนักเขาก็ปัดความคิดนั้นตกไป
ท่านเซียนมีขอบเขตสูงส่งยิ่ง ตู้เย็นที่เขากล่าว ไฉนเลยจะเป็นของง่ายดายปานนั้น
อีกอย่าง ท่านเซียนบอกแล้วว่ามันเป็นของจากบ้านเกิดท่านเซียน!
ไม่เห็นหรือว่าของเล็ก ๆ จากบ้านเกิดท่านเซียนที่ท่านเซียนเคยกล่าวว่าเป็นแอร์ แท้จริงแล้วคือสิ่งของสะท้านฟ้าอย่างลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์!
‘เข้าใจแล้ว! ตู้เย็นที่ท่านเซียนว่าดูท่าจะเป็นยอดศาสตราประเภทกาลเวลา!’
เขาบอกตัวเองในใจอย่างยินดีปรีดา
รักษาความสดใหม่ ไม่ทำให้เน่าเสีย เช่นนี้ไม่นับเป็นยอดศาสตราประเภทกาลเวลาหรอกหรือ
ยอดศาสตราประเภทกาลเวลา ควบคุมเวลาได้ สิ่งที่นำไปเก็บไว้ภายในย่อมไม่มีทางเน่า ซ้ำยังรักษาความสดใหม่ไว้ได้ตลอดกาล!
‘ข้านี่ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ!’
ผู้เฒ่าเมิ่งจีชมตัวเองในใจ ด้านตระหนักรู้ในประสงค์ของท่านเซียน เขาทำได้ไวมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!
[1] จุดลับทั้งห้าของร่างกาย ได้แก่ หัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไต