ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 1 เล่ม 1 ตอนที่ 1-8

ภาค 1 เล่ม 1 ตอนที่ 1-8

“แล้วมันทำไมกันแน่ ฉันเลือกชเวอินซอบมากับมือเลยนะ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่”

“ครับ ตามเรซูเม่แล้วก็เหมือนจะเป็นแบบนั้น”

ชเวอินซอบในเรซูเม่ดูธรรมดามากพอที่จะถูกเสนอให้เป็นมาตราฐานของชายชาวเกาหลี เขาเป็นลูกชายคนที่สองจากบรรดาลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคน เขาเกิดที่โซลและเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในโซลภายในสี่ปี แม้จะมีความพิเศษตรงที่ได้เข้าทำงานและเรียนภาษาที่อเมริกาอยู่พักหนึ่งเพราะได้คะแนนโทอิกแปดร้อยคะแนนก็ตาม

“การทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวมันไม่ดูน่าเสียดายไปหน่อยเหรอครับ”

“เดี๋ยวนี้การได้งานทำก็เหมือนกับการคว้าดาวในท้องฟ้านั่นแหละ มีคนที่เรียนรู้งานจากที่นี่แล้วไปเปิดบริษัทฝึกสอนการเป็นผู้จัดการส่วนตัวด้วยเหมือนกันนะ”

“แล้วชเวอินซอบจะเป็นคนแบบนั้นหรือเปล่าครับ”

เขาไม่แม้แต่จะจินตนาการเลยว่าคนที่ดูเจียมเนื้อเจียมตัวและเงียบๆ คนนั้นจะไปทำธุรกิจ

“ไม่หรอก เด็กนั่นไม่ใช่คนแบบนั้น อืม ถึงเขาจะดูพิเศษอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ แล้วเขาทำงานเป็นยังไงบ้างล่ะ เขาทำงานดีไหม”

“ครับ”

“โอเค ใช้เขาดีๆ ล่ะ เพราะดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่ใช้ได้เลย แล้วไหนๆ ก็มาแล้ว นายเอาบทที่มีคนเสนอเข้ามาไปดูหน่อยสิ”

“บทเหรอครับ นั่นมันเป็นเรื่องที่กรรมการผู้จัดการต้องเลือกให้ผมไม่ใช่เหรอครับ”

อีอูยอนมอบอำนาจในการเลือกบทให้กรรมการผู้จัดการคิมฮักซึงมานานแล้ว เพราะสายตาของอีกฝ่ายที่ใช้ดูผลงานนั้นต่างจากคนอื่น

“ก็มันมีบทดีๆ เข้ามาเยอะเลยนี่ ชอบบทไหนบ้างไหมล่ะ”

“บทตัวร้ายครับ”

อีอูยอนยิ้มก่อนที่จะตอบ กรรมการผู้จัดการคิมปฏิเสธอย่างเฉียบขาด

“ไม่ได้ ถ้านายเล่นบทนั้นล่ะก็ มันจะน่ากลัวมากๆ เพราะนายจะเปิดเผยนิสัยจริงๆ ของนายออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าคนที่หูตาไวบางคนเขาเริ่มรู้ถึงนิสัยของนายแล้ว”

อีอูยอนที่มีภาพลักษณ์นุ่มนวลอยากจะรับบทตัวร้าย และทุกๆ ครั้งกรรมการผู้จัดการคิมฮักซึงก็จะส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด เขายืนกรานว่าเพราะมันเป็นความจริงมากเกินไป ตัวตนที่แท้จริงจะต้องโผล่ออกมาแน่ๆ

“ถ้าเล่นแต่บทคนดีมากๆ ภาพลักษณ์ของผมก็จะน่าเบื่อนะครับ บทนี้เป็นไงครับ บทฆาตกรต่อเนื่อง ดูน่าสนุกนะครับ”

อีอูยอนหยิบบทที่กรรมการผู้จัดการคิมคัดออกขึ้นมาและพูด

“…เหมาะมาก”

“ฮ่าๆๆ กรรมการผู้จัดการก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอครับ ผมจะไปฆ่าใครเขาได้ล่ะ บทนี้ก็ดูใช้ได้นะครับ บทฆาตกรโรคจิตที่รักนางเอกมากๆ จนเป็นบ้า”

“บอกว่าอย่าเล่นบทฆาตกรยังไงล่ะ พอนายเล่นบทแบบนั้นครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นมันก็จะมีบทฆาตกรเข้ามาอีกเรื่อยๆ แล้วงานโฆษณาก็จะหายไปหมดนะ”

“ผมก็หาเงินได้มากเท่าที่จะถูกลงโทษแล้วนี่ครับ ถ้าโฆษณามันจะหายไปบ้างแล้วมันจะยังไงล่ะครับ”

“พอแล้ว หยุดพูดจาไร้สาระสักที แล้วก็เอาบทพวกนี้ไปเลือก”

กรรมการผู้จัดการคิมฮักซึงว่าพลางเลื่อนบทที่ตนเลือกเอาไว้แล้วไปตรงหน้าอีอูยอน

อีอูยอนไล่สายตามองหน้าปกของบทและหยิบขึ้นมาอันหนึ่ง

“อันนี้ดูใช้ได้เลยครับ ทั้งโปรดิวเซอร์ทั้งนักเขียนก็ไม่เลว แล้วกระแสตอบรับก็น่าจะไม่แย่ด้วย เพราะมันเป็นละครที่มีเซทติ้งเป็นยุคปัจจุบัน”

“ใช่ไหมล่ะ ฉันก็ว่าเรื่องนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน นักเขียนคนนี้เขาบอกว่าอยากจะทำงานกับนาย ก็เลยส่งบทนี้มาให้ก่อนใครเลย”

“แล้วคุณก็เชื่อคำโกหกประเภทนั้นเหรอครับ กรรมการผู้จัดการคิมนี่อ่อนต่อโลกต่างจากที่เห็นเลยนะครับเนี่ย”

เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่าต่อให้พวกเขาส่งบทให้นักแสดงคนอื่นๆ แล้วถูกปฏิเสธกลับมา พวกนักเขียนก็จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และบอกว่าฉันนึกถึงคุณก็เลยเขียนมันขึ้นมากันทั้งนั้น

“ไอ้นี่หนิ เวลานายไปหาใคร ก็ต้องได้ยินข่าวลือนั้นมาบ้างไม่ใช่หรือไง เขาพูดจริงๆ นะ นี่นายจะต้องสงสัยคำพูดของคนอื่นเอาไว้ก่อนเหรอ”

“ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับ”

อีอูยอนแสยะยิ้มและมองบทอย่างผ่านๆ ทุกครั้งที่เขาแสยะยิ้ม กรรมการผู้จัดการคิมจะขนลุกขึ้นมา พวกผู้หญิงที่ไม่รู้ตัวตนของเขาชื่นชมว่าฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบของอีอูยอนนั้นสวย แต่กรรมการผู้จัดการคิม กลับไม่สามารถคิดแบบนั้นได้

“งั้นก็เล่นบทนี้แล้วกันครับ ยังไงบทมันก็ไม่แย่อยู่แล้ว”

“โอเค เข้าใจแล้ว ฉันจะติดต่อเขาไปนะ”

“ขอบคุณครับ”

อีอูยอนลุกขึ้น ในมือของเขายังคงถือเรซูเม่ของชเวอินซอบเอาไว้

“แล้วนั่นจะเอาไปไหน”

“จะเอาไปอ่านหน่อยน่ะครับ”

“อย่าทำแบบนั้นเลย มันน่ากลัวนะ ถ้าจะเขี่ยทิ้งก็เขี่ยไปเฉยๆ ก็พอ…ไม่สิ ห้ามเขี่ยทิ้งเด็ดขาดเลยนะ ได้โปรด แค่อ่านเรซูเม่ฉันก็เบื่อจะแย่แล้ว”

“ผมไม่เคยเขี่ยใครนะครับ”

อีอูยอนพูดทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะออกไป จากนั้นหัวหน้าทีมชาที่จัดการเอกสารอยู่เงียบๆ คนเดียวตรงมุมห้องก็เปิดปากพูด

“ก็ถูกของเขานะครับ หมอนั่นไม่เคยเขี่ยใคร พวกเขาออกไปเองกันทั้งนั้น”

“มีใครไม่รู้บ้างล่ะ! ยังไงก็ตามคราวนี้หัวหน้าทีมชาก็ช่วยระวังไม่ให้อีอูยอนแสดง ‘ผลงานชิ้นเอก’ ออกมาหน่อยนะ แล้วก็ช่วยชเวอินซอบเขาด้วย เข้าใจไหม”

“ครับ ผมจะทำตามนั้นครับ”

“ถ้าหัวหน้าทีมชาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของอีอูยอนก็จบแล้ว แต่ดันยืนกรานว่าต่อให้ตายก็จะไม่ทำซะได้ มันถึงได้เหนื่อยอย่างนี้ไงล่ะ”

กรรมการผู้จัดการคิมฮักซึงแผดเสียงออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ทันทีที่เขาทำแบบนั้นหัวหน้าที่ชาที่เรียงเอกสารอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมา

“…เห็นผมแล้วยังอยากให้ผมไปเผชิญกับนรกขุมนั้นอีกเหรอครับ คุณเห็นสภาพที่ผมกระอักเลือดออกมาแล้ว คุณยังจะพูดแบบนั้นอีกเหรอครับ”

“…”

 

***

 

วันต่อมาหลังจากที่พวกเขารู้นิสัยที่เน่าเฟะของอีอูยอน กรรมการผู้จัดการคิมฮักซึงก็เรียกหัวหน้าทีมชาให้มาหา และฝากฝังอีอูยอนให้เขาดูแล ตอนนั้นหัวหน้าทีมชาพยักหน้ารับอย่างมีมารยาท เพราะเขาคิดว่าถ้านิสัยที่แท้จริงของเจ้านั่นถูกเปิดเผยขึ้นมาต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ แต่ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเดือนดีคนที่เกิดเรื่องใหญ่กลับเป็นหัวหน้าทีมชาเสียเอง อีอูยอนไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อหน้าหัวหน้าทีมชาจึงแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวของตนออกมา และในที่สุดหัวหน้าทีมชาก็สำลักเป็นเลือดและล้มลงไปกอง หลังจากวันนั้นหัวหน้าทีมชาก็ประกาศว่าเขาจะไม่ทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวของอีอูยอนอีกแล้ว

“ถ้าให้ผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวของอีอูยอนอีกรอบ ผมก็ไม่ใช่คนแล้วครับ ถ้าหากทำถึงขนาดนั้น วันที่ผมคงตัดสินใจลาออกจากวงการนี้ แล้วเรียกนักข่าวของหนังสือพิมพ์กีฬามาฟังแถลงข่าวต้องมาถึงแน่ๆ เพราะฉะนั้นคุณเอาไปทำเองเถอะครับ”

“ไม่ทำ บอกว่าไม่ทำไงล่ะ”

กรรมการผู้จัดการคิมมองกระจกและจัดแต่งทรงผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเองก่อนจะเขาบ่นพึมพำ

“จิ๊ คนที่น่าจะรับนิสัยที่แท้จริงของอีอูยอนได้ทั้งหมดมันไม่มีอยู่บนโลกหรือไงกันนะ โธ่เว้ย”

หัวหน้าทีมชาวางเอกสารที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะอย่างแรงและตะโกนขึ้นมา

“ถ้ามีคนเสียสติแบบนั้นอยู่บนโลก ผมจะเรียกเขาว่าท่านพี่และติดตามเขาไปชั่วชีวิตเลยครับ! ว่ากันว่าความหวังมันก็เป็นได้แค่ความหวัง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ ให้ตายสิ!”

“ไม่มีก็ไม่มีสิ ทำไมจะต้องตะโกนด้วยเล่า”

กรรมการผู้จัดการคิมโต้กลับ หัวหน้าทีมชาพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองและออกไปเข้าห้องน้ำ กรรมการผู้จักการคิมกลืนความขมขื่นลงไปและจัดการบทที่อีอูยอนวางทิ้งไว้ เขานึกถึงชเวอินซอบ ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ที่นิสัยดีและมีความสามารถขึ้นมาในหัว

“ถ้าเขาเป็นแบบนั้นได้ก็คงจะดี…แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”

เขาส่ายหน้าและไล่ความคิดที่ผุดขึ้นมาเมื่อกี้ออกไปจากหัว

 

***

 

“นี่เป็นเนื้อหาที่จะสัมภาษณ์ในวันนี้นะครับ ส่วนคำตอบผมใช้เนื้อหาที่คุณเคยให้สัมภาษณ์ไว้เขียนเอาไว้คร่าวๆ แล้วครับ”

นี่เขาเอาเวลาที่ไหนมาเตรียมของแบบนี้ทั้งๆ ที่ทำงานตัวติดกันตั้งแต่เช้าจรดค่ำนะ เขาถึงกับสงสัยว่าเวลาของชเวอินซอบไม่ได้แบ่งเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่แบ่งเป็นสามสิบหกชั่วโมงหรือเปล่า

“…คุณไม่ต้องการเหรอครับ”

ดวงตากลมโตกะพริบซ้ำๆ และชเวอินซอบก็เอ่ยถาม

“เปล่าครับ ขอบคุณนะครับ”

อีอูยอนรับเอกสารมาถือเอาไว้และไล่สายตาอ่านคำถามและคำตอบที่อีกฝ่ายคาดเอาไว้ ปกติแล้วพวกนักข่าวจะส่งคำถามที่จะถามในวันนั้นมาก่อนสัมภาษณ์ นักข่าวที่จะสัมภาษณ์เขาวันนี้โด่งดังในเรื่องของการโยนคำถามที่ทำให้ลำบากใจใส่พวกดารา เพราะฉะนั้นบริษัทต้นสังกัดจึงเรียกร้องให้มีการส่งคำถามมาล่วงหน้า

“ดูเหมือนจะใช้เวลาในการสัมภาษณ์ประมาณหนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาทีนะครับ”

อีอูยอนอ่านกระดาษคำถามพลางประเมินเวลาและพึมพำ เขาวางแผนเอาไว้ว่าหลังเสร็จจากตารางงานนี้แล้ว เขาจะกลับบ้านไปพักผ่อน

“วันนี้น่าจะเลิกเร็วนะครับ”

“ครับ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น”

“ถ้าเสร็จงานแล้วคุณจะทำอะไรเหรอครับ ไปเดตเหรอ”

“เอ่อ ไม่มีหรอกครับ เรื่องแบบนั้นน่ะ”

“ทำไมล่ะครับ คุณไม่มีแฟนเหรอ”

“…ครับ”

เขาเห็นว่ามือที่กำลังจับพวงมาลัยอยู่นั้นเกร็งขึ้น อีอูยอนเอนตัวพิงเบาะและพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้นคุณทำอะไรในวันหยุดเหรอครับ”

“ก็แค่…พักอยู่บ้านครับ”

ทันทีที่คำตอบซึ่งไร้ซึ่งความสนุกถูกตอบกลับมา อีอูยอนก็ล้มเลิกความสนใจที่มีต่อผู้จัดการส่วนตัวไปและหลับตาลง ชเวอินซอบนึกกังวลว่าเขาควรจะตอบคำถามอื่นเพิ่มไปด้วยไหมก่อนจะตรวจดูให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับตาลงไปแล้วและถอนหายใจออกมา ชเวอินซอบจอดรถลงตรงหน้าคาเฟ่ย่านชองดัมดงซึ่งเป็นสถานที่นัด เขาหันกลับไปถามอีกฝ่าย

“ถึงแล้วครับ จะให้ผมไปรอที่ไหนดีครับ”

“เข้าไปดื่มชาด้วยกันสักแก้วสิครับ”

“ครับ? ผมว่า…”

แม้แต่คำพูดที่ไม่ได้สำคัญอะไร ชเวอินซอบก็ยังทำสีหน้าจริงจังและโบกไม้โบกมือปฏิเสธ อีอูยอนบอกว่าเขาล้อเล่นและลงไปจากรถ ชเวอินซอบกดมืออีกข้างลงกับฝ่ามือของตัวเอง มันเป็นนิสัยที่เพิ่งเกิดขึ้นช่วงนี้ เอาล่ะ ตั้งสติซะ!

“สู้ๆ”

ชเวอินซอบเอาฝ่ามือตบเข้าที่แก้มและเรียกพลังกายและใจของตัวเอง เขานึกถึงสุภาษิตเกาหลีที่บอกไว้ว่า ‘ต่อให้ถูกเสือกัด ถ้าหากมีสติเราก็จะสามารถเอาชีวิตรอดได้’

เขาหาที่จอดรถเป็นอันดับแรก พอจอดรถเสร็จแล้วเขาก็เดินออกมาข้างนอก ชเวอินซอบดูให้แน่ใจว่าอีอูยอนกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับนักข่าวในคาเฟ่ที่เป็นกระจกบานใหญ่บานเดียว แล้วจับจองที่นั่งบริเวณโซนที่นั่งด้านนอก พนักงานในร้านออกมาด้านนอกและบอกเขาว่าด้านในยังมีที่นั่งอยู่ แต่เขาตอบกลับไปว่าเขาจะอยู่ตรงนี้ เนื่องจากอากาศยังหนาวอยู่ พนักงานผู้ใจดีจึงเอาผ้าคลุมตักมาให้ลูกค้าผู้แสนประหลาดพร้อมกับกาแฟที่เขาสั่ง ชเวอินซอบคลุมผ้าลงบนตักของตัวเองและกุมแก้วกาแฟอุ่นๆ ไว้เพื่อให้นิ้วที่กำลังชาของเขาอุ่นขึ้น

ตามข้อมูลที่เขารวบรวมมาตลอด อีอูยอนไม่ชอบให้ผู้จัดการส่วนตัวตามติดอยู่ข้างๆ ตน การรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ใจจริงเขาจะอยากเกาะติดอยู่ข้างๆ และถ่ายรูปอีกฝ่ายสักวินาทีละใบ แต่ตอนนี้เขาทำแบบนั้นไม่ได้ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ชเวอินซอบรู้ถึงความจริงที่ว่าระยะเวลาที่ตัวเองจะได้อยู่ข้างๆ อีอูยอนในฐานะผู้จัดการส่วนตัวอย่างมากที่สุดก็คือสามเดือน

“อยู่เฉยๆ เถอะ เพราะนี่มันก็เป็นวันที่สิบแล้ว…เฮ้อ”

ชเวอินซอบลองเอานิ้วขึ้นมานับเวลาที่ตัวเองเหลืออยู่และถอนหายใจ

ชเวอินซอบเบนสายตากลับไปที่อีอูยอนด้วยความเคยชิน

ภาพของอีอูยอนที่กำลังพูดคุยกับนักข่าวอยู่ตรงหน้าต่างช่างงดงามราวกับภาพวาด เขามองภาพของอีอูยอนผู้มีใบหน้าสุภาพอ่อนโยนและงดงามถือแก้วกาแฟเอาไว้ในมือราวกับมองภาพวาดที่ถูกศิลปินผู้มอบวิญญาญให้ซาตานวาดขึ้น

“…เอ๊ะ?”

ชเวอินซอบที่แอบมองภาพด้านข้างของอีอูยอนอยู่นั้นลุกขึ้นอย่างไม่ลังเล

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท