บทที่ 131 อาหารเสียบไม้กับสุราก็เหมือนน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋นั่นแหละ!
จ๋อม…
บัดซบเอ๊ย ลองอีกรอบ!
ทว่าสุดท้ายมันก็หนีไม่พ้น!
ในโอ่งปลา มัจฉาสัตมายาทั้งดีใจและอยากจะร้องไห้ในคราวเดียวกัน
เหตุใดมันจึงอยากร้องไห้น่ะหรือ? ก็เพราะมันเป็นปลาชุดแรกที่ถูกจับได้ ซึ่งลั่วสุ่ยได้กินบรรดาปลาเกือบทั้งหมดในชุดเดียวกันไปแล้ว แต่มันยังคงโชคดีที่รอดมาได้จนถึงตอนนี้…
ช่างน่าปลาบปลื้มใจยิ่ง
แต่มันคงมิอาจโชคดีได้ตลอดไปหรอก เพราะสักวันมันคงโดนกิน…
มันอยากจะร้องไห้จริง ๆ ท่านเซียนผู้เป็นใหญ่โปรดปล่อยมันไปด้วยเถิด
หลี่จิ่วเต้าเดินถือปลาเข้าไปในครัว จากนั้นเขาก็นำเครื่องในของปลาออก ก่อนจะหมักมันเอาไว้
แม้ว่าจะเป็นอาหารของแมวขาวตัวน้อย แต่ชายหนุ่มไม่ได้ทำแบบลวก ๆ กลับกันเขาทำมันด้วยความจริงจังยิ่ง
รวมถึงปลาตุ๋นสำหรับแมวขาวตัวน้อยก่อนหน้านี้ เขาเองก็ใส่ใจมากเช่นกัน ไม่ใช่แค่นำไปต้มกับน้ำเปล่า รสชาติของมันจะแตกต่างออกไปทุกครั้งที่เขาทำอาหาร เพราะเขาใช้ความพยายามอย่างมากในการทำ
หลังจากทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ หลี่จิ่วเต้าก็นำชั้นวางบาร์บิคิวที่เขาทำเองออกมาวางไว้ที่ลาน
ชายหนุ่มเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง เพื่อนำถ่านไม้กับพัดที่เขาทำเองออกมา
เขาต้องการเตรียมไฟให้พร้อมก่อนเพื่อที่จะได้ย่างได้ทันทีในภายหลัง
ผู้เฒ่าเมิ่งจีมีไหวพริบมาก เขารีบย้ายเก้าอี้ให้ท่านเซียนนั่ง จากนั้นก็ย้ายโต๊ะและเก้าอี้สองตัวให้สือเฟิงนั่งก่อน
บาร์บิคิวจะดีและมีกลิ่นหอมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับถ่านที่ใช้ทำบาร์บิคิวอย่างไม่ต้องสงสัย
หลี่จิ่วเต้าให้ความสำคัญกับถ่านไม้เป็นอย่างมาก เขาใช้เวลามากมายกับถ่านไม้และใช้เวลานานมากในการผลิตถ่านไม้ชนิดนี้ขึ้นมา
ชายหนุ่มวางถ่านไม้บนตะแกรง จุดไฟ และใช้พัดเพื่อพัดให้ไฟติด
นี่คือพัดสานที่เขาทำขึ้นเพื่อทำบาร์บิคิวโดยเฉพาะ
ถ่านถูกจุดไฟและในขณะที่หลี่จิ่วเต้าทำการพัดพัดสาน กลิ่นของไม้ผลก็ลอยออกมา ลั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเมิ่งจี และ สือเฟิง ต่างจมอยู่ในกลิ่นของไม้ผลทันที!
มันหอมมาก!
ร่างกายทุกคนล่องลอยราวกับว่าพวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยสวนโอสถของจักรพรรดิ การสูดควันถ่านเข้าทางจมูกของพวกเขา มันเหมือนกับดูดซับแก่นแท้ที่ไร้จุดสิ้นสุดของโอสถของจักรพรรดิ ซึ่งความแข็งแกร่งในทุกด้านของร่างกายพวกเขาพลันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก!
หัวใจของสือเฟิงยามนี้สั่นสะท้านสุดขีด
ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนมากเพียงใด คอขวดขั้นพลังของเขาก็ไม่เคยคลายออก ทว่า ณ ตอนนี้หลังจากได้กลิ่นหอมของถ่านไม้นี้ เขากลับรู้สึกว่าคอขวดขั้นพลังของเขาคลายออกแล้วจริง ๆ!
‘ท่านเซียน!’
เขาตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ
คอขวดขั้นพลังของเขาคลายออกแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขาจะทะลวงผ่านขอบเขตประสานวิญญาณและก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นได้ โดยเขาจะไม่ติดอยู่ที่ขั้นเดิมอีกต่อไป!
หกปี…หกปีเต็ม ๆ ที่เขาถูกผู้อื่นวิจารณ์และตัวเขาเองก็ใกล้จะยอมแพ้อยู่เต็มทน มาตอนนี้ปัญหาของเขากำลังคลี่คลายแล้ว เช่นนี้จะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร?
หากผู้เฒ่าเมิ่งจีไม่อธิบายให้เขาฟังก่อนหน้านี้ เขาอยากจะคุกเข่าลงและก้มคำนับท่านเซียนเพื่อขอบคุณจริง ๆ!
ความเมตตานี้เป็นเสมือนการให้ชีวิตใหม่อย่างแท้จริง!
กลิ่นถ่านไม้นี้ยากจะทานทน!
เมื่อเห็นท่าทางมึนเมาของผู้เฒ่าเมิ่งจีกับสือเฟิง หลี่จิ่วเต้าก็หัวเราะในใจ
กลิ่นหอมของถ่านไม้ในปัจจุบันนั้นไม่นับเป็นอะไรเลย เมื่อเนื้อแกะเสียบไม้ถูกย่างแล้ว กลิ่นของมันจะหอมหวนจนทนไม่ได้!
ไฟเกือบพร้อมแล้ว ถ่านทั้งหมดถูกจุดแล้ว หลี่จิ่วเต้าลุกขึ้นเดินกลับไปที่ครัว และเริ่มเอาเนื้อแกะเสียบไม้
เขาทำความสะอาดและเสียบผักใส่ไม้ต่อ จากนั้นก็หมักปลา เพราะใช้เวลานานมากไปกับการจุดไฟ เวลานี้เนื้อแกะจึงหมักได้ทีแล้ว
ชายหนุ่มหั่นเนื้อแกะและใช้ไม้เสียบเนื้อแกะ
หลังจากเสียบเนื้อแกะแล้ว เขาก็นำเนื้อแกะเสียบไม้และผักเสียบไม้ออกมา
หลี่จิ่วเต้าวางเนื้อแกะเสียบไม้ไว้บนตะแกรง ก่อนจะใส่ผักเสียบไม้ตามลงไปและเริ่มย่าง
ในไม่ช้ากลิ่นของถ่านไม้ผสมกับเนื้อแกะก็ลอยโชยออกมา ทำเอาลั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเมิ่งจี และสือเฟิงพากันกลืนน้ำลายลงคออย่างช่วยไม่ได้
หอมเกินไปแล้ว!
พวกเขาไม่เคยคิดว่าเนื้อแกะธรรมดาจะหอมได้ขนาดนี้!
หลี่จิ่วเต้าจริงจังกับการย่างมาก การทำบาร์บิคิวถือเป็นงานฝีมืออย่างหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าจะย่างแบบสบาย ๆ ได้ นี่เพราะเนื้อแกะไหม้ได้ง่าย นอกจากจะทำให้ดูน่าเกลียดแล้ว รสชาติของเนื้อยังเปลี่ยนไปอย่างมากอีกด้วย และมันก็ไม่อร่อยเลยสักนิด…
เหมือนกับผักที่ใกล้จะไหม้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผักที่ไหม้นั้นไม่น่ากินเพียงใด เอาเป็นว่ามันไม่อร่อยอย่างยิ่ง
หลี่จิ่วเต้าให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารและมีมาตรฐานในตนเองสูง จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ปล่อยให้ปรากฏการณ์อาหารไหม้เช่นนั้นเกิดขึ้นได้
ในขณะที่เขาย่างต่อไป เนื้อแกะเสียบไม้และผักเสียบไม้ก็พากันเปลี่ยนสีไปทีละไม้ ซึ่งเพียงมองก็ทำให้อยากอาหารแล้ว!
ลั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเมิ่งจี และสือเฟิงแทบจะน้ำลายไหลออกมาเต็มที ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เนื้อแกะเสียบไม้และผักเสียบไม้อย่างไม่วางตา
หลังจากที่หลี่จิ่วเต้าโรยเครื่องเทศบาร์บิคิวแบบทำเองแล้ว ลั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเมิ่งจี และสือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล!
เมื่อโรยหน้าด้วยเครื่องเทศรสบาร์บิคิวแล้ว กลิ่นหอมก็ดีขึ้นจนแทบทนไม่ได้จริง ๆ!
‘ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนหรือปุถุชน ใคร ๆ ก็ชอบกินทั้งนั้น!’
หลี่จิ่วเต้าลอบกล่าวยิ้ม ๆ ในใจ เมื่อเขาเห็นผู้เฒ่าเมิ่งจีและสือเฟิงน้ำลายหยด
‘โอ๊ะ เจ้าอย่าน้ำลายไหลไปด้วยสิ นี่สำหรับรับรองแขก ข้าให้เจ้ากินไม่ได้’
หลี่จิ่วเต้าลอบพูดในใจเมื่อเห็นแมวขาวตัวน้อยน้ำลายไหล
ถ้าสือเฟิงไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาย่อมมอบมันให้กับแมวขาวตัวน้อยด้วย แต่เมื่อสือเฟิงอยู่ที่นี่ เขาจะกล้ามอบมันให้กับแมวขาวตัวน้อยได้อย่างไร?
มอบอาหารของคนให้กับแมวที่เลี้ยงไว้…ช่างหยาบคายยิ่ง
“หลังจากย่างสิ่งเหล่านี้แล้ว ข้าจะย่างปลาให้เจ้า!”
ชายหนุ่มไม่อาจลืมเจ้าแมวขาวตัวน้อยได้ ดังนั้นเขาจะย่างปลาให้แมวขาวตัวน้อยในครั้งถัดไป
เตาย่างที่เขาทำมีขนาดไม่เล็กเกินไป เขาสามารถย่างเนื้อแกะเสียบไม้ 20 ไม้และผักเสียบ 10 ไม้ได้ในคราวเดียว
ตอนที่หลี่จิ่วเต้ากำลังทำเตาย่าง เขาคิดว่ามันน่าจะใช้กินเลี้ยงกับสหายหรืออะไรได้ ดังนั้นเขาจึงสร้างตะแกรงให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เนื้อแกะเสียบไม้และผักเสียบไม้ก็ถูกย่างเสร็จ เขาก็นำมันมาวางมันไว้บนโต๊ะ
“รอข้าไปเอาสุราแล้วมาดื่มกันสักหน่อย…”
หลี่จิ่วเต้าลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบสุราที่ทำเองกับจอกออกมาจากห้องครัว
แน่นอนว่าต้องดื่มสุราไม่เช่นนั้นมันจะเสียรสชาติไปมาก เช่นเดียวกับน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ สองสิ่งนี้ต้องกินด้วยกัน!
หลังจากวางสุราและจอกลง เขาก็ไปที่ห้องครัวเพื่อเสียบปลาที่หมักไว้ ก่อนวางลงบนตะแกรง ในขณะเดียวกันก็ใส่เนื้อแกะเสียบไม้และผักเสียบไม้เพิ่ม
ทุกคนกินอาหารร้อนและดื่มสุรารสจัด แต่กลับจะปล่อยให้แมวขาวตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ มองดูอย่างหิวโหย… นี่มันโหดร้ายเกินไปจริง ๆ หลี่จิ่วเต้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
หลี่จิ่วเต้ารินสุราชั้นดี ก่อนยกจอกขึ้นพลางกล่าวว่า “การพบกันคือวาสนา มา ๆ ดื่มกันก่อน…”
แต่จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และพูดเตือนทันทีว่า “สุรานี้แรงมาก ถ้าเจ้าดื่มไม่ได้ก็ดื่มให้น้อยลงเสีย”
ชายหนุ่มนึกถึงลวี่เหลียง
ครั้งหนึ่งเขาเคยดื่มกับลวี่เหลียง
ลวี่เหลียงเองก็เป็นผู้ฝึกตนคนหนึ่ง แต่เขาดื่มเพียงจอกเดียวก็สลบไปเลย แม้ว่าลวี่เหลียงจะไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง แต่สือเฟิงเองก็ไม่ได้อายุมากเช่นกัน อีกทั้งเขายังดูไม่เหมือนกับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง หลี่จิ่วเต้ากลัวว่าถ้าดื่มมากไปแล้วสือเฟิงจะหมอบราบคาบเสียก่อน
ถ้าอีกฝ่ายดื่มแล้วฟุบไป เขาคงย่างอาหารเหล่านี้เสียเปล่าแล้ว…
“ได้!”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกับสือเฟิงตอบรับอย่างรวดเร็ว
สุราแรงมาก!
พวกเขาจดจำไว้แล้ว!
เดิมทีพวกเขาต้องการดื่มรวดเดียวหมดจอก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีความคิดเช่นนั้นแล้ว
ท่านเซียนพูดเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะกล้าได้อย่างไร!