ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 11-6

ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 11-6

“…”

เนื่องจากแนวความคิดของอีอูยอนไม่ปกติ อินซอบจึงไม่ได้สามารถตามความคิดของอีกฝ่ายได้ทัน

“ถ้าเป็นสิ่งที่มีชีวิต…อืม”

อีอูยอนคล้ายจะจมอยู่กับความคิดสักพัก เขามองหลังศีรษะของอินซอบก่อนจะพูดต่อ

“แค่พามาก่อนก็ได้นี่ครับ”

“ถ้าทำแบบนั้นจะจบเหรอครับ”

“ถ้าฟังที่ผมพูดก็โอเคครับ แต่ถ้าไม่ฟัง ผมก็จะทำให้ตาย หรือไม่ก็แค่ยกให้คนอื่น”

“…”

โอ๊ย เราทำตามวิธีคิดนั้นไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ตายก็ทำตามไม่ได้

ขณะที่อินซอบกำลังตำหนิตัวเองที่ถามคำถามไร้สาระออกไป อีอูยอนก็โยนคำถามใส่อย่างกะทันหัน

“พอไปถึงฮาวายแล้ว คุณอินซอบอยากทำอะไรมากที่สุดเหรอครับ”

“แค่เดินเล่น…ก็พอแล้ว แค่เดินไปเดินกลับก็พอแล้ว อ้อ จริงสิ เพราะเป็นอเมริกาค่าโทรศัพท์ก็จะถูกลง แล้วก็น่าจะมีโทรศัพท์สาธารณะเยอะด้วย งั้นผมจะโทรกลับบ้าน…”

ขณะที่กำลังร่ายยาวด้วยความตื่นเต้น อินซอบก็พบว่าอีอูยอนกำลังจ้องมองมาด้วยสายตาน่าหวาดกลัว จึงหุบปากอย่างรวดเร็ว

“อยากกลับบ้านเหรอครับ”

“…”

ถ้าบอกว่าไม่อยากกลับก็คงเป็นเรื่องโกหก และหากบอกว่าอยากกลับก็คงจะเป็นการทิ้งความโง่เอาไว้ตรงนี้แน่นอน อินซอบพยายามพิจารณาจิตใจที่ตรงไปตรงมาของตัวเองเงียบๆ อีอูยอนที่เข้าใจความเงียบของเขาในความหมายอื่นยิ้มโชว์ฟันที่เรียงสวย แต่ตาของเจ้าตัวไม่ได้ยิ้มไปด้วย ความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวเผยตัวออกมาในดวงตาคู่นั้น อีอูยอนจ้องมองด้านหลังศีรษะของชเวอินซอบที่กำลังจับพวงมาลัยอย่างไม่ยอมแพ้

“นอกจากตอนออกนอกประเทศแล้ว เวลาที่เหลือคุณอย่าหวังว่าจะได้เห็นพาสปอร์ตเลยครับ”

“ผมไม่หนีหรอกครับ”

“ผมจะเชื่อคำพูดนั้นได้ยังไงล่ะครับ ตอนนอนผมก็จะมัดเท้าไว้ด้วย ผมจะให้คุณถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วก็ยัดมันไว้ในตู้เซฟ”

อินซอบหน้าเครียดไปพักหนึ่ง เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่น่าจะทำแบบนั้นจริงๆ แม้อีอูยอนจะหัวเราะและบอกว่า ‘ผมพูดเล่นครับ’ แต่สีหน้าของอินซอบที่เป็นกังวลก็ไม่ผ่อนคลายลงง่ายๆ เพราะแบบนั้นอีอูยอนถึงสามารถยิ้มได้อยู่สักพัก

ในระหว่างทางกลับบ้านคนทั้งคู่พูดไร้สาระเกี่ยวกับการไปเที่ยวต่ออีกสองสามคำ

วันนั้นอินซอบได้จัดสัมภาระสำหรับไปเที่ยวครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา อินซอบตอบกลับคำถามของอีอูยอนที่ถามว่าตื่นเต้นไหมว่าไม่อย่างนิ่งเฉย แต่เขากลับนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน

และอีอูยอนก็รู้ความจริงนั้นอยู่แล้ว

***

“ฮาย มิสเตอร์ชเว”

อินซอบร้อง ‘อ้อ’ และตกใจกับใบหน้าที่คุ้นเคยที่เจอที่สนามบิน

“คนที่ออฟฟิศจะต้องไปเป็นผู้ช่วยที่สถานที่ถ่ายทำหนึ่งคนน่ะค่ะ พอเอาชนะการแข่งขันที่ดุเดือดมาได้ ฉันก็เลยได้มา”

อีดายองพูดร่ายยาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“คนอื่นๆ บ้าไปเลยแหละค่ะ เพราะเราจับสลากกัน หัวหน้าทีมฮงถึงกับบอกว่าถ้าเปลี่ยนฉลากที่ได้รางวัลกับตัวเอง เขาจะให้โบนัส แต่ฉันก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ส่วนคนที่ดีใจที่จับสลากไม่ถูกก็มีแค่หัวหน้าทีมชาเท่านั้นแหละค่ะ!”

เธอเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ชเวอินซอบฟังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ฉันเพิ่งเคยไปฮาวายครั้งแรกก็เลยตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ เมื่อวานนอนไม่หลับเลย”

“ผมเองก็หลับๆ ตื่นๆ นิดหน่อยเหมือนกันครับ”

พอเห็นอินซอบตอบอย่างเขินๆ อีดายองก็ทำหน้าตายินดีพร้อมกับบอกว่า ‘ใช่ไหมล่ะคะ’

“ใช่ไหมล่ะคะ ใช่ไหมล่ะ! พี่สาวฉันน่ะ มองฉันแล้วก็ดูถูกว่าฉันเชยด้วยแหละค่ะ แต่เพราะฉันเคยไปเที่ยวต่างประเทศแค่ที่ญี่ปุ่นครั้งเดียวเอง ก็เลยประหม่าจริงๆ ค่ะ แถมฉันยังไม่เก่งภาษาอังกฤษซะด้วย อือ คุณอินซอบเก่งภาษาอังกฤษไหมคะ”

“เอ่อ…ก็ได้นิดหน่อย…”

“งั้นเหรอคะ เหมือนกันเลยค่ะ คนเกาหลีน่ะต่อให้จะเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมาขนาดนั้น แต่ก็ยังอ่อนกับการใช้จริงอยู่ดี”

“งั้นเหรอครับ”

อินซอบยิ้มเจื่อนๆ พลางตอบรับคำพูดของอีดายอง ความจริงแล้วภาษาอังกฤษคือภาษาแม่ของอินซอบ เขาจึงตั้งใจที่จะไม่ใช้ภาษาอังกฤษสักคำในตอนที่อยู่เกาหลี และใช้แค่ภาษาเกาหลีเท่านั้น ชเวอินซอบคิดว่าเขาจะใช้ภาษาอังกฤษแค่ขั้นพื้นฐานต่อหน้าอีดายอง

“คุณอินซอบ ตั๋ว…”

อีอูยอนไปรับตั๋วเครื่องบิน พอเขาเห็นอีดายองเขาก็ทำหน้านิ่งอยู่แวบหนึ่ง

“สวัสดีค่ะ”

อีดายองจำอีอูยอนได้ และทักทายอย่างยินดี อีอูยอนทักทายเธอกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“มีธุระอะไรที่นี่เหรอครับ มาทำธุระเหรอ”

“เปล่าค่ะ ฉันเองก็จะไปฮาวายด้วย ฉันได้ไปเพราะบรรณาธิการฝ่ายศิลป์หาคนที่จะไปเป็นผู้ช่วยน่ะค่ะ”

เธอทำหน้าภาคภูมิใจที่ตัวเองเอาชนะการแข่งขันที่ดุเดือดมาได้ อีอูยอนตอบว่า ‘อย่างนั้นเหรอครับ’ ก่อนจะหมุนเท้าไปอย่างกะทันหัน และเดินไปที่อื่น

“คุณอีอูยอนเขาสภาพร่างกายไม่ค่อยดีเหรอคะ เขาดูอารมณ์ไม่ดีนิดหน่อยหรือเปล่า”

“งั้นเหรอครับ”

อินซอบมองด้านหลังของอีอูยอนที่ห่างออกไปไกลพร้อมกับกะพริบตาอย่างวุ่นวายใจ เขารู้ว่าแววตาของอีอูยอนเย็นชาขึ้นในวินาทีที่เห็นหน้าของอีดายอง

“เอาพวกยาสามัญประจำบ้านมาหรือเปล่าคะ แน่นอนว่าพอไปถึงที่นั่นก็น่าจะมีทุกอย่าง แต่ได้ยินมาว่าคนเกาหลีน่ะถูกกับยาเกาหลีมากกว่า ถ้าคุณอีอูยอนไม่สบายตรงไหนก็จะได้ดูแลเขาได้ไงคะ”

“ขอบคุณครับ”

อินซอบรู้สึกขอบคุณจากใจจริงกับการทุ่มเทใจของหญิงสาวและก้มหัวให้

“เอ๊ะ น่าอายจังเลย คุณอินซอบไว้อีกเดี๋ยวเจอกันนะคะ เพราะฉันจะไปเช็คอินแล้วก็เข้าไปซื้อของดิวตี้ฟรีค่ะ”

“ครับ เข้าใจแล้วครับ”

อินซอบเอ่ยลาหญิงสาวก่อนจะก้าวเท้าไปยังทิศทางที่อีอูยอนหายไป จากที่ค่อยๆ เดินเร็วขึ้นก็กลายเป็นวิ่งโดยไม่รู้ตัว อินซอบหอบพร้อมกับมองซ้ายทีขวาทีห

แต่ไม่ว่าเขาจะมองหาอย่างไร เขาก็ไม่เห็นอีอูยอนเลย ถ้าอีกฝ่ายอยู่ตรงไหนสักที่แล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่เขาจะไม่เห็นเด็ดขาด เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่ดึงดูดสายตาของคนอื่นต่อให้จะยืนอยู่เฉยๆ ก็ตาม

“อยู่ที่ไหนกันนะ…”

แม้อินซอบจะวิ่งไปทั่วด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี แต่การที่จะหาอีกฝ่ายเจอในสนามบินที่กว้างใหญ่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หัวใจของเขาเจ็บเหมือนกับถูกฉีก เขายืนพิงกำแพงและหอบหายใจ แล้วมือที่ยื่นออกมาทางด้านหลังก็จับไหล่อินซอบไว้ก่อนจะดึงเข้าไปหา

“…!”

อีอูยอนปิดปากของเขาที่กำลังจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจไว้ พวกผู้หญิงที่ห้อยกล้องถ่ายรูปไว้ที่คอกลุ่มหนึ่งกำลังเดินผ่านหน้าพวกเขาไป

“พวกแฟนคลับเหรอครับ”

“พวกผู้หญิงเสียสติต่างหากครับ”

อีอูยอนพูดอย่างนั้นออกมาโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย อินซอบจึงมองไปรอบๆ ด้วยกลัวว่าจะมีคนได้ยิน

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะไม่มีใครอยู่ตรงนี้”

อีอูยอนใช้มือชี้ไปที่ป้ายที่บอกว่า ‘กำลังทำความสะอาด’ ที่ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำ ตอนนั้นเองชเวอินซอบถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

“สนใจขนาดนั้นเลยเหรอครับว่าคนอื่นจะรู้ว่าอีอูยอนนิสัยไม่ดี”

“…!”

“คุณชเวอินซอบอยากจะรู้แค่คนเดียวเหรอครับ”

“เปล่าครับ”

“แต่ภาพลักษณ์ที่มีแค่คุณชเวอินซอบที่รู้ก็มีอยู่อย่างหนึ่งนะครับ”

เสียงของอีอูยอนที่หัวเราะอยู่ด้านหลังสัมผัสเข้ากับต้นคอของอินซอบ อินซอบตกใจและหันหลังกลับไปมอง เพราะความคิดที่ว่ามีของนุ่มๆ เฉียดผ่านไป อีอูยอนฉีกยิ้มแบบคนดีให้จากในที่ที่ห่างจากเขาไปประมาณหนึ่งก้าว

คิดมากไปเองเหรอ อินซอบใช้ฝ่ามือลูบคอก่อนจะพูดเหมือนกับพึมพำ

“จะต้องไปทำเรื่องตรวจคนออกนอกเมืองแล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“จริงด้วยสินะครับ แต่ก่อนหน้านั่นน่ะ”

อีอูยอนยื่นมือออกมาและใช้นิ้วโป้งลูบริมฝีปากล่างของอินซอบ อินซอบก้มหน้าลง เพราะความรู้สึกอุ่นร้อนที่มุมปาก

“ผมอยากทำให้คุณอินซอบได้กินของที่ชอบก่อนออกจากเกาหลีจังเลยครับ”

เสียงที่สุภาพและอ่อนหวานเลื่อนลงมาตรงต้นคอที่ปรากฏให้เห็นของอินซอบ

***

“นี่! คุณอินซอบ!”

พออีดายองที่สนิทกับทีมงานถ่ายทำแล้ว และกำลังคุยกันอย่างไม่มีเขินอายเห็นอินซอบ เธอจึงโบกมือให้

“ผู้จัดการส่วนตัวของคุณอีอูยอนน่ะค่ะ”

พอเธอแนะนำอินซอบ เขาก็เดินไปหาทุกคนและรีบก้มหัวให้

“จริงเหรอ ดูเด็กมากเลยนะ”

“อายุมากกว่าฉันสองปีค่ะ”

“ไม่น่าเชื่อ บอกว่าเป็นเด็กม.ปลายก็เชื่อนะเนี่ย”

“น่าอิจฉาผิวจัง ถ้าเป็นผู้จัดการส่วนตัวก็น่าจะต้องโต้รุ่งเป็นประจำ แล้วก็น่าจะเหนื่อยนี่นา ทำยังไงผิวถึงดีขนาดนี้ล่ะคะ”

ชเวอินซอบงงกับบทสนทนาที่ไม่คาดคิด เขาพยายามหาคำพูดที่จะตอบออกไปในขณะที่พูดว่า ‘เอ่อ เรื่องนั้น’ หลายๆ คนสนุกกับปฏิกิริยาของเขา และถามอินซอบเกี่ยวกับเรื่องผิวเหมือนกับจะแกล้งเล่นต่ออีกสองสามครั้ง

“คุณอีอูยอนอยู่ที่ไหนเหรอคะ เมื่อกี้ยังอยู่ด้วยกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

อินซอบเบิกตาโพลงเหมือนกับตื่นตระหนกกับคำถามที่ใครสักคนโยนมาผ่านๆ

“เอ่อ…เขากำลังมาครับ”

“เหมือนมีอะไรเปื้อนเสื้อคุณอินซอบเลยค่ะ”

พออีดายองจะช่วยปัดสิ่งที่เปื้อนบริเวณไหล่ให้ ชเวอินซอบก็รีบโบกมือปฏิเสธพลางทำหน้าแดงเหมือนกับโดนไฟจี้

“ไม่ต้องครับ ผมทำเองดีกว่าครับ ไม่เป็นไรครับ”

“ว้าว ดูเหมือนคุณอินซอบจะชอบคุณดายองนะเนี่ย ใครชอบใครกันล่ะ”

“สองคนนี้คบกันเหรอคะ”

คนที่แปลปฏิกิริยาของอินซอบไปในทิศทางอื่นยิ้มอย่างล้อเลียน อีอูยอนที่ปรากฏตัวในตอนนั้นก็แทรกเข้ามาว่า ‘คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ’

“ดูเหมือนความสัมพันธ์ของคุณอินซอบกับคุณดายองจะพิเศษน่ะค่ะ”

“จะต้องดูแลผู้จัดการส่วนตัวดีๆ แล้วล่ะค่ะ ถึงยังไงฮาวายก็เป็นที่ที่คนไปฮันนีมูนกันเยอะด้วย จะต้องตกหลุมรักกันแน่ๆ เลย”

“นั่นสินะครับ จะต้องดูแลให้ดีๆ เลย”

ความบ้าคลั่งที่น่ากลัวที่เขาสัมผัสได้จากน้ำเสียงของอีอูยอน แต่คนอื่นๆ ไม่สามารถรับรู้ได้ทำให้อินซอบกดดัน อีอูยอนชวนชเวอินซอบให้ไปซื้อกาแฟด้วยกันสักครู่ก่อนจะลากแขนเขาไป

“ผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ”

“ผมรู้ครับ”

“ผมไม่ได้พูดอะไรเลย…จริงๆ นะครับ”

แม้แต่การพยายามแก้ตัวของเขาก็ผิดปกติ ที่ด้านหลังของอีอูยอน อินซอบกล้ำกลืนเสียงหัวเราะที่ขมขื่นลงไป

“จะให้ซื้อกาแฟแบบไหนให้ดีครับ”

เขานึกถึงหน้าที่หลักของตัวเอง และเอ่ยถามอีอูยอน

“ผมจะนอนบนเครื่องบิน จะดื่มกาแฟอะไรกันล่ะครับ”

“ก็เมื่อกี้…”

“ผมนึกว่าคุณไม่อยากอยู่ตรงนั้น ก็เลยลองพูดดูน่ะครับ แล้วคุณอินซอบก็อิ่มแล้วไม่ใช่เหรอครับ เพราะดื่มอย่างอื่นที่ไม่ใช่กาแฟมาเต็มที่แล้ว”

อินซอบนึกถึงเรื่องที่เกิดในห้องน้ำเมื่อกี้ และรีบหันหน้าไป แต่อีอูยอนไม่มีทางจะพลาดภาพที่แก้ม ต้นคอ และใบหูของเขาแดงแน่ๆ เขายิ้มและใช้นิ้วถูรอยเปื้อนตรงชายเสื้อเชิ้ตของอินซอบเบาๆ

“คราวหลังดื่มอย่าให้หกนะครับ”

“…!”

อินซอบใช้ฝ่ามือปิดรอยเปื้อนเล็กๆ ที่เปื้อนตรงไหล่ไว้ อีอูยอนพยักหน้าบอกให้ชเวอินซอบรู้ว่าได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว พอเห็นว่าแถวที่พวกเขายืนต่อกันอยู่ต่างกับคนอื่น อินซอบจึงเอียงคอถาม

“ทำไมพวกเราถึงยืนตรงนี้ล่ะครับ”

“เพราะชั้นที่นั่งต่างกันครับ”

“…”

“ไหนๆ ก็จองของผมแล้ว ผมก็เลยจองที่ตรงนี้ให้คุณอินซอบด้วยไงครับ”

อีอูยอนตั้งใจจองตั๋วเครื่องบินเอง เพราะคนที่จะออกจากประเทศคือปีเตอร์ไม่ใช่ชเวอินซอบที่คนในบริษัทรู้จัก แม้ชเวอินซอบจะรู้ความจริงนั้นดี แต่เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอัพเกรดชั้นที่นั่งให้ด้วย

“ไม่แพงเหรอครับ”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปเรียกเก็บจากบริษัทเอา”

“ค่ารถผมจะจ่ายเองครับ”

พออินซอบที่ไม่ชอบถูกบังคับให้รบกวนคนอื่นพูดแบบนั้น อีอูยอนเหลือบตามองบนแวบหนึ่งก่อนจะกรอกตา เป็นสีหน้าที่บอกว่าไม่พอใจ

“ผมไม่ชอบคุยเรื่องเงินครับ”

“…ขอโทษครับ”

“ถ้ารู้แล้ว ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปก็อย่าคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกนะครับ”

แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เขาได้รับก็มากเกินไปอยู่ดีเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาทำ เขาเดินตามหลังอีอูยอน และถูกนำทางไปยังที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส หัวใจของอินซอบก็หนักขึ้น

“จะนั่งริมหน้าต่างไหมครับ”

“ผมนั่งตรงไหนก็ได้ครับ”

“งั้นเข้าไปนั่งริมหน้าต่างเลยครับ”

อินซอบเข้าไปนั่งที่ที่นั่งริมหน้าต่างตามที่อีอูยอนสั่ง เนื่องจากเป็นเครื่องบินที่จะออกเดินทางในเวลาเช้าตรู่ ที่ชั้นเฟิร์สคลาสจึงไม่มีใครนั่งเลยนอกจากพวกเขาสองคน

อินซอบหยิบหนังสือที่อีอูยอนซื้อให้ออกมาจากกระเป๋าและวางไว้บนตัก อินซอบเปิดหนังสือ และปิดหนังสือก่อนจะใช้นิ้วลูบสันหนังสือไปมาในขณะที่รอให้เครื่องขึ้น แล้วก็กางหนังสือออกอีกครั้ง และเขาทำแบบนี้สลับกันไปมาเรื่อยๆ

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท