ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 10-6

ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 10-6

“ว้าว โรแมนติกมากเลย”

“นี่เป็นเรื่องเล่าที่มักจะออกมาในหนังโรแมนติกที่ไหนหรือเปล่าคะ”

อินซอบสำลักไซเดอร์ที่ดื่ม และไอโขลกๆ อยู่พักหนึ่ง ส่วนคนที่เหลือกำลังโหวกเหวกเรื่องรักแรกที่โรแมนติกของอีอูยอน อินซอบใช้ทิชชู่เช็ดไซเดอร์ที่ไหลเลอะเสื้อพลางมองอีอูยอน อีกฝ่ายฉีกยิ้มราวกับจะทำให้คนใจสั่น และพูดคุยกับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ไอ้คนนิสัยไม่ดี โกหกหน้าตาเฉยได้ขนาดนั้นเลยเหรอ

อินซอบเป็นคนส่งโปสการ์ดให้อีกฝ่ายเอง และทั้งหมดนั่นก็หมายถึงของเจนนี่ ในคำสั่งเสียของเธอเขียนไว้ว่า ‘โปสการ์ดที่รวมมาตลอดให้ปีเตอร์’ เขาดูแลรักษาโปสการ์ดที่มีอยู่เต็มกล่องหนึ่งกล่องอย่างดี และค้นหาคำพูดต่างๆ ที่เธอไม่สามารถส่งไปถึงฟิลลิปได้ในไดอารี่ของเธอขณะที่อ่านทีละคำๆ แม้เธอจะบอกว่าเกลียดฟิลลิป แต่เธอก็หวังอย่างจริงจังว่าเขาจะจำเธอได้ เขาครุ่นคิด และตัดสินใจหาคำพูดที่เธอไม่สามารถพูดออกไปได้ทีละคำๆ เพื่อเขียนลงในโปสการ์ดที่เธอยกให้ และส่งให้ฟิลลิปเดือนละครั้ง มันก็เท่านั้นเอง

พอเห็นอีอูยอนกุเรื่องขึ้นมาว่าเป็นผู้หญิงที่เจอกันที่ห้องสมุด และเป็นรักครั้งแรกที่ไม่สมหวังแล้ว อินซอบก็รู้สึกแค้นใจขึ้นมาอย่างร้ายกาจ

…คนแบบนั้นเป็นรักแรกของเรากับเจนนี่เหรอเนี่ย

“คุณอินซอบไม่มีรักครั้งแรกเหรอคะ”

“ระ รักครั้งแรกเหรอครับ…ก็มีนะครับ”

พออินซอบพูดอ้อมแอ้มด้วยใบหน้าขมขื่น หลายๆ คนก็หันความสนใจมาที่เขา

“มีแต่ทำไมเหรอคะ เป็นไปได้ไม่ดีเหรอคะ”

“ครับ แบบนั้นแหละครับ”

มันไม่ได้เป็นไปด้วยดี อินซอบพยักหน้าพลางนึกถึงความพินาศของรักครั้งแรกที่เป็นอยู่ในขณะนี้

“จะบอกว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีเหรอครับ”

อีอูยอนแทรกเข้ามาในบทสนทนา

“ใครเหรอคะ รักครั้งแรกของคุณอินซอบเป็นผู้หญิงไม่ดีเหรอ”

“คราวก่อนก็บอกกับผมแบบนั้นนะครับ ว่าเป็นคนไม่ดี”

รอยยิ้มแปลกๆ หายไปจากดวงตาของอีอูยอน

“ผู้หญิงไม่ดีเนี่ย เป็นพวกนางงูพิษ[1] เหรอ”

“แบบนั้นถ้าจะบอกว่าเป็นไปได้ไม่ดี แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นเรื่องดีซะด้วยซ้ำนะคะ”

อีดายองปลอบใจอินซอบก่อนจะพูดต่อ

“คุณอินซอบต้องระวังผู้หญิงไม่ดีนะคะ จะต้องคบแต่ผู้หญิงใจดีเท่านั้นนะ”

“โอ๊ะโอ คุณดายองเป็นห่วงพี่อินซอบซะแล้วเหรอ”

“ก็คุณอินซอบน่าเป็นห่วงมากเลยนี่คะ ดูเหมือนคนที่จะตกหลุมพรางผู้หญิงไม่ดี แล้วโดนเอาหลอดปักหลังแล้วสูบเงินกินเลย”

“หลอด…”

อินซอบนิ่วหน้าไปพักหนึ่ง เพราะนึกถึงภาพที่น่ากลัว

“อย่าคบกับผู้หญิงแบบนั้นนะคะ ต่อไปก็คบแต่กับผู้หญิงดีๆ เถอะค่ะ”

อีดายองยิ้มพลางแนะนำอินซอบ แม้คนอื่นๆ จะล้อเลียน และแซวเธอเล่น แต่เธอกลับหัวเราะเหมือนไม่สนใจ

“ครับ ขอบคุณนะครับ ผมจะทำแบบนั้นครับ”

อินซอบพยักหน้าพลางยิ้มให้กับการทุ่มเทใจที่สวยงามของผู้หญิงที่ใส่ใจตนเอง ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นคนอื่นที่เพิ่งจะเคยเจอเธอวันนี้

บรรยากาศในวงเหล้าค่อยๆ ได้ที่ คนอื่นๆ ปรบมือและเพลิดเพลินไปกับการมองหัวหน้าทีมชาที่เมาแล้วร้องเพลงไปด้วยเต้นไปด้วย

ระหว่างที่ดื่มไซเดอร์ ความคิดของอินซอบก็เปลี่ยนไป ดีแล้วที่เขามางานเลี้ยง แม้เขาจะไม่สามารถทำตัวกลมกลืนไปกับบรรยากาศนี้ได้เต็มที่ แต่แค่มองดูคนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างเพลิดเพลินอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นแล้ว

“กรรมการผู้จัดการจะไปต่อรอบสองใช่ไหมคะ”

“แน่นอนสิ ยังไงก็ต้องมีรอบสองอยู่แล้ว วันนี้ทุกคนห้ามกลับบ้านนะ!”

กรรมการผู้จัดการที่ไหลไปตามบรรยากาศแล้วตะโกนชวนคนอื่นๆ ไปคาราโอเกะ หัวหน้าทีมชาร้องว่า ‘ว้าวๆ’ พร้อมกับต้อนคนอื่นๆ ไปด้วย

อีอูยอนลุกขึ้นก่อนจะกล่าวลาว่า ‘ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ’

“ทำไมล่ะคะ คุณอูยอนมีตารางงานพรุ่งนี้เช้าเหรอ”

“งั้นคุณอินซอบก็ต้องไปด้วยสินะคะ”

“อย่าทำแบบนั้นสิ ทั้งสองคนไปต่อรอบสองด้วยกันเถอะค่ะ”

“ผมเหนื่อยนิดหน่อยน่ะครับ”

อินซอบเอียงคอด้วยความสงสัย อีอูยอนจะไม่พูดคำว่าเหนื่อยออกมาง่ายๆ แต่ดูจากวิธีการพูดตั้งแต่เมื่อกี้ สภาพของอีกฝ่ายก็ดูไม่ดีจริงๆ…แต่เขาก็อยากจะไปสถานที่ที่เรียกว่าร้านคาราโอเกะสักครั้ง น่าเสียดายจัง

“นี่ รีบกลับไปสิ”

กรรมการผู้จัดการคิมขยับนิ้วใส่อีอูยอน เป็นท่าทีเหมือนจะบอกว่า ‘เจ้าผีร้าย จงกลับไปซะ’

“กลับแล้วนะครับ วันนี้สนุกมากเลยครับ ขอให้ทุกคนไปเที่ยวเล่นกันให้สนุกนะครับ”

อีอูยอนยิ้มพลางร่ำลา อินซอบเองก็ก้มหัวร่ำลาคนอื่นๆ อยู่ด้านหลังอีกฝ่าย คนอื่นๆ โหวกเหวกโวยวายพร้อมกับออกจากร้านไป อินซอบใส่รองเท้าก่อนจะเหลือบมองอีอูยอน

…เขาดูอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัดเลย

ในเวลาแบบนี้การไม่พูดอะไรด้วยเป็นเรื่องดีที่สุด อินซอบเดินห่างออกมาจากข้างตัวของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุดในขณะที่เดินลงไปที่ลานจอดรถพร้อมกับอีอูยอน

เขาปิดประตูรถตู้ที่จอดอยู่ แล้วจู่ๆ อีอูยอนก็คว้าแขนของอินซอบไว้จากทางด้านหลัง

“…?”

“มานี่ครับ”

อีอูยอนลากอินซอบไปที่เบาะหลังและปิดประตูก่อนที่เขาจะทันได้ถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้นเสียอีก อินซอบตัวสั่นด้วยความรู้สึกกังวลใจ เพราะประสบการณ์แบบเดียวกันที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้พลางเงยหน้ามองอีอูยอน

“ทำไม…ถึงทำแบบนี้ล่ะครับ”

แม้ตอนนั้นจะเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่ได้ยินยอม และการรองปัสสาวะของคังยองโมก็กวนใจอีอูยอน แต่วันนี้เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เขาดื่มแค่น้ำไซเดอร์ เพราะอีกฝ่ายสั่งไม่ให้เขาดื่มเหล้า และตอบรับเรื่องที่คนอื่นๆ คุยกันอย่างมีมารยาทมากที่สุด แถมเขายังไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ ด้วย

อินซอบรู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกเคี้ยวดัง กร้วมๆ เพราะสายตาที่เย็นชาของอีอูยอนที่กำลังมองตนอยู่ แม้จะลองพยายามนึกดูแล้ว แต่วันนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย เขาจึงเงยหน้าขึ้น และรวบรวมความกล้าอีกครั้งก่อนจะเอยถาม

“เป็นอะไรไปครับ ผมทำอะไรผิดเหรอครับ”

อีอูยอนส่ายหัวพลางตอบว่า ‘เปล่า’

“ผมแค่อารมณ์ไม่ดีเฉยๆ ครับ”

อีอูยอนพูดแบบนั้น เขาค้นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่วางไว้ด้านหลังรถตู้และหยิบเนคไทออกมา

“ยื่นมือไปด้านหลังครับ”

“…ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ”

“ยังไงซะไม่ว่าผมจะทำ หรือคุณอินซอบจะให้ ผลลัพธ์มันก็เหมือนกันอยู่ดีแหละครับ อย่าทำให้ทั้งผมและคุณต้องเปลืองแรงเลยครับ แล้วก็ช่วยให้อย่างว่านอนสอนง่ายด้วย”

ผู้ชายที่สามารถชักจูงใครก็ได้ขอให้เขาเอามือไปด้านหลัง แต่เขาจำเป็นต้องตอบรับอีกฝ่ายอย่างว่านอนสอนง่ายด้วยเหรอ อินซอบขัดขืนสุดชีวิต

“ไม่ครับ ทำไมผมต้องทำด้วย…!”

คำพูดของอีอูยอนเป็นความจริง เขาใช้มือข้างหนึ่งกดอินซอบไว้เบาๆ และเริ่มใช้เนคไทมัดมือของอินซอบ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลาแค่ชั่วพริบตา

“ไม่เอาครับ คุณอีอูยอน ผมไม่อยากทำเรื่องแบบนี้”

ชเวอินซอบตะโกน

“เรื่องแบบไหนเหรอครับ”

“…!”

“จะบอกว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไรเหรอครับ”

อีอูยอนพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ พลางทำตายิ้ม อินซอบรู้ว่าความจริงแล้วอีกฝ่ายโมโหมาก แต่ในเมื่อไม่สามารถรู้เหตุผลได้ เขาเองก็งงและโมโหเหมือนกัน

“ช่วยแกะให้หน่อยครับ แกะมือให้หน่อยนะครับ”

“อยู่นิ่งๆ สิครับ กระดูกนิ้วมือยังสมานกันได้ไม่ดีเลยนะครับ เดี๋ยวก็บาดเจ็บหรอก”

แม้จะเป็นน้ำเสียงที่เป็นห่วง แต่อีอูยอนกลับดึงเนกไทที่มัดมือของอินซอบให้แน่นขึ้นและตรวจสอบอยู่ถึงสองสามครั้ง

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“เรียบร้อยอะไรล่ะ…! จะทำอะไรน่ะครับ”

อีอูยอนปลดกระดุมกางเกงของอินซอบจากทางด้านหลัง แม้เขาจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อหนีออกมาจากเงื้อมือของอีกฝ่าย แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เขารูดกางเกงพร้อมกับกางเกงในของอินซอบลงไปในคราวเดียว ความรู้สึกอับอายที่โดนจับแก้ผ้าสมจริงขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ เพราะอากาศเย็นๆ ภายในรถ

“มะ ไม่เอา…มะ ไม่ทำครับ”

“ผมเป็นคนตัดสินใจเองครับว่าจะทำหรือไม่ทำ คุณอินซอบแค่อ้าขา แล้วก็ทำให้แข็งก็พอครับ”

“ทำไมผมถึง…!”

“ถามว่าทำไมน่ะเหรอครับ ก็เพราะคุณตัดสินใจที่จะทำแบบนั้นแล้วไงครับ”

อีอูยอนพูดอย่างเป็นธรรมชาติ

“ก็วันนั้นคุณมาหาผมเพื่อปรึกษาเรื่องนั้นร่วมกันนี่ครับ แล้วคุณก็เซ็นสัญญาแล้วด้วย”

“สัญญานั่นทำเพื่อความสัมพันธ์แบบเป็นทางการกับบริษัทนี่ครับ คะ คุณไม่เคย…พูดถึงเรื่องแบบนี้เลยนะครับ”

อีอูยอนพูดว่า ‘อย่างนั้นเหรอครับ’ พลางเอียงคอ แล้วเขาก็พูดต่อ

“งั้นพูดตอนนี้เลยก็ได้ครับ เพราะคุณชเวอินซอบชอบผม ก็เลยทำเรื่องที่ไม่น่าไว้ใจ แล้วผมก็จะต้องเชื่อเรื่องพวกนั้นถูกไหมครับ”

“…”

“ตั้งแต่นี้ต่อไปจะมีเรื่องเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการเชื่อใจนั้นด้วยครับ ถ้าผมต้องการ คุณก็ต้องอ้าขาให้”

“มะ ไม่เอา…”

“ถ้าบอกว่าไม่ ผมจะไปเรียกชเวอินซอบคนนั้นมานะครับ แล้วผมก็เริ่มคิดแล้วว่าชเวอินซอบคนนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับไอ้คนที่ลอบทำร้ายผมกับคังยองโมก็ได้”

“ไม่มีครับ! ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอกครับ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลยครับ”

“ไม่มีอยู่แล้วล่ะครับ ผมแค่บอกว่าผมคิดแบบนั้นเฉยๆ เพราะผมระวังตัวก็เลยไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นไงครับ ผมจะบอกเรื่องนั้นกับทางตำรวจ แต่ไม่ต้องกังวลมากก็ได้นะครับ เพราะมันยังไม่ใช่อาชญากรรม”

นี่เป็นการข่มขู่

เป็นการข่มขู่ที่ไม่น่าเชื่อด้วย เพราะคนที่ให้เขายืมชื่อไม่มีทางเกี่ยวข้องกับพวกชนชาติโชซอนนั่น และคนที่ทำร้ายคังยองโมก็คืออีอูยอนเอง แต่ถึงอย่างนั้นอินซอบก็ไม่สามารถเมินเฉยต่อคำพูดของอีอูยอนได้ ถึงจะไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร แต่อีอูยอนก็เป็นคนที่ทำให้พวกชนชาติโชซอนนั้นสารภาพออกมาว่าพวกตนเป็นคนทำเรื่องที่ตัวเองไม่ได้แส่เท้าหาเรื่องเลยเอง

“จะให้ทำยังไงดีครับ ถ้าไม่ชอบ ผมก็จะแก้มัดให้อยู่แล้ว ตอนนี้ผมสามารถเดินออกไปได้โดยไม่แตะต้องคุณแม้แต่ปลายนิ้ว”

“…”

“เห็นจากการที่คุณไม่พูดอะไรแล้ว คุณอินซอบเองก็หวังให้ผมทำให้ใช่ไหมล่ะครับ”

อีอูยอนทำให้อินซอบนอนคว่ำลงกับเบาะรถ และถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง

“คุณอินซอบครับ ถ้าคุณไม่ชอบ ผมก็จะไม่ทำ ช่วยบอกให้ชัดเจนด้วยครับ”

ในระหว่างที่พูดอีอูยอนก็เอาช่วงล่างที่พองนูนถูไถกับบริเวณก้นของอินซอบ

“ถ้าไม่ได้ไม่ชอบ ก็อ้าขาครับ”

“…”

“รีบอ้าขาเร็วๆ สิครับ ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำตัวเหมือนสาวบริสุทธิ์ อ้าขาเร็วๆ ครับ”

อีอูยอนลูบไล้ต้นขาของอินซอบพลางกระซิบ อินซอบกลั้นน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาไว้ก่อนจะอ้าขาออกช้าๆ พอเขาทำแบบนั้น อีอูยอนก็จับเอวของอินซอบไว้ และสอดใส่แก่นกายของตนเข้ามาในช่องทางด้านหลังของเขาทันที

“…!”

ตาของอินซอบเป็นประกายสีขาวด้วยความเจ็บปวด เพราะการสอดใส่เข้ามาโดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย อีอูยอนสูดลมหายใจจากทางด้านหลังพลางเอ่ย

“อย่าตอดขนาดนั้นสิครับ ค่อยๆ หายใจ คลายความตึงเครียดลงหน่อยครับ”

“จะ…เจ็บ…!”

อีอูยอนสวนเอวขึ้นมาอย่างเต็มแรงอีกครั้ง ต้นขาที่แข็งแรงของเขากระทบกับต้นขาของอินซอบดังพลั่กๆ ท่อนเนื้ออุ่นๆ ถูกดันเข้าไปในช่องทางที่เปิดอ้าอย่างฝืดเคือง อินซอบไม่สามารถทรงตัวได้ เพราะอยู่ในสภาพที่มือถูกมัดไว้ด้านหลัง และฝังหน้าลงไปกับเบาะรถแบบนั้น

“ผมบอกให้อ้าขา แต่ตอนนี้กลับชูก้นขึ้นเหรอครับ”

อินซอบส่ายหน้า เขาไม่สามารถเกร็งเอวเอาไว้ได้ เพราะเจ็บมาก แต่ถึงอย่างนั้นอีอูยอนก็ไม่ให้ช่องว่างแม้เพียงเล็กน้อย และดันท่อนเนื้อที่ตั้งชันเข้ามาจนสุด

“…ใส่เข้าไปจนสุดแล้วครับ รู้ไหมครับว่าไอ้นั่นของผมโดนถึงตรงไหน”

อีอูยอนใช้มือกดส่วนที่นูนขึ้นมาบริเวณหน้าท้องส่วนล่างของอินซอบพลางเอ่ย

“ตรงนี้ครับ ตอนนี้ส่วนนั้นของผมกำลังทะลุเข้าไปในตัวของคุณอินซอบถึงตรงนี้เลยครับ”

“จะ…เจ็บ อึก”

อีอูยอนขยุ้มผมของอินซอบ พอเขาขยับตัวขึ้นและเคลื่อนไหว การเชื่อมต่อตรงส่วนล่างก็ดูจะหลวมขึ้น อีอูยอนถอนเอวออกไปก่อนจะดันเข้ามาจนสุดแรง อินซอบกลั้นลมหายใจดัง เฮือก ท่อนเนื้อแข็งขืนกระแทกภายในช่องท้องของเข้าทุกครั้งที่อีอูยอนขยับ ชเวอินซอบส่งเสียงลมหายใจที่ขาดห้วงพลางทรุดตัวลงไปกับเบาะรถ

อีอูยอนขย้ำก้นของอินซอบ และขยับเอวโดยไม่มีช่วงเวลาให้พัก แม้อินซอบจะร้องไห้ และอ้อนวอนให้อีกฝ่ายค่อยๆ ทำอยู่หลายครั้ง แต่ยิ่งเขาทำแบบนั้น อีอูยอนก็ยิ่งเพิ่มความเร็วในการขยับเอวมากขึ้น

“คนอื่นๆ เขารู้ไหมครับ ว่าคุณชเวอินซอบที่ดูเรียบร้อย และใสซื่อ…กำลังใช้ช่องทางนั้นกินไอ้นั่นของผมเหมือนกับว่ามันอร่อยแบบนี้”

“อ๊ะ ฮึก…อะ อูยอน…อ๊า…อึก!”

อีอูยอนใช้มือคลำตรงด้านหน้า และกำส่วนอ่อนไหวของอินซอบไว้ พอเขาบีบนวดส่วนอ่อนไหวที่อ่อนตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง ส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายก็มีแรงขึ้นมาทีละนิด และเริ่มแข็งตัว อีอูยอนหัวเราะเสียงต่ำจากทางด้านหลัง

“แค่ลูบนิดเดียวก็ตั้งแล้วนะครับ และถ้าผมทำดีด้วยอีกแค่นิดเดียว ก็คงจะไหลไปด้วยยิ้มไปด้วยแน่เลย”

“…! อื้อ อ้า อึก…ฮึก อ๊ะ! คะ ค่อยๆ…อ้า”

“อยากทำกับอีดายองเหรอครับ”

อีอูยอนเคี่ยวกรำอินซอบอย่างรุนแรงพลางเอ่ยถาม อินซอบส่ายหน้าปฏิเสธ เขาเพิ่งเจออีดายองวันนี้ครั้งแรก และเขาก็ไม่เคยจินตนาการว่าจะทำเรื่องแบบนี้กับใคร

“ว่าแต่ไหลเยิ้มออกมาขนาดนี้เลยเหรอครับ ถ้าพวกนั้นรู้ว่าชเวอินซอบอ้าขาให้ผู้ชาย และชอบใช้รูนั้นกลืนกินไอ้นั่นจะพูดกันว่าอะไรน้า”

“ไม่…!”

“แต่พวกนั้นจะยังแนะนำผู้หญิงให้อยู่หรือเปล่า คุณไม่สงสัยเหรอครับ”

อีอูยอนทำให้อินซอบเงยหน้าขึ้นมา อีอูยอนช่วยเช็ดใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาให้พลางยิ้ม

“น่าเสียดายจังเลยนะครับที่คนพวกนั้นไม่รู้ถึงภาพนี้”

มันสวยซะขนาดนี้

ไม่มีใครจะได้รู้ว่าภาพที่อีกฝ่ายกำลังยกก้นมาทางด้านหลังในสภาพที่ผมเถ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ และใบหน้าแดงก่ำนั้นสวยงามขนาดไหน

[1] นางงูพิษ หมายถึงผู้หญิงที่ยั่วยวนผู้ชายโดยหวังที่จะปอกลอกเงินทอง

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท