รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 107 ท่านเซียนไม่ได้นอน แต่รอเจอพวกเจ้าอยู่

บทที่ 107 ท่านเซียนไม่ได้นอน แต่รอเจอพวกเจ้าอยู่

บทที่ 107 ท่านเซียนไม่ได้นอน แต่รอเจอพวกเจ้าอยู่

ทำนองบรรเลงจบลงแล้ว และความปรารถนาของหลี่จิ่วเต้าก็คล้ายจะหมดไป

ตอนเขายังเป็นเด็ก พญาวานรคือไอดอลของเขา และตอนนี้พญาวานรก็ยังคงเป็นไอดอลของเขาอยู่

‘น่าเสียดายที่พญาวานรถูกหลอกให้กลายเป็นเบี้ยไปอัญเชิญพระไตรปิฎก…’

เขาถอนหายใจ

การสร้างความหายนะในวังสวรรค์ย่อมถือเป็นความบ้าคลั่งของพญาวานร แต่หลังจากนั้นพญาวานรก็…เฮ้อ เขาถูกผู้อื่นวางแผนลอบทำร้าย!

“นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทเพลง อันที่จริงยังมีต่ออีก แต่ไว้หลังข้าค่อยเล่นให้พวกเจ้าฟัง”

หลี่จิ่วเต้าหมดความปรารถนาแล้วก็แย้มยิ้มเอ่ยปากกับทุกคน

“ยังมีอีกหรือ?”

หลิงอินและคนอื่น ๆ ตาเป็นประกายขึ้นมาทันใด

พญาวานรสร้างความวุ่นวายให้วังสวรรค์ก็แล้ว ปลดประมุขวังสวรรค์ออกจากบัลลังก์ก็แล้ว นี่ยังไม่จบอีกหรือ?

“มี…”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวว่าลำนำต่อไปยังคงอีกนานกว่า…

“รอนายท่านแต่งเสร็จ พวกเราค่อยฟัง!”

“ได้”

หลี่จิ่วเต้าตอบกลับ

หลิงอินกับเซี่ยเหยียนอยู่ที่นี่ทั้งวันก่อนพวกนางจะจากไป

“หลังต้นไม้ใหญ่ลมเย็นดีจริง ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ทุกที่ก็ดีน่ะสิ…”

พอหลี่จิ่วเต้านึกได้ว่าเมืองปุถุชนหลายแห่งถูกผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจสร้างความโกลาหล เขาก็ถอนหายใจออกมา

ในเมืองชิงซานไม่มีอะไรผิดปกติ ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจเหล่านั้นต่างกลัวสำนักไท่หัวจนไม่กล้ามาสร้างปัญหาใกล้กับเมืองชิงซาน

ทว่าเมืองปุถุชนหลายแห่งประสบปัญหาวุ่นวาย คาดว่าเมืองเหล่านั้นอาจจะไม่มีกองกำลังผู้ฝึกตนให้พึ่งพา…

ตอนเซี่ยเหยียนอยู่ เขานึกอยากให้นางกล่าวถามสำนักไท่หัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สามารถหยุดผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจพวกนั้นไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายกับเมืองปุถุชนได้หรือไม่

แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากกับเซี่ยเหยียน

เซี่ยเหยียนมีความสัมพันธ์อันดีกับเขา อีกทั้งผู้เฒ่าเวิงแห่งสำนักไท่หัวก็เคารพเขามาก เรื่องนี้นับว่าใหญ่เกินไปจริง ๆ

เมืองปุถุชนหลายแห่งถูกผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจสร้างความโกลาหล ถ้าเขาขอให้สำนักไท่หัวออกหน้า ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น?

สำนักไท่หัวแข็งแกร่งมาก แต่ผู้ฝึกตนคนใดบ้างที่ไม่มีภูมิหลัง?

หากผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจมากมายรวมตัวกันเพื่อกำจัดสำนักไท่หัว สำนักไท่หัวย่อมมิอาจรับมือได้เป็นแน่…

กล่าวถึงตรงนี้ เขาเองก็เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาหาใช่ผู้ฝึกตนไม่ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่สามารถร่วมและทำได้

“นายท่านยังไม่นอนหรือ?”

เป็นผู้เฒ่าเมิ่งจีที่ยืนอยู่ข้างกายท่านเซียน

เวลานี้ท่านเซียนน่าจะนอนแล้ว ทว่าวันนี้เกิดอันใดขึ้นกับท่านเซียน?

“ข้ายังไม่อยากนอน…”

หลี่จิ่วเต้าเดินออกมาลานด้านนอก ก่อนจะเอนตัวลงบนเก้าอี้โยก ในหัวของเขายังคงคิดถึงเรื่องโกลาหลในเมืองปุถุชนอยู่

“โอ้”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีไม่กล้าถามมากความอีก เขาเพียงเดินไปปิดประตูร้าน

เพราะตอนนี้ประตูร้านยังไม่ได้ปิด

ทว่าในขณะที่เขากำลังจะปิดประตู สายตาก็เหลือบเห็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงยืนรออยู่ไม่ไกล

“มิแปลกใจเลยว่าเหตุใดเวลานี้ท่านเซียนยังไม่นอน ที่แท้ท่านกำลังรอพบประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงอยู่!”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีพลันเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง

โดยปกติเวลานี้ท่านเซียนมักจะนอนแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงสงสัยว่าเกิดอันใดขึ้นกับท่านเซียน แต่หลังจากเห็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงอยู่นอกร้าน เขาก็เข้าใจทันที

ผู้เฒ่าเมิ่งจีไม่กล้ารีรออีก เขารีบรุดออกจากร้าน เดินไปหาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง

“คำสั่งของท่านเซียนเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ?”

เขาถาม

“ไม่ พวกเราเจอเรื่องยุ่งยากบางอย่าง…”

แล้วประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็เอ่ยเรื่องที่ยุ่งยากนั้นออกมา

เรื่องราวโกลาหลในเมืองปุถุชนครั้งนี้ มีผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจไม่น้อยจากภาคกลาง ซ้ำยังมีคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับยอดฝีมือเผ่าปีศาจอยู่ด้วย

“สังหารไปบ้างแล้ว แต่ก็มีบางส่วนหนีรอดไปได้ ทางอุดรทิศ ทักษิณทิศ ประจิมทิศไม่มีอะไรต้องกังวล ผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ภาคกลาง…”

เขาถอนหายใจ

ตอนนี้นับประสาอะไรจะกลับภาคกลางเพื่อสังหารผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจเหล่านั้น เกรงว่าหากเขากลับไป ไม่แคล้วคงถูกแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดกับแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาสังหารตายตกเสียก่อน

เขาจัดการร่างอวตารของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผา รวมถึงลงมือสังหารบุตรธิดาของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง

ร่างอวตารเชื่อมกับร่างหลัก ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเขาสังหารบุตรธิดาของตน

ตอนนี้เกรงว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคงกำลังเตรียมการโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนแล้ว!

“เข้าใจแล้ว”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีได้ยินคำกล่าวของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็เข้าใจทุกอย่างทันที

ปรากฏว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่านเซียน!

“ข้ารู่ว่ามิอาจเข้าไปรบกวนท่านเซียนได้”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

แล้วเขาก็กล่าวว่า “ตามข้ามา”

หากก่อนหน้านี้ เขาคงไม่กล้าพาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงไปหาท่านเซียน แม้ว่าทั้งสองจะทำงานให้ท่านเซียนก็ตาม

ทว่าตอนนี้ท่านเซียนแสดงท่าทีชัดเจนว่า เขาอนุญาตให้พาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงเข้าไปหาได้

“นายท่านทราบเรื่องนี้ดีและรู้นานแล้วว่าพวกเจ้ากำลังมีปัญหาอยู่ ตอนนี้นายท่านกำลังรอพวกเจ้าอยู่ในลานบ้าน”

และผู้เฒ่าเมิ่งจีก็กล่าวเสริมว่า “จำไว้ เมื่อเข้ามาแล้วอย่าได้ละเมิดข้อห้ามของนายท่านเป็นอันขาด!”

เขาเอ่ยปากชี้แนะประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงมากมาย ทั้งสองคนพยักหน้าซ้ำ ๆ จดจำทุกอย่าง จากนั้นผู้เฒ่าเมิ่งก็พาพวกเขาไปพบท่านเซียน

หลังจากเข้าไปแล้ว ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงก็สัมผัสได้ถึงเต๋าอันไร้ขอบเขตและสูงสุดในทันที

เมื่อครั้งล่าสุดที่มา พวกเขาแม้อยู่นอกร้านแต่ก็ได้เห็นภาพวาดกับหยกแกะสลักภายในร้าน ครานั้นก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษของภาพวาดกับหยกแกะสลักเหล่านี้

แต่ความรู้สึกเหล่านั้น ยังห่างไกลจากสิ่งที่พวกเขาสัมผัสอยู่ตอนนี้

ยิ่งเดินลึกเข้าไป ทั้งสองคนยิ่งตระหนักว่าภาพวาดกับหยกแกะสลักเหล่านี้ยอดเยี่ยมเพียงใด สัมผัสแห่งเต๋าปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ราวกับพวกเขาได้มาเยือนแดนเซียนอย่างไรอย่างนั้น ภายในใจตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!

ผู้เฒ่าเมิ่งจีเดินนำพวกเขาไปลานบ้าน

“นายท่าน มีคนมาหาขอรับ!”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าว

หลี่จิ่วเต้ากำลังคิดเกี่ยวกับเมืองปุถุชนอยู่ เมื่อได้ยินเสียงของผู้เฒ่าเมิ่งจี เขาถึงรู้สึกตัวขึ้นมา

ใครกันที่มาหาเขาตอนดึก ๆ แบบนี้?

ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนลุกจะขึ้นจากเก้าอี้โยก

“สวัสดีขอรับคุณชาย! พวกเราเป็นสหายของอวิ๋นกู่ เดินทางมาจากที่ห่างไกลเพื่อมาเยี่ยมเยียนคุณชายขอรับ! ”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าวด้วยความเคารพหลี่จิ่วเต้า

อวิ๋นกู่?

อ๋อ คนผู้นั้นที่ผู้เฒ่าเมิ่งจีพากลับมาด้วย ดูเหมือนเขาจะชื่นชอบภาพวาดนะ…

หลี่จิ่วเต้าจำได้

ดูท่าว่าสองคนนี้เองก็น่าจะชื่นชอบภาพวาดเช่นกัน

เดินทางมาจากที่ห่างไกลเพื่อมาหาเขาถึงที่นี่…อวิ๋นกู่คงจะกล่าวชมเขาไว้ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นสองคนนี้คงไม่มาเยี่ยมเยียนเขากลางดึกหรอก

“โอ้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง”

หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้มพลางกล่าว “เดินทางมาไกลคงลำบากแย่ ทั้งสองท่านคงจะเหนื่อยไม่น้อย หากไม่รังเกียจ ก็พักที่นี่สักคืนเถิด แล้วพรุ่งนี้พวกเราค่อยคุยกัน”

เขายังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายในเมืองปุถุชน ใจจึงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และยังไม่มีอารมณ์จะสนทนากับแขกทั้งสองท่านมากนัก

ทว่าทั้งสองเดินทางมาจากที่ห่างไกล มาถึงก็รีบรุดเข้าเยี่ยมเยียนเขาทันที หลี่จิ่วเต้ารู้สึกไม่ดีถ้าจะให้ทั้งสองออกไปก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่

นี่ดูจะไร้มารยาทเกินไป

“ขอรับ”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงนึกสงสัยในใจ แต่พวกเขาไม่กล้าฝ่าฝืนคำพูดของท่านเซียน จึงตอบตกลงทันที

หลี่จิ่วเต้ายิ้มแล้วจัดห้องให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง หลังจากนั้นชายหนุ่มก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียง

“หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเร็ว ๆ นะ…”

เขาถอนหายใจ พลางส่ายหัวก่อนจะผล็อยหลับไป

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท