ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 1 เล่ม 2 ตอนที่ 5-8

ภาค 1 เล่ม 2 ตอนที่ 5-8

“ผู้จัดการส่วนตัวของคุณอีอูยอน!”

ใครบางคนตามหาอินซอบพร้อมกับวิ่งมาทางนี้ อินซอบเด้งตัวขึ้นทันที

“ครับ!”

“คุณอูยอนตามหาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วครับ ทำไมถึงมาอยู่ตรงมุมนี้ล่ะครับ รีบไปเถอะครับ เขาอยู่ที่หน้าเซต[1] หมายเลขสอง”

อินซอบวางข้าวกล่องที่กำลังกินอยู่ลงบนที่นั่ง

“กินต่ออีกนิดแล้วค่อยไปสิคะ ยังไงซะนี่ก็เป็นการกระทำที่ต้องกินให้หมดเพื่อมีชีวิตอยู่อยู่แล้ว”

“ขอโทษนะครับ คุณกินหมดแล้วก็วางไว้ที่นี่ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมกลับมาเก็บ”

“เอ๋ ไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันเก็บให้เอง ไม่ต้องกังวลแล้วก็กลับเข้าไปเถอะค่ะ”

อินซอบขอบคุณเธอและรีบก้าวเท้าไปเซตหมายเลขสอง ตลอดทางที่เดินไปเขาคิดว่าเขาจะต้องมองหน้าอีอูยอนอย่างไรดีและรู้สึกหนักใจ อินซอบไม่พูดอะไรกับอีอูยอนเลยแม้แต่คำเดียวตลอดการเดินทางมาที่กองถ่ายวันนี้ อันที่จริงถ้าจะบอกว่าวันนี้เขาพยายามหนีอีอูยอนอยู่ตลอดทั้งวันก็ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงนัก

ปกติแล้วเขาจะรอให้อีอูยอนเรียกอยู่เงียบๆ ในที่ที่มองเห็นได้เสมอ แต่วันนี้เขาซ่อนตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ถ้าอีกฝ่ายกำลังถ่ายละครอยู่ เขาจะไปซ่อนที่ด้านหลังต้นไม้ และถ้าอีกฝ่ายพัก เขาก็จะไปซ่อนที่ด้านหลังฉาก

ตอนกินข้าวก็เหมือนกัน เขาจงใจหามุมเพื่อกินข้าวคนเดียว แต่สุดท้ายมันก็เปล่าประโยชน์เพราะการเรียกตัวของอีอูยอน

“เฮ้อ…”

เงาที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาที่กำลังถอนหายใจเฮือกใหญ่

“กลุ้มใจอะไรอยู่เหรอครับ”

“…!”

”ทำไมถึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะครับ”

“เปล่าครับ เปล่า ผมได้ยินว่าคุณตามหาผมอยู่…”

อินซอบลูบชายเสื้อในขณะที่ก้มหน้าอยู่ แม้เขาจะรู้ว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่เป็นผู้ใหญ่ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แค่ความจริงที่ว่าเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าอีอูยอนในตอนนี้ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวสมองขาวโพลนแล้ว

“ผู้กำกับบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาเพราะตารางการถ่ายทำน่ะครับ ผมตามหาคุณอินซอบเพราะผมบอกเขาไปว่าถ้าเป็นเรื่องตารางงานผู้จัดการส่วนตัวน่าจะรู้ดีกว่าผม”

“ผู้กำกับเหรอครับ”

ชเวอินซอบกะพริบตาพร้อมกับเงยหน้าขึ้น

“คุณลองปรึกษากับผมก่อนแล้วค่อยไปคุยกับผู้กำกับนะครับ”

“…ครับ”

อีอูยอนมองผู้จัดการส่วนตัวที่ไร้ความมีชีวิตชีวาในดวงตาและกำลังก้มหน้าเพราะคำพูดนั้น เขาอยากจะคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายมาและพูดว่า ‘ถ้าอยากจะหลอกคน ก็ช่วยทำให้มันดีๆ หน่อยสิ’ แต่เขายังคงสนุกกับสภาพของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนสีหน้าไปเรื่อยๆ เพราะคำพูดของตน

“วันพุธผมว่างตั้งแต่กี่โมงเหรอครับ”

“อาจจะว่างช่วงบ่ายสามโมงครับ เพราะตอนเช้ามีให้สัมภาษณ์หนึ่งที่”

“แล้ววันศุกร์ล่ะครับ เราสามารถหาเวลาตอนเช้าได้หรือเปล่า”

“ไม่ได้ครับ แต่ถ้าเป็นเช้าวันเสาร์ก็ได้อยู่ครับ ขอผมเช็กสักครู่…”

อินซอบหยิบสมุดโน้ตออกมาจากกระเป๋า

“ครับ เช้าวันเสาร์…!”

อีอูยอนยื่นหน้าเข้ามาจ้องสมุดโน้ตของอินซอบ อินซอบที่ตื่นตกใจพยายามจะปิดสมุด แต่อีอูยอนกลับคว้ามันไว้ก่อน อินซอบที่โดนแย่งสมุดไปตกใจและวิ่งเข้าใส่อีกฝ่าย

“เอาคืนมานะครับ!”

อีอูยอนชูสมุดโน้ตไว้เหนือหัวพร้อมกับแกล้งกางมันออก อินซอบรีบเอื้อมมือออกไป เขาพยายามเอื้อมมือสุดชีวิต เพราะมันเป็นเหมือนกับไดอารี่ที่เขาจดข้อมูลเกี่ยวกับอีอูยอนและความรู้สึกทั้งหมดของตนเอาไว้

“เอาคืนมานะครับ! ห้ามดูนะครับ! ดูไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ!”

คนที่ผ่านไปมามองอินซอบที่กระโดดโหยงเหยงไปรอบๆ ตัวอีอูยอนพร้อมกับส่งเสียงร้อง แล้วระเบิดหัวเราะ อินซอบอยากจะร้องไห้ ถึงมันจะดูเป็นการแกล้งกันเล่นสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเขานี่เป็นปัญหาร้ายแรง

ที่หน้าแรกของสมุดโน้ตมีรูปที่เขาถ่ายกับเจนนี่เสียบไว้อยู่ ถ้าใช้สมุดโน้ตจนหมดแล้วเขาก็จะเอารูปไปเสียบไว้ที่สมุดโน้ตเล่มใหม่เสมอ เขาไม่อยากให้อีอูยอนเห็นอะไรทั้งนั้น

“เอาคืนมานะครับ! คืนมาสิครับ!”

ตอนแรกมันก็เป็นแค่การล้อเล่น แต่ทันทีที่อินซอบทำหน้าตาซีเรียสแบบนี้และขึ้นเสียง ความคิดที่จะคืนสมุดโน้ตให้อีกฝ่ายของอีอูยอนก็ค่อยๆ หายไปทีละน้อย

“เขียนด่าผมไว้เหรอครับ”

อินซอบกระโดดสุดแรงที่มีและเอื้อมมือออกไปทันทีที่อีอูยอนกางสมุดโน้ตออก อีอูยอนที่ใส่ใจกับการออกกำลังกายจนไม่สามารถเทียบกับคนทั่วไปได้เอี้ยวตัวเบาๆ หลบมือของอินซอบ ดังนั้นอินซอบจึงล้มลงไปบนพื้นด้วยสภาพที่นอนแผ่เหมือนกับกบที่โดนไฟดูด

คนอื่นๆ ระเบิดหัวเราะให้กับท่าทางของเขาที่ล้มเสียงดัง แผละ

“ฮ่าๆๆ คุณอีอูยอนทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะคะ”

“คุณอูยอนขี้เล่นกว่าที่เห็นอีกนะคะเนี่ย”

อีอูยอนหัวเราะอย่างร่าเริงพร้อมกับใส่หน้ากากของดาราดังที่ขี้เล่น

“เพราะผู้จัดการส่วนตัวน่ารักน่ะครับ ผมก็เลยอยากแกล้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลย”

เขานั่งยองๆ ลงข้างตัวของอินซอบที่นอนคว่ำอยู่บนพื้น

“ผมจะคืนให้นะครับ ลุกขึ้นมาเถอะครับ”

“…”

“ไม่ลุกเหรอครับ อย่างนั้นผมเอาไอ้นี่ไปได้ไหมครับ”

อินซอบเงยหน้าขึ้นมา อีอูยอมก้มมองอีกฝ่ายที่อยู่ในสภาพกัดฟันเพื่อกลั้นน้ำตาพร้อมเผยยิ้มจางๆ ใครบอกให้เล่นซ่อนหาอยู่ได้ทั้งวันกันล่ะ พอหาเจอแล้วก็ยังทำให้รำคาญโคตรๆ อีก แค่วันนี้วันเดียวเขาไม่รู้เลยว่าเขาจับสตาฟมาถามหาอินซอบไปกี่คนแล้ว

อีอูยอนเขย่าไหล่ของอินซอบเหมือนกับแกล้งเพื่อนสนิทเล่น

“ลุกขึ้นเถอะครับ”

อีอูยอนช่วยจับอินซอบให้ลุกขึ้น ทันทีที่อินซอบลุกขึ้นจากพื้นเขาก็ยื่นมือขอสมุดโน้ตคืนอีกครั้ง อีอูยอนฉวยมือของอินซอบเอาไว้ในครั้งเดียว เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนั้น จากนั้นก็ลองเขย่ามันไปมาอย่างหยอกเย้า

“ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ”

“ครับ…ผมไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนครับ ช่วยคืนมันมาด้วยครับ”

เขาสนุกกับอินซอบที่แกล้งทำเป็นนิ่งและพูดทั้งๆ ที่น้ำตาคลอ

คนที่ผ่านไปมาเริ่มเข้าข้างอินซอบและบอกว่า ‘คืนเขาไปเถอะค่ะ’ เขาจึงต้องหยุดการแกล้งไว้ตรงนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องคืนให้ตอนนี้ แต่อีอูยอนไม่รู้สึกอยากทำแบบนั้นเลยสักนิด

รู้สึกทุกข์แล้วสินะ เราจะต้องหยุดแกล้งตอนนี้ แต่เป็นปัญหาเข้าแล้วล่ะ เพราะเราสนุกขึ้นเรื่อยๆ เลย

อีอูยอนค่อยๆ ยิ้มพร้อมกับพิจารณาใบหน้าของอินซอบ และเขาก็เริ่มคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะทำสีหน้าทุกข์ใจได้มากแค่ไหน

ชเวอินซอบกัดริมฝีปากไว้แน่น การรอจนกว่าอีอูยอนจะคืนสมุดโน้ตให้ก็เหมือนกับถูกเจอเนื้อหาที่อยู่ในนั้นทั้งหมดนั่นแหละ

เขาค่อยๆ รู้สึกกลัวขึ้นมาทันทีที่คิดว่าตอนนี้อีอูยอนอาจจะรู้เรื่องของตนขึ้นมาก็ได้ แม้จะกลัว แต่เขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะได้รับสายตาดูถูกจากอีอูยอน

อีอูยอนหยุดยิ้มทันทีที่ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องมองมายังตน

อีกแล้ว กลุ่มก้อนของความรู้สึกที่ทั้งหนักและอุ่นตีตื้นขึ้นมาตั้งแต่ในท้องจนถึงคอหอย

“…!”

อินซอบพุ่งตัวใส่อีอูยอนด้วยแรงทั้งหมดที่มี มันเป็นแรงที่ถ้าไม่ตายก็ทำให้หมดสติ

“อึก-!”

นี่เป็นการจู่โจมที่ไม่คาดคิด

อีอูยอนที่ไม่คิดว่าจู่ๆ ผู้จัดการส่วนตัวผู้เรียบร้อยจะพุ่งใส่ตนเองเสียการทรงตัวและล้มไปด้านหลัง ทั้งคู่ล้มลงบนพื้นในขณะที่นอนทับกัน

อีอูยอนใช้มือข้างหนึ่งดึงไหล่ของอินซอบเข้ามากอดตามสัญชาตญาณ ไหล่บางนั้นถูกโอบกอดเอาไว้ในอ้อมกอดได้ทั้งหมด ความรู้สึกหอมหวานไล่ขึ้นมาตามนิ้วมือของอีอูยอน

ชเวอินซอบไม่ปล่อยโอกาสนี้ไว้ เขารีบแย่งสมุดโน้ตกลับมาถือไว้

“ผมขอเอาคืนนะครับ”

อินซอบปัดฝุ่นที่เปื้อนสมุดโน้ตก่อนจะเอาใส่กระเป๋าพลางเอ่ยพูด เขากระหยิ่มยิ้มย่องเหมือนกับเขาสามารถต่อยอีอูยอนให้ล้มได้ในหมัดเดียวอย่างเท่ๆ

แต่ความจริงแล้วอีอูยอนกำลังเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้างงงวย อินซอบยื่นมือออกไปเพื่อจะช่วยพยุงให้อีกฝ่ายลุก

“ลุกขึ้นนะครับ”

เขาอารมณ์ดี นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่มาเกาหลีที่เขารู้สึกเหมือนยืนอยู่เหนือกว่าอีอูยอน

“คะ คุณอูยอน มือ…”

แต่ความรู้สึกที่ว่าตนเองอยู่เหนือกว่าก็อยู่ได้ไม่ถึงสามวินาที อินซอบหน้าซีดเพราะผู้ประสานงานที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ ทำหน้าซีดพร้อมกับตะโกนเสียงดัง

ใต้ฝ่ามือของอีอูยอนที่ยันพื้นไว้เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด

“อ๋อ เหมือนจะบาดเจ็บนิดหน่อยน่ะครับ”

อีอูยอนพูดพลางโบกมือเหมือนกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เลือดค่อยๆ หยดลงมาบนเสื้อของเขา ดูเหมือนว่ามือที่ยันไว้ตอนที่ล้มไปข้างหลังจะแตก ถึงแม้จะไม่ใช่บาดแผลที่ลึกถึงขนาดเห็นกระดูก แต่เลือดก็ไหลออกมาพอสมควรเพราะแผลลึก

“ไม่เป็นไรครับ”

อีอูยอนยิ้มพลางเอ่ยพูดอย่างสง่าผ่าเผยไปทางอินซอบ แต่คำพูดนั้นกลับไม่เข้าหูของอินซอบแล้ว เขาหน้าซีดเหมือนกับมือของตัวเองถูกตัดและเหม่อมองเลือดที่ไหลจากมือของอีอูยอน ผู้กำกับเวทีที่รีบวิ่งมาหาสำรวจมือของอีอูยอนพลางนิ่วหน้า เลือดไหลออกมาจากแผลที่แตกเป็นหลุมลึกไม่หยุด

“ขยับได้ไหมคะ”

“ครับ”

อีอูยอนขยับนิ้วทีละนิ้วให้ดู เลือดที่ให้ไปตามนิ้วทำให้ปลายแขนเสื้อเปียกชุ่ม ผู้กำกับเวทีอีกคนถือกล่องปฐมพยาบาลออกมา อีอูยอนไม่นิ่วหน้าเลยสักครั้งในขณะที่โดนล้างแผลและทายาที่มือ

“อื้อ น่าจะเจ็บมากเลยนะคะ จะไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอคะ”

ผู้กำกับเวทีที่ช่วยพันผ้าพันแผลให้ถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ครับ แค่นี้เอง”

“วันนี้มีฉากบนหลังม้าไม่ใช่เหรอคะ”

อีอูยอนสำรวจใบหน้าของอินซอบที่กำลังยืนนิ่งแทนที่จะตอบ เป็นไปตามที่คิด สีหน้าของอินซอบซีดจนเหมือนจะเป็นลมในอีกไม่ช้า อินซอบยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกัดปากเอาไว้จนกระทั่งแผลถูกพันด้วยผ้าพันแผลจนหมด

“ขอโทษครับ”

อินซอบที่นิ่งเงียบด้วยความกังวลอ้าปากพูดเป็นครั้งแรก

“อะไรนะคะ”

“เพราะผม…เป็นเพราะผมครับ”

เนื่องจากเขาพูดได้แค่นี้ อินซอบจึงกลืนน้ำลายก่อนจะพูดต่อ

“มือเขาเป็นแบบนั้นเพราะผมทำให้เขาล้มครับ ขอโทษจริงๆ นะครับ”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

อีอูยอนมองมือที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้พลางเถียงกลับอย่างร่าเริง

“ผมยินดีรับการลงโทษที่ทำให้เกิดเรื่องคราวนี้เป็นอะไรก็ได้ครับ”

ดูเหมือนชเวอินซอบจะคิดว่าไม่ว่าอย่างไรเรื่องคราวนี้คงทำให้ตนเองโดนไล่ออกอย่างแน่นอน อีอูยอนอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เมื่อคิดว่าชเวอินซอบไม่ได้เป็นห่วงมือที่บาดเจ็บของเขา แต่กังวลว่าตนเองจะถูกไล่ออก ความรู้สึกเคืองอุ่นๆ ก็พุ่งจากท้องขึ้นมาถึงคอหอย

“ลงโทษเหรอครับ ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะครับ ผมเสียใจนะ”

อีอูยอนแสดงสีหน้าไม่ดีอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับพูดต่อ

“คิดว่าผมจะไล่ผู้จัดการส่วนตัวออกด้วยเรื่องแบบนี้เหรอครับ…อึก”

ทันทีที่อีอูยอนที่สอดมือไว้ในกระเป๋าร้องเพราะความเจ็บ อินซอบทำตัวไม่ถูกและสำรวจสีหน้าของอีกฝ่าย

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไปโรงพยาบาลตอนนี้เลยไหมครับ จะให้ผมติดต่อกรรมการผู้จัดการไหมครับ คุณเจ็บมากหรือเปล่าครับ”

อีอูยอนรู้สึกพอใจพิลึกกับท่าทางที่อีกฝ่ายจดจ่อกับความเจ็บปวดของตน

“ไม่ได้เจ็บมากหรอกครับ น่าจะทนไหวอยู่นะครับ”

“ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ ครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็เล่นแรงเกินไป ผมสิครับที่ต้องขอโทษ โล่งอกไปทีนะครับที่คุณอินซอบไม่ได้บาดเจ็บ”

คนอื่นๆ รู้สึกประทับใจกับภาพของนักแสดงอีอูยอนที่พูดพลางยิ้มอย่างใจกว้าง ในกองถ่ายพวกเขาเคยเจอดาราคนอื่นโกรธจัดและขึ้นเสียงให้กับความผิดพลาดเล็กๆ ของผู้จัดการส่วนตัวมามาก

อีอูยอนเป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์สำหรับคนที่ทำงานอย่างยากลำบากในกองถ่าย อินซอบที่ทำให้คนแบบนั้นบาดเจ็บไม่สบายใจอย่างที่พูด ผ่านไปไม่นานผู้กำกับที่ทราบข่าวก็วิ่งหอบมาในทันที

“อะไรเนี่ย เป็นแบบนี้ได้ยังไง”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับผู้กำกับ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่เหรอ มือเป็นแบบนี้แล้ววันนี้จะถ่ายต่อได้เหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”

อินซอบห่อไหล่ทันทีที่ผู้กำกับถามเสียงสูง อีอูยอนกั้นไม่ให้เขาเดินออกมาข้างหน้า

“ผมล้มเองครับ”


[1] เซต ฉากที่ถูกทำหรือสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการถ่ายทำ

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท