Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 18 น่าทึ่ง

ตอนที่ 18 น่าทึ่ง

เมื่อกินจนอิ่มแล้ว

หลินเยวียนก็พลันอิ่มอกอิ่มใจ

ขณะที่เตรียมตัวกลับไปทำงานที่แผนก เหล่าโจวซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็พูดขึ้นมาว่า “จะบอกข่าวดีให้นายเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่าจะส่งเพลงของนายไปที่ฉีโจว!”

“ครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า

เดิมทีเหล่าโจวคิดว่าหลินเยวียนจะตื่นเต้น

แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือสีหน้าของหลินเยวียนไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย น้ำเสียงยังคงนิ่งราบเรียบดังที่ผ่านมา

ในตอนนี้ เหล่าโจวก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของจ้าวเจวี๋ยก่อนหน้านี้

เขายังดึงดันอยู่เล็กน้อย “เอ่อ…นายไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอ”

“มีครับ”

หลินเยวียนเอ่ยอย่างจริงจัง “ตอนเรียบเรียงเพลงปลายักษ์ ส่วนที่เป็นเปียโนผมเป็นคนเล่นเอง เลยหวังว่าบริษัทจะคำนวณเงินในส่วนนี้เข้าไปด้วยครับ”

ฮะ?

แค่นี้เหรอ?

เหล่าโจวชะงักไปหลายวินาทีก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย แล้วจึงส่งเพลง ‘ปลายักษ์’ ซึ่งผ่านการตรวจสอบของบริษัทไปให้ฉีโจวช่วงบ่ายในวันเดียวกัน

……

ฉีโจว

ในห้องทำงานแผนกโพสต์โปรดักชั่นของภาพยนตร์อนิเมชันเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ เจิ้งลี่ผู้กำกับกำลังนั่งเคาะโต๊ะ “หนังของพวกเราจะฉายแล้ว เรื่องเพลงประกอบ สรุปแล้วต้องรอนานแค่ไหนถึงจะใช้ได้”

“ผู้กำกับเจิ้ง”

โปรดิวเซอร์ส่ายหน้าบอกว่า “เรื่องนี้โทษผมก็ไม่ได้นะ ก่อนหน้านี้ทางสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์ของฉินโจวก็ส่งเพลงOST.มาให้เรื่อยๆ ตั้งสิบสี่เพลง เป็นผลงานของนักแต่งเพลงมือทองทั้งนั้น แต่คุณก็ไม่ชอบเลยสักเพลง”

“ไม่ใช่”

เจิ้งลี่พูดอย่างขุ่นเคือง “เรื่องราวของ ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ เป็นยังไงพวกคุณก็น่าจะรู้ดี ความจริงก็คือเพลงประกอบที่พวกเขาส่งมามันไม่เข้ากับเนื้อเรื่องไง หรือว่าพวกคุณคิดว่าสิ่งที่ฉันต้องการมันเข้มงวดเกินไป?”

ทุกคนกระแอม หลุบสายตาลง

โทสะของเจิ้งลี่ลุกโชนในทันใด กลายเป็นว่าแต่ละคนต่างก็คิดว่าสิ่งที่ฉันต้องการนั้นมากเกินไป!

เธอเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาล “ได้ ในเมื่อคิดกันแบบนี้ งั้นฉันก็จะไม่ขัด ถึงยังไงทุกคนก็เป็นผู้ผลิตหลักของหนัง ตั้งแต่นี้ไป จะเลือกเพลงไหนทุกคนก็ไปตัดสินใจกันเอง ลำบากโปรดิวเซอร์แล้ว ในตอนนี้มีเพลงมาวางอยู่ตรงหน้าสิบสี่เพลง ถ้าพวกคุณคิดว่าในนี้มีสักหนึ่งเพลงที่จะใช้เป็นOST.ของพวกเราได้ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นมั้ง”

โปรดิวเซอร์หัวเราะแดกดัน “เพลงOST.สำคัญกับผลงานเรามาก เอาที่ผู้กำกับตัดสินใจก็แล้วกัน ผมจะไปเร่ง…เอ๊ะ?”

โปรดิวเซอร์ชะงักไป

เจิ้งลี่ถามว่า “มีอะไร”

โปรดิวเซอร์มองอีเมลในโทรศัพท์มือถือ ยิ้มขื่นพลางเอ่ย “ไม่ต้องเร่งแล้วละ พวกเขาส่งมาอีกเพลงแล้ว รบกวนผู้กำกับกลับไปฟัง”

“กลับไป?”

 เจิ้งลี่แค่นหัวเราะเย็น “ไม่ต้องกลับไปแล้ว! ถือโอกาสที่ผู้ผลิตหลักอยู่กันที่นี่ รีบเปิดเพลงเดี๋ยวนี้เลย ฉันเองก็อยากเห็นว่าพวกคุณฟังแล้วจะพอใจมั้ย! พวกคุณจะได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการน่ะ มันไม่ได้มากเกินไป!”

โปรดิวเซอร์กระซิบบอกว่า “คงไม่เหมาะล่ะมั้ง?”

เจิ้งลี่ตวาดลั่น “มีตรงไหนไม่เหมาะ”

โปรดิวเซอร์จนปัญญา ทำได้เพียงเปิดโปรเจกเตอร์ จากนั้นก็เปิดลำโพงอีกหลายตัวในห้องประชุม กดเล่นเพลงที่

เพิ่งได้รับมา

เปิดโปรเจกเตอร์ก็เพื่อให้อ่านเนื้อเพลง

จะถูกใจเนื้อเพลงหรือไม่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง สำหรับเรื่องของที่มาคู่กันอย่างเนื้อเพลง บริการของสตาร์ไลท์นับว่าทำได้เข้าที

เสียงเพลงดังขึ้น

ท่วงทำนองไพเราะรื่นหู เสียงกังวานเหนือจริงดังขึ้น

‘เกลียวคลื่นสงัดพัดกลืนม่านราตรี

ถั่งโถมมุมหนึ่งสุดเส้นขอบฟ้า

ปลายักษ์แหวกว่ายวนผ่านห้วงนิทรา

จ้องมองมายามเธอหลับตาลง…’

ระหว่างที่เพลงบรรเลง สายตาพิลึกของผู้คนล้วนมองมายังเจิ้งลี่

เจิ้งลี่ขยับตัวอย่างกระอักกระอ่วน ขณะตั้งอกตั้งใจฟังเพลง หัวใจก็ยังคงตุ๊มๆ ต่อมๆ

เพลงนี้ คล้ายกับว่าจะไม่เหมือนกับเพลงที่ส่งมาก่อนหน้า?

บังเอิญขนาดนั้นเชียวเหรอ

‘มองแผ่นฟ้าผืนทะเลบรรจบ

สดับเสียงลมปลิวสายฝนพรำ

จับมือกันปัดเป่าไอหมอกลวงตา

ครีบปลากว้างใหญ่เหลือเกิน

ฉันจึงปล่อยเชือกแห่งกาลเวลา…’

เพลงยังคงขับร้องต่อไป ครั้นผ่านท่อนเวิร์สเข้าสู่คอรัส ทุกคนก็ลืมมองผู้กำกับไปเสียสนิท

ผู้กำกับเจิ้งลี่คนนี้ยิ่งไม่ได้สนใจสถานการณ์ที่ตนเสียหน้าแต่อย่างใด เธอทั้งคาดหวังและตกประหม่ากับท่อนคอรัสหลังจากนี้

‘กลัวเธอโบยบินไปแสนไกล

กลัวเธอจะห่างไกลจากฉัน

กลัวยิ่งกว่าว่าเธอจะรั้งอยู่ที่นี่ไปชั่วนิรันดร์

ทุกหยาดน้ำตาหลั่งรินไปสู่เธอ

หวนกลับคืนก้นบึ้งของแผ่นฟ้า…’

ยามที่ปลายักษ์ข้ามประตูมังกร เขาตัวสีขาวบริสุทธิ์ แต่กลับหาเด็กหญิงตัวน้อยไม่พบ

‘ถ้าเธอไม่ได้ข้ามประตูมังกรนั่น ก็จะอยู่กับฉันตลอดไปได้’

‘แต่ว่า ถ้าไม่พยายามข้ามประตูมังกรให้ได้ แล้วฉันจะปกป้องเธอได้อย่างไรล่ะ’

‘ที่แท้การได้พานพบกันอีกครั้ง ก็คือการเริ่มต้นของจุดจบ’

ขณะที่เพลงกำลังเล่นอยู่นั้น ในห้วงสำนึกของเจิ้งลี่ก็ปรากฏเนื้อเรื่องของ ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ภาพฉากของภาพยนตร์ที่เธอกำกับเองก็ลอยขึ้นมาต่อหน้าอย่างเลือนราง

ดวงตาทั้งคู่ของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย

ในตอนนั้นเสียงเปียโนหยุดลงชั่วขณะ เสียงหวีดดังขึ้นมาทันใด!

ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นราวกับลืมหายใจในชั่วพริบตา

ระหว่างนั้น

พวกเขาก็คล้ายกับว่ากำลังอยู่ท่ามกลางห้วงมหรรณพอันกว้างใหญ่ สัมผัสได้ถึงสีครามของผืนฟ้ากว้าง สัมผัสได้ถึงแรงปะทะของคลื่นทะเล…

เมื่อเพลงจบลง

ทุกคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ แต่จิตใจกลับล่องลอยออกไปไกล        

ผ่านไปเนิ่นนาน

โปรดิวซ์เซอร์ถึงพึมพำขึ้นว่า “เพราะงั้น…ถึงได้มีแค่ฉินโจว…ที่เป็นมาตุภูมิแห่งดนตรีของบลูสตาร์…เพลงนี้น่าทึ่งจริงๆ…”

“เพลงนี้ชื่อว่าอะไร”

ทุกคนได้สติกลับมา ต่างคนต่างพูด

โปรดิวเซอร์ตอบว่า “เพลงชื่อว่า ‘ปลายักษ์’”

ขณะที่ทุกคนกำลังอิ่มเอิบอยู่นั้น ก็มีคนนึกสงสัยขึ้นมา “ปลา? หรือจะแก้ชื่อเพลงสักหน่อยมั้ย หนังของพวกเราถึงจะชื่อว่า ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ แต่ที่จริงเป็นเรื่องที่พูดถึงเด็กผู้หญิงกับมังกรเผือก…”

“ไม่ต้องแก้”

 ทุกคนมองเธอ “…”

เจิ้งลี่กัดฟันกรอด “พวกคุณไม่ต้องมองฉันแบบนั้น! ไม่ใช่ฉันเรียกร้องมากเกินไป! สิบสี่เพลงก่อนหน้านี้ใช้ไม่ได้จริงๆ!”

ทุกคนหัวเราะครืน

ทว่าพวกเขาก็เชื่อคำพูดนี้ของเธอ ต่อให้อีกสิบสี่เพลงจะดีกว่านี้ แต่ก็คงไม่ดีไปกว่า ‘ปลายักษ์’ แล้ว เพียงแต่ได้เห็นท่าทางยอมจำนนของผู้กำกับแล้วสนุกดีจริงๆ

“งั้นเพลงนี้ก็โอเค?”

โปรดิวเซอร์มีสีหน้าหยอกล้อ

เจิ้งลี่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้าเพลงนี้ไม่โอเคละก็ คุณจะหาเพลงที่ดีกว่านี้ให้ฉันได้เหรอ หรือว่าคุณยังมีเงินจ่ายพ่อเพลงหรือไง อีกอย่าง ต่อให้มีพ่อเพลงออกโรงเอง ก็ไม่มีทางเกินระดับของเพลงนี้ เพราะนักแต่งเพลงท่านนี้…”

“เซี่ยนอวี๋”

โปรดิวเซอร์อ่านชื่อนักแต่งเพลง

เจิ้งลี่พยักหน้า “อาจารย์นักแต่งเพลงชื่อเซี่ยนอวี๋ท่านนี้เป็นเพื่อนรู้ใจหนังเรื่องนี้ของเรา เขาต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันอยากสื่ออารมณ์แบบไหน!”

นี่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่บริษัทซื้อมาในราคาห้าล้าน

ตามหลักของวงการ ทีมผู้สร้าง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ จะสามารถเปลี่ยนแปลงชื่อเพลง เนื้อเพลง ทำนอง รวมไปถึงการเรียบเรียงผลงานที่ซื้อมาได้ ถึงขั้นที่มีสิทธิ์เปลี่ยนคนร้องหรืออัดเพลงใหม่ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิทธิ์ที่ทีมผู้สร้างพึงมี ต่อให้เป็นสตาร์ไลท์ก็ออกความเห็นไม่ได้ อย่างมากที่สุดก็ทำได้เพียงแนะนำเล็กน้อยเท่านั้น

แต่สำหรับเจิ้งลี่แล้ว…

นี่คือ ‘ปลายักษ์’ ที่ดีที่สุด!

ดีจนถึงขั้นที่เจิ้งลี่ไม่คิดอยากปรับเปลี่ยนอะไรในเพลงนี้เลย รวมไปถึงนักร้องด้วย การเรียบเรียง เนื้อเพลง แล้วก็ชื่อเพลง ‘ปลายักษ์’ ซึ่งเมื่อครู่มีคนแนะนำให้แก้!

‘หรือเป็นเพราะความประทับใจแรกนั้นดีเกินไป?’

เจิ้งลี่ครุ่นคิดเงียบๆ ตอนฟังเพลงเธอขนลุกไปทั้งตัวจนตอนนี้ยังขนลุกไม่หายเลย

แต่ว่าเหตุผลคืออะไรไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

ในความคิดของเธอ OST.เพลง ‘ปลายักษ์’ นี้สมบูรณ์แบบสุดๆ เป็นความลงตัวที่สวรรค์ประทานมาเพื่อภาพยนตร์ที่กำลังจะลงจอเรื่องนี้ของเธอเลย

วงการเพลงของฉินโจว

เป็นพยัคฆ์หมอบมังกรเร้นจริงๆ!

เซี่ยนอวี๋ เธอจำชื่อไว้แล้ว

……………………………………….

 

 

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท