“อินซอบ…”
พออีอูยอนจับไหล่ของอินซอบ อินซอบก็ผวาตกใจในขณะที่ถูกพลิกตัวกลับมา อีอูยอนเห็นถึงความกลัวจากแววตาของอีกฝ่ายที่มีสีหน้าซีดเผือด
เป็นสายตาที่คุ้นเคย เป็นสายตาที่มองมาทางเขาเหมือนกับมองสัตว์ประหลาดที่น่ารังเกียจ เขาไม่สนใจหรอกว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร เพราะเขาคิดว่าเป็นคนอื่นๆ ต่างหากที่เห็นสัตว์ประหลาด ตัวเขาเองไม่จำเป็นจะต้องคิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดไปด้วย
แต่อีอูยอนกลับได้รู้ความจริงว่าตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดจากสายตาของชเวอินซอบ เขารู้สึกเจ็บแปลบ หัวใจบีบรัด อีอูยอนรู้สึกมึนงง เพราะเขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เหมือนหลอดลมถูกบีบนี้ และอาการเจ็บหนึบในลำคอเรียกว่าอะไร
“คุณอินซอบ…”
เขายื่นมือไปลูบไหล่ของชเวอินซอบอีกครั้ง อินซอบตัวสั่นระริกและร้องไห้สะอึกสะอื้น เลือดยังคงไหลออกมาจากช่องทางรักของอีกฝ่าย อีอูยอนถอดเสื้อของตัวเองออก และช่วยเช็ดขาของอินซอบ เขาประคองอินซอบที่กำลังร้องไห้ไปที่เตียง
“ยะ อย่าทำครับ!”
อินซอบกรีดร้อง ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกลัวและการปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ยะ อย่าทำครับ พะ เพราะผม…จะไปแล้ว”
อินซอบดึงกางเกงขึ้นและลุกขึ้นด้วยขาที่สั่นเทา แต่เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงไปกองอยู่ตรงนั้น เมื่ออีอูยอนเห็นดังนั้น ความเจ็บปวดในอกที่รู้สึกเมื่อสักครู่ก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น สีหน้าของอีอูยอนไม่ดีเอาเสียเลย
“ผมจะประคองคุณอินซอบเองครับ”
“ผมจะ…ผมจะทำเองครับ”
“ขอโทษนะครับ แต่…แต่ช่วยฟังที่ผมจะพูดหน่อยนะครับ”
“คุณอีอูยอนนั่นแหละครับที่ไม่ยอมฟังที่ผมจะพูด”
หยดน้ำตาเกาะอยู่ที่ดวงตากลมโตของอินซอบ
ในเอกสารที่อีดายองเอามาให้มีสำเนาใบขับขี่ของอีอูยอนอยู่ พอเห็นวันเดือนปีเกิดที่เขียนอยู่ในนั้น อินซอบก็สงสัยในสายตาของตัวเอง เพราะมันห่างกับวันเกิดของอีอูยอนที่ตนรู้จึกถึงสองเดือน ยิ่งไปกว่านั้นคือวันเกิดที่อยู่ในเอกสารคือวันนี้
อินซอบที่ร้องโอดโอยและครุ่นคิดอยู่คนเดียวใส่เสื้อผ้าเพื่อจะออกไปซื้อเค้ก แม้การขยับตัวจะยังเป็นเรื่องยากเกินไป แต่เขาก็ติดรถของสตาฟจากนิตยสารที่เจอกันในลิฟต์และไปจนถึงในเมืองได้ เขาไปยังร้านขายเค้กที่ขึ้นชื่อว่าดังที่สุดในฮาวาย เมื่อสิ้นสุดการรอคอยถึงหนึ่งชั่วโมง เขาก็ซื้อเค้กกลับมาได้ เพราะเขาจ่ายเงินที่อยู่ในกระเป๋าซื้อเค้กหนึ่งชิ้นจนหมด เขาจึงไม่มีเงินที่จะขึ้นแท็กซี่ ในระหว่างทางที่เดินกลับมาโรงแรม เหงื่อของเขาไหล และเขาต้องหยุดเดินเพื่อพักอยู่หลายรอบ เขาคิดว่าจะกลับจัดงานวันเกิดง่ายๆ ในขณะที่รออีอูยอน แม้เขาจะไม่สามารถเตรียมของขวัญให้ได้ แต่เขาก็คิดว่าต่อให้เป็นของแบบนี้ก็ยังอยากให้อยู่ดี และรวบรวมความกล้าในการวางแผนที่จะจูบอีกฝ่าย เขานั่งคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยตรงหน้าประตูในขณะที่รออีอูยอน
แต่เขากลับโดนลากเข้าห้องมา และถูกอีอูยอนบังคับให้ทำเรื่องแบบนั้นโดยที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ อีอูยอนไม่ให้แม้แต่โอกาสที่เขาจะแก้ตัวด้วยซ้ำ
อินซอบน้ำตาไหลไม่หยุดเพราะความเศร้ากับความกลัว เขาเกลียดอีอูยอนกับความรุนแรงและการทำตามใจตัวเองขนาดนี้ เขาอยากจะทิ้งคนที่ไม่ทะนุถนอมเขาและหายไปทั้งๆ แบบนั้น แต่เขากลับปวดใจขึ้นมา เพราะความคิดที่ว่าแววตารักใคร่ที่มองตนอาจจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริง
เขาชอบอีอูยอนมาก และเขาก็หวังให้อีกฝ่ายชอบเขาด้วยความรู้สึกเดียวกันกับตนเอง
“ขอโทษครับคุณอินซอบ…”
อีอูยอนเปิดปากพูด เขาเอื้อมมือออกมาเพื่อที่จะกอดอินซอบ แต่อินซอบกลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น ตอนนี้ แค่ตอนนี้เขาไม่อยากถูกมือของอีอูยอนทำให้เคลิ้ม และมอบความรู้สึกให้อีกฝ่ายแล้ว
“คุณอินซอบมองผมสักครู่นะครับ นะ? ช่วยมองหน้าผมหน่อยนะครับ”
อีอูยอนก้มตัวลง เขายื่นของตัวเองมาใต้ใบหน้าของอินซอบพลางกระซิบอย่างอ่อนโยน อินซอบยื่นมือออกไปดันไหล่อีกฝ่าย
อีอูยอนถูกผลักให้ถอยไปข้างหลังด้วยการขยับมือง่ายๆ แบบนั้น อีอูยอนยืนเหม่ออยู่ในจุดที่ห่างออกไปแค่ก้าวเดียว และมองอินซอบ อินซอบปวดใจอีกครั้งกับใบหน้าที่บ่งบอกว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี
“…ผมนึกว่าคุณไปแล้วน่ะครับ”
“…”
“ผมคิดว่าคุณหนีผมไปแล้ว”
อีอูยอนพูดลอดไรฟัน
“ผมได้ยินว่าเอกสารที่คุณอีดายองยื่นให้มีสำเนาบัตรประชาชน…พอได้ยินแบบนั้น ผมก็เลยคิดว่าคุณทิ้งผมไปแล้วครับ”
“ผมไม่เห็นเลยนะครับ ของแบบนั้นน่ะ…”
อินซอบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสำเนาบัตรประชาชนของตนอยู่ในซองเอกสารนั้น สิ่งที่เขาเห็นมีแค่ใบขับขี่ของอีอูยอนเท่านั้น
“แล้ว…แล้วผมก็ได้ยินว่ามีชาวเอเชียโดนแทง ผมก็เลยออกไปครับ ถึงจะไม่ใช่…แต่พอเห็นเลือดนั้นแล้ว…ผมก็ตามหาคุณอินซอบอยู่ตลอดเลยครับ”
อีอูยอนเล่าต่อในขณะที่ก้มหน้า
“เพราะหาคุณอินซอบไม่เจอ…ผมก็เลยตามหา ผมตามหาแล้ว…ตามหาเล่า แต่ก็หาไม่เจอ!”
อีอูยอนไม่สามารถกลั้นความโมโหเอาไว้ได้ เขาตะโกนก่อนจะกำหมัดแน่น แค่คิดว่าเขาทำให้ชเวอินซอบหลุดมือของตนไป ความโกรธก็พลุ่งพล่านจนทำให้เขาตัวสั่น
“ผมหาอยู่ตลอดเลยครับ”
“…”
“ผมวิ่งเหมือนคนบ้า ผมคว้าคนที่คล้ายคุณไว้ แล้วก็วิ่ง แต่ต่อให้วิ่งยังไง ผมก็หาคุณอินซอบไม่เจอ…”
อีอูยอนใช้มือกุมหน้าผากเอาไว้ หัวของเขาจะระเบิด หัวใจก็กลับมาบีบรัดอีกครั้ง อีอูยอนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกเป็นความรู้สึก หรือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย เขาสับสนจนจะเป็นบ้า เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่โดนโยนลงไปกลางทะเล
เขาสับสนพอๆ กับที่รู้สึกอึดอัด ปั่นป่วน และหวาดกลัว
พอเห็นว่ามีเหงื่อผุดขึ้นมาตรงหน้าผากของอีอูยอน และสีหน้าของอีกฝ่ายก็ซีดเผือด อินซอบก็ทำตาโต
“ทำไม…เป็นแบบนั้นล่ะครับ”
“…รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะครับ”
หลังจากพูดแบบนั้น อีอูยอนก็วิ่งไปที่ห้องน้ำ พอได้ยินเสียงอ้วกดัง แหวะ อินซอบก็ยืนแข็งอยู่กับที่ด้วยความตกใจ
เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่อีอูยอนที่ตนรู้จัก แปลก เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ผ่อนคลายและมั่นใจในตัวเองสูงเหมือนอย่างเคย ผู้ชายที่อยู่ตรงนี้เป็นใครกันแน่
ชเวอินซอบลากขาที่ไม่มีแรงเดินไปที่ห้องน้ำ
“คุณอูยอน…เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
อีอูยอนเกาะอ่างล้างหน้าที่เปิดน้ำทิ้งไว้ และยืนอย่างเหม่อลอย อินซอบเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอีกครั้งในขณะที่มองภาพด้านหลังของอีกฝ่ายที่แข็งเหมือนเป็นรูปปั้นหิน
“…เป็นอะไรหรือเปล่าครับ คุณอูยอน เป็นอะไร…!”
อินซอบจับแขนของอีกฝ่ายไว้ เขามองดูหน้าของอีกฝ่าย และก็ต้องตื่นตกใจ อีอูยอนกำลังร้องไห้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาที่เหม่อลอยของอีอูยอนไม่หยุด
“คะ คุณอูยอน เป็นอะไร…ให้เรียกหมอไหมครับ ผมจะเรียกหมอมานะครับ”
อินซอบยืดตัว มือของอินซอบสั่นเทา เพราะคิดว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ เขาจะต้องหาโทรศัพท์ก่อน แล้วโรงพยาบาล คือโรงพยาบาลไหนกันล่ะ แล้วอาการของโรคคืออะไรกันแน่…!
อีอูยอนกอดอินซอบไว้จากทางด้านหลัง อินซอบตกใจ และคิดว่าจะต้องเรียกหมอมาทันที เพราะสัมผัสเปียกชื้นที่โดนต้นคอ
“ผมจะเรียกหมอมานะครับ ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะเรียกหมอมาให้…”
“ต้องทำยังไงเหรอครับ…”
“ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะไปพาหมอมานะครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะออกไป…!”
มือที่กอดไหล่ของเขาไว้รัดแน่นขึ้น อีอูยอนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจากทางด้านหลัง
“อย่าไปครับ คุณอินซอบ…อย่าไปนะครับ ได้โปรด”
“…คะ คุณอูยอน…”
“จะต้องทำยังไงดีครับ…ตอนนี้ผมเหมือนจะเป็นบ้าเลย”
“…คุณอูยอน…”
“ผมเหมือนจะเป็นบ้าจริงๆ นะครับ ถ้าตั้งใจ ผมก็สามารถทำตัวเหมือนคนปกติได้…แต่นี่มันไม่ได้ครับ”
เสียงที่สะอึกสะอื้นของอีอูยอนกระทบกับต้นคอของอินซอบ
“จะต้องทำยังไงเหรอครับ…”
อินซอบค่อยๆ หันหลังกลับไปมอง เขาดึงอีอูยอนออกจากร่างของตนเอง และมองหน้าอีกฝ่าย ใบหน้าที่แปลกไปของอีอูยอนที่เขาไม่เคยเห็นในผลงาน หรือจอภาพไหนมาก่อนเลยยืนอยู่ตรงนั้น
อีอูยอนกำลังหวาดกลัว เขาไม่สามารถทนการปะทุของความรู้สึกได้ และกำลังหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ชเวอินซอบอ่านหน้าตาที่มีความเป็นมนุษย์ของอีอูยอนออกจากท่าทางที่ไม่ปกตินั้น ทั้งน่าสงสารและน่ารักใคร่…เขาทนไม่ไหวแล้ว
อินซอบเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของอีอูยอน อีอูยอนชะงักและจ้องมองอินซอบ เป็นสายตาที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย แต่ทันทีที่สบตากัน ความรู้สึกก็ค่อยๆ กลับเข้ามาในดวงตาคู่นั้น
ตกใจ สับสน กลัว โล่งใจ และต้องการ
“ไม่ไปหรอกครับ”
ชเวอินซอบพูดราวกับจะยืนยัน
“ถึงอยากไป ถึงอยากไป…แต่ก็ไปไม่ได้”
“…คุณอินซอบ”
“ถึงจะถูกคุณอีอูยอนทำเรื่องแบบนั้น…แต่…แต่เพราะผมเป็นคนเลวและโง่ ผมถึงยัง…”
ชอบคุณอยู่ดี
อีกฝ่ายอาจจะได้ยินคำพูดสุดท้ายก็ได้ เขากลืนคำพูดนั้นลงไปเหมือนกับมันกลิ้งอยู่ในปาก แต่ทันทีที่อินซอบปิดปากลง อีอูยอนก็พุ่งมากอดเขาทันที
“…พูดอีกสิครับ”
“…”
“…ช่วยพูดหน่อยครับว่าชอบผม ว่าจะไม่ไป”
“…ชอบครับ”
“อีกครั้ง”
“ชอบครับ”
“พูดต่ออีกสิครับ พูดอีกนะ”
“ผมจะไม่ไปครับ ผมอยากจะอยู่ข้างๆ คุณอีอูยอน…ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าคุณอีอูยอนชอบ…”
เขาคิดว่าเขาพูดเสริมขึ้นมาอย่างเปล่าประโยชน์ ฟังดูเหมือนจะพูดว่าถ้าอีอูยอนเกลียดตน เขาจะต้องไป ความกลัวที่ไม่มีประโยชน์อะไรตีรื้นขึ้นมา อินซอบน้ำตาไหล มือของอีอูยอนที่กอดเขาสั่นเทา
“คุณอินซอบ ขอโทษนะครับ…”
“…ฮึก…”
“เพราะผมเป็นคนบ้า…ผมถึงไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกเหมือนกันกับที่คุณอินซอบรู้สึกหรือเปล่า แต่ที่ผมมั่นใจก็คือ…ผมคิดว่าอยากจะให้คุณอินซอบชอบผมไปเรื่อยๆ ครับ”
มือของอีอูยอนลูบหลังอินซอบ เขาประทับริมฝีปากลงบนต้นคอของอีกฝ่าย ก่อนจะร่ายความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมา
“ผมอยู่มาได้ทั้งๆ ที่สมองพัง…แต่เพราะคุณ หัวใจของผมเลยเหมือนจะพังไปด้วย”
ริมฝีปากอุ่นร้อนของอีอูยอนแตะลงบนแก้ม ตา และหน้าผากของอินซอบ อินซอบรู้สึกว่าคำพูดของอีกฝ่ายถูกสลักลงบนผิวของตน
“ดูเหมือนหัวใจของผมจะพังไปตั้งแต่ตอนที่คุณเอาผมออกมาจากทะเลสาบแล้วล่ะครับ”
“…”
“เพราะฉะนั้นคุณจะต้องรับผิดชอบ และคอยอยู่ข้างๆ ผม”
อีอูยอนกอดอินซอบไว้ เขาเอ่ยเบาๆ พลางกดจูบลงมาอย่างอ่อนโยน เขาค่อยๆ โลมเลียด้านในริมฝีปากของอินซอบและกดย้ำบนริมฝีปากของอีกฝ่ายเบาๆ พออินซอบหอบหายใจน้อยๆ และกอดคอของเขาไว้ อีอูยอนก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“…หัวเราะทำไมครับ”
“ดูเหมือนผมจะบ้าไปแล้วจริงๆ”
“…”
“ถ้าดูจากการที่พอได้ยินเสียงคุณชเวอินซอบหอบเพราะจูบของผมแล้ว ผมก็หัวเราะออกมาเฉยเลย”
“…”
“ไม่สิ ผมเป็นคนบ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะครับ ขอโทษนะครับ ผมจะไม่ปกปิดมันกับคุณอินซอบแล้วครับ”
อีอูยอนพึมพำพลางใช้มือกุมใบหน้าของอินซอบเอาไว้ และกดริมฝีปากลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย
“ถ้าคุณอินซอบทิ้งผม คุณอาจจะไม่ได้เห็นผมในข่าวบันเทิง แต่เป็นข่าวเช้าตอนเก้าโมงก็ได้นะครับ”
เขากดจูบลงมาที่กระหม่อมของอินซอบ และที่เส้นผม และติ่งหูด้วย เขากดมือของอินซอบขึ้นมา กดจูบไปตามนิ้วทีละนิ้วก่อนจะเอ่ย
“ถ้าคุณเกลียดผมจนไม่สามารถทนขึ้นมาได้จริงๆ ถึงตอนนั้นก็แค่ฆ่าผมให้ตายนะครับ”
“พูดอะไร…”
“ถ้าไม่ทำแบบนั้น ผมอาจจะฆ่าคุณอินซอบก็ได้ครับ”
“…”
“ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นครับ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย”
อีอูยอนกอดอินซอบอย่างแนบชิด เขาไม่สามารถทนความรู้สึกที่รู้สึกในวันนี้ได้อีกเป็นครั้งที่สอง เขาทำให้อินซอบอ้าปากออก และประกบริมฝีปากลงไป เขาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากที่อุ่นร้อนก่อนจะขยับตัว ร่างของอีอูยอนร้อนขึ้นมาทีละนิด เพราะสัมผัสที่มีชีวิตในโพรงปากของชเวอินซอบ
“ฮ่า…”
อีอูยอนลูบไล้เอวของอินซอบที่ตนกอดไว้ และพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมา อินซอบหน้าแดงกับสัมผัสแข็งขืนที่ส่งผ่านมาที่ช่วงล่าง ความจริงช่วงล่างของอินซอบก็ส่งสัญญาณมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เขาไม่อยากโดนจับได้ ก็เลยดันเอวออกไปข้างหลังอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่อีอูยอนกลับบดขยี้ช่วงล่างของเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“คุณอินซอบ…”
อีอูยอนเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงรุ่มร้อน
“คุณอินซอบ คุณชเวอินซอบ…คุณอินซอบ”
“…”
เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ด้านหน้ากางเกงโป่งนูนออกมาแล้ว แต่อีอูยอนไม่สามารถพูดความต้องการออกมาก่อนได้ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาใช้มือลูบไล้ก้นและเอวของอินซอบพลางเรียกชื่อของอินซอบอย่างอ่อนหวานเหมือนจะทำให้ละลาย
“คุณอินซอบ…คุณอินซอบ คุณอินซอบ…”
แค่ได้ยินเสียง ขาของอินซอบก็อ่อนแรง น้ำเสียงที่เร่าร้อนของอีอูยอนเอ่ยเรียกอินซอบไม่หยุด
“คุณอินซอบ คุณอินซอบ…คุณอินซอบ…คุณอินซอบ”
ชเวอินซอบกระซิบเสียงเบาพลางกอดคอของอีอูยอนเอาไว้
‘ไปที่เตียงกันครับ’
ทันทีที่ได้ยินคำอนุญาต อีอูยอนก็อุ้มอินซอบขึ้นมา และเดินไปที่เตียง อินซอบอายกับคำที่ตัวเองพูด เขาจึงเกาะอีอูยอนไว้และหลับตาลง