ตอนที่ 7 ใต้หล้าวุ่นวาย แดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์! (รีไรท์)
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ณ โถงประชุมใหญ่
ในเวลานี้ ภายในห้องโถงใหญ่ กลุ่มอาวุโสระดับสูงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนนั่งประจำตำแหน่ง และด้านข้างของนางคืออาวุโสสูงสุด ลี่ฉิงเทียน
ในขณะนี้ หลัวชิงเซียนมองไปรอบ ๆ ฝูงชน และในที่สุดดวงตาก็หยุดลงที่อาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์
อาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้าใจพร้อมกล่าวคำเคร่งขรึมทันที “ทุกท่าน ณ เวลานี้พิภพของเราวุ่นวายนัก ในช่วงไม่กี่ปีผ่านหลังจากการสืบสวนคราวนั้น ความวุ่นวายส่วนใหญ่แล้วเกี่ยวของกับเหล่าปีศาจอยากไม่อาจแยกออกจากกันได้!”
“อย่างเช่นเมื่อครึ่งปีก่อน เมืองมนุษย์แห่งหนึ่งเกิดโรคระบาด มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ซึ่งโรคระบาดเหล่านี้ล้วนแต่เกิดจากเก้าสำนักอสูรใหญ่!”
“เมื่อสองปีที่แล้ว ฝูงสัตว์ร้ายก่อจลาจลภายในเทือกเขาอสูร พวกมันก่อตัวเป็นคลื่นสัตว์ร้ายกว่าสามแสนตน ถล่มเมืองใหญ่พังพินาศถึงสองเมือง ผู้บาดเจ็บล้มตายมากมายหลายแสนคน และยังมีผู้คนนับล้านต้องพลัดพรากจากบ้านเกิด!”
“เมื่อสี่ปีที่แล้ว สำนักปีศาจพันปรารถนาลอบจับกุมสตรีพรหมจารีสามพันคนอย่างลับ ๆ”
เวลานี้อาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยุดกล่าวชั่วขณะ พร้อมเหลือบมองหลัวชิงเซียนโดยไม่รู้ตัว
เนื่องจากในเวลานั้นหลัวชิงเซียนไปต่อสู้กับจักรพรรดิปีศาจพันปรารถนา ผู้นำสำนักปีศาจพันปรารถนา แม้ว่านางจะขับไล่จักรพรรดิปีศาจพันปรารถนาได้สำเร็จ แต่นางก็ถูกพิษของจักรพรรดิปีศาจพันปรารถนาโดยไม่ตั้งใจ…
เมื่อเห็นท่าทางของหลัวชิงเซียนยังคงปกติ อาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์จึงกล่าวต่อ “โดยปกติแล้ว ความวุ่นวายทั้งหมดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ล้วนเกี่ยวของกับเก้าสำนักอสูรใหญ่ทั้งสิ้น!”
“ทุกท่าน บอกกล่าวข้าเถิด!”
หลังจากอาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กล่าวจบแล้ว หลัวชิงเซียนมองทุกคนในห้องโถง
“ไม่มีสิ่งใดต้องพูดกล่าว เก้าสำนักอสูรใหญ่กระทำการโดยปราศจากมนุษยธรรม พวกมันสมควรถูกทำลายให้สิ้นซาก!”
“ถูกต้องแล้ว มีข่าวลือว่าเก้าสำนักอสูรใหญ่เป็นส่วนที่หลงเหลืออยู่ของสำนักปีศาจศักดิ์สิทธิ์เมื่อหลายพันปีก่อน และสำนักปีศาจศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกทำลายโดยบรรพบุรุษแห่งไท่เสวียนของเรา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และเก้าสำนักอสูรใหญ่ยังคงบาดหมางกันเสมอมา!”
“ใช่! เป็นเวลาหลายพันปีที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราได้กำจัดเหล่าปีศาจ และปกป้องวิถีแห่งเต๋า จนถึงตอนนี้ภายในหอคอยปราบปีศาจทางภูเขาด้านหลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ยังมีผู้นำปีศาจหลายคนที่เคยสร้างปัญหาให้กับโลกใบนี้ถูกคุมขังเอาไว้!”
“ทำลาย! พวกเราต้องทำลายเก้าสำนักอสูรใหญ่ให้สิ้น กำจัดความชั่วร้ายให้หมดไป!”
“…”
เหล่าอาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายคนตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ก็ยังมีอาวุโสบางคนที่ส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้
“เฮ้! กว่าหลายพันปีที่บรรพบุรุษแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราไม่ต้องการกำจัดปีศาจให้สิ้น อีกทั้งการกำจัดปีศาจให้หมดนั้นการกล่าววาจาง่ายดายกว่าลงมือทำ!”
“ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องนั้น ความจริงคือเก้าสำนักอสูรใหญ่ไม่ใช่อ่อนแอ อีกทั้งยังหลบซ่อนอยู่ในความมืด มันไม่ง่ายที่จะค้นหารังของพวกมันให้พบ!”
“แล้วพวกเราควรทำเช่นไร? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเก้าสำนักอสูรใหญ่ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นได้รับอนุญาตให้สร้างความวุ่นวายในโลกใบนี้? และหากไม่ทำลายพวกมัน เมื่อเก้าสำนักอสูรใหญ่เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด มันจะกลายเป็นหายนะสำหรับพวกเราทุกคน!”
อาวุโสทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดเห็นของตนเอง และเกิดการทะเลาะกันภายในห้องโถง
“เงียบ!”
หลัวชิงเซียนยกมือขาวราวกับหยกขึ้น
ริมฝีปากสีแดงสดของนางแยกออกจากกันเล็กน้อย “เก้าสำนักอสูรใหญ่จะต้องถูกทำลาย แต่เพียงกำลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของพวกเรานั้นไม่เพียงพอ เราจะต้องร่วมมือกับสำนักฝ่ายธรรมทั้งหมดเพื่อกำจัดพวกมัน”
“จ้าวนิกายต้องการรวมสำนักทั้งสิบเข้าด้วยกัน?”
เวลานี้ เป็นอาวุโสสูงสุดลี่ฉิงเทียนกล่าวเสียงทุ้ม
หลัวชิงเซียนพยักหน้ารับเบา ๆ “อืม! แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจะมีข้าเป็นผู้นำแห่งฝ่ายธรรมเสมอมา แต่นอกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว สำนักใหญ่ทั้งสิบก็มีพลังที่เราไม่อาจมองข้ามได้ หากได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาแล้ว การกำจัดปีศาจย่อมสำเร็จแน่!”
อย่างไรก็ตาม ลี่ฉิงเทียนส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจเบา “ข้าเกรงว่าจะเป็นเรื่องยาก ยังไม่กล่าวถึงการกำจัดปีศาจนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงยิ่ง และด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของสิบอันดับแรกนั้นคงไม่ยินยอมโดยง่าย ศักดิ์ศรีของพวกเขานับวันยิ่งอ่อนแอลง ความแข็งแกร่งก็อ่อนแอตาม ข้าเกรงว่าสิบสำนักเหล่านั้นจะไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน!”
“เรื่องนั้นข้าทราบ! อย่างไรแล้ว ย่อมไม่คาดหวังให้สิบสำนักอันดับแรกมาช่วยเพียงแค่พูดคำว่า วิถีแห่งธรรมมีหน้าที่กำจัดปีศาจ!”
ความกังวลของลี่ฉิงเทียนถูกมองเห็นโดยหลัวชิงเซียน นางโบกมือขาวเรียวพร้อมกล่าวอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “เนื่องจากศักดิ์ศรีแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรานั้น ยังไม่ชัดเจนเพียงพอต่อสายตาของสำนักสิบอันดับแรก ดังนั้นจงออกไปโอ้อวดบารมีแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กันเถิด! อย่างเช่นให้มาเข้าร่วมแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์!”
“แดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์?” ดวงตาของทุกคนถึงกับเปล่งประกาย
ลี่ฉิงเทียนกล่าวอีกครั้ง “วิธีนี้ไม่เลวเลย แต่ในแง่ของวิทยายุทธ์ทั่วไปแล้ว เกรงว่าจะไม่เพียงพอให้สิบสำนักมาร่วม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมา เกรงว่าจะถูกหลอกลวงโดยไม่ตั้งใจ และเมื่อพวกเขาไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ เราก็จะสูญเสีย!”
“จากนั้นค่อยมอบแรงจูงใจให้กับพวกเขา หากศิษย์ของสำนักเหล่านั้นสามารถเอาชนะศิษย์ของเราจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในการงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์คราวนี้ได้ พวกเขาสามารถเลือกสมบัติแบบสุ่มภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โดยไม่จำกัดระดับขั้น แต่หากพวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขาต้องเข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อกำจัดปีศาจ!”
“ยอดเยี่ยมแล้ว!”
“เป็นเช่นนั้น!”
“ด้วยวิธีนี้ สำนักสิบอันดับแรกจะต้องมาร่วมงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์อย่างแน่นอน!”
“ภายในงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์ ประการแรกคือเราต้องแสดงพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และประการที่สอง มันจะสามารถนำไปสู่การรวบรวมกำลังพลเพื่อกำจัดเหล่าปีศาจ!”
ทุกคนพยักหน้ารับ
“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วย เช่นนั้นก็ให้คนส่งสารนำข่าวนี้ไปแจ้งสิบสำนักอันดับแรก หลังจากนี้หนึ่งเดือนจะมีการจัดงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์ขึ้น!”
สุดท้ายแล้ว ด้วยคลื่นพลังจากฝ่ามือของหลัวชิงเซียน เรื่องการจัดงานดินแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์ก็ได้รับข้อยุติโดยสมบูรณ์
…
โลกกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต และพลังเหนือธรรมชาติก็เปรียบเสมือนปลาหลีที่ว่ายข้ามผ่านแม่น้ำนับไม่ถ้วน
นอกเหนือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนแล้ว ยังมีสำนักมีชื่อเสียงเลื่องลืออีกสิบ!
ทั้งหมดคือสำนักหมื่นกระบี่ สำนักจันทร์กระจ่าง สำนักดาราเมฆา สำนักอัคคีสีชาด สำนักจ้าวโอสถ สำนักศึกสงคราม สำนักวายุอัสนี สำนักทองคำ สำนักเซวียนหยวน และสำนักหยินหยาง
ในบรรดารายชื่อเหล่านี้ สำนักหมื่นกระบี่เป็นสำนักที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกกระบี่ มีภูเขากระบี่อยู่ทุกหนแห่งภายในสำนัก และมีกระบี่จำนวนมากเสียบไว้บนยอดเขาแต่ละลูก สำนักแห่งนี้เต็มไปด้วยเจตจำนงกระบี่คมปลาบนับไม่ถ้วน
ในวันนี้
ด้านนอกของสำนักหมื่นกระบี่ ชายชราคนหนึ่งมาถึงสถานที่แห่งนี้ในชุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน
“สำนักหมื่นกระบี่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนมาเยี่ยมเยียน!”
“หนึ่งเดือนถัดจากนี้ ข้า ไท่เสวียนขอเชิญสิบสำนักอันดับแรกมาเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อเข้าร่วมงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์ และหารือเกี่ยวกับการกำจัดปีศาจ!”
ขณะที่ชายชราจากไท่เสวียนตะโกน หลิงอวิ๋นเทียนผู้นำสำนักหมื่นกระบี่ก็พุ่งทะยานออกมาจากภายในสำนักทันที
“แดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์?”
“หารือเกี่ยวกับการกำจัดปีศาจ?”
หลิงอวิ๋นเทียนขมวดคิ้วและยังไม่ได้เดินไปรับสาส์นจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในทันที
ย้อนกลับไปครั้งอดีต การเผชิญหน้ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนที่มีพละกำลังสั่นสะเทือนโลก ในฐานะสมาชิกแห่งสำนักหมื่นกระบี่นี้ พวกเขาจะตอบรับคำเชิญด้วยความเกรงใจ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนอ่อนแอลงมาก และสำนักหมื่นกระบี่กลับกลายเป็นมั่งคั่งยิ่งขึ้น สำนักหมื่นกระบี่ได้ให้กำเนิดอัจฉริยะมากพรสวรรค์ซึ่งสามารถนำความรุ่งโรจน์มาสู่สำนักหมื่นกระบี่ได้ เขาจึงสูญเสียความเคารพต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนไปนานแล้ว สายตาเพียงแค่ชำเลืองมองอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยหน่ายเท่านั้น
“หืม? หลิงอวิ๋นเทียน เจ้ายังไม่คิดจะรับสาส์นอีก!”
อาวุโสสูงสุดแห่งไท่เสวียนมีท่าทียโส แต่ข้างในเขากลับลอบถอนหายใจ สำนักเหล่านี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
“โอ้ ฮ่า ๆๆ อย่าได้ถือโทษโกรธข้าเลย เมื่อครู่ข้าเพียงคิดสิ่งใดเรื่อยเปื่อย!”
อย่างไรก็ตาม หลิงอวิ๋นเทียนไม่ได้โอ้อวดมากเกินไป ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และแม้ว่าอูฐจะตัวผอม มันก็ยังใหญ่โตกว่าม้าอยู่ดี
หลังจากนั้น เขาจึงเดินไปรับคำเชิญจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เผยรอยยิ้มให้เห็นบนใบหน้าก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณแล้วที่ยังให้เกียรติเชิญชวนสำนักหมื่นกระบี่ของข้า แต่อาวุโสคงทราบดีว่าสำนักหมื่นกระบี่ของพวกเราอ่อนแอนัก ไม่ต้องกล่าวถึงการกำจัดปีศาจเลย แม้จะให้เราแข่งขันวิทยายุทธ์กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เราก็ไม่อาจคว้าชัยชนะได้!”
อาวุโสสูงสุดแห่งไท่เสวียนขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวอีกครั้ง “คราวนี้เป็นการแข่งขันวิทยายุทธ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หากศิษย์แห่งสำนักหมื่นกระบี่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เขาจะสามารถเลือกสมบัติหนึ่งชิ้นภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ตามต้องการ และไม่มีการจำกัดระดับของสมบัติ!”
“โอ้?”
ทันทีที่ถ้อยคำเหล่านี้ถูกกล่าวออก ดวงตาของหลิงอวิ๋นเทียนแทบจะถลนออกมา!
สุ่มรับสมบัติภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์?
ไม่จำกัดระดับขั้น!
น่าสนใจเกินไปแล้ว!
แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจะอ่อนแอลง แต่ท้ายที่สุดแล้วสถานที่แห่งนั้นมีผู้ฝึกยุทธ์ที่ครอบครองวิทยายุทธ์เก่งกล้าหลายชั่วอายุคน และภูมิหลังของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่กว่าสำนักหมื่นกระบี่ไม่รู้กี่เท่า หากสามารถคว้าเอาสมบัติแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมาได้ นับว่าคุ้มค่ายิ่งแล้ว
“ฮ่าฮ่า หากเป็นเช่นนั้น ข้าในฐานะตัวแทนแห่งสำนักหมื่นกระบี่ก็จะขอเข้าร่วมงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์คราวนี้ด้วย อีกหนึ่งเดือนพบกัน!” หลิงอวิ๋นเทียนกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มกว้างจนถึงใบหู
หากเขาไม่ตกลงกับเงื่อนไขที่น่าประทับใจนี้ เขาก็คงจะเป็นเพียงคนโง่เขลาเท่านั้น
ส่วนเรื่องกำจัดปีศาจ ค่อยว่ากันภายหลัง ไม่เห็นต้องจริงจังนักเลย
“อืม!”
จากนั้นอาวุโสสูงสุดแห่งไท่เสวียนไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขาหันหลังพร้อมเดินออกจากสำนักหมื่นกระบี่